Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

ฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองโดยพลังแห่งจินตนาการ

Albert-Einstein-Quotes-5
       ทักษะภาษาอังกฤษนั้นมี 4 อย่าง คือ ฟัง – พูด – อ่าน –เขียน โดยปกติสามัญเด็กที่เกิดมาก็ฝึกและทำทั้ง 4 อย่างนี้ และเมื่อเราฝึกภาษาอื่น ๆ แม้เราจะเน้นทักษะใดทักษะหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ต้องการสนทนาภาษาอังกฤษได้ เราก็ต้องฝึกอีก 3 ทักษะ คือ ฟัง-อ่าน-เขียน ไปพร้อมกันด้วย ถ้าเอาแต่ฝึกพูดอย่างเดียวไม่ยอมฝึกอย่างอื่น จะพูดให้เก่งคงยาก
       การฝึกฟัง-อ่าน-เขียน จะช่วยให้เราคุ้นเคยกับการออกเสียงคำศัพท์และวลี เห็นสไตล์หรือลีลาของการผูกประโยค เพิ่มพูนคำศัพท์-วลี-สำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อถึงเวลาที่จะพูดหรือเขียนภาษาอังกฤษ เราจะคุ้นเคยมากขึ้นที่จะคิดเป็นภาษาอังกฤษ  และสามารถผลักออกมาเป็นภาษาอังกฤษได้เลย หรือคิดเป็นภาษาไทยน้อยลง ๆ
      แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้ยินคนบ่นกันมากก็คือ อยากฝึกพูดและเขียน แต่ไม่มีคนให้พูดด้วยหรือเขียนถึง คือไม่มี partner จึงไม่รู้จะฝึกกับใคร จะฝึกพูดคนเดียว หรือเขียนไดอะรีบันทึกเรื่องราวประจำวัน โดยไม่มีใครคุยด้วยหรืออ่านเรื่องที่เราเขียน มันเป็นการฝึกที่ฝืดมากและยากยิ่ง
       คำบ่นเช่นนี้รับฟังได้ครับ เพราะเป็นเรื่องจริง
       แต่ถึงยังไงผมก็ขอยืนยันอยู่นั่นเองว่า การฝึกพูดคนเดียวทำได้ และแม้จะฝืดหรือยากอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากอย่างที่หลายคนคิด 
      แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น ต้องขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ทักษะการพูดจะไม่แข็งแรงถ้าเอาแต่ฝึกพูดอย่างเดียว ต้องเสริมแรงด้วยการฝึกฟัง-อ่าน-เขียน ไปพร้อม ๆ กัน อันนี้ขอย้ำ 500 ครั้งครับ
       คราวนี้มาพูดถึงการฝึกพูดด้วยตัวเอง เราต้องทำอย่างนี้เพราะเราไม่มี partner ให้พูดด้วย ไม่ว่าจะเป็นครู เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน หรือมีก็น้อย นาน ๆ จะโผล่มาสักคน แต่เมื่อโผล่มาหน่วยงานกลับคาดหวังให้เราสามารถพูดสื่อสารได้คล่อง มันจะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อไม่มีเวทีให้ซ้อม จู่ ๆ ก็จับขึ้นเวทีให้ชก ถ้าประคองตัวเองได้ไม่ถูกน็อกก็ถือว่าเป็นลาภโขอยู่ แต่กลัวว่าจะไม่โชคดีอย่างนั้น
      ทางแก้มีอยู่ทางเดียว คือชกลม ชกกระสอบทราย ชก punching ball ฯลฯ หรือก็คือฝึกพูดคนเดียวนั่นแหละ.... ฝึกพูดคนเดียวกับ partner ในจินตนาการ ซึ่งเป็นคนจริง ๆ ที่เรารู้จักคุ้นเคย ไม่ใช่ฝึกพูดคนเดียวกับตัวเอง
      อย่างเช่นคืนนี้ท่านกลับมาถึงบ้านอยู่ลำพังในห้องนอน ในห้องอ่านหนังสือ ที่ระเบียงบ้าน ที่หลังบ้าน ฯลฯ และจะฝึกพูดภาษาอังกฤษ ก็ขอให้ท่านนึกถึง partner ที่เป็นคนจริง ๆ สัก 1 คน : เป็นเพื่อนสนิทที่ท่านรู้จักนิสัยใจคอและเรื่องราวในชีวิตของเขา, ซึ่งอาจจะเป็นคนที่ท่านพบปะอยู่เป็นประจำ, หรืออาจจะเป็นเพื่อนที่ท่านนาน ๆ จะเจอสักครั้ง, หรือเป็นเพื่อนที่ท่านไม่ได้เจอมาเนิ่นนานแล้ว 5 ปี 10 ปี 15 ปี 20 ปี 30 ปีที่แล้ว ก็จินตนาการว่า ท่านเจอเขาและพูดกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ การพูดกับคนที่เรารู้จักเช่นนี้ ขอให้เราทำการบ้านก่อน โดยคิดหาสัก 2 – 3 หัวข้อเพื่อนำมาพูดคุย ซักถาม หรือเล่าเรื่องราว การนึกถึง partner ที่มีข้อมูลสัมพันธ์กันส่วนตัวเช่นนี้ ทำให้เรามีเรื่องพูดมากขึ้น
         แต่แม้ไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือคนรู้จักคุ้นเคย แม้เป็นแค่คนในออฟฟิศเดียวกัน คนเคยเห็นหน้า คนไม่คุ้นเคย ก็สามารถเป็น partner ในจินตนาการให้เราฝึกพูดภาษาอังกฤษได้เช่นกัน โดยอย่างที่บอกแล้ว ให้ทำการบ้านก่อน โดยคิดหัวข้อที่จะคุยกับเขา และก็คุยโดยมองหน้าเขาด้วย เหมือนกับในชีวิตจริงที่เราคุยกับคน เราก็มองหน้าคนที่เราคุยด้วยบ้างเป็นระยะ ๆ ไม่ใช่คุยกับเขาและเอาแต่มองฟ้ามองดิน หรือมองพื้นกับเพดาน ถ้าทำอย่างนี้ partner ในจินตนาการที่สามารถเป็นจริง ก็จะเป็นได้แค่อากาศธาตุ
        ท่านอย่าได้ดูถูกจินตนาการนะครับ จินตนาการนี้มีพลานุภาพมาก ถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเอง และพยายามทำตามสิ่งที่ตัวเองเชื่อ พยายามโดยใช้พลังของจินตนาการคือหัวใจและสมอง เราจะพบกับความสำเร็จ 
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com