Home
e4thai.com มี Search Box ที่ด้านบนของเว็บแล้วครับ
เรียนทุกท่าน
ตอนนี้เว็บ www.e4thai.com มี Search Box ให้ค้นหาบทความในเว็บแล้วครับ. มี 2 ที่ให้ท่านเลือกใช้ คือ
(1)อยู่ที่แถบบนของหน้า และ
(2)ด้านล่างสุดของหน้า
อนึ่ง เมื่อท่าน search เข้าไปแล้ว มองไม่เห็นว่า คำค้นของท่านอยู่ที่บรรทัดไหน ให้ท่าน
(1)กด control ค้างไว้และกด F
(2)พิมพ์คำค้นลงไปในช่อง Find
(3)กด Enter ไปเรื่อย ๆ
หวังว่าท่านคงได้รับความสะดวกมากขึ้นในการค้นหาเรื่งที่ต้องการนะครับ นอกเหนือจากปุ่มต่าง ๆ ที่คอลัมน์ซ้ายมือซึ่งท่านก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านชื่อบทความทั้งหมดที่ post ลงในเว็บนี้
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
โรคติดเน็ตและ social media ลดสมรรถภาพการฟิตภาษาอังกฤษ
สวัสดีครับ
สองโรคที่ผมเป็น คือ 1)โรคติดเน็ต และ 2)โรคติด social media ซึ่งทำให้สมรรถภาพในการเรียนภาษาอังกฤษของผมลดลง ที่ผมกำลังจะเล่าให้อ่านผู้อ่านฟังต่อจากนี้ ถ้าท่านใดเป็นโรคเดียวกับผมก็ถือว่าคนหัวอกเดียวกันปรับทุกข์กัน แต่ถ้าท่านใดไม่เป็นก็อาจจะเก็บวิธีรักษาไปเล่าให้เพื่อนของท่านที่เป็นได้ฟังก็ได้ครับ
ท่านที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของผมคงนึกออกว่า ผมเริ่มงานเขียนบทความแนะนำเว็บ ให้ความเห็น และแนะนำแหล่งดาวน์โหลดไฟล์เรียนภาษาอังกฤษมาประมาณสิบปีแล้ว ณ สถานที่ตามลำดับข้างล่างนี้
english-for-thais.blogspot.com
english-for-thais-2.blogspot.com
จนสุดท้ายก็มาถึง www.e4thai.com ทุกวันนี้
มีหลายคนถามผมว่า ทำไมผมถึงได้ไปซอกแซกหาอะไรมาแนะนำได้เยอะแยะจนเว็บ e4thai.com มีเนื้อหาค่อนข้างหลากหลาย ผมมานั่งนึกดูก็ได้คำตอบว่านี่น่าจะเป็นนิสัยส่วนตัวที่ฝังมานานหลายสิบปีที่แล้วตั้งแต่เรียนธรรมศาสตร์ เวลานั้นผมชอบเข้าไปที่ห้องสมุดกลางของมหาวิทยาลัย และหยิบหนังสือจากชั้นนั้นชั้นนี้ เล่มนั้นเล่มนี้มาพลิกดู ถ้าสนใจเล่มไหนก็อ่าน บางเล่มก็อ่านแค่หน้าปก , อ่านเพียง 1 ย่อหน้า, อ่านเพียง 1 บท, ส่วนเล่มที่ชอบใจมาก ๆ จึงจะอ่านจบเล่ม
พอเมืองไทยมีเน็ตและผมจับงานหาเว็บภาษาอังกฤษมาแนะนำท่านผู้อ่าน ผมก็ใช้ปลายนิ้วท่องเน็ตเหมือนกับที่ในอดีตผมใช้ขาเดินไปตามชั้นหนังสือของห้องสมุด พยายามหาอะไรที่น่าสนใจ ดี และฟรี มาแนะนำ
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้มีหลายสิ่งเกิดขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเรียนภาษาอังกฤษ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโทษด้วย ผมขอพูดด้านประโยชน์ก่อนแล้วกันครับ
1)เน็ตในเมืองไทยมีความเร็วสูงขึ้นกว่าเดิมมากมาย
2)มีเว็บต่าง ๆ มากมายเกิดเพิ่มขึ้น เพื่อให้เราเข้าไปศึกษาภาษาอังกฤษได้ฟรี ๆ มันดีทั้งเนื้อหาและรูปแบบ ทั้งเว็บฝรั่งและเว็บไทย
3)Google Search มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้สามารถค้นเรื่องได้ตรงกับที่เราต้องการ
4)มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาภาษาอังกฤษ เป็น smartphone, iPhone, iPad, social media network
ผมเองในขณะที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ “บ๋อย” ซึ่งยกอาหารคือเว็บภาษาอังกฤษมา “เสริฟ” ท่านผู้อ่าน ก็ต้องเป็นนักศึกษาเองด้วย เพราะงานประจำที่ผมทำอยู่แม้จะใช้ภาษาอังกฤษแต่ก็ไม่มากนักจึงต้องฝึกเพิ่มเรื่อย ๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่า สมรรถนะของเน็ตที่สูงขึ้นกลับทำให้สมรรถภาพของผมในการเรียนภาษาอังกฤษลดลง ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น? มันเป็นอย่างนั้นก็เพราะอาการต่อไปนี้มันเกิดขึ้น
1)สมาธิมันสั้นและบางลง
พอผมนั่งลงที่หน้าเน็ต เช่น ยกตัวตัวอย่างว่า ตั้งใจจะอ่าน Bangkok Post หรือฟังข่าว BBC สัก ครึ่งชัวโมง แต่พอเกิดอยากรู้อะไรขึ้นมากะทันหันก็จะ search ให้รู้ทันที และหลายเรื่องก็เป็นเพียงความอยากรู้อยากเห็นที่ไร้สาระ ทำให้เวลาที่เคยให้กับการฝึกภาษาอังกฤษ ลดน้อยลงทั้งปริมาณและคุณภาพ
ทำไปทำมา บางครั้ง ผมต้องแก้นิสัยของตัวเอง โดยการไปนั่งดูข่าวจาก cable TV และอ่านภาษาอังกฤษจากหนังสือพิมพ์เล่มหรือ text มากกว่านั่งหน้าจอท่องเน็ต
2)ขยันดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ แต่ไม่คลิกเข้าไปศึกษา
พอมาวิเคราะห์ตัวเองก็ได้ข้อสรุปว่า การดาวน์โหลดนั้นง่าย แต่การศึกษาไฟล์ที่ดาวน์โหลดนั้นยากกว่าเพราะต้องมีทั้งวินัย-วิริยะ-และสมาธิ เอาเข้าจริง ๆ การดาวน์โหลดก็เป็นเพียงการหาอะไรมาแก้ตัว เพื่อที่ใจจะได้ไม่ต้องตำหนิตัวเองว่าขี้เกียจ
3)พึ่งเทคโนโลยีมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่การฝึกภาษานั้น เทคโนโลยีช่วยเราได้ในปริมาณหนึ่งเท่านั้น
ในบางครั้งผมน่าจะเหมือนกับหลายคนที่เผลอคิดไปว่า เทคโนโลยีคือพระเจ้าที่สามารถช่วยเราให้เก่งภาษาอังกฤษได้ และวิธีฟิตภาษาอังกฤษอันดับแรกคือคือการส่ายตามองหา apps, gadget, eBook, software, โปรแกรม, mp3, คลิปวีดิโอ ฯลฯ ที่ดีกว่าเดิมและช่วยเราได้ โดยเราไม่ต้องออกแรงมากนัก
ผมต้องย้อนกลับมาเบรคตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่า อย่าหลงทาง เพราะการเก่งภาษาต้องบังคับให้อวัยวะทำงาน คือ บังคับตาให้อ่านหรือดู, บังคับหูให้ฟัง, บังคับปากให้พูด, และบังคับมือให้เขียน แบบฝึกหัดหรือบทเรียน และทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ เทคโนโลยีก็เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกเท่านั้นเอง แต่มันทำงานแทนเราไม่ได้ แม้จะเตือนตัวเองอย่างนี้ก็ยังเอาไม่ค่อยอยู่ เผลอไม่ได้เลยครับ
4)social media ทำให้ผมเสียเวลาที่ไม่น่าจะเสีย
social media ในที่นี้ คือ Facebook ซึ่งผมมีอยู่ 2 ลิงค์คือ
https://www.facebook.com/e4thai มี Friend กว่า 5000
https://www.facebook.com/EnglishforThai มี Fan กว่า 8,700
แม้ผมจะไม่ได้คุยกับใครมากมายเหมือนที่คนอายุน้อย ๆ เขาคุยกัน แต่ผมก็ใช้ facebook เป็นตัวชี้วัดว่าบทความที่ผมเขียนลงเว็บ และนำมา post ลง facebook มีเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของท่านผู้อ่านมากน้อยเพียงใด โดยอ่าน Comments และดูจำนวน Like และ Shares ผมต้องยอมรับกับท่านผู้อ่านว่า ผมดูพวกนี้บ่อยเกินไป และคิดไปถึงคนที่ตั้งใจฝึกภาษาอังกฤษผ่านเน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่น ถ้าต้องเสียเวลาไปกับการ chat และเช็กเรตติ้งมากเกินไป เขาคงมีเวลาน้อยเกินไป ในการฝึก
โรคติดเน็ตและ ติด social media ที่ทำให้สมรรถภาพในการรียนภาษาอังกฤษของผมลดลงนี้ ท่านผู้อ่านเป็นบ้างหรือเปล่าครับ ถ้าเป็นท่านรักษาอย่างไร เขียนมาเล่าให้ฟังบ้างซีครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
A ถึง Z ในการเรียนภาษาอังกฤษ
สวัสดีครับ
ผมขอฝาก A ถึง Z ในการเรียนภาษาอังกฤษ แด่ท่านผู้อ่านทุกท่านที่รักการเรียนภาษาอังกฤษ
A – active: มีกายใจที่กระฉับกระเฉงพร้อมเสมอที่จะเรียนภาษาอังกฤษ
B – brave: กล้าหาญ ไม่ยอมให้ความกลัวในอดีตและความกังวลในอนาคตมาหลอกหลอน จนเลิกเรียนภาษาอังฤษ
C – can-do: มี can-do attitude หรือ can-do spirit ว่าเราทำได้ ยินดีที่จะลองทำสิ่งใหม่ในการเรียนภาษาอังกฤษ และก็เชื่อว่าทำแล้วต้องสำเร็จ
D – determined: มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคในการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ว่าอุปสรรคนั้นจะเป็นคนหรือเหตุการณ์ก็ตาม
E – eager: สนใจภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ ไม่ใช่สนใจแบบธรรมดา ๆ
F – fight your way: ต่อสู่ฝ่าฟันเพื่อวันที่ดีกว่า ซึ่งก็คือทุกวันซึ่งทักษะภาษาอังกฤษของเราค่อย ๆ ดีขึ้นนั่นเอง
G – get-up-and-go: มีพลังและความมุ่งมั่นที่จะฝ่าฟันไปสู่ความสำเร็จ ในการเรียนภาษาอังกฤษ
H – happy: มีความสุขที่ได้เรียนภาษาอังกฤษ กับความสำเร็จที่ได้รับเพิ่มขึ้นแม้เพียงทีละนิด ที่อาจจะไม่จุใจ ไม่ทันใจ
I – ideal: เรียนภาษาอังกฤษอย่างมี ideal อุดมคติ;
i = identify problems หาปัญหาให้พบ;
d = define goals กำหนดเป้าหมายให้ชัด;
e= explore strategies สำรวจหายุทธวิธีที่จะใช้เรียน;
a = act ลงมือเรียน;
l = learn เรียนรู้จากการเรียน
J – joy: มีการเรียนภาษาอังกฤษเป็นแหล่งของความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต
K – keep practicing: ฝึกเรื่อยไป แม้วันที่ไม่มีเวลา ก็พยายามหาเวลาฝึกจนได้
L – love: คำนี้มีความหมายที่ชัดเจนแล้ว ว่าสำคัญมากเพียงใดต่อการเรียนภาษาอังกฤษ
M – must: ให้ถือว่าภาษาอังกฤษเป็น a must ต้องเรียนให้ได้ ไม่เรียนไม่ได้
N – non-stop: แม้วันที่อยากหยุดเรียนก็ไม่ยอมหยุดตามอยาก ทำอะไรก็ได้ให้เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษบ้าง
O – open-minded, observe: เปิดใจให้กว้าง สังเกตทั่ว ๆ ถ้าปิดใจเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษจะกลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย
P - prepared: เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเสมอที่จะเรียนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเตรียมใจ ถ้าใจพร้อมอย่างอื่นก็พร้อม
Q –quantity & quality:ฝึกอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง แม้ยังไม่ค่อยรู้เรื่องหรือทำผิด ๆ ถูก ๆ บ้างก็ไม่เป็นไร ขอให้ตั้งใจทำเยอะ ๆ ไว้ก่อน ในที่สุดปริมาณ หรือ quantity จะนำไปสู่คุณภาพ หรือ quality เองแหละครับ
R – realistic: ไม่ขยันอย่างหักโหม ไม่หวังความสำเร็จอย่างเกินพิกัด ทุกอย่างต้องยืนอยู่บนความจริง แต่ก็ไม่ปล่อยให้ความจริงที่อาจจะอยู่ไกลมาทำให้ใจเราท้อจนไม่มุ่งมั่นเดินไปหาความจริงที่เราหวัง
S – self-motivated: เรียนภาษาอังกฤษโดยเป็นกำลังใจให้ตัวเอง เพราะนี่คือแหล่งของกำลังใจที่แท้จริง
T – train & test: ฝึกและทดสอบต้องไปด้วยกัน
U – use: เมื่อมีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษก็ให้รีบใช้ ไม่อายไม่กลัวผิด แต่ถ้าไม่มีโอกาสใช้ก็ให้พยายามหาโอกาสที่จะใช้ ไม่เอาแต่รอให้โอกาสเดินเข้ามาหา และใช้โอกาสอย่างเสียไม่ได้
V – vie with oneself: เรียนภาษาอังกฤษอย่างแข่งกับตัวเอง ไม่ต้องไปแข่งกับคนอื่น
W – wholehearted: เรียนภาษาอังกฤษด้วยทั้งหมดของใจ ไม่ใช่เรียนด้วยใจเพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ
X – xerox: เมื่อพูดหรือเขียนภาษาอังกฤษ ถ้าต้อง copy ใครในครั้งแรกก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ คำว่า copy มาก่อน create (สร้างสรรค์)
Y – youthfulness: ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นสิ่งดึงความสดชื่นสดใสของวัยรุ่นกลับมาสู่ชีวิตเรา
Z - zeal: ทุ่มพลังหมดใจให้แก่การเรียนภาษาอังกฤษ
วิธีฝึกฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องอย่างรวดเร็ว
สวัสดีครับ
ผมไปเจอคลิป How to Improve Your English Listening ซึ่งเขาแนะวิธีฝึกฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องอย่างรวดเร็ว
ผมขอยกมาเล่าทีละ point ดังนี้ครับ
******
ภาษาอังกฤษฟังยาก ก็เพราะว่า
# 1 คำศัพท์จำนวนมากออกเสียงไม่ตรงตามรูปที่เขียน
# 2 ตอนพูดเร็ว ๆ เขาจะเชื่อมคำเข้าด้วยกัน ทำให้ฟังยาก
# 3 พวกเราเรียนภาษาอังกฤษ โดยอ่านเยอะ แต่ฟังน้อย ก็เลยฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
วิธีปรับปรุงทักษะการฟัง ต้องทำ 2 อย่าง คือ
1)ฝึกฟังทุกวัน ๆ ละอย่างน้อย 15 นาที
2)ฝึกฟังอย่างถูกวิธี
1)ฝึกฟังทุกวัน ๆ ละอย่างน้อย 15 นาที
เขาแนะนำ 3 เว็บให้เราเข้าไปฝึกฟัง ทั้ง 3 เว็บนี้มี text ให้อ่านขณะฟังด้วยคือ
http://learningenglish.voanews.com/(ข่าวสำเนียงอเมริกัน)
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/general/sixminute/ (ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ)
http://www.elllo.org/index.htm (ภาษาพูดหลายสำเนียง)
2)ฝึกฟังอย่างถูกวิธี
เขาบอกว่า หลายคนฝึกฟังอย่างผิดวิธีทำให้ไม่ได้ผล คือ ฟังแค่เที่ยวเดียว พอไม่เข้าใจทุกคำก็ท้อ และเลิกฟัง
วิธีฝึกฟังที่ถูกต้อง คือ ฟังด้วยใจที่ผ่อนคลาย และให้รู้ว่าเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่ฟังครั้งแรกจะเข้าใจได้จำกัด
เพราะฉะนั้น การฝึกฟังอย่างถูกวิธี คือ
ฟังเที่ยวที่ 1: จับประเด็นใหญ่ ๆ ให้ได้ก็พอ ไม่ต้องเข้าใจศัพท์ทุกคำ
ฟังเที่ยวที่ 2: พยายามจับรายละเอียดให้ได้มากขึ้น แต่ถ้าเข้าใจไม่ได้ทุกคำก็ไม่เป็นไร
ฟังเที่ยวที่ 3: ฟังพร้อมกับอ่าน text ตอนนี้ให้ฟังแบบใส่ใจศัพท์เป็นตัว ๆ
การฝึกฟังแบบนี้ คือจับประเด็นทั่วไปลงไปถึงรายละเอียดเฉพาะ เป็นวิธีฝึกฟังที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เขาแนะว่า ตอนนี้ก็ให้เข้าไปที่เว็บใดเว็บหนึ่งใน 3 เว็บที่เขาแนะไว้ข้างต้น และให้ฝึกฟังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 3 เที่ยว ตามวิธีที่เขาแนะไว้
สรุปก็คือ 1)ให้ฝึกฟังทุกวัน ๆ ละอย่างน้อย 15 นาที 2)ฟัง3 เที่ยวอย่างที่แนะนำข้างต้น เขารับรองว่าจะได้ผลดีอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ ขอเชิญชมคลิปครับ
10 เว็บฟิตภาษาอังกฤษ รายวัน
สวัสดีครับ
บางคนบ่นว่า ไม่รู้จะฝึกอะไร มันเยอะแยะไปหมดเลือกไม่ถูก ผมขอแก้ปัญหาให้ท่านดังนี้ครับ
**********
10 เว็บข้างล่างนี้ มีทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ให้ท่านฝึกทุกวัน ฝึกมากหรือน้อยก็ตามใจท่าน แต่ให้ฝึกทุกวัน เนื้อหาส่วนใหญ่เปลี่ยนทุกวัน ท่านจะได้ไม่ต้องฝึกซ้ำกับของเดิม
ใน 10 เว็บนี้ ผมเชื่อว่าจะต้องมีอย่างน้อย 1 เว็บที่ท่านชอบ และสามารถเลือกเป็นเว็บประจำสำหรับฝึกภาษาอังกฤษ แต่ถ้าท่านดูครบแล้วก็ยังไม่ชอบเว็บใดเลย ผมขอร้องให้ท่านฝึกกับมันอย่างฝืนใจไปสัก 1 เดือน เมื่อผ่าน 1 เดือนไปแล้ว ผมเชื่อว่าท่านจะเปลี่ยนใจ เพียงขอให้ท่านลองยอมให้โอกาสแก่ความอดทนของตนเองดูบ้าง เพียง 1 เดือนติดต่อกันทุกวันเท่านั้นแหละครับ
เว็บที่ 1: ฟังและอ่าน
คลิกปุ่ม > เพื่อฟัง
คลิก Read the Web Page เพื่ออ่าน text
เว็บที่ 2: อ่านและฟัง:
คลิกลิงค์ชื่อเรื่อง และคลิกไอคอนรูปลำโพงเพื่อฟัง
http://www.manythings.org/voa/rss/
เว็บที่ 3: ฟัง + ฝึกพูดตาม
คลิก Play, pause, ฝึกพูดตาม
คลิกตัวเลข เพื่อกำหนดจำนวนเที่ยวที่ต้องการฟังแต่ละประโยค
คลิก >> เพื่อฟังประโยคถัดไป
คลิก << เพื่อฟังประโยคย้อนหลัง
http://www.manythings.org/lar/
เว็บที่ 4: อ่านและฟัง:
คลิกข่าวที่ต้องการอ่าน
คลิกบรรทัด Click button to listen to …….. เพื่อฟังเสียงอ่านข่าว
ง่ายกว่า: http://www.bangkokpost.com/learning/easier-stuff
ยากกว่า: http://www.bangkokpost.com/learning/learning-from-news
เว็บที่ 5: เขียน chat กับ SimSimi
พยายามขยันเขียนคุยกับเขาหน่อย, โดยหัดสะกดให้ถูกต้อง, ไม่ต้องรีบร้อนเหมือน chat กับคน แต่ก็ให้พยายามแต่งประโยคให้ถูกต้องและรู้เรื่อง เป็นประโยคง่าย ๆ ไม่ต้องซับซ้อน
http://www.simsimi.com/talk.htm?lc=en
เว็บที่ 6:อ่านและฟัง:
คลิก ไอคอน Play เพื่อฟังเสียง ข่าวอาจจะยากสักนิด
http://www.manythings.org/voa/news/
เว็บที่ 7:อ่าน, ฟัง,และทำแบบฝึกหัดหลายรูปแบบ:
คลิกลิงค์ชื่อเรื่อง และคลิก MP3 ใต้ LISTEN
http://www.breakingnewsenglish.com/
เว็บที่ 8:ศึกษาคำศัพท์พร้อมรูปภาพ วันละ 4 คำ
ให้ดูใต้บรรทัด Dictionary pictures of the day ที่ด้านล่างของหน้า
และคลิกที่รูป
http://www.ldoceonline.com/dictionary/
เว็บที่ 9: อ่าน, ฟัง, ตอบคำถาม:
คลิก ไอคอน Play ใต้ Dialog เพื่อฟัง
http://englishtips.org/daily_english_lesson.html
เว็บที่ 10: เลือกเรียนกับ Facebook
เรียนภาษาอังกฤษกับ Facebook ไทย
ตัวช่วย ดิกชันนารี อังกฤษ – ไทย
www.online-english-thai-dictionary.com
More Articles...
- คำแนะนำในการพูดภาษาอังกฤษ โดย แอนดรูว์ บิ๊กส์
- จะเป็นหนู ที่ยืนกลัวตัวสั่นต่อหน้าแมว หรือเป็นแมวที่กล้าล้อเล่นกับหมา
- เปิดตัวช่อง YouTube ของเว็บ e4thai.com
- วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ: หนทางมีที่คนไม่ค่อยเดิน
- Tip การอ่าน นสพ. Bangkok Post
- พระทำกรรมฐาน กับ เราเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ต่างกันเลยครับ !!
- แค่เรียนภาษาอังกฤษ แบบ active ไม่พอหรอกครับ !!
- ประโยชน์ของการอ่าน หนังสือนอกเวลา และวิธีการอ่าน ที่ถูกต้อง
- ภาษาไทย คือ ภาษาแห่งจิตใจ
- วันสงกรานต์ที่แม่กลอง
- ขอกราบถวายการสอนภาษาอังกฤษแด่พระคุณเจ้า
- ช่อง Search ของ e4thai.com อยู่ที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บครับ
- บทความยอดนิยม 50 บทความแรก ของเว็บ e4thai.com
- ตอนนี้หนังสือภาษาอังกฤษ "อ่านนอกเวลา" เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 150 เล่มแล้ว
- ขอแนะนำ Bangkok Post Learning อีกครั้ง