Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

การอ่านภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง ไม่ใช่สักแต่ว่ารู้ศัพท์และแปลได้ แต่ต้องฝึกสังเกตและตีความด้วย

Test Your English Level   EnglishClub

สวัสดีครับ

       โดยทั่วไปพอพูดว่า ทดสอบความเข้าใจในการอ่าน ก็มักจะคิดกันว่า เขามีเนื้อเรื่องมาให้เราอ่าน แล้วก็มีข้อสอบมาให้เราคลิกตอบ A B C D และข้อสอบอย่างนี้ มันยากอยู่ที่ศัพท์ ถ้ารู้ศัพท์ก็ทำข้อสอบได้ ถ้าไม่รู้ศัพท์ก็ทำได้ลำบาก มักเข้าใจกันอย่างนี้

       แต่ผมจะบอกว่า ที่เข้าใจอย่างนี้ก็ถูกต้องอยู่หรอกครับ แต่ไม่ทั้งหมด เพราะว่าลักษณะการสื่อความหมายในภาษาอังกฤษนั้น นอกจากสื่อโดยศัพท์และสำนวนแล้ว ยังสื่อโดยแกรมมาร์และการตีความอีกด้วย ขอยกตัวอย่างข้างล่างนี้

เรื่องแกรมมาร์

ข้อที่ 1 What does Vonica like?

  1. What are her favourite things?
  2. How is she?
  3. Does she look like Vonica?
  4. Does he like Vonica?

like นั้น ถ้าเป็น verb แปลว่า ชอบ ถ้าเป็น adjective แปลว่า คล้าย

โจทย์ข้อนี้ ถ้าเรามองไม่ออกว่า like เป็น verb หรือเป็น adjective ตอนจะเลือกคำตอบก็งงแน่ ๆ

ข้อที่ 2 She used to smoke cigarettes.

  1. She is used to cigarettes.
  2. She smoked before, but she doesn't now.
  3. She usually smokes cigarettes.
  4. She used two cigarettes.

used to แปลว่า เคย และต่อด้วย verb ช่อง 1 ซึ่งก็คือเคยทำกริยานั้น ๆ ในอดีต  แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว นี่คือความหมายที่รูปแบบของภาษาต้องการสื่อ โดยไม่ต้องมีถ้อยคำเพิ่มเติมก็ต้องเข้าใจได้เลย  ถ้าไม่เข้าใจก็งงที่จะคลิกเลือกคำตอบ ในข้อนี้ คำตอบข้อใดล่ะที่สื่อความหมายเหมือนข้อความในโจทย์

ข้อที่ 3 Shall I take you to the station?

  1. Would you like me to take you to the station?
  2. Must I take you?
  3. Will it be necessary to take you there?
  4. Did I take you before?

เมื่อเห็นคำว่า shall ก็มักจะแปลว่า จะ  แต่การใช้ shall ยังหมายถึงการเสนอแนะ นี่ก็เป็นความหมายที่แฝงอยู่ในคำศัพท์ ซึ่งคนเรียนต้องสังเกตและเข้าใจเอาเอง ไม่ใช่พอเห็น shall ก็แปลว่า จะ  แล้วมัน จะ ยังไงล่ะ

เรื่องการตีความ

       ต่อให้เข้าใจศัพท์หมดทุกคำ ถ้าตีความไม่เป็น  ตีความไม่ถูก หรือต้องใช้เวลาในการตีความ(เดา)นานเกินไป  จนทำข้อสอบไม่ทันเวลา ก็คงสอบใม่ผ่าน เพราะมันแสดงว่า   เราไม่คุ้นเคยกับภาษาแบบนี้   เพราะถ้าคุ้นเคยก็ต้องคลิกตอบได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดมาก การที่ไม่คุ้นเคยก็เพราะอ่านน้อยเกินไป และเข้าใจว่าถ้ารู้ศัพท์ก็ต้องอ่านเข้าใจ ซึ่งไม่ใช่  เพราะถ้ารู้ศัพท์แต่ตีความเพี้ยน ก็ทำผิดได้ง่าย ๆ  

ตัวอย่าง

ข้อที่ 1 He hopes to go home, but he may go to work.

  1. He'll be at home before the office.
  2. It is possible that he will go to work.
  3. He's allowed to go to work.
  4. He always goes home after work.

       ข้อนี้ท่านจะเลือกข้อไหนที่มีความหมายเหมือนประโยคที่เป็นโจทย์ตัวดำ เมื่อท่านแปลประโยคนี้ He hopes to go home, but he may go to work. เขาหวังจะกลับบ้าน แต่อาจจะเข้าที่ทำงาน  สังเกตได้ว่า ทั้งประโยคไม่ได้บอกอะไรที่เป็นความแน่นอนเลย และท่านลองดูคำตอบซีครับ

→คำตอบแรก He'll be at home before the office. หรือ He will  be at home before the office. ข้อนี้ใช้คำว่า will ซึ่งสื่อว่า มันจะต้องเป็นอย่างนี้แน่ ๆ คือ เข้าบ้านก่อนไปที่ทำงาน ข้อนี้มันสอดคล้องกับโจทย์หรือเปล่าครับ

คำตอบที่  3 He's allowed to go to work. แต่ในโจย์ไม่มีตรงไหนเลยที่สื่อเรื่องการได้รับหรือไม่ได้รับอนุญาต

คำตอบสุดท้าย He always goes home after work.  เอาข้อความในโจทย์มาตีความอย่างนี้ไม่ได้เลย 

ดูแค่นี้ก็เห็นชัดว่า คำตอบที่ถูกต้องคือข้อใด

ข้อที่ 2    You don't have to do this test.

  1. You can choose not to do this test
  2. You mustn't do it.
  3. You can't do this test.
  4. You have no desire to do it.

กลุ่มคำนี้ don't have to do มันสื่อความหมายว่าอย่างไร

มันสื่อว่า can choose not to do หรือ mustn't do หรือ  can't do หรือ have no desire to do การจะตอบข้อนี้ได้ถูกต้อง จะต้องรู้นัยะของถ้อยคำ ไม่ใช่สักแต่ว่าแปลตรงตัว

       ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ผมต้องการสรุปว่า การอ่านภาษาอังกฤษให้ให้รู้เรื่อง ไม่ใช่สักแต่ว่ารู้ศัพท์และแปลได้ แต่ต้องฝึกสังเกตและตีความด้วย เพราะฉะนั้น การฝึกอ่านบ่อย ๆ อ่านอย่างสังเกต  อ่านด้วยใจที่มีสมาธิ เป็นเรื่องที่จำเป็น

       ที่ลิงก์นี้ เป็นข้อสอบ 20 ข้อ ให้เวลาทำ 15 นาที เขาจะวัดความเข้าใจในการอ่าน เมื่อทำหมดเวลา 15 นาทีแล้วให้หยุดทำ และคลิกที่ "YOUR SCORE IS” เขาจะบอกว่าเราทำได้กี่ % ซึ่งหมายถึงระดับไหน ดังนี้

ESL Exams  Test Your Level   Written Comprehension   EnglishClub

แต่ไม่เฉลยว่าข้อใดถูกต้อง ท่านสามารถทำซ้ำได้ แต่ควรจดจำหรือ copy ลักษณะของหัวข้อข้อสอบเพื่อนำไปศึกษาให้กระจ่าง เพราะ 1 หัวข้อจะวัดความเข้าใจ 1 อย่าง ถ้าเราชัดเจนในเรื่องนั้น แม้ข้อสอบจะออกมาอย่างไรก็จะทำได้ไม่งง

ลองทำดูนะครับ

https://www.englishclub.com/esl-exams/levels-test-wc.htm

พิพัฒน์

https://www.facebook.com/En4Th

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com