Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

ฝึกอ่าน – ฝึกแปล อังกฤษเป็นไทย กับตำราชั้นครู “Translate it” – นสพ. Bangkok Post

translateIT 

สวัสดีครับ

วันก่อน ผมพูดเรื่อง ความต่างระหว่างการอ่านและการแปล และการฝึกอ่านภาษาอังกฤษ ที่บทความนี้

ทำยังไงถึงจะอ่านภาษาอังกฤษเข้าใจได้โดยไม่ต้องแปล

ต่อมา ผมได้พูดเรื่อง การแปลข่าวไทยเป็นอังกฤษ ที่บทความนี้

ศึกษาการแปลข่าว ไทยเป็นอังกฤษ จาก นสพ. Bangkok Post (และ download ไฟล์)

และวันนี้ ผมของพูดเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน คือ ฝึกอ่าน – ฝึกแปล อังกฤษเป็นไทย

จากที่พูดมาแล้ว สามารถสรุปได้ว่า เรื่องการอ่านและการแปลนั้น เราสามารถฝึกไปพร้อม ๆ กันได้

ในเรื่องการแปลไทยเป็นอังกฤษนั้น ถ้าท่านต้องการศึกษาด้านทฤษฎีเป็นพื้นฐานไว้ก่อน ผมขอแนะนำหนังสือ EN 322 ของรามคำแหงฯ เรื่อง จุดมุ่งหมาย หลักการ และวิธีแปล - Nature and Methods of Translation โดย รศ.อัจฉรา ไล่ศัตรูไกล ตอนที่ 2 การแปลอังกฤษ-ไทย บทที่ 4 – 10 คลิก

แต่การศึกษาตำราอย่างเดียวยังไม่พอ ควรศึกษาจากของจริงด้วย และของจริงที่เยี่ยมมาก ๆ ซึ่งท่านสามารถศึกษาทั้งการอ่านภาษาอังกฤษ และการแปลอังกฤษเป็นไทยไปพร้อม ๆ กัน ก็คือ รวมบทความรายสัปดาห์จากคอลัมน์ Translate It ซึ่งเคยลงเผยแพร่ในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Bangkok Post ระหว่าง ปี 2503 – 2507 รวม 250 บทความ

ที่ลิงก์นี้(ซึ่งตอนนี้ตายแล้ว): http://www.bangkokpost.com/education/site2007/trsum07.htm 

ผู้แปลบทความและให้คาอธิบาย คือ รศ. เกษมศรี วงศ์เลิศวิทย์,  อาจารย์ จินตนา ใบกาซูยี และ ดร. สิทธา พินิจภูวดล

        ด้วยเห็นว่า บทความเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อคนไทยที่ต้องการฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะการแปลและการอ่านภาษาอังกฤษ ผมจึงได้รวบรวมบทความมาทำเป็น ebook

หนังสือTranslate It (1,000 หน้า) - คลิกดาวน์โหลด ไฟล์ pdf ไฟล์ word

Ebook เล่มนี้ ผมได้นำลงเผยแพร่ในเว็บนี้ เมื่อวันที่ 25 January 2013และวันรุ่งขึ้นผมก็ได้รับ comment จาก รศ. เกษมศรี วงศ์เลิศวิทย์  ดังนี้

 ขอขอบคุณคุณพิพัฒน์มากที่อุตส่าห์สละเวลามารวบรวมงานจำนวนมากมายขนาดนี้เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันประทับใจมาก งานทุกชิ้นจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อได้ออกเผยแพร่แล้วเท่านั้น จึงนับว่าคุณพิพัฒน์ได้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเพื่อประโยชน์อย่างมหาศาลต่อสังคมค่ะ 

ครั้งแรกที่ผมนำผลงานของอาจารย์ทั้งสามท่านลงเผยแพร่ในเว็บนี้นั้น ผมก็มีความกลัวอยู่บ้างเพราะทำไปโดยไม่ได้ขออนุญาตท่านก่อน แต่ก็นึกในใจว่า ถ้าท่านจะตำหนิก็คงไม่มากเพราะผมไม่ได้นำผลงานของท่านมาหาผลประโยชน์ส่วนตัว ครั้นเมื่อได้รับข้อความจากอาจารย์เกษมศรี  ผมรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าท่านมีวิญญาณของความเป็นครูที่น่าเคารพศรัทธาจริง ๆ ผมขอเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านได้ขอบคุณท่าน รศ. เกษมศรี วงศ์เลิศวิทย์,  อาจารย์ จินตนา ใบกาซูยี และ ดร. สิทธา พินิจภูวดล ด้วยครับ

เอาละครับ ต่อจากนี้ผมขอแนะนำการ ฝึกอ่าน – ฝึกแปล อังกฤษเป็นไทย กับตำราชั้นครู “Translate it” ไปตามลำดับ ดังนี้ครับ

 ขอให้ท่านดูตัวอย่าง การแปลสัก 1 ชิ้นในคอลัมน์ Translate It ข้างล่างนี้ครับ ชิ้นนี้เป็นผลงานของ รศ. เกษมศรี วงศ์เลิศวิทย์

ตัวอย่างการแปล อังกฤษเป็นไทย - Translate It

        จะมีการเทียบสำนวนแปลภาษาไทยกับต้นฉบับภาษาอังกฤษ ย่อหน้าต่อย่อหน้า  และตามด้วยคำอธิบาย ซึ่งตามความเห็นของผม ต้องถือว่าเป็นคำอธิบายชั้นครูจริง ๆ

- -อันดับแรก ขอให้ท่านอ่านเฉพาะภาษาอังกฤษอย่างเดียว ให้จบเสียก่อน และพยายามทำความเข้าใจให้มากที่สุด คำว่า “เข้าใจ” นี้ ท่านไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทยในสมองให้สละสลวยก็ได้ครับ แต่เอาเป็นว่าให้ท่านพยายามเข้าใจแล้วกันว่า ข้อความที่ท่านอ่านนั้นมันหมายถึงอะไร ถ้าอ่านเที่ยวเดียวไม่ค่อยเข้าใจก็อ่านซ้ำแล้วกันครับ

ผมขอย้ำกว่า การบังคับให้สมองออกแรงอ่านเพื่อทำความเข้าใจ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะว่าถ้าท่านไม่ฝึกอย่างนี้ คือ แค่อ่านภาษาอังกฤษแบบไม่เคี่ยวเช็ญให้มันตีความบ้าง แล้วไปอ่านคำแปลภาษาไทยที่ให้ไว้เลย พออ่านจบท่านก็เข้าใจ  แต่เป็นความเข้าใจที่ไร้สมรรถภาพ สมองจะไม่แข็งแรงขึ้นเพราะมันแทบไม่ได้ออกแรงทำอะไรเลย  และถ้าฝึกอ่านแบบไม่ต้องออกแรงอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ แม้จะอ่านเยอะก็เก่งยาก

- -การออกแรงอ่านอย่างที่ผมบอก จะช่วยให้ท่านมีความชัดเจนอย่างน้อย 3 เรื่อง คือ (1)ท่านรู้ว่า เรื่องที่อ่านนั้น ตรงไหนที่ท่านเข้าใจอ่านรู้เรื่อง (2)ตรงไหนที่ท่านแล้วไม่แน่ใจ และ (3)ตรงไหนที่ท่านอ่านแล้วแต่ไม่รู้เรื่องเลย และด้วยความชัดเจนใน 3 เรื่องเช่นนี้แหละครับ พอท่านอ่านคำแปลก็เหมือนดูเฉลย มันจะกระจ่างวาบ แต่ถ้าท่านไม่ออกแรงอ่านตีความมาก่อน เมื่ออ่านคำแปล แม้รู้เรื่องแต่ก็ไม่โล่ง ไม่กระจ่างแจ้งหรอกครับ

- -เสร็จจากขั้นตอนของการทำความเข้าใจ ต่อไปก็เป็นขั้นตอนของการแปลออกมาเป็นภาษาไทย ตรงนี้แหละครับที่ผมบอกว่า ตัวอย่างการแปลและคำอธิบายใน Translate It นี้ เป็นตำราชั้นครูจริง ๆ ใน 250 ตอนนี้ขอให้ท่านค่อย ๆ ละเลียดอ่านไปเรื่อย ๆ จะมีประโยชน์มาก ทั้งเรื่องการฝึกอ่านและฝึกแปล

มีอีกอย่างหนึ่งที่ผมขอแนะนำให้ท่านฝึกแถมเข้าไปด้วย คือ การฝึกอ่านออกเสียงในใจ คืออ่านไปช้า ๆ ออกเสียงดัง ๆ ในใจ และเมื่อเจอคำใดที่ไม่แน่ใจว่าออกเสียงยังไง ก็ดูที่เว็บนี้ก็ได้ครับ www.howjsay.com การฝึกเช่นนี้จะได้หลายอย่างพร้อม ๆ กัน

หนังสือTranslate It (1,000 หน้า) - คลิกดาวน์โหลด ไฟล์ pdf ไฟล์ word 

พิพัฒน์

https://www.facebook.com/En4Th

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com