Articles
นิยายคลาสสิกไทยและเรื่องสั้น 30เรื่อง แปลเป็นอังกฤษ (ดาวน์โหลด)
สวัสดีครับ
ที่ 2 ลิงค์นี้
มีนิยายคลาสสิกไทย 16 เรื่อง แปลเป็นภาษาอังกฤษ คือ
1.ละครแห่งชีวิต-หม่อมเจ้าอากาศดำเกิง รพีพัฒน์
2.เรื่องของจันดารา-อุษณา เพลิงธรรม
3.ปีศาจ-เสนีย์ เสาวพงศ์
4.คำพิพากษา-ชาติ กอบจิตติ
5.เวลาในขวดแก้ว-ประภัสสร เสวิกุล
6.พลายมะลิวัลย์-ถนอม มหาเปารยะ
7.ความรักของวัลยา-เสนีย์ เสาวพงศ์
8.ทุ่งมหาราช-มาลัย ชูพินิจ
9.งู-วิมล ไทรนิ่มนวล
10.ทะเลและกาลเวลา-อัศศิริ ธรรมโชติ
11.พันธุ์หมาบ้า-ชาติ กอบจิตติ
12.ทางเสือ-ศิลา โคมฉาย
13.คนข้ามฝัน - ประชาคม ลุนาชัย
14.หมาเน่าลอยน้ำ - ชาติ กอบจิตติ
15.เวลา - ชาติ กอบจิตติ
16. กรณีฆาตกรรม โต๊ะอิหม่ามสะตอปา การ์เด - ศิริวร แก้วกาญจน์
และยังมีเรื่องสั้นไทยแปลเป็นภาษาอังกฤษอีก 14 เรื่อง
ผมเองอ่านนิยายไทยอยู่ไม่กี่เล่ม แต่เมื่อลองอ่านภาคภาษาอังกฤษของเรื่องที่เคยอ่านนานแล้ว คือ ละครแห่งชีวิต ก็รู้สึกว่าได้รสชาติแปลกใหม่และไม่อยากหยุดอ่าน จึงขอเชิญท่านที่ชอบอ่านนิยายและเรื่องสั้น ที่ต้องการเพลิดเพลินกับเนื้อเรื่องไทยในภาษาอังกฤษ ลองเข้าไปอ่านได้เลยครับ
ถ้าต้องการดาวน์โหลดไฟล์ของทั้ง 30 เรื่อง ก็คลิกที่นี่ Part 1 - Part 2
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ฝากดิก Longman อังกฤษ – ไทย เอาไปใช้พัฒนาภาษาอังกฤษ
สวัสดีครับ
อาจารย์หลายท่านสอนตรงกันว่า ตอนอ่านภาษาอังกฤษ ไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์ทุกคำ แต่ให้พยายามจับ key word หรือคำหลักให้ได้ และให้อ่านเป็นกลุ่มคำ เช่น กลุ่มคำที่ทำหน้าที่เป็นประธาน มันอาจจะมีตั้งเกือบ 10 คำก็ให้มองมันทั้งกลุ่มและจับความหมายโดยรวมของกลุ่มให้ได้โดยดูที่ key word เป็นหลัก ถ้าคำใดไม่รู้ก็ให้พยายามเดาโดยอาศัยคำใกล้เคียง ถ้าเดาไม่ออกแต่มันไม่ใช่สาระสำคัญก็ผ่านไปก่อน แต่ถ้าเป็นคำสำคัญจริง ๆ จึงค่อยเปิดดิก ด้วยการฝึกเช่นนี้จะช่วยให้เราพัฒนาทักษะการอ่านให้เป็น speed reader ซึ่งได้ผลดีกว่า การเปิดดิกทุกคำที่ไม่รู้จนทำให้เรากลายเป็น slow reader ซึ่งทำให้ทักษะการอ่านเติบโตได้ช้า
ผมเห็นด้วยกับคำสอนข้างต้นทุกประการ แต่สิ่งที่พบเห็นและได้ยินอยู่ทุกวันก็คือ เด็กไทยและคนไทยจำนวนไม่น้อย(ที่เรียนภาษาอังกฤษมาจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัย)อ่านภาษาอังกฤษได้แย่ นี่เป็นเพราะอะไร?
ตามความเห็นของผม สาเหตุก็เพราะว่า การอ่านแบบ speed reader ตามวิธีการข้างบน จะได้ผลต้องฝึกอ่านเยอะ ๆ อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ พูดง่าย ๆ ก็คือต้องอ่านทุกวัน แต่ข่าวเศร้าที่เราได้ยินก็คือ คนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ ขนาดภาษาไทยยังอ่านปีละไม่กี่บรรทัด ภาษาอังกฤษคงไม่ต้องพูดถึง เพราะฉะนั้นหลักการฝึกอ่านภาษาอังกฤษแบบ speed reader จึงเป็นหลักการที่คนยอมรับว่าดีแต่ไม่ค่อยยอมปฏิบัติ ทักษะการอ่านจึงแย่เป็นธรรมดา
คนไทยที่จบปริญญาตรีในเมืองไทย เห็นจะมีเพียงแพทย์เท่านั้นที่ส่วนใหญ่มีทักษะดีในการอ่านภาษาอังกฤษ เพราะต้องอ่านตำราที่เป็นภาษาอังกฤษ ส่วนคณะอื่นไม่ต้อง จึงโชคดีที่ไม่ต้องพยายามมาก แต่โชคร้ายที่ไม่ได้พยายาม
อย่างที่บอกแล้วว่า อย่าเปิดดิกบ่อยจนทำให้การอ่านสะดุด แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า ดิกมีไว้สำหรับเปิดอย่างเสียไม่ได้เมื่อเวลาจำเป็น จนคิดไปว่าถ้านอกเวลาอ่านหนังสือ การเปิดดิกคือการทำบาปหรือพฤติกรรมวิตถาร แม้หลายคนจะไม่ได้คิดรุนแรงปานนี้ แต่ก็คงออกไปในแนวนี้
วันนี้ผมอยากจะเสนอว่า แม้ตอนอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเราไม่ได้เปิดดิกบ่อย แต่นอกเวลาอ่านหนังสือ เราสามารถใช้ดิกเป็นเครื่องมืออันวิเศษในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเรา
ดิกที่จะเป็นเครื่องมืออันวิเศษนี้ จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง?
1.ต้องมีศัพท์เฉพาะคำพื้นฐานเท่านั้น คือคำที่เจอบ่อยในการอ่านหนังสือพิมพ์ หรือคำที่ต้องใช้ในการพูดจาเล่าเรื่องโดยทั่วไป อย่ามีศัพท์มากเกินไป คือมีประมาณสัก 10,000 คำก็พอ และดิกที่มีศัพท์พื้นฐานพวกนี้ไม่จำเป็นต้อง update บ่อย ๆ เพราะคำพื้นฐานความหมายมักไม่ค่อยเปลี่ยน เช่น คำว่า eat แปลว่า กิน, คำว่า walk แปลว่า เดิน, คำว่า love แปลว่า รัก กี่ปี ๆ มันก็มีความหมายอย่างนี้แหละ
2.ต้องมีประโยคตัวอย่างให้เราศึกษาการใช้คำศัพท์ นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยฉพาะอย่างยิ่งคำกริยา (verb) และคำคุณศัพท์ (adjective) ส่วนคำนาม ประโยคตัวอย่างอาจจะไม่จำเป็นมากนัก เช่น คำว่า dog แปลว่า หมา, คำว่า cat แปลว่า แมว เราย่อมอ่านและฟังเข้าใจและเอาไปใช้ถูกเมื่อพูดและเขียน โดยไม่ต้องอาศัยประโยคตัวอย่างในดิก
3.ถ้าหากว่าประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษที่ให้มา มีคำแปลเป็นภาษาไทยเทียบไว้ด้วย นี่จะวิเศษมาก เพราะจะช่วยให้เราฝึกอ่าน, ฝึกตีความ แต่อันดับแรกเราควรบังคับลูกตาให้อ่านเฉพาะประโยคภาษาอังกฤษ และแปลด้วยตัวเองเสียก่อน แล้วจึงค่อยเหลือบไปดูคำแปลภาษาไทยที่ให้ไว้ ถ้าดูเลยโดยไม่ได้แปลเองเสียก่อน สมองจะออกแรงน้อยเกินไปและไม่แข็งแรง
4.ดิกที่จะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเช่นนี้ จะต้องมีคำอ่านคำศัพท์ และจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องฝึกใช้ปากอ่านออกเสียงคำศัพท์จนหูของตัวเองได้ยิน ผมเชื่อว่าถ้าเราไม่มั่นใจการออกเสียงคำศัพท์ตัวใด ย่อมเป็นการยากอย่างยิ่งที่เราจะจำศัพท์ตัวนั้นได้ และถ้าคำอ่านที่ดิกให้ไว้เป็นสัญลักษณ์โฟเนติกส์สากล ก็เป็นการคุ้มค่าอย่างยิ่งที่เราจะพยายามจดจำการออกเสียงให้ได้ ศึกษาคลิปนี้เป็นตัวอย่างครับ - คลิก
คำตั้งในดิก จะมีจุดแบ่งจำนวนพยางค์ที่ออกเสียง และโฟเนติกส์แสดงการออกเสียงแต่ละพยางค์
5.ควรฝึกอ่านออกเสียงประโยคตัวอย่างด้วย ประโยคตัวอย่างที่ดิกให้มาเป็นประโยคพื้นฐานง่าย ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการสนทนาและเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดี ถ้าเราฝึกอ่านประโยคโดยไม่ยอมอ่านออกเสียงประโยคนั้นออกมาทางปาก เราก็จะเพียงเข้าใจเมื่อฟังคนอื่นพูด แต่ไม่สามารถพูดให้คนอื่นเข้าใจเพราะไม่ได้ฝึกไว้ก่อน ก้อนเนื้อในสมองที่ควบคุม “ความเข้าใจ(เมื่อฟัง)” กับ “การใช้เป็น(เมื่อพูด)” เป็นคนละก้อน เราต้องฝึกให้ทั้งสองก้อนโตเหมือน ๆ กัน
แถม:
การออกเสียงคำที่ลงท้ายด้วย -ed ในภาษาอังกฤษ -คลิก
การอ่านคำนามและกริยาที่ เติม s และ es - คลิก
ดิกที่สามารถช่วยเราได้ทั้งหมดดังกล่าวนี้ คือดิกเล่มข้างล่างนี้
Longman Basic English – Thai Dictionary
หรือจะดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ไฟล์เดียวก็ได้ คลิก
ในการฝึก ท่านไม่จำเป็นต้องไล่จากคำแรกในหน้าแรก ไปจนถึงคำสุดท้ายในหน้าสุดท้าย ท่านสามารถคลิกพลิกไปพลิกมาได้ตามใจชอบ อาจจะเริ่มจากคำแรกในหน้าใดหน้าหนึ่ง โดยไล่ไปทีละคำจนจบหน้า อาจจะข้ามคำที่ไม่เคยเห็น แต่ใส่ใจคำที่เคยเห็น แต่ไม่แน่ใจความหมาย หรือลืมไปแล้ว หรือเข้าใจความหมายแต่ใช้ผูกประโยคพูดไม่เป็น ให้ท่านฝึกกับคำศัพท์ที่เคยเห็น-ไม่แน่ใจ-เลือน-ลืม-ใช้ไม่เป็น แล้วค่อยขยับไปสู่คำศัพท์ที่ไม่เคยเห็น แต่จริง ๆ แล้ว ใน 10,000 คำนี้ ทุกคำควรรู้และควรฝึกฝนจนครบ
ผมเชื่อว่า ดิก Longman Basic English – Thai Dictionary เล่มนี้จะเป็นเครื่องมือที่เหมาะในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ทั้งเรื่องคำศัพท์ การอ่าน และ การพูดครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
อ่าน พระอภัยมณี ฉบับภาษาอังกฤษ
สวัสดีครับ
อ่าน พระอภัยมณี ฉบับภาษาอังกฤษ
ในวันนี้ผมขอนำเรื่องพระอภัยมณี ที่พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ทรงแปลเป็นภาษาอังกฤษ ในชื่อ The Story of Phra Abhai Mani มานำเสนอ
ที่ลิงค์นี้
http://sakchaip.tripod.com/bookworm/sunthorn/abhai_a.html
ผมนำมาทำเป็น PDF eBook คลิกดาวน์โหลด The Story of Phra Abhai Mani
ขอเรียนว่า อ่านสนุกครับ แม้ว่าท่านจะรู้เนื้อเรื่องภาษาไทยมาแล้วก็ตาม
แต่ถ้าท่านชักจะลืมเลือนไปบ้าง จะอ่านภาษาไทยเพื่อรื้อฟื้นความจำสักหน่อยก็ได้ ครับ ที่ลิงค์ข้างล่างนี้
ผู้แต่ง: สุนทรภู่
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ดาวน์โหลดหนังสือ สี่แผ่นดิน ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
สวัสดีครับ
สี่แผ่นดิน ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นหนึ่งใน หนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน ท่านใดยังไม่เคยอ่านหรืออ่านแล้วแต่ลืมเลือน ลองอ่านเรื่องย่อได้ที่นี่ หรือ ที่นี่ หรือ ที่นี่
ผมมีไฟล์หนังสือเล่มนี้ให้ท่าน ---> ดาวน์โหลด
หนังสือเล่มนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อ Four Reigns ผมอ่านจบแล้ว และพยายามหาไฟล์สมบูรณ์มาฝากท่านผู้อ่าน แต่หาอยู่นานก็ยังไม่เจอ ที่เจอคือ ---> ลิงก์นี้ และ ---> ไฟล์ pdf นี้ ซึ่งมีสำนวนแปลของ คุณ Marcel Barang อยู่ 4 บท ผมเห็นว่า ท่านที่รักวรรณกรรมและภาษาอังกฤษ สามารถเข้าไปอ่านเพื่อความเพลิดเพลินและฝึกภาษาอังกฤษได้พร้อมกัน จึงนำทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษมาเทียบกัน และทำเป็นไฟล์ pdf ถ้าสนใจก็คลิกเข้าไปอ่านหรือดาวน์โหลดได้เลยครับ
Tip: ถ้าท่านต้องการอ่านเปรียบเทียบ ระหว่างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ ให้เปิดเป็น 2 tab, และเลื่อนข้อความซ้าย-ขวา ให้ตรงกัน ให้อ่านเปรียบเทียบได้ง่าย ๆ
- บทที่ 1 ของ แผ่นดินที่ 1(รัชการที่ 5)
- บทที่ 1 ของ แผ่นดินที่ 2 (รัชการที่ 6)
- บทที่ 1 ของ แผ่นดินที่ 3 ( รัชการที่ 7)
- บทสุดท้าย ของแผ่นดินที่ 4 (รัชการที่ 8)
แต่ว่า ผมยังไปเจอวิทยานิพนธ์ 2 เรื่องที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง สี่แผ่นดิน
เรื่องแรก
กลวิธีการแปลคำทางวัฒนธรรมจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษในนวนิยายเรื่องสี่แผ่นดิน โดย สตรีรัตน์ ไกรอ่อน --- > คลิกดู
ผมขอให้ท่านคลิกดูบท Appendix ไฟล์ pdf ตั้งแต่หน้า 65/83 เป็นต้นไป ท่านจะเห็นว่า เขายกตัวอย่างการแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษของผู้แต่ง คือ Tulachandra ว่า มีการแปลแบบตรงตัว, แบบเอาความ, แบบทับศัพท์ และแบบไม่แปล, ตัวอย่างการแปลศัพท์ที่เข้ากับเนื้อเรื่องทำนองนี้ เราอาจไม่เจอเมื่อไปเปิดดิก ไทย-อังกฤษ ทั่วไป
แปลแบบตรงตัว คำเหล่านี้ จากไทยเป็นอังกฤษ:ยกตัวอย่าง --->ยถากรรม, การถวายตัว, กุ้งแช่อิ่ม, ธรณีประตู, นั่งขัดสมาธิ, เครื่องต้นเครื่องทรง เป็นต้น
แปลแบบเอาความ ยกตัวอย่าง:---> ลูกเสื้อลูกตะเข้, ใส่บาตร, ฝากเนื้อฝากตัว, พุทโธ่,หมากพลู บุหรี่, ตั้งนโมให้ศีล, พระอนุโมทนายถาสัพพี เป็นต้น
เรื่องที่สอง
การศึกษาการแปลวัจนกรรมอ้อมประโยคคําถามในนวนิยายเรื่อง สี่แผ่นดิน (SI PHAENDIN)และ FOUR REIGNS โดย ทิวาพร ธงทอง --- > คลิกดู
เล่มนี้ก็พูดเรื่องการแปลนิยายเรื่อง สี่แผ่นดิน ไปเป็น Four Reigns โดย Tulachandra เช่นกัน งานวิจัยชิ้นนี้ท่านก็จะได้เห็นการวิเคราะห์การแปลที่น่าสนใจอีกเช่นกัน
เรื่องที่แนะนำวันนี้ อาจจะดูหนักไปหน่อย แต่ถ้าใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คลิกเข้าไปศึกษา ก็น่าจะมีประโยชน์ครับ
https://www.facebook.com/En4Th
https://www.facebook.com/EnglishforThai
ข่าวเดียวกัน มี 3 ระดับ ง่าย-กลาง-ยาก ให้เลือกฝึกอ่าน และฟัง
สวัสดีครับ
ด้วยความซอกแซก ผมไปหาเว็บฝึกอ่านและฟังข่าวภาษาอังกฤษในประเทศเยอรมนีมาฝากท่านผู้อ่าน
ที่นี่: http://www.newsinlevels.com/
ในเว็บนี้ ที่กลางหน้า เลื่อนจากบนลงล่าง ท่านจะเห็นแต่ละข่าว จะมีทั้ง Level 1,2,3 ให้ท่านเลือกอ่าน และคลิกฟัง (ดาวน์โหลด mp3 ได้ด้วย) ระดับ 1และ 2 จะใช้ศัพท์ที่ค่อนข้างง่าย ส่วนระดับ 3 ยากที่สุด หรือท่านจะคลิกศึกษาเฉพาะ Level 1 (ศัพท์ 1,000 คำ)หรือ Level 2 (ศัพท์ 3,000 คำ)หรือ Level 3 (ศัพท์ 5,000 คำ)ที่เมนูบาร์ด้านบนเลยก็ได้
ขอบอกว่า ผมเองรู้สึกถูกใจเว็บนี้มาก และหวังว่าท่านผู้อ่านหลายท่านก็น่าจะถูกใจเช่นกัน
ทางเว็บเขาแนะนำวิธีการศึกษาภาษาอังกฤษที่เว็บของเขา ดังนี้ครับ
ต่อจากนี้ขอเชิญท่านได้เลยครับ ที่เว็บนี้
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.