ตัวช่วยในการฝึกเขียนไดอะรี่เป็นภาษาอังกฤษ
สวัสดีครับ
ผมเคยแนะนำว่า ให้ฝึกเขียนภาษาอังกฤษทุกวัน เขียนอะไรก็ได้ ที่ง่าย ๆ เช่นเขียนไดอะรี่ บันทึกเหตุการณ์ที่เจอและความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้น จะได้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น เป็นการซ้อมพูดภาษาอังกฤษด้วยมือ ฝึกปลุกศัพท์ที่หลับให้ตื่น ฝึกเรียบเรียงความคิดเป็นคำพูด โดยใช้แกรมมาร์หรือประโยคง่าย ๆ ตัวผมเองก็ฝึกเขียนอยู่ทุกวันอย่างที่ชวนคนอื่นเขียน ก็เจอข้อขลุกขลักในทุกวรรคที่พูดมานี้ แต่ก็พยายามด้นดั้นเขียนเพราะเชื่อว่าปริมาณจะนำไปสู่คุณภาพ
มีผู้รู้บางท่านแนะนำว่า การฝึกเขียนก็เหมือนการฝึกพูด คืออย่าคิดเป็นภาษาไทย แต่ให้คิดเป็นภาษาอังกฤษไปเลย คำแนะนำเช่นนี้พูดง่ายแต่ทำไม่ง่าย เพราะเราเป็นคนไทยไม่เคยใช้ชีวิตที่เมืองนอก ไม่ได้เรียนในโรงเรียนอินเตอร์ ไม่ได้ทำงานที่พูดกับฝรั่งหรือเขียนอีเมลติดต่อกับต่างชาติทุกวัน จึงเป็นธรรมดาที่เราจะคิดเป็นภาษาไทยก่อน
จากประสบการณ์ส่วนตัว สภาพที่ภาษาอังกฤษยังไม่เข้าไส้เพราะไม่เคยใช้ชีวิตเมืองนอก และก็ไม่ได้คลุกคลีกับฝรั่งต่างชาติทุกวัน ผมประจักษ์ว่ามีวิธีเดียวเท่านั้น (วิธีเดียวจริงๆ) ที่จะฝึกให้พูดหรือเขียนเป็นภาษาอังกฤษไปเลย โดยไม่ต้องคิดเป็นภาษาไทยก่อน นั่นคือ การฝึกอ่านและฝึกฟังทุกวัน ยิ่งถ้าได้ฝึกพูดด้วยยิ่งดี(พูดคนเดียวกับคู่สนทนาในจินตนาการ) ด้วยการฝึกเช่นนี้เท่านั้น ที่จะช่วยให้ภาษาอังกฤษเข้าไส้โดยไม่ต้องติดเป็นภาษาไทยก่อน จึงขอชวนว่า ให้ท่านฝึกอ่านภาษาอังกฤษ(อ่านอะไรก็ได้ที่ชอบ)วันละครึ่งชั่วโมง และฝึกฟังวันละครึ่งชั่วโมง เป็นอย่างน้อย
ณ ที่นี้ผมขอพูดถึงการฝึกเขียนสักหน่อย …
การเขียนที่ว่านี้ คือการเขียนบันทึกส่วนตัว ไม่ใช่การเขียนประกวดเพื่อให้ได้คะแนนสูงสุดและรางวัล แต่เขียนเพื่อบันทึกสิ่งที่พบเห็นหรือรู้สึกโดยใช้ถ้อยคำภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น มันก็เพียงพอถ้าเราจะใช้ศัพท์ง่าย ๆ ประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ ใช้ tense ง่าย ๆ โดยเปลี่ยนเรื่องราวที่ซับซ้อนยืดยาวให้เป็นประโยคสั้น ๆ และตรงไปตรงมา ถ้าเราเขียนเป็นภาษาไทย อาจจะใช้ 20 ประโยคยาว ๆ แต่เมื่อเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าสามารถสรุปได้โดยใช้ 5 – 6 ประโยคสั้น ๆ ก็นับว่าเยี่ยมแล้ว
ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ตอนเริ่มฝึกเขียนอาจจะยาก เพราะไม่มีเรื่องเขียน หรือแม้ว่าจะมีเรื่องเขียนแต่เขียนไม่ออก ทำไปทำมาก็เลยไม่ได้เขียน แต่ถ้าท่านฝึกอย่างที่ผมฝึก คือ ให้อาหารแก่สมองของตัวเองด้วยการอ่านและฟังภาษาอังกฤษทุกวัน เรื่องที่ยากมากก็จะกลายเป็นยากน้อย และกลายเป็นไม่ยากหากฝึกไม่หยุด
และวันนี้ผมได้หาตัวช่วยมาให้ท่านลองใช้ ถ้าท่านใช้แล้วรู้สึกว่าถนัดมือก็ถือว่าโชคดี มันคือ เนื้อหาที่ต้นฉบับ(ส่วนใหญ่)เป็นภาษาไทย และแปลเป็นภาษาอังกฤษ เมื่ออ่านแล้วจะให้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดว่ามันเป็นไทย ๆ ดี แม้แต่ประโยคที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ ก็เป็นสำนวนอังกฤษที่ไม่ห่างเหินจากเรามากนัก เพราะว่าต้นฉบับเป็นภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาของเรา
เนื้อหาแบบนี้มีไม่เยอะนักในเน็ต เพราะส่วนใหญ่ที่เราเจอ จะเป็นต้นฉบับภาษาอังกฤษที่แปลเป็นภาษาไทย อ่านแล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกห่างเหิน แต่นี่ต้นฉบับเป็นภาษาไทยจึงให้ความรู้สึกใกล้ชิด
ต้นฉบับภาษาไทยที่มีคำแปลเป็นภาษาอังกฤษควบนี้ เมื่อศึกษาไปเรื่อย ๆ ท่านจะเห็นสไตล์การแปลแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน แบบชาวบ้าน บางประโยคท่านจำมาปรับใช้เขียนเรื่องในไดอะรี่ของท่านได้ทันที แต่บางประโยคที่ยากสักหน่อย ท่านก็เพียงอ่านเพลิน ๆ ก็ได้ แต่ถ้าท่านอ่านบ่อย ๆ ผมเชื่อว่าท่านก็จะได้อะไรมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งแปลว่า ทักษะที่ค่อย ๆ ซึมเข้าสู่สมองจะถูกท่านหยิบมาใช้เขียนได้โดยไม่รู้ตัวนั่นเอง
เว็บต้นฉบับภาษาไทย ที่มีคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ ที่ขอแนะนำ มีดังนี้ครับ
เว็บที่ 1:
http://www.thai-language.com/lessons
เมื่อเข้าไปแล้ว ให้ดูที่ใต้หัวข้อ Reading Exercises ซึ่งมีหัวข้อย่อยอีกหลายหัวข้อ และเมื่อคลิกเข้าไปอ่านแต่ละหัวข้อแล้วให้คลิก Hide Transcription ด้วย เพื่อจะได้ไม่เกะกะตาเพราะ Transcription ที่เขาทำไว้ให้ฝรั่งอ่าน)
*****
ผม save ไฟล์ไว้แล้วทุกหัวข้อ ถ้าต้องการ ก็คลิกดาวน์โหลดได้ครับ→ → Culture, Business and Economics, Food and Health, Information, Advice, and How-To, Language, Nature, News, Short Stories, Travel and Tourism และ Song Lyrics
*****
การแปลจากไทยเป็นอังกฤษตามหัวข้อต่าง ๆ ในเว็บนี้ อาจจะมีจุดที่ผิดพลาด เช่นเรื่องแกรมมาร์หลงอยู่นิด ๆ หน่อย ๆ แต่ก็ไม่น่าซีเรียสอะไร
เว็บที่ 2:
https://thaifiction.wordpress.com/
เว็บนี้ นำเรื่องสั้นไทยมาแปลเป็นภาษาอังกฤษ ท่านลองเลือกอ่านดูแล้วกันครับ ถ้าเรื่องไหนอ่านแล้วชอบใจก็อ่านต่อ เรื่องไหนไม่ชอบก็หยุดและหาเรื่องใหม่ โดยจะดูที่คอลัมน์กลางหน้า, คอลัมน์ขวามือ, หรือเลือกที่ ARCHIVES (Select Month) ก็ได้, ในการอ่าน ท่านจะอ่านเทียบประโยคต่อประโยค หรือย่อหน้าต่อย่อหน้าก็ได้ ตามอัธยาศัยครับ
เว็บที่ 3:
หนังสือธรรมะ
- เรื่อง “เหมือนกับใจ คล้ายกับจิต” คำสอนหลวงพ่อชา ที่พระฝรั่งลูกศิษย์ แปลเป็นภาษาอังกฤษ คลิก
- คำสอนหลวงปู่ดุลย์ "Gifts He Left Behind" (ไฟล์ pdf หน้าที่ 1-132) และ "หลวงปู่ฝากไว้" (ไฟล์ pdf หน้าที่ 133-262 ) คลิก
แถม:
นิทาน ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ แปลเป็นภาษาไทย
- นิทานอีสปแปลไทยเทียบอังกฤษ(บรรทัดต่อบรรทัด)
- นิทานอีสป ภาษาอังกฤษ - เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี
- นิทานภาษาอังกฤษแปลไทย (FUNNY FABLES)
- นิทานอีสป 2ภาษา | บล๊อก เรียนภาษาอังกฤษ
- นิทานภาษาอังกฤษ | รวมนิทานมากที่สุดในไทย
- นิทานอีสป 2 ภาษา ไทย - อังกฤษ
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th
♥ วิธีติดตั้ง add-on → "แปล ศัพท์ ทุกคำ-ทุกเว็บ-ทันที " โดยไม่ต้องเข้าเว็บ ดิก ♥