Home
2 แง่คิด จากกรณีเด็กติดถ้ำพูดสื่อสารกับฝรั่ง
♥ ผมอ่าน 2 เรื่องนี้ที่พูดถึงน้องในถ้ำซึ่งสามารถพูดสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษกับฝรั่งที่เข้าไปช่วยเหลือ ผมมี 2 ข้อที่อยากสรุป
(1)แกรมมาร์นั้นเรียนไปเถอะ แต่เวลาพูดไม่ต้องไปพะวงกับมันนัก
(2)ใครที่จะฝึกพูดภาษาอังกฤษ ต้องฝึกฟังด้วย และต้องฝึกให้มาก ๆ ซะด้วย
♦ https://tinyurl.com/yb9tok4z
♦ https://tinyurl.com/ya9np5te
มาเลเซียสั่งข้าราชการฟิตภาษาอังกฤษ (มองเขาและกลับมามองเราเอง)
ข่าวนี้ → http://www.thesundaily.my/news/2018/06/07/english-competency-tests-senior-officials-timely-lam-thye
ออกมาเมื่อวานนี้ บอกว่านายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Dr Mahathir Mohamad ประกาศว่า จะจัดการทดสอบสมรรถภาพด้านภาษาอังกฤษพนักงานระดับสูงของรัฐ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านภาษาอังกฤษ
ผมอ่านข่าวนี้แล้วชอบใจมาก และได้แปลย่อหน้าต่อย่อหน้า ไว้ด้วย
→ http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf2/English%20competency%20tests.pdf
นอกจากชอบใจแล้วก็ทึ่ง เพราะโดยทั่วไปเราคนไทยมีความรู้สึกกันว่า คนมาเลย์ฯเก่งอังกฤษ พูดคล่อง เขียนคล่อง และเท่าที่ผมเคยคุยกับคนมาเลย์ฯ ทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่น ก็รู้สึกว่าเขาเก่งจริง ๆ แต่นี่นายกฯของเขายังประกาศมาตรการอย่างนี้ออกมาอีก แสดงว่าเขาจะเอาจริงให้มันมากขึ้น
เรื่องนี้มันอาจจะมีปัญหาเรื่องความรู้สึก "ชาตินิยม" อยู่บ้างไม่มากก็น้อย ผมเคยคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลของมาเลย์เซียและฟิลิปปินส์ที่อายุค่อนข้างเยอะ เขาบอกว่ามีความพยายามที่จะลดความสำคัญของภาษาอังกฤษในระบบการศึกษาในโรงเรียน และเพิ่มความสำคัญของภาษาประจำชาติให้เข้มข้นขึ้น เพราะฉะนั้นภาษาอังกฤษของคนรุ่นเขา จึงดีกว่าของเด็กรุ่นใหม่ โอ้ ! มีแบบนี้ด้วยรึ?
คราวนี้ย้อนมามองบ้านเราบ้าง ผมเคยเห็นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559 ซึ่งเป็นวันแรกที่10 ประเทศอาเซียนได้ก้าวเข้าสู่การเป็น AEC อย่างเป็นทางการ นายกฯประทศไทยเรา พูดผ่านหน้าจอทีวีบ่อย ๆ ให้กระทรวงทบวงกรมฟิตภาษาอังกฤษของข้าราชการในสังกัด แต่การพูดอย่างนี้มันไม่มีความหมายหรอกครับ ถ้าไม่ออก (1)การลงโทษ (2)การให้รางวัล และ (3)การสนับสนุน อย่างเป็นกิจจะลักษณะ
ผมเองเคยเสนอความคิดและวิธีการโดยละเอียดให้แก่เจ้าหน้าที่อาวุโสบางคนของหน่วยงานก่อนที่ผมจะลาออก ถึงวิธีที่จะฟิตภาษาอังกฤษของพนักงาน ซึ่งก็มีทั้ง 3 อย่างที่ผมพูดมานี้ คือ(1)ลงโทษ (2)ให้รางวัล และ (3)สนับสนุน แต่ปรากฏว่าดูเหมือนไม่มีใครสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกข้าราชการระดับสูงนั่นแหละครับ นี่เพราะอะไร? ผมเข้าใจว่า มาตรการที่บอกให้ฟิต ถ้าไม่ฟิตก็จะไม่ได้แต้ม ทำให้รุ่นน้องที่พร้อมจะฟิตได้แต้มและไล่ตีตื้นตามหลังพวกแก่ ๆ ทำให้พวกแก่ ๆ ไม่ชอบและแอนตี้ การฟิตสมรรถภาพด้านภาษาอังกฤษพนักงานทั้งระดับสูงและระดับเตี้ยของข้าราชการกรมนั้น ก็เลยติดแหงกอยู่แค่นั้น
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th
BBC กับ VOA : 2 เว็บใกล้ตัวสุดวิเศษ ที่เข้าไปฝึกภาษาอังกฤษได้ทันที
ฺฺ ผมขอแนะนำ 2 เว็บใกล้ตัวสุดวิเศษนี้ ในกรณีที่ท่านนึกไม่ออก ว่าจะเข้าไปที่ไหนดี เพื่อฝึกภาษาอังกฤษ ก็ 2 เว็บนี้แหละครับ
BBC
เข้าไปที่ Google Search และพิมพ์ BBC learning english , enter
ลิงก์แรกที่กูเกิ้ลโชว์นั่นแหละครับ ใช่เลย → http://www.bbc.co.uk/learningenglish/
และก็คลิกที่ Courses หรือ Features หรือพิมพ์คำค้นลงในช่อง Search ตามภาพข้างล่างนี้
และก็เลื่อนลงไปด้านล่าง คลิกลิงก์ Social Media ในวงรีสีแดงนี้
VOA
เข้าไปที่ Google Search และพิมพ์ VOA learning english, enter
ลิงก์แรกที่กูเกิ้ลโชว์นั่นแหละครับ ใช่เลย → https://learningenglish.voanews.com/
และก็คลิกเมนูเนื้อหาตามวงรีสีแดง หรือพิมพ์คำค้นลงในช่อง Search , คลิกลิงก์ Facebook - YouTube ตามภาพข้างล่างนี้
ทั้ง 2 เว็บ มีอะไรต่ออะไรให้เรียนมหาศาลครับ แต่ว่าคนละค่าย BBC นั่นของอังกฤษ ส่วน VOA ของสหรัฐฯ ดีทั้งนั้นแหละครับ
จำคำค้น 2 คำง่าย ๆ นี้ไว้นะครับ
BBC learning english กับ VOA learning english
พิพัฒน์
ตำราภาษาอังกฤษวิชาวิทยาศาสตร์ เด็ก ๆ
ผมมีตำราวิชาวิทยาศาสตร์ level 1 - 3 มาฝากข้างล่างนี้
ไม่กะจะให้ท่านดูเป็นจริงเป็นจริงหรอกครับ ดูเล่น ๆ ก็ได้ มีข้อความสั้น ๆ ให้อ่าน มีภาพประกอบช่วยให้เข้าใจง่าย ๆ มีคำถามสั้น ๆ ให้ตอบ อ่านผ่าน ๆ ดูผ่าน ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็ดีเหมือนกัน หรือคุณครูภาษาอังกฤษจะตัดบางตอนบางภาพไปสอนเด็กก็ได้เหมือนกัน
- Big Science Level 1 Teacher Book
- Big Science Level 1 Student Book
- Big Science Level 2
- Big Science Level 3 Student Book
แต่มีความคิดหนึ่งที่มักแว็บ ๆ เข้ามาเมื่อเจอตำราภาษาไทยทำนองนี้ที่เรียบเรียงตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตำราที่ให้เด็กประถมหรือมัธยมเรียน คือตำรานั้นไม่ควรมีหน้าที่เพียงให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริง แต่ควรกระตุ้นให้เด็กตั้งคำถาม สงสัยใคร่รู้เพื่อสอบสวนความเชื่อหรือข้อสรุปเดิม ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิชาวิทยาศาสตร์ซึ่งศึกษาของปัจจุบันเพื่อก้าวไปข้างหน้า หรือวิชาประวัติศาสตร์ซึ่งศึกษาข้อเท็จจริงเพื่อย้อนไปข้างหลัง การเคารพตำรามาก ๆ มาก ๆ จนถึงขั้นไม่กล้าตั้งคำถามต่อ และยึดถือว่าตำราคือคำตอบสุดท้าย เป็นความเสื่อมของสติปัญญาในระดับสังคม
หลายปีมาแล้ว ผมเข้าไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งที่กรุง Copenhagen ประเทศเดนมาร์ก ธรรมดาป้ายซึ่งติดไว้ที่โบราณวัตถุในนั้นก็มักจะบอกข้อมูลความเป็นมาในอดีตของวัตถุที่โชว์ในตู้ แต่วันนั้นผมไปเจอของ 2 - 3 ชิ้นซึ่งเขาเขียนข้อมูลไว้ว่า ไอ้ของชิ้นนี้นักประวัติศาสตร์ยังงงอยู่ว่า มันคืออะไรกันแน่ แต่น่าจะเป็นของสำคัญ ในอนาคตถ้าสามารถค้นคว้าได้ จะนำมาเขียนบอกเพิ่มเติม
ผมทึ่งมากเมื่อเจอป้ายแบบนี้ มันแสดงถึงความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาของนักวิชาการประวัติศาสตร์ของประเทศนั้น ผมได้แต่หวังว่า ถ้าตำราทางด้านสังคมศาสตร์ในโรงเรียนระดับประถม-มัธยม ที่เราเรียบเรียงให้เด็กไทยได้เรียน มีความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และใจกว้างทำนองนี้ การศึกษาของบ้านเราคงดีกว่านี้
พูดออกนอกเรื่องไปหน่อย ขอจบแค่นี้ครับ
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th
More Articles...
- ฝึก อ่าน-ฟัง-พูด-เขียน ภาษาอังกฤษให้ได้ผลจริง ๆ
- 8 คุณประโยชน์ของการเรียนภาษาอังกฤษที่คุณอาจไม่เคยรู้
- กฎทองคำ ที่ต้องจำ ให้ขึ้นใจ ในการฝึกภาษาอังกฤษ
- คำถามและทางออก : จบมหาวิทยาลัยแต่ภาษาอังกฤษยังใช้งานไม่ได้?!
- ดาวน์โหลด / เปิดไฟล์ ผ่าน smartphone อาจจะไม่ได้
- วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษของแจ็ก หม่า ก่อนที่จะเป็นมหาเศรษฐี
- การใช้ประโยชน์จากตำราสอบภาษาอังกฤษยาก ๆ กับการฝึกแบบบ้าน ๆ ของเรา
- Search เว็บ e4thai แบบง่าย ๆ
- ขอขอบคุณทุกท่านที่อวยพรให้พ่อผมหายป่วย
- 15 อย่างต่อไปนี้อย่าทำเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ
- "81 วิธีเก่ง Eng จนฝรั่งกราบ"
- ถ้าท่านเลือกภาษาอังกฤษเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง สู่เป้าหมายในชีวิต
- ขอคุยเรื่องวันวาเลนไทน์สักหน่อย
- กลับมารายงานตัวเข้าทำงานดังเดิมครับ
- ขอพักงาน 1 สัปดาห์ ไปดูแลพ่อที่โรงพยาบาล
- แนะนำบทความ Speaking และ Reading ในเว็บ e4thai.com ที่ผมชอบ
- ระวังถูกแก๊ง Call Center โทรมาหลอก
- 100 คำคมเพื่อความสำเร็จ
- พรจากใจให้ทุกท่าน ในวันปีใหม่ ๒๕๖๑ จากเว็บมาสเตอร์ e4thai.com
- ให้ของขวัญแก่ตัวเองในปีใหม่ 2561