หนังสือเล่มนี้ → https://goo.gl/DP5pzH 
       มี 116 Unit, แต่ละ Unit มี 2 หน้า, หน้าแรก- มีคำศัพท์หรือวลีประมาณ 30 คำตามหัวข้อที่ตั้งไว้, แต่ละคำศัพท์ประกอบด้วยคำอธิบายและประโยคตัวอย่าง, หน้าที่สอง- เป็น Practice ให้ทำ แต่ eBook เล่มนี้ไม่มีเฉลย
      จุดที่น่าสนใจที่ผมขอชวนให้ท่านศึกษาก็คือหน้าคำศัพท์ 116 Unit นี่แหละครับ คือแม้มันจะไม่ใช่ศัพท์สามัญชนิด 1000 หรือ 2000 คำแรกที่ควรรู้ แต่มันก็ไม่ใช่ศัพท์สูงมากมายอะไรนัก, และเมื่อใช้พูดสนทนาจะทำให้คนที่เราคุยด้วยรู้สึกขึ้นมาเลยว่าเรารู้ศัพท์เยอะ, จริงอยู่ในข้อความเดียวกันเราสามารถใช้ศัพท์อื่นที่ง่ายกว่า, แต่การใช้ศัพท์พวกนี้นอกจากช่วยให้ดูดีมีระดับแล้ว ยังช่วยสื่อข้อความอย่างได้อารมณ์อีกด้วย
      ผมเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ "รู้ศัพท์เยอะ" ก็รู้ศัพท์พวกนี้อยู่แล้ว และถึงแม้บางคำจะไม่รู้หรือไม่แน่ใจ พอได้อ่านหรือได้ยินคำศัพท์ที่อยู่ในประโยคก็สามารถเดาความหมายได้ทันทีเป็นส่วนใหญ่, ศัพท์พวกนี้จึงเป็น passive vocabulary ของท่านเหล่านี้ คืออ่านรู้เรื่อง - ฟังรู้เรื่อง, รอแต่การฝึกให้เป็น active vocabulary ซึ่งก็คือ สามารถดึงศัพท์พวกนี้ไปใช้พูดหรือเขียนได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น
      ผมขอแนะนำวิธีฝึกง่าย ๆ อย่างนี้ครับ
     [1] ที่หน้า 2/237 ให้ท่านดูซิว่า ท่านต้องการฝึกกับศัพท์ Unit ไหน
     [2] ไปที่ Unit นั้น, วิธีศึกษาก็ให้อ่านคำศัพท์และประโยคตัวอย่างที่เป็นตัวเอน, ถ้าไม่แน่ใจความหมายจึงค่อยอ่าน definition ของมัน, ให้อ่านประโยคตัวอย่างออกมาเสียงดัง ๆ - ช้า ๆ หลาย ๆ เที่ยว จนรู้สึกว่าเริ่มจะคุ้นเคยกับศัพท์-สำนวนนั้น ๆ ที่อยู่ในประโยค และเริ่มจะจำได้
     ถ้าศัพท์คำนั้นไม่มีประโยคตัวอย่างให้ ก็ไปหาที่นี่ครับ →  www.ldoceonline.com

     การฝึกอย่างนี้จะช่วยให้ท่านช่วยยกระดับศัพท์สำนวนให้สูงขึ้น และสามารถนำไปใช้พูดและเขียนได้แน่ ๆ
     ถ้าท่านไม่แน่ใจการออกเสียงของบางคำ ก็ถาม ดิก อังกฤษ – อังกฤษ ที่นี่ครับ → https://goo.gl/T36cuY 
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th/