Home
การใช้ประโยชน์จากตำราสอบภาษาอังกฤษยาก ๆ กับการฝึกแบบบ้าน ๆ ของเรา
♣ ท่านผู้อ่านครับ บ่อยครั้งที่ผมไปเจอตำราภาษาอังกฤษ ซึ่งขึ้นชื่อหน้าปกว่า สำหรับคนที่เตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษชนิดยาก ๆ เช่น TOEFL, TOEIC, IELTS, SAT, GRE, ACT, GMAT, CU-TEP เป็นต้น และผมก็นำมาฝากเพื่อให้ท่านที่จะเตรียมตัวสอบดาวน์โหลดไปศึกษา แต่จริง ๆ ความมุ่งหมายอีกข้อหนึ่งของผมซึ่งมากพอกับข้อแรกก็คือ ผมอยากให้ทุกท่านที่แม้ไม่ได้ไปเข้าสอบได้ใช้ประโยชน์จากตำราพวกนี้ โดยเราไม่จำเป็นต้องศึกษาทุกหน้า ทุกบท ทุกคำ แรกเริ่มก็เข้าไปที่หน้าสารบัญ เปิดใจอ่านและดูว่าบทไหนพอจะเป็นประตูให้เราเดินเข้าไปได้ ถ้าเป็น excerise หรือ test เขาก็มักจะมี answer หรือเฉลยให้ดู
♦ อย่าง 2 เล่มข้างล่างนี้ เขาเรียบเรียงสำหรับคนที่เตรียมตัวสอบ ACT แต่ผมดูแล้ว passage สั้น ๆ ในเล่มก็ใช้ได้ดีทีเดียวสำหรับการฝึก Reading ท่านลองเข้าไปดูสักหน่อยซีครับ
【1】500 Questions to know by test day
ACT* English and Reading
【2】ACT Premier 2016 with 8 Practice Tests
Search เว็บ e4thai แบบง่าย ๆ
ถ้าเวลาไหนท่านอยากจะหาอะไรมาฝึกภาษาอังกฤษ แต่ขี้เกียจนึกเรื่อง ก็เข้าไปที่เว็บ e4thai.com นี่แหละครับ และคลิก Google Search ตามภาพข้างล่างนี้โดยไม่ต้องพิมพ์คำค้น เว็บก็จะเรื่องมาให้ท่านดู ชอบหัวข้อไหนก็คลิกได้ตามอัธยาศัยครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่อวยพรให้พ่อผมหายป่วย
♥ วันนี้ผมดีใจมาก, 1 เดือนหลังผ่าตัดต่อมลูกหมากติดเชื้อ และพาพ่อมาให้หมอตรวจ, หมอบอกว่าไม่มีอาการน่าเป็นห่วง, ไม่ต้องกินยา, ไม่ต้องฉายแสง, ใช้ชีวิตได้ตามปกติ, 2 เดือนค่อยเจอหมอทีหนึ่ง เท่านั้นเอง
♥ มีหลายคนที่ผมต้องขอบคุณ คนแรกคือแม่อายุ 82 ที่ดูแลพ่ออายุ 85 ทุกวัน, คนที่สองคือพี่สาวอายุ 62 ที่ดูแลทั้งแม่และพ่อ, คนที่สามคือคุณหมอเนศ ไทยดำรงค์ และคนที่สี่ที่ผมตั้งใจขอบคุณในวันนี้ ก็คือท่านผู้อ่านทุกท่านที่เมตตาอวยพรให้พ่อผมปลอดภัยหายเร็ว ๆ ผมขอบคุณเพราะผมเชื่อในพลังความหวังดีอันบริสุทธิ์ ว่าเป็นของขลังและศักดิ์สิทธิ์ แม้จับต้องไม่ได้แต่ก็รู้สึกได้ ☼
"81 วิธีเก่ง Eng จนฝรั่งกราบ"
♥ คงไม่ทุกวิธีหรอกที่เหมาะกับเรา แต่บางวิธีที่พอทำได้ฝึกได้ ก็น่าจะทำ !!! ♥
→ https://engfinity.co.th/ ☼
ถ้าท่านเลือกภาษาอังกฤษเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง สู่เป้าหมายในชีวิต
.......... เชื่อว่าทุกคนคงเห็นด้วยถ้าพูดว่า ยุคเน็ตทุกวันนี้ ฝึกภาษาอังกฤษได้ง่ายกว่าสมัยก่อน อยากรู้อยากเรียนอะไรก็เข้าไปหา เมื่อเจอก็ฝึก เมื่อฝึกก็เป็น แต่สมัยก่อนทำอย่างนี้ยาก ......แต่ทำไมเสียงบ่นเรื่องคนไทยฟังพูดอ่านเขียนอังกฤษได้ไม่ดี จึงยังดังอยู่ไม่ค่อยซา นี่แสดงว่าแค่มีของให้เรียนยังไม่พอ ยังต้องมีอะไรมากกว่านี้ แต่มันคืออะไรล่ะ? ........ผมเองไม่ใช่นักวิชาการ เป็นชาวบ้านที่เรียนหนังสือจบในเมืองไทย จึงขอพูดตามสายตาของเว็บมาสเตอร์บ้าน ๆ ........คือเมื่อนักวิชาการ ผู้รู้ หรือคุณครูบอกว่า อยากจะฝึกให้เก่งเรื่องอะไรก็เข้าไปหาเถอะ มีทั้งเรื่องฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ถ้าไม่ฝึกมันก็ไม่เป็น พูดอย่างนี้ก็กลายเป็นว่า คนที่บ่นคือจำเลย คือมีของให้เรียนแต่ไม่ยอมเรียน แล้วจะบ่นทำไม ขี้เกียจเองแล้วยังโวยวายอีก ........ผมมาดูแล้วการตำหนิหรือลงโทษอย่างนี้ก็ไม่ยุติธรรมนัก เพราะเมื่อเขาบ่นว่าเรียนด้วยตัวเองไม่รู้เรื่อง เขาไม่ได้โกหก เขาคงไม่รู้เรื่องจริง ๆ คืออ่านก็ไม่รู้เรื่อง ฟังก็ไม่รู้เรื่อง พูดก็ไม่ได้ เขียนก็ไม่ได้ เมื่อมีแค่ตัวหนังสือกับเสียงแต่ไม่มีครูสอน เมื่อเรียนแล้วงงก็ติดแหงกอยู่ตรงนั้น ไปต่อไม่ได้ แล้วจะให้ทำยังไง ขอบ่นสักหน่อยก็กลายเป็นจำเลยจอมขี้เกียจซะอีก .......ครูก็บอกว่า ก็เริ่มไอ้ตรงที่รู้เรื่องซี เรียนจบออกมารู้เรื่องแค่ไหน ก็กลับไป start ที่ตรงนั้นนั่นแหละ ถ้าเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ทักษะภาษาอังกฤษมีแค่คนจบชั้นมัธยม หรือประถม หรืออนุบาล ก็ย้อนกลับไปอ่านหรือฟังเรื่องที่ง่าย ๆ ระดับนั้นก่อน และไต่เต้าขึ้นมา จะเรียกว่านี่เป็นการ “แก้กรรม” หรือ “สอบซ่อม” หรือเรียกยังไงก็ได้ทั้งนั้น การฟิตย้อนหลังอย่างนี้ไม่ใช่เพื่อเอาใบประกาศฯ หรือ certificate แต่ย้อนกลับไปเก็บทักษะที่ตกหล่นไปเมื่อสมัยนั้น .......คำถามก็คือมันจะเรียนรู้เรื่องทันใช้รึ? ขนาดสมัยนั้นเรียนกับครูยังไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วสมัยนี้ให้เรียนเองแบบไม่มีครู มันจะรู้เรื่องรึ? หรือกว่าจะรู้เรื่องใช้งานได้ มันจะไม่เกษียณก่อนรึ? .......ยัง… ปัญหายังไม่หมดแค่นี้ เวลาที่มีก็ต้องหมดไปกับการทำงาน กลับถึงบ้านก็มีภาระครอบครัว เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดก็มีกิจกรรมพิเศษรอทำ เราไม่ใช่คนโชคดีอย่างคนอื่น คงเก่งเหมือนเขาไม่ได้หรอก! .......คนโชคดีอย่างนั้นคือใคร? ก็คือคนที่ได้เรียนโรงเรียนดี ๆ ที่เน้นอังกฤษ มีครูฝรั่งหรือครูต่างชาติสอน หรือโชคดีพ่อแม่มีตังค์เยอะ ส่งเข้าเรียนคอร์สพิเศษได้ทั้งในหรือต่างประเทศ หรือได้เรียนเมืองนอก หรือได้ทำงานในออฟฟิศที่มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษเยอะ ๆ เป็นประจำ .......ถ้าไม่ใช่คนโชคดีอย่างนั้น คนโชคร้ายอย่างเราจะเอายังไงดี? .......เรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้ เอาเป็นว่าผมพูดกับผู้ใหญ่ที่เรียบจบแล้วหรือมีงานทำแล้ว ส่วนถ้าน้อง ๆ ที่ยังเรียนหนังสืออยู่เข้ามาอ่าน ก็ใคร่ครวญดูแล้วกันครับ ว่าจะวาง action plan ยังไงกับการฝึกภาษาอังกฤษของตัวเอง ......คือผมขอให้ท่านตอบคำถามข้อนี้ อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา .......“ทักษะภาษาอังกฤษ คือการฟังรู้เรื่อง อ่านรู้เรื่อง พูดจาโต้ตอบรู้เรื่อง และเขียนติดต่อสื่อสารรู้เรื่อง ทักษะการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน 4 อย่างนี้ ท่านจะ ใช้ ทักษะใดไปในเรื่องอะไร ให้เป็นแก่นสารสาระอย่างจริง ๆ จัง ๆ ?” .......ที่ผมถามอย่างนี้ก็เพราะว่า ผมมีความเชื่อว่า เมื่อโชคดีได้เกิดมาเป็นคน เราควรใช้ชีวิตให้ดีงามเต็มที่ และความหมายหนึ่งในหลาย ๆ ความหมายของ “เต็มที่” ก็คือได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และถ้า 2 ปัจจัยนี้ คือ (1)การมีทักษะและใช้ภาษาอังกฤษ และ(2)การบรรลุสิ่งที่รัก มันไปด้วยกันได้ ก็ลุยฝึกเลยครับ .......แต่ถ้ามันไปด้วยกันไม่ได้ คือ (1)เราเกลียดหรือขี้เกียจฝึกภาษาอังกฤษ แต่(2)เราต้องการบรรลุสิ่งที่รักซึ่งจำเป็นต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษ ถ้ามันขัดกันอย่างนี้ ท่านก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าท่านจะเอายังไง ตอบอย่างมั่นใจโดยไตร่ตรองให้รอบคอบ และตอบโดยไม่ต้องแยแสความคิดเห็นของใคร เพราะชีวิตนี้เป็นของท่าน ไม่ว่าท่านจะเลือกไปทางไหนก็ไปให้เต็มที่ ไม่ใช่ไปอย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ .......เอาละครับ สมมุติว่าท่านเลือกเส้นทางที่รักโดยมีภาษาอังกฤษเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง ท่านก็ต้องมอบใจให้กับมัน โดยเชื่อและปฏิบัติตามที่ตัวเองเชื่ออย่างมั่นคง ว่า... .......- แม้จะต้องย้อนกลับไปศึกษาก็ยินดีย้อน มันอาจจะยากหรือกินเวลายาว แต่ถ้าได้เดินก้าวแรกและเดินไม่หยุด มันก็ต้องเดินถึง .......- บอกตัวเองว่า เราจะเป็นนายสั่งตัวเอง เราจะเป็นครูสอนตัวเอง งานอย่างนี้คนขี้แพ้ทำไม่ได้ แต่เราไม่ใช่คนขี้แพ้ .......ผมขออวยพรให้ท่านโชคดีในเส้นทางนี้ เส้นทางที่ผมเองก็เดินมาแล้ว และยังเดินอยู่เรื่อย ๆ .......แต่ถ้าท่านไม่เลือกเส้นทางนี้ ไม่เลือกให้ภาษาอังกฤษเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง ผมก็ขออวยพรให้ท่านโชคดีเช่นเดียวกัน เพราะชีวิตคนเราเลือกได้หลายแบบตามที่เรารัก ทุกแบบดีทั้งนั้น ถ้าใช้ด้วยความดีงาม อดทน ขยัน และรอบคอบ พิพัฒน์ |
More Articles...
- ขอคุยเรื่องวันวาเลนไทน์สักหน่อย
- กลับมารายงานตัวเข้าทำงานดังเดิมครับ
- ขอพักงาน 1 สัปดาห์ ไปดูแลพ่อที่โรงพยาบาล
- แนะนำบทความ Speaking และ Reading ในเว็บ e4thai.com ที่ผมชอบ
- ระวังถูกแก๊ง Call Center โทรมาหลอก
- 100 คำคมเพื่อความสำเร็จ
- พรจากใจให้ทุกท่าน ในวันปีใหม่ ๒๕๖๑ จากเว็บมาสเตอร์ e4thai.com
- ให้ของขวัญแก่ตัวเองในปีใหม่ 2561
- ออกกำลังให้สมองแข็งแรงด้วยโจทย์ตรรกะเล่มนี้
- เลิกทำ 15 ข้อนี้ -- อย่างเด็ดขาด -- เมื่อเรียนภาษาอังกฤษ
- เทคนิคการฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษ
- 8 เทคนิคง่ายแสนง่าย ในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณ ให้ดีจนเป็นเลิศ!!
- ขอลาพักงานครึ่งเดือนครับ
- ช่วยตอบคำถามนี้หน่อยเถอะครับ
- eBook เล่มนี้ ฝากให้ "คนบ้าดิก" เหมือนกัน
- browse เว็บ e4thai.com เล่น ๆ
- Reading Practice: อ่านเรื่องดัง ที่ไม่สนใจ - ไม่เห็นด้วย - ไม่ค่อยรู้เรื่อง
- 9 เทคนิคเก่งอังกฤษขั้นเทพด้วยตัวเอง
- 101 วิธีฟิตภาษาอังกฤษ
- ประสบการณ์ส่วนตัวในการฝึกอ่านและฟังข่าวภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง