วิธีง่าย ๆ ในการฝึกฟังภาษาอังกฤษสำหรับคนพื้นไม่แข็ง

3listen way
สวัสดีครับ
       วิธีง่าย ๆ 3 ข้อ
       ในการฝึกฟังภาษาอังกฤษสำหรับคนพื้นไม่แข็ง
1. ฝึกฟังคลิปการ์ตูน ที่สั้น, ง่าย, ที่เราชอบ
2. ฝึกฟังอย่างใจเย็น และมีสมาธิ
3. ฝึกฟังทุกวัน
ขอแนะนำที่ลิงก์นี้ ซึ่งมี Story ให้ฝึกฟังหลายเรื่อง
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories  70 เรื่อง
YouTube 1 
YouTube 2 

       ท่านผู้อ่านครับ ถ้าท่านไม่มีเวลาหรือขี้เกียจอ่านต่อก็หยุดแค่นี้ก็ได้ครับ และก็คลิกเข้าไปฝึกฟัง Story ในลิงก์ที่ผมให้ไว้ได้เลย แต่ถ้าท่านอยากทราบเหตุผลว่า ทำไมผมจึงแนะนำเช่นนี้ก็เชิญอ่านต่อครับ


       คือผมเข้าใจว่ามีเด็กนักเรียนไทยหรือคนไทยจำนวนไม่น้อยที่เรียนจบและสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษด้วย listening skill ที่ไม่สูง พูดง่าย ๆ ก็คือฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยรู้เรื่องนั่นแหละครับ (ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านี้เพราะเรียนจบมาอย่างคนรุ่นเก่า) แต่พอมาถึงยุคนี้ที่มีเน็ต มีคลิปหนังฝรั่งเสียงในฟิล์มภาษาอังกฤษ และข่าวภาษาอังกฤษมากมาย เช่น BBC, CNN, Al Jazeera ให้เราฟังออนไลน์ฟรีหรือผ่านเคเบิ้ลทีวี แต่เราก็ยังฟังไม่รู้เรื่อง และเราก็อาจจะเห็นเพื่อนบางคนที่เรียนจบนอก เขาดูหนัง-ฟังข่าวฝรั่งได้รู้เรื่องเหมือนภาษาไทย เราก็อาจจะรู้สึกว่าคงไม่สามารถทำได้อย่างเขา เพราะไม่มีโอกาสไปเรียนหรือใช้ชีวิตเมืองนอกอย่างเขา หรือไม่ได้เรียนหลักสูตรอินเตอร์ในเมืองไทย-ไม่ได้ทำงานที่มีโอกาสพูดคุยกับฝรั่งทุกวัน และแม้จะฝึกฟังกับเน็ตมันก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เลยสรุปว่า ไม่ต้องพยายามหรอก ถึงพยายามไปก็ไร้ประโยชน์
       ผมอยากจะบอกท่านว่า ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ไม่มีเน็ต การท้อเช่นนี้ก็พอฟังขึ้น แต่ทุกวันนี้ซึ่งมีเน็ต สิ่งที่ทำไม่ได้-มันก็กลับทำได้ ซึ่งรวมถึงการฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง
       แต่การฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องนี้ เราจะต้อง realistic คือต้องไม่ฝันหวานและยืนอยู่บนความเป็นจริง แต่ไม่ใช่ยืนทื่ออยู่กับที่ เราต้องยืนและหันหน้าไปยังทิศที่หมาย และออกเดินเรื่อยไปให้ถึงเป้าหมาย
       แต่เราจะ "เดิน" ยังไงเพื่อฝึกฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง?
       ผมขอสมมุติอย่างนี้แล้วกันครับ ถ้าท่านรู้สึกว่าตัวเองมีทักษะในการฟังน้อย ก็ต้องเริ่มฝึกจากพื้นฐานกันเลย

       และจากคำแนะนำ 3 ข้อข้างต้น
1. ฝึกฟังคลิปการ์ตูน ที่สั้น, ง่าย, ที่เราชอบ
2. ฝึกฟังอย่างใจเย็น และมีสมาธิ
3. ฝึกฟังทุกวัน
      ผมขออธิบายไปทีละข้อ อย่างนี้ครับ
ข้อ 1. ฝึกฟังคลิปการ์ตูน ที่ง่าย, สั้น, ที่เราชอบ
       การที่แนะนำให้ฝึกกับการ์ตูนก็เพราะว่า การ์ตูนเป็นตัวละครที่เคลื่อนไหวได้ มีเนื้อเรื่อง สดใส มีสีสัน การฝึกฟังภาษาอังกฤษกับการ์ตูนทำให้ฝึกได้อย่างสนุกและไม่เบื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องรู้จักทำใจให้นิ่มนวลแบบเด็ก ๆ บ้าง สามารถสนุกไปกับจินตนาการในเรื่องเล่าที่แต่งขึ้นสำหรับเด็ก แต่ถ้าเรายืนยันจะเป็นผู้ใหญ่ที่ "ไม่ใช่เด็กแล้ว"  เราก็คงไม่ชอบการ์ตูนแบบเด็ก ๆ และอีกอย่างหนึ่ง การฟังภาษาอังกฤษจากการดูคลิปการ์ตูนก็ช่วยเพิ่มความเข้าใจโดยการเดาได้ไม่มากก็น้อย
       ทำไมต้องเลือกการ์ตูนที่ง่าย  คำว่าง่ายคือใช้ศัพท์ง่าย ๆ และผูกประโยคง่าย ๆ เพื่อใช้เล่าเรื่อง ซึ่งมักเป็นประโยคสั้น ๆ ลักษณะง่าย ๆ เช่นนี้แหละที่ช่วยให้เราสามารถทุ่มเทความสนใจให้กับการฝึกฟัง "สำเนียง" โดยไม่ต้องเสียพลังมากนักไปกับการเดาคำศัพท์หรือตีความประโยค
       แต่แม้ว่าจะเป็นการ์ตูน "ง่าย ๆ" ถ้ายังฟังไม่รู้เรื่องล่ะ จะให้ทำยังไง? วิธีแก้มี 2 วิธีครับ คือ (1) ดูซ้ำ จะซ้ำ 1 หรือ 2 เที่ยวก็แล้วแต่ท่าน (2) ถ้าการ์ตูนมี script ให้อ่าน ก็เข้าไปอ่านให้เข้าใจ และ (3) กลับไปดูซ้ำ โดยขณะที่ดูอย่าอ่านตามไปด้วย และแม้จะมี subtitle บนจอก็อย่าไปดูมัน ให้ดูการ์ตูนและฟังเสียงเท่านั้น เพราะนี่เรากำลังฝึกฟัง ไม่ใช่ฝึกอ่าน [ การอ่านนั้นให้ไปทำต่างหากในข้อ (2). โดยอ่าน script ที่เว็บมีให้เรา, หรืออ่าน subtitle บนจออย่างเดียว แต่ปิดเสียงวีดิโอขณะที่อ่าน ]
       และทำไมจึงแนะให้เลือกฝึกฟังกับคลิปการ์ตูนที่สั้น ๆ? เรื่องนี้มันค่อนข้างเป็นจิตวิทยานิดหน่อยนะครับ คือว่า การที่เราสามารถดูจบเป็นเรื่อง ๆ มันช่วยให้เรารู้สึกในใจว่า เราฝึก "สำเร็จ" ไป "1 ชิ้น" เป็นปริมาณที่วัดได้ และถ้าจะฝึกฟังซ้ำ เป็น 2 ครั้ง 3 ครั้ง หรือฟังเรื่องอื่น เป็นเรื่องที่ 2 เรื่องที่ 3 เรื่องที่ 4 ก็ว่ากันไป และทั้งหมดนี้ต่างให้ความรู้สึกว่าเราทำ "สำเร็จ" ซึ่งต่างจากการฝึกฟังการ์ตูนยาว ๆ เช่น 1 ชั่วโมง ซึ่งถ้ามันยากเกินไปหรือเราไม่ชอบ ถ้าทนฟังให้จบเราก็จะเบื่อและอึดอัด แต่ถ้าจะเลิกฟังลึก ๆ ในใจเราก็อาจจะรู้สึก "ล้มเหลว" เพราะฉะนั้นการฟังเรื่องสั้น ๆ ให้จบหรือ "สำเร็จ" เป็นเรื่อง ๆ ไป จึงเป็นวิธีฝึกที่ดี เพราะถ้าไม่ชอบเราก็ตั้งใจฟังอีกเดี๋ยวจนจบได้ หรือถ้าชอบเราก็ฟังซ้ำได้
       สุดท้าย ให้พยายามฝึกกับเรื่องที่เราชอบ ซึ่งอาจจะเป็นเว็บใดเว็บหนึ่งที่เรารู้สึกถูกชะตาเป็นพิเศษ เมื่อฟังเรื่องที่ชอบ- ใจเราจะเปิดรับและไม่ต่อต้าน แต่อย่างที่ผมเน้นบ่อย ๆ เรื่องที่ชอบนั้นก็ของใครของมัน เพราะฉะนั้นถ้าท่านเจอเว็บหรือลิงก์การ์ตูนฝึกฟังภาษาอังกฤษที่รู้สึกว่าชอบใจ ให้ทำ Favorites / Bookmarks ไว้เลย ตอนหลังจะได้คลิกเข้าไปดูได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาหาอีก
ข้อ 2. ฝึกฟังอย่างใจเย็น และมีสมาธิ
       ทุกคนคงเห็นได้ไม่ยากกว่า ถ้าฝึกฟังอย่างใจเย็นและมีสมาธิ ก็จะได้ผลดีกว่าฝึกฟังอย่างใจร้อนและฟุ้งซ่าน แต่จากคำถามที่ได้อ่านอยู่บ่อย ๆ ก็เห็นได้ชัดว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยเรียนภาษาอังกฤษอย่างใจร้อน และสำหรับบางคนที่พื้นอ่อนมันก็เป็นธรรมดาที่ต้องปูพื้นกันนานหน่อย เหมือนปลูกบ้านในที่ต่ำมันก็ต้องถมที่หรือตอกเสาเข็มกันมากหน่อย แต่หลายคนก็ทนไม่ได้และไม่อยากทน จึงเรียนไปอย่างใจร้อนและฟุ้งซ่าน และเลิกเรียนในเวลาไม่นานนัก การขาดฉันทะและวิริยะเช่นนี้ ไม่มีใครช่วยใครได้ หลายคน serious มากในการสะสมตำราหรือ apps เพื่อช่วยเรียน หรือในการแสวงหาคำแนะนำที่เป็น best practice จากผู้รู้ แต่ปัญหาก็คือ ตราบใดที่ยังขาดฉันทะและวิริยะ .. eBook, Apps หรือ Expert ทั่วเมืองไทยหรือทั้งโลกก็ช่วยอะไรไม่ได้
ข้อ 3. ข้อสุดท้่าย คือ ฝึกฟังทุกวัน
       ผมมานั่งนึกดู การที่คนเราจะฝึกทำอะไรได้ทุกวันนั้น มันต้องมีแรงกระตุ้นอะไรบ้าง? ก็น่าจะเป็นพวกนี้ คือ เห็นความก้าวหน้าในการฝึกได้อย่างรวดเร็วชัดเจน, มีเพื่อนฝึก, มีคนชื่นชม-มีคนเชียร์ แต่การฝึกภาษาอังกฤษโดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกฟังอย่างที่กำลังพูดอยู่ขณะนี้ เราอาจจะเห็นความก้าวหน้าได้ไม่ทันใจ, และเราก็ฝึกคนเดียวไม่มีเพื่อนมาฝึกด้วย, และก็ไม่มีคนคอย cheer-like-share มันจึงดูเหมือนเป็นการฝึกในโลกมืดที่ว้าเหว่
       แต่ผมอยากจะบอกว่า โลกการฝึกภาษาอังกฤษของเรานี้ มันจะมืดมิดหรือสว่างไสว ว้าเหว่หรือรื่นรมย์ มันก็ขึ้นอยู่กับใจของเรานั่นแหละครับ ถ้าเราทำใจให้เป็นเด็กขี้แยพร้อมยอมแพ้ทุกวินาที ก็แสดงว่าเราสร้างโลกให้แก่ตัวเอง โลกมืดมิดว้าเหว่ที่เราเกลียดนั่นแหละครับ แต่โลกส่วนตัวที่เรียนรู้ได้อย่างร่าเริง ...ถ้าเราไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษอย่างคนพร้อมยอมแพ้... เราเอง ก็สร้างได้ไม่ยาก
       ผมขอสรุปการคุยวันนี้ว่า
      วิธีง่าย ๆ 3 ข้อ
ในการฝึกฟังภาษาอังกฤษสำหรับคนพื้นไม่แข็ง
1. ฝึกฟังคลิปการ์ตูน ที่สั้น, ง่าย, ที่เราชอบ
2. ฝึกฟังอย่างใจเย็น และมีสมาธิ
3. ฝึกฟังทุกวัน
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th