Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

เอาตัวรอดในต่างประเทศด้วยประโยคพื้นฐาน 4 ด้าน

แหล่งที่มา: http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=71786

          สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศมือใหม่ที่อ่อนภาษาอังกฤษ การเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งไกด์ทัวร์ นับเป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัวเกินกว่าจะมีอารมณ์สุนทรีย์กับทิวทัศน์รอบตัวได้ จะไปไหนก็ไปไม่ถูก จะถามใครก็พูดไม่เป็น เข้าร้านอาหารก็ไม่รู้จะสั่งอาหารอย่างไร จะช้อปปิ้งก็ยังไม่กล้าถามราคาอีก ชีวิตนี้ช่างมืดมนโดยแท้ กลับถึงเมืองไทยได้อย่างปลอดภัยก็นับว่ายอดแล้ว
         แต่มันจะไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าเราได้ซักซ้อมใช้ประโยคพื้นฐานภาษาอังกฤษเอาไว้เสียก่อนที่จะเดินทางไป ซึ่งประโยคสำหรับเอาตัวรอดในต่างแดนก็มีอยู่ด้วยกัน 4 ด้านหลักๆ คือ การแนะนำตัว การเดินทาง กิน-เที่ยว และที่พักอาศัย มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
                                       ◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊

 

1. การแนะนำตัว

           แนะนำตัว

 

           Peter : Hello. My name's Peter. What's your name?

(สวัสดีครับ ผมชื่อปีเตอร์ คุณชื่ออะไรครับ)

Janet : Janet.

(เจเน็ตค่ะ)

Peter : Where are you from Janet?

(คุณเจเน็ตมาจากประเทศอะไรครับ)

Janet : I'm from Seattle. Where are you from?

(ฉันมาจากซีแอ็ทเทิล แล้วคุณมาจากประเทศอะไรคะ)

Peter : I'm from Madrid.

(ผมมาจากเมืองมาดริดครับ)

Peter : Are you American?

(คุณเป็นชาวอเมริกันหรือเปล่าครับ)

Janet : Yes, I am. Are you Spanish?

(ใช่ค่ะ ฉันเป็นชาวอเมริกัน แล้วคุณเป็นชาวสเปนหรือเปล่าคะ)

Peter : Yes I am.

(ใช่ครับ ผมเป็นชาวสเปน)

ทักทาย

Janet : Hello, Peter. How are you?

(สวัสดีค่ะคุณปีเตอร์ สบายดีหรือเปล่าคะ)

Peter : Fine, thanks. How are you?

(สบายดีครับ ขอบคุณครับ แล้วคุณสบายดีหรือเปล่าครับ)11111

Janet : I'm fine, thank you.

(สบายดีค่ะ ขอบคุณค่ะ)

Peter : Goodbye, Janet. See you tomorrow!

(ลาก่อนครับคุณเจเน็ต แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ)

Janet : Bye bye, Peter. Have a nice evening.

(ลาก่อนค่ะคุณปีเตอร์ ขอให้มีความสุขในค่ำคืนนี้นะคะ)

Peter : Thanks, you too!

(ขอบคุณครับ คุณก็เช่นกันนะครับ)

Janet : Thanks.

(ขอบคุณค่ะ)

สรุปรูปประโยคสำคัญ

My name is... (ฉันชื่อ...)
What's (is) your name? (คุณชื่ออะไร)
Where are you from? (คุณมาจากที่ไหน)
I'm from... (ผมมาจาก...)
Are you (Spanish, American, German, etc.) (คุณเป็นชาว (สเปน, อเมริกัน, เยอรมัน หรืออื่นๆ) หรือไม่)
Hello... How are you? (สวัสดี สบายดีหรือเปล่าคะ)
I'm (fine, OK, well) thank you (ผมสบายดี ขอบคุณครับ)
Goodbye, bye bye (ลาก่อน)
See you tomorrow (แล้วพบกันพรุ่งนี้ครับ)
Have a nice (day, evening) (ขอให้มีความสุขใน (วัน, คืน) นี้นะครับ)

◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊


2. การเดินทาง

ที่สนามบิน

Officer : Good morning. Can I have your ticket, please?

(สวัสดีตอนเช้าครับ ผมขอตั๋วโดยสารของคุณได้หรือไม่ครับ กรุณาด้วยครับ)

Traveller : Here you are.

(นี่ครับ)

Officer : Thank you. Would you like smoking or non-smoking?

(ขอบคุณครับ คุณต้องการสูบบุหรี่หรือไม่สูบครับ)

Traveller : Non-smoking, please.

(ไม่สูบครับ กรุณาด้วยครับ)

Officer : Would you like a window or an aisle seat?

(คุณต้องการที่นั่งริมหน้าต่างหรือริมทางเดินครับ)

Traveller : An aisle seat, please.

(ที่นั่งริมทางเดินครับ กรุณาด้วยครับ)

Officer : Do you have any baggage?

(คุณมีสัมภาระมาด้วยหรือไม่ครับ)

Traveller : Yes, this suitcase and this carry-on bag.

(มีครับ นี่กระเป๋าเดินทาง และนี่กระเป๋าเป้ครับ)22222

Officer : Here's your boarding pass. Have a nice flight.

(นี่บัตรผ่านขึ้นเครื่องบินของคุณครับ ขอให้มีความสุขกับการบินนะครับ)

Traveller : Thank you.

(ขอบคุณครับ)

ที่ด่านตรวจหนังสือเดินทาง

 

Officer : Good morning. Can I see your passport?

(สวัสดีตอนเช้าครับ ผมขอดูหนังสือเดินทางของคุณได้หรือไม่ครับ)

Traveller : Here you are.

(นี่ครับ)

Officer : Thank you very much. Are you a tourist or on business?

(ขอบคุณมากครับ คุณเป็นนักท่องเที่ยวหรือมาทำธุรกิจครับ)

Traveller : I'm a tourist.

(ผมเป็นนักท่องเที่ยวครับ)

Officer : That's fine. Have a pleasant stay.

(ดีครับ ขอให้มีความสุขในการพักอาศัยครับ)

Traveller : Thank you.

(ขอบคุณครับ)

สรุปรูปประโยคสำคัญ

Can I have your ticket? (ขอตั๋วโดยสารของคุณได้หรือไม่ครับ)
smoking, non-smoking (สูบบุหรี่, ไม่สูบบุหรี่)
window seat, aisle seat (ที่นั่งริมหน้าต่าง, ที่นั่งริมทางเดิน)
baggage, suitcase, carry-on bag (สัมภาระ, กระเป๋าเดินทาง, กระเป๋าเป้)
boarding pass (บัตรผ่านขึ้นเครื่องบิน)
flight (การบิน)
Can I see your passport? (ผมขอดูหนังสือเดินทางของคุณได้หรือไม่ครับ)
tourist, business (นักท่องเที่ยว, ทำธุรกิจ)

สอบถามทาง

Traveller : Excuse me. Is there a bank near here?

(ขอโทษครับ มีธนาคารอยู่แถวๆ นี้หรือเปล่าครับ)

Women : Yes. There's a bank on the corner.

(มีค่ะ มีธนาคารอยู่ตรงหัวมุมถนน)

Traveller : Thank you.

(ขอบคุณครับ)

Women : You're welcome.

(ไม่เป็นไรค่ะ)

Traveller : Excuse me. Is there a supermarket near here?

(ขอโทษครับ มีซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่แถวๆ นี้หรือเปล่าครับ)

Women : Yes. There's one near here.

(มีค่ะ มีอยู่ที่หนึ่งใกล้ๆ ตรงนี้)

Traveller : How do I get there?

(ผมจะไปที่นั่นได้อย่างไรครับ)

Women : At the traffic lights, take the first left and go straight on. It's on the left.

(ตรงสัญญาณไฟจราจร เลี้ยวซ้ายแรก แล้วตรงไป มันจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ)

Traveller : Is it far?

(อยู่ไกลหรือเปล่าครับ)

Women : Not really.

(ไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ)

Traveller : Thank you.

(ขอบคุณครับ)

Women : Don't mention it.

(ไม่เป็นไรค่ะ)

สรุปรูปประโยคสำคัญ

Is there a ... near here? (มี...อยู่แถวๆ นี้หรือเปล่าครับ)
on the corner (ตรงหัวมุมถนน)
on the left (อยู่ทางซ้ายมือ)
on the right (อยู่ทางขวามือ)
straight on, straight ahead (ตรงไป)
turn left (เลี้ยวซ้าย)
turn right (เลี้ยวขวา)
traffic lights (สัญญาณไฟจราจร)

สอบถามเวลา

Traveller : Excuse me. Can you tell me the time, please?

(ขอโทษครับ คุณช่วยบอกเวลาให้ผมได้หรือไม่ครับ กรุณาด้วยครับ)

Man : Yes, of course. It's seven o'clock.

(ได้แน่ครับ ตอนนี้เวลา 7 นาฬิกาครับ)

Traveller : Thank you.

(ขอบคุณครับ)

Man : No problem.

(ไม่มีปัญหาครับ)

Traveller : What time is it?

(ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงครับ)

Women : It's half past three.

(ตอนนี้เป็นเวลา 3 นาฬิกา 30 นาทีค่ะ)

Traveller : Thanks.

(ขอบคุณครับ)

Women : You're welcome.

(ไม่เป็นไรค่ะ)

สรุปรูปประโยคสำคัญ

Excuse me. (ขอโทษครับ, รบกวนด้วยครับ)
Can you tell me the time, please? (คุณช่วยบอกเวลาให้ผมได้หรือไม่ครับ กรุณาด้วยครับ)
What time is it? (ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงครับ)
It's half past... (ตอนนี้เป็นเวลา....นาฬิกา 30 นาที)
It's quarter past... (ตอนนี้เป็นเวลา...นาฬิกา 15 นาที)
It's ten to... (ตอนนี้เป็นเวลาอีก 10 นาทีจะ....นาฬิกา)
It's quarter to... (ตอนนี้เป็นเวลาอีก 15 นาทีจะ...นาฬิกา)
o'clock (นาฬิกา)

◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊


3. กิน-เที่ยว

ที่ร้านอาหาร

 

Waitress : Hi. How are you doing this afternoon?

สวัสดีค่ะ เย็นนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ)

Traveller : Fine, thank you. Can I see a menu, please?

(ดีครับ ขอบคุณครับ ขอผมดูเมนูอาหารได้หรือเปล่าครับ กรุณาด้วยครับ)

Waitress : Certainly, here you are.

(ได้แน่นอนค่ะ นี่ค่ะ)

Traveller : Thank you. What's today's special?

(ขอบคุณครับ วันนี้มีอะไรเป็นพิเศษบ้างครับ)

Waitress : Grilled tuna and cheese on rye bread.

(ปลาทูน่าย่างและเนยแข็งบนขนมปังไรย์ค่ะ)

Traveller : That sounds good. I'll have that.

(ฟังดูดีนะครับ ผมเอาอันนั้นหล่ะครับ)33333

Waitress : Would you like something to drink?

(คุณต้องการดื่มอะไรหรือไม่คะ)

Traveller : Yes, I'd like a coke.

(ครับ ผมต้องการโค้กครับ)

Waitress : Thank you.

(ขอบคุณค่ะ)

Waitress : Here you are. Enjoy your meal!

(นี่อาหารของคุณค่ะ ขอให้มีความสุขกับอาหารนะคะ)

Traveller : Thank you.

(ขอบคุณครับ)

Waitress : Can I get you anything else?

(มีอะไรให้ดิฉันรับใช้อีกหรือไม่คะ)

Traveller : No thanks. I'd like the check, please.

(ไม่แล้วครับ ขอบคุณครับ ผมต้องการคิดเงินแล้วครับ กรุณาด้วยครับ)

Waitress : That'll be $6.75

(ทั้งหมดเป็นเงิน 6.75 เหรียญค่ะ)

Traveller : Here you are. Keep the change!

(นี่ครับ เก็บเงินทอนไปเลยครับ)

Waitress : Thank you! Have a good day!

(ขอบคุณค่ะ ขอให้มีความสุขในวันนี้นะคะ)

Traveller : Bye.

(ลาก่อนครับ)

สรุปรูปประโยคสำคัญ

Can I see a menu? (ขอผมดูเมนูอาหารได้หรือเปล่าครับ)
here you are (นี่ของคุณค่ะ)
Enjoy your meal! (มีความสุขกับอาหาร)
Would you like ... (คุณต้องการ...หรือไม่)
Can I get you anything else? (มีอะไรให้ดิฉันรับใช้อีกหรือไม่คะ)
I'd like the check, please. (ผมต้องการคิดเงินแล้วครับ กรุณาด้วยครับ)
That'll be $6.75 (ทั้งหมดเป็นเงิน 6.75 เหรียญค่ะ)
Have a good day! (ขอให้มีความสุขในวันนี้นะคะ)

ที่ร้านขายของ

Seller : Can I help you?

(มีอะไรให้ดิฉันช่วยเหลือหรือไม่คะ)

Traveller : Yes, I'm looking for a sweater.

(มีครับ ผมกำลังมองหาเสื้อสเว็ตเตอร์ครับ)

Seller : What size are you?

(คุณใส่ขนาดอะไรคะ)

Traveller : I'm an extra large.

(ผมใส่ขนาดใหญ่พิเศษครับ)

Seller : How about this one?

(ตัวนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ)

Traveller : Yes, that's nice. Can I try it on?

(ดีครับ มันสวยมาก ผมสามารถลองใส่ได้หรือเปล่าครับ)

Seller : Certainly, there's the changing rooms over there.

(ได้แน่นอนค่ะ มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ตรงนั้น)

Traveller : Thank you.

(ขอบคุณมากครับ)

Seller : How does it fit?

(มันพอดีหรือไม่คะ)

Traveller : It's too large. Do you have a small?

(มันใหญ่เกินไป คุณมีตัวเล็กกว่านี้หรือเปล่าครับ)

Seller : Yes, here you are.

(มีค่ะ นี่ค่ะ)

Traveller : Thank you. I'll have it, please.

(ขอบคุณครับ ผมเอาอันนี้หล่ะ กรุณาด้วยครับ)

Seller : OK, how would you like to pay?

(ตกลงค่ะ คุณต้องการจะจ่ายอย่างไรคะ)

Traveller : Do you take credit cards?

(คุณรับบัตรเครดิตหรือเปล่าครับ)

Seller : Yes, we do. Visa, Master Card and American Express.

(ใช่ค่ะ เรารับบัตรวีซ่าการ์ด มาสเตอร์การ์ด และบัตรอเมริกัน เอ๊กเพรส)

Traveller : OK, here's my Visa.

(ตกลงครับ นี่บัตรวีซ่าของผม)

Seller : Thank you. Have a nice day!

(ขอบคุณค่ะ ขอให้มีความสุขในนี้นะคะ)

Traveller : Thank you, goodbye.

(ขอบคุณครับ ลาก่อน)

สรุปรูปประโยคสำคัญ

Can I help you? (มีอะไรให้ดิฉันช่วยเหลือหรือไม่คะ)
Can I try it on? (ผมสามารถลองใส่ได้หรือเปล่าครับ)
extra small, small, medium, large, extra large (เล็กเป็นพิเศษ, เล็ก, กลาง, ใหญ่, ใหญ่เป็นพิเศษ)
How does it fit? (มันพอดีหรือไม่คะ)
changing rooms (ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า)
How would you like to pay? (คุณต้องการจะจ่ายอย่างไรคะ)
credit cards (บัตรเครดิตการ์ด)

◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊


4. ที่พักอาศัย

ที่โรงแรม

 

Reception : Good evening. Can I help you?

(สวัสดีตอนเย็นค่ะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยเหลือหรือไม่คะ)

Traveller : Yes, please. I'd like a room for the night.

(ครับ กรุณาด้วยครับ ผมต้องการห้องพักสำหรับคืนนี้)

Reception : Would you like a single room, or a double room?

(คุณต้องการห้องเตียงเดี่ยวหรือห้องเตียงคู่คะ)

Traveller : A single room, please. How much is the room?

(ห้องเตียงเดี่ยวครับ กรุณาด้วยครับ ห้องราคาเท่าไหร่ครับ)

Reception : It's $55 per night.

(ราคา 55 เหรียญต่อคืนค่ะ)444444

Traveller : Can I pay by credit card?

(ผมสามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้หรือเปล่าครับ)

Reception : Certainly. We take Visa, Master Card and American Express. Could you fill in this form, please?

(ได้แน่นอนค่ะ เรารับบัตรวีซ่าการ์ด มาสเตอร์การ์ด และบัตรอเมริกัน เอ๊กเพรส คุณช่วยกรอกข้อมูลลงในเบบฟอร์มนี้ได้หรือไม่คะ กรุณาด้วยค่ะ)

Traveller : Do you need my passport number?

(คุณต้องการหมายเลขหนังสือเดินทางของผมด้วยหรือเปล่าครับ)

Reception : No, just an address and your signature.

(ไม่ค่ะ แค่ที่อยู่และลายเซ็นของคุณเท่านั้นค่ะ)

Traveller : Here you are.

(นี่ครับ)

Reception : Here's your key. Your room number is 212

(นี่กุญแจของคุณค่ะ ห้องของคุณหมายเลข 212 ค่ะ)

Traveller : Thank you.

(ขอบคุณครับ)

Reception : Thank you. If you need anything, dial 0 for the reception area. Have a good stay!

(ขอบคุณค่ะ ถ้าคุณต้องการอะไร กดเลข 0 เพื่อโทรมาที่ฝ่ายต้อนรับแขกนะคะ ขอให้มีความสุขกับการเข้าพักค่ะ)

สรุปรูปประโยคสำคัญ

Can I help you (มีอะไรให้ดิฉันช่วยเหลือหรือไม่คะ)
I'd like a room (ผมต้องการห้องพัก)
single room (ห้องเตียงเดี่ยว)
double room (ห้องเตียงคู่)
Can I pay by credit card? (ผมสามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้หรือเปล่าครับ)
fill in this form (กรอกข้อมูลลงในเบบฟอร์ม)
passport number (หมายเลขหนังสือเดินทาง)
room number (หมายเลขห้องพัก)
reception (ฝ่ายต้อนรับแขก)

 

ที่มาข้อมูล : http://esl.about.com

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com