Articles
สนทนาภาษาไทย แปลเป็น อังกฤษ
HANDBOOK OF EASY CONVERSATION
สนทนาแบบสบายสบาย
FOR ARMY MEDICAL PERSONNEL BY
COLONEL DR. WATHIT SREVANTHA D.B.A.
SPECIAL EDITION COPYRIGHT 2012
สนทนาแบบสบายสบายในชีวิตประจำวัน
ใช้เมาส์ลาก ต่อจากเครื่องหมาย - เพื่อดูภาษาอังกฤษ
1. SIMPLE GREETING (การทักทายอย่างง่าย)
-อรุณสวัสดิ์ / สวัสดีตอนเช้า
-Good morning
-สวัสดีตอนกลางวัน
- Good afternoon
-สายัณห์สวัสดิ์ / สวัสดีตอนเย็น
- Good evening
-หวัดดี / สวัสดี
-Hello
-สบายดีหรือ?
-How are you? / How are you doing?
-ท่านไปไหนมาทั้งวัน?
-Where have you been all day long?
- สวัสดีครับท่าน
-Good morning, Sir (ใช้กับผู้ชาย)
- สวัสดีครับท่าน
-Good morning Madame / Mam (ใช้กับผู้หญิง)
2. SIMPLE PARTING (การลาจากอย่างง่าย)
- ลาก่อน
-Goodbye/ Bye
- ราตรีสวัสดิ์ / การลาจากในตอนกลางคืน
-Good night
- พบกันอีกนะ
-See you (อ่านว่า “ซียอ”)
- พบกันในวันพรุ่งนี้
-See you tomorrow
- พบกันในวันอาทิตย์
-See you on Sunday
- พบกันอาทิตย์หน้า
-See you next week
- พบกันเดือนหน้า
-See you next month
- พบกันปีหน้า
-See you next year
- อย่าลืมเขียนจดหมายมานะ
-Don’t forget to write.
3. THANK YOU (ตอบขอบคุณอย่างง่าย)
-ขอบคุณ
-Thank you
-ขอบคุณ
-Thanks (ใช้กับคนกันเอง)
-ขอบคุณมาก
-Thank you very much
-ขอบคุณมาก
-Thanks a lot (ใช้กับคนกันเอง)
-ขอบคุณมาก
-Thank you so much (ใช้กับคนกันเอง)
4. INVITATION (คำพูดง่ายๆในการเชื้อเชิญแขก)
- เชิญข้างใน
-Please come in
- เชิญนั่ง
-Please sit down / Sit down please / Take a seat
- ท่านเป็นใคร
-Who are you? / May I have your name?
- คุณ ........... อยู่ที่นี่ไหม?
-Is Mr…… / Mrs…… here?
- ฉันคือ .........
-I am …………… (ตามด้วยชื่อ)
- ท่านชื่ออะไร?
-What’s your name?
-ฉันชื่อ ...........
-My name is ………… (ตามด้วยชื่อ)
- คอยสักครู่
-Wait a moment please
-มาอีกครั้งพรุ่งนี้
-Come again tomorrow.
-เมื่อวานนี้มาหาครั้งหนึ่งแล้ว
-I came to see you once yesterday.
-ฉันเสียใจมากเพราะมีธุระต้องออกไปข้างนอก
-I am sorry, I went out on business.
5. APOLOGIES (การขอโทษ)
-ขอโทษ/เสียใจ
-Sorry. (คำนี้ใช้ได้เปรียบเหมือนการขอโทษ)
-ฉันขอโทษ
-Excuse me.
-ขอโทษที่ทำผิดอย่างมาก
-May I excuse?
-ขออภัย
-Pardon me.
-ขออภัย
-Apologize.
-ได้โปรดยกโทษให้
-I beg your pardon.
6. SPEAKING ON THE TELEPHONE (การพูดโทรศัพท์)
-ฮัลโล , ที่นั่นบ้านคุณวิรัตน์ใช่ไหม?
-Hello, is that Khun Virut’s house? / Khun Virut ‘s house right?
-ใช่ครับ ใครกำลังพูด?
-Yes, who is calling / who is speaking?
- ไม่ใช่ครับ ที่นี่คือห้างตั้งฮั่วเส็ง
-No, this is Tang Hua Seng Department Store.
-ท่านต้องการพูดกับใครล่ะ?
-With whom do you want to speak?
-ผมต้องการพูดกับนายณรงค์
-May I speak with Mr. Narong. / I want to speak with ……
- นายณรงค์ออกไปข้างนอก
-Mr. Narong is out. / He’s not here right now, he went out.
- นายเกียรติอยู่ที่นั่นไหม?
-Is Mr. Kiat there?
- ผมนายเกียรติกำลังพูดอยู่
-Mr. Kiat ‘s speaking.
- พิบูลย์กำลังพูดใช่ไหมนั่น?
-Are you Piboon? / Piboon’s speaking right?
-ใช่ฉันกำลังพูด
-Yes, I am.
-สบายดีหรือไม่ได้พบกันมานาน
-How have you been? I haven’t seen you in a long time.
-สบายดี ขอบใจ
-Quite well, thank you.
-มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง?
-Is there anything happening?
- ไม่มีอะไร
-Nothing
- อยากให้ท่านมาหาผมที่บ้านเย็นนี้
-Please come to my house this evening.
- คุณมาได้ไม๊?
-Can you come?
- ฉันไปได้
-Yes, I can.
- จะพบกับท่านเวลา หกโมงครึ่งเย็น
-I will see you at six-thirty in the evening
7. TO GET INFORMATION AND DIRECTION
(สอบถามข้อมูลและถนนหนทาง)
-ช่วยบอกทางไปถนนเพชรเกษมหน่อย
-Can you tell me the way to Petkasem Road?
-มันห่างไกลจากที่นี่มากนะ
-It’s a long distance from here.
- ประมาณ 10 ก.ม.
-It’s about ten kilometers far from here.
-ฉันจะไปที่นั่นได้อย่างไร?
-How to get to there?
-ฉันจะต้องไปทางไหน?
-Which way must I go?
-ให้เดินตรงไป
-Go straight ahead
-ต่อจากนั้นให้เลี้ยวซ้าย
-then turn left on …… (ตามด้วยถนน)
-ต่อจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายบนถนนพระราม 5
-then turn left on Rama V
-ท่านเป็นคนแปลกถิ่นใช่ไหม?
-Are you a stranger here?
-ใช่ฉันเป็นคนแปลกถิ่น
-Yes, I am.
-ฉันเพิ่งมาถึงกรุงเทพฯเช้านี้เอง
- I arrived in Bangkok this morning.
- ฉันอยากจะแนะนำคุณไปโดยรถสามล้อ
-I would like to advise you to go by tricycle.
-ค่ารถสามล้อเท่าไหร่ล่ะ?
-What is the cost to go by tricycle? / How much it cost, if I go by tricycle?
- คิดว่าประมาณ 50 บาท
- I think, it will cost fifty baht.
-สามล้อมาแล้ว
-A tricycle is coming.
-ท่านถามราคาได้
-You can ask him about the fare.
-ขอบคุณในการช่วยเหลือ
-Thank you for your help.
8. POLITE REQUEST FOR HELPING
(การขอความช่วยเหลือที่สุภาพ)
-ขอให้ท่านช่วยเหลือ
-Please help me
-ขอความกรุณาให้ท่านช่วยเหลือ
-Would you mind helping me?
9. REQUEST SOMEONE TO DO SOMETHING
(ขอให้บุคคลทำอะไรให้กับเรา)
-โปรดซื้อให้ฉัน
-Buy it for me
-โปรดปิดหน้าต่าง
-Shut the window please.
-โปรดปิดประตู
-Shut the door please.
-โปรดเปิดไฟให้หน่อย
-Turn on the light please.
-โปรดปิดไฟให้หน่อย
-Turn off the light please.
10. SORRY (การพูดเกี่ยวกับความเสียใจ)
-ฉันเสียใจมาก
-I am very sorry.
11. ILLNESS (การพูดเกี่ยวกับการเจ็บป่วย)
-ฉันเป็นไข้หวัดอย่างหนักเลย
- I have a bad cold.
-รับประทานยาหรือยัง?
-Have you taken the medicine?
-ไม่ต้องรับประทานยา
-No need to take the medicine.
-ท่านไม่สบายหรือ?
-Are you not well right?
-ฉันปวดหัว
-Yes, I have a headache.
-ท่านสูบบุหรี่ไหม?
-Do you smoke?
12. THE WEATHER (การพูดเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ)
-เมื่อวานนี้ฝนตกหนัก
-Yesterday, it rained very hard.
-วันนี้ลมแรงจัด
-Today, the wind is blowing hard.
-ฝนจะตกแล้ว
-It is going to rain.
-วันนี้หนาวไหม?
-Is it cold today?
-วันนี้ค่อนข้างหนาว
-Yes, it is rather cold.
-ในกรุงเทพฯร้อนไหม?
-Is it hot in Bangkok?
-ไม่ร้อนมากหรอก
-No, it is not very hot.
-ลมเป็นอย่างไรบ้าง?
-How is the wind?
-ลมกำลังพัดแรง
-It is blowing so hard.
-ฝนจะตกอีกไหม?
-Is it going to rain again?
-ใช่ฝนจะตกอีก
-Yes, it is going to rain.
-ฝนหายแล้ว
-The rain has stopped.
-พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว
-The sun has risen already.
-ท่านรู้สึกอย่างไรกับอากาศตอนนี้
-How do you feel about the weather?
-ก็ดี
-That’s OK.
-ท่านรู้สึกหนาวไหม?
-Do you feel cold right?
-ไม่รู้สึกหนาวเลย
- No, I do not feel cold at all. (คำว่า at all แปลว่า เลย)
-หวังว่าฤดูฝนคงผ่านไปเร็วๆนี้
-I hope rain will pass soon.
-ฉันชอบฤดูหนาวพอๆกับฤดูร้อน
-I like winter as well as summer.
13. TRANSACTIONS (เกี่ยวกับการซื้อขาย)
-ตลาดอยู่ที่ไหน?
-Where is the market?
-ท่านจะซื้ออะไร?
-What will you buy?
-ฉันจะซื้อปลา
-I will buy fish.
-แพงจัง
- So expensive.
-มันไม่ทนทาน
-No endurance.
-ท่านต้องการเท่าไร?
-How much do you want?
-ลดหน่อยน่า
-Reduce a bit.
-เขาโก่งราคามากไป
-He raises the price too high.
-ฉันลดให้คุณไม่ได้
-I cannot reduce it.
-ถูกจัง
-So cheap. / not expensive.
-ฉันจะซื้อหนังสือเล่มนี้
-I will buy this book.
-มันทำด้วยอะไร?
-What is it made of?
-มันดีด้วยกันทั้งคู่
-Both of them are good.
-นี่ดอกไม้อะไร?
-What kind of flower is this?
-นี่คือกุหลาบ
-This is rose.
-ฉันต้องการจะซื้อ .............
-I want to buy ………..
-ฉันต้องการของราคาถูก
- I want cheap price.
-ฉันต้องการของดี
-I want good things.
-ใหญ่หน่อย
-A little big.
-เล็กหน่อย
-A little small.
-หนาหน่อย
-A little thick.
-บางหน่อย
-A little thin.
-ขอเปลี่ยนได้ไหม?
-Can I change it?
-เอาอันนั้นมาดูซิ
-Let me see that one.
-นั่นนะถูกแล้ว
-Yes, that is right.
-ราคาเท่าไร?
-How much does it cost?
-มีดีกว่านี้ไหม?
-Have you anything better than this?
-นี่เป็นไหมแท้หรือ?
-Is this real silk?
-ฉันจะเอาอันนี้
-I will take this one.
-หมู่นี้ท่านค้าขายอะไร?
-What do you sell these days?
-ฉันส่งสินค้าออกนอกประเทศ
- I am in the export business. /
- I work about the export business.
-โดยมากสินค้าไปเมืองไหน?
-Which country do you contact mostly?
-การค้าเจริญดีไม๊?
-Is business good? / Your business is good right?
-ดีพอไปได้
-Yes, good enough.
-มีลูกจ้างกี่คน?
-How many employees do you have? (US) / How many employees have you? (UK)
-มากกว่าสิบ
-More than ten.
-เคยไปอเมริกาไหม?
-Have you ever been to the U.S.A.?
-ไปตลอด
-Yes, I go often.
-ฉันขอรับรองความทนทานของทีวีเครื่องนี้
-I can guarantee the durability of this television.
-แบบนี้เป็นแบบที่เขาไม่นิยมกัน
-This style is not popular.
-อันนี้สิที่ทันสมัย
-This is an up-to-date article.
-อันนี้สิทันสมัยล้ำยุคมาก
-This style is cutting edge.
-แล้วอันนี้ล่ะ
-How about this one?
-ท่านลดราคาลงอีกได้ไหม?
-Can you make it cheaper?
-อันนี้ดูดีอยู่แล้ว
-This one looks very nice.
-แต่ราคาสูงมาก
-But the price is too high.
-อันนี้ไม่เหมาะส าหรับฉัน
-This one is not suitable for me.
-แล้วท่านชอบอันไหนล่ะ?
-Which one do you prefer?
-ท่านมีสีม่วงหรือไม่?
-Do you have a purple one?
-อันนี้ไม่ใหญ่พอ
-This one is not big enough.
-ฉันใส่ไม่ได้
-I cannot wear it.
-ถ้าท่านเอามาคืนในสามวัน จะคืนเงินให้
-If you bring it back within three days, I will return your money.
-ฉันต้องการอันที่ถูกกว่านี้
-I want a cheaper.
-โปรดห่อให้ฉันด้วย
-Please wrap it up for me. / Please pack it for me.
14. BUYING AND SELLING WITH CUSTOMERS
(การซื้อขายกับลูกค้า)
- ท่านจะซื้ออะไร?
-What will you buy?
- ท่านจะซื้อกี่กิโล?
-How many kilos will you buy?
-กิโลละเท่าไหร่?
-How much per kilo?
- กิโลละยี่สิบบาท
-It is twenty baht per kilo.
-มันแพงเกินไป
-It’s too expensive. / It is not cheap.
- ท่านลดราคาลงได้ไหม?
-Can you take less?
- นี่เป็นราคาตายตัว
-This is a fixed price.
- ฉันจะคิดคุณแค่กิโลละ สิบแปดบาท
-I will give you eighteen baht per kilo.
-ฉันไม่มีกำไรเลย
-I don’t have any profit at all.
-ขอดูอันที่ถูกกว่านี้
-Show me a cheaper one.
- ท่านต้องการอันนี้ไหม?
-Do you want this one?
- มันหยาบเกินไป (หมายถึงเนื้อผ้า)
-It is too coarse.
- อันนี้ละเอียดที่สุด
-This one is the finest.
- คุณภาพไม่ดีเลย
-The quality is not good at all.
- ท่านขายเชื่อหรือเปล่ า?
-Do you sell goods on credit?
- เปล่าเราขายแต่เงินสด
-No, we sell for cash.
-รวมทั้งหมดเท่าไหร่?
-How much altogether?
- ห้าสิบบาทรวมทั้งหมด
-Fifty baht altogether.
15. BILL COLLECTIONS (การเก็บเงิน)
-ท่านกรุณาจ่ายเงินชำระบัญชีนี้หน่อยได้ไหม?
-Could you please pay this account?
-จำนวนเท่าไหร่?
-How much I have to pay?
-สามร้อยบาท
-It’s three hundred baht.
-ฉันจำได้ว่าชำระเรียบร้อยแล้ว
-I remember I cleared off / paid off this account already.
-ท่านยังค้างอยู่อีกห้าสิบบาท
-You are still fifty baht in arrear.
-ถ้าเช่นนั้นจะชำระให้อาทิตย์หน้า
-Then, I will pay up next week.
-ขอบคุณ ฉันจะมาพบท่านอีกอาทิตย์หน้า
-Thank you, I will meet you again next week.
-ท่านกรุณาชำระในวันนี้ได้ไหม?
-Could you please pay it today?
-ท่านควรมาอีกในตอนบ่าย
-Please come again this afternoon.
-ขอโทษโปรดจ่ายเดี๋ยวนี้
-Excuse me, please pay it now.
-ฉันจะต้องไปที่อื่นอีกหลายแห่ง
-I have so many places to go.
-เวลานี้ฉันไม่มีเงินเลย
-I don’t have any money at this moment.
-ขอเรียนถามว่าท่านจะชำระบัญชีนี้กี่โมง?
-May I ask, what time you will clear up this account?
-ขอเลื่อนไปจ่ายในปลายเดือนนี้
- I will have to postpone paying at the end of this month.
-ดีแล้ว ฉันหวังว่าท่านคงไม่เสียคำพูด
-All right, I hope you will not break your promise.
16. IN THE BALL ROOM (ในห้องเต้นร า)
-ท่านเต้นร าเป็นไม๊?
-Can you dance?
-ใช่ ฉันเต้นรำเป็น
-Yes, I can.
-เราไปเต้นรำกันคืนนี้ไม๊?
-Shall we go to dance tonight?
-เมื่อคืนนี้สนุกไม๊?
-Did you enjoy yourself last night?
-ใช่ สนุกมากทีเดียว
-Yes, I enjoyed myself immensey.
- บ๋อย ขอกาแฟหนึ่งแก้ว
-Boy, give me a cup of coffee please.
-ขอเล็มโมเน็ตหนึ่งแก้ว
-Please give me a glass of lemonade.
-ท่านชอบเพลงนี้ไม๊?
-Do you like this song?
-มันไม่เลวนัก
-It’s not so bad.
-ฉันอยากสูบบุหรี่
-I want to smoke.
-ท่านมีบุหรี่ไม๊?
-Do you have any cigarette?
-ฉันขอเต้นรำกับท่านได้ไหม?
-May I dance with you?
-เดี๋ยวนี้ดึกแล้ว
-It’s getting late.
-เราจะไปบ้านกันหรือยัง?
-Shall we go home?
-อย่าวิตกไปเลย
-Don’t worry about that.
-ฉันจะไปส่งท่านที่บ้าน
-I will take you home.
17. AT THE MARKET (ในตลาด)
-เนื้อวัวราคาเท่าไร?
-What is the price of beef?
-กิโลละแปดสิบบาท
-Eighty baht per kilo.
-ฉันต้องการเนื้อหมูหนึ่งกิโล
-I want one kilo of pork.
-ส้มราคาเท่าไร?
-What is the price of oranges?
-กิโลละสามสิบห้าบาท
-Thirty –five baht per kilo.
-ต้องการกล้วยสองหวี
- I want two bunches of bananas.
-หวีละเท่าไร?
-How much per bunch?
-หวีละยี่สิบบาท
-Twenty baht per bunch.
-ต้องการซื้อองุ่น มะพร้าวและแอปเปิล
-I want grapes, coconuts and apples.
-ผักกาดหอมขายอย่างไร?
-How do you sell these heads of lettuce?
-กิโลละสิบห้าบาท
-Fifteen baht per kilo.
-ท่านมีมันฝรั่งไหม?
-Do you have some potatoes?
-ไม่มี แต่มีมะเขือเทศเท่านั้น
-No, but we have only tomatoes.
-ท่านต้องการอะไรอีกไม๊?
-Do you want anything else?
-โปรดห่อเข้าด้วยกัน
-Please wrap / pack them up.
-และใส่ลงในกระจาด
-And put them in the basket.
-ไข่เหล่านี้สดไหม?
-Are these eggs fresh?
-ฉันต้องการเนยสดสองปอนด์
-I want two pound of butter.
-ฉันต้องการน้ำมันหมูสามปอนด์
-I want three pounds of lard.
18. IN A SHOP (ภายในร้าน)
-ฉันต้องการซื้อหมวกหนึ่งใบ
-I want to buy a hat.
-ท่านต้องการหมวกชนิดไหน?
-What kind of hat do you want?
-ฉันต้องการหมวกผ้าสักหลาด
-I want a felt hat.
-ขนาดอะไร?
-What is the size? / What size do you want?
-ขนาดเจ็ดนิ้ว
-It is seven inches.
-ฉันต้องการเสื้อเชิ๊ตด้วย
-I also want a shirt. / I want a shirt too.
-ท่านมีตัวสีฟ้าไหม?
-Do you have a blue one? / Have you a blue one?
-ฉันอยากได้ตัวที่แขนสั้น
-I want one with short sleeves.
-รวมทั้งหมดเท่าไหร่?
-How much altogether?
-รวมทั้งหมดสองพันห้าร้อยบาท
-Two thousand and five hundred baht altogether.
-นี่คือธนบัตรใบละห้าร้อยบาท
-This is five hundred note.
-โปรดทอนห้าสิบบาท
-Please give me fifty baht change.
- ท่านต้องการตราอะไร?
-What brand do you want?
-ต้องการตราลูกไก่
-I want Chicken Brand.
-โปรดเอาตัวอย่างมาให้ฉันดู
-Please show me a sample.
-ของเหล่านี้มาจากต่างประเทศหรือเปล่า?
-Are these foreign made?
-เปล่ามันทำในนี้
-No, they are of local make.
- ฉันต้องการขนาดขวดเล็ก ครึ่งโหล
-I want a half dozen, small bottles.
-ท่านจะคิดราคาเท่าไหร่?
-How much do you charge for this?
-ฉันต้องการอย่างนี้หนึ่งอัน
- I want one like this.
-ฉันต้องการสองสำรับ
- I want two sets.
-ท่านต้องการกี่โหล?
-How many dozen do you want?
19. IN A RESTAURANT (ในร้านอาหาร)
-เราไปร้านอาหารหาอะไรกินกัน
-Let’s go to a restaurant and have something to eat.
-ท่านจะรับประทานอะไร?
-What do you want to eat? / What will you have?
-บ๋อย เอารายการอาหารมาให้หน่อย
-Boy! Bring us the menu.
-เอาซุปมาสองชาม
-Bring us two plates of soup.
-ต่อจากนั้นก็ปลา
-afterwards fish,
- ต่อจากนั้นก็เป็นสเต๊กเนื้อ
-and then beef steak.
- บี๊ปสเต๊กต้องทอดให้สุก
-The beefsteak must be well cooked / well done.
-จะดื่มอะไรบ้างไหม?
-Would you like something to drink?
-ขอเบียร์หนึ่งขวด
-Give us a bottle of beer.
-ขอน้ำแข็งสองแก้ว
-Bring me two glasses of ice.
-ท่านมีแอปเปิลบ้างไหม?
-Do you have some apples?
-ขอจานสะอาดหนึ่งใบ
-Give us a clean plate.
20. IN A THEATRE (ในโรงภาพยนต์)
-วันอาทิตย์นี้ท่านจะไปไหน?
-Where will you spend this Sunday?
-ฉันจะไปดูหนัง
-I will go to see the cinema / movies.
-ฉันไปกับท่านได้ไหม?
-May I go with you?
-ได้สิ
-Yes, certainly. / Yes, of course.
-ที่โรงหนังไอแม็กซ์ฉายเรื่องอะไร?
-What is the show of the IMAX Theatre?
-ใครเป็นนางเอก
-Who is the leading actress?
-ฉันต้องการจองที่นั่งสองที่วันอาทิตย์หน้า
-I want to book two seats for next Sunday.
-หนังจะฉายเมื่อไหร่?
-When will the movie commence?
-เริ่มเก้าโมงครึ่ง
- It starts at nine thirty a.m.
-ใครเป็นนางเอกที่ท่านชอบมากที่สุด
-Who is your favorite actress?
-ฉันชอบเบิร์ด ธงชัย มากที่สุด
-I like Bird Thongchai most.
-ฉันชอบเสียงของเขา ร้องเพลงเพราะด้วย
-I like his voice and he can sing beautifully.
-ภาพยนต์คืนนี้ท่านเห็นเป็นอย่างไร?
-What do you think of the show tonight?
-มันขบขันมากเลย
-It is very amusing. / It is very funny.
-ท่านจะมากับฉันอีกไหมเสาร์หน้า
-Will you come with me again next Saturday?
-จ้ะ ฉันจะมา
-Yes, I will.
21. IN A BEER BAR (ในเบียร์บาร์)
-เชิญนั่ง
-Please sit down. / Take a seat.
-ท่านจะรับประทานอะไร?
-What will you eat?
-มีอะไรกินบ้าง?
-What do you have something to eat?
-ฉันจะเอารายการอาหารมาให้ท่าน
- I will bring you the menu.
-ขอเบียร์ขวดหนึ่ง
-Bring me a bottle of beer.
-เอาโซดามาหนึ่งขวด
-Bring me a bottle of soda.
-คุณงามเหลือเกิน
-You are very pretty. (คำว่า สวย ใช้ beautiful)
-มานั่งที่นี่สิ
-Please come and sit here.
-เธอชื่ออะไร?
-What is your name?
-อายุเท่าไร?
-How old are you?
-คุณอยู่ที่นี่มานานแล้วหรือ?
-How long have you been staying here?
-ไม่นานหรอกค่ะ
-Not very long.
-ท่านเป็นนายทหารหรือ?
-Are you an officer?
-ท่านเป็นชาติอะไร?
-What is your nationality?
-เคยรบที่ไหน?
-Where did you fight?
-คุณรักฉันไหม?
-Do you love me?
-ฉันรักเธอมาก
-Yes, I love you very much.
-ไปเที่ยวกับฉันไหม?
-Will you go to enjoy yourself with me?
-ไปดูหนังกับฉันไหม?
-Will you go to see the movie/cinema with me?
-คุณจะเป็นภรรยาผมได้ไหม?
-Can you be my wife?
-ฉันต้องการผู้หญิงสักคนหนึ่ง
-I want a woman.
22. TIME & DATE (วันและเวลา)
-วันนี้เป็นวันอะไร?
-What day is it?
-วันนี้เป็นวันจันทร์
-Today is Monday.
-วันนี้เป็นวันที่หนึ่งเดือนมกราคม
-Today is the first of January. / Today is January the first.
-วันนี้เป็นวันที่ยี่สิบห้าเดือนมกราคม
-Today is the twenty-fifth of January.
-วันนี้เป็นวันกองทัพไทย
-Today is Royal That Armed Forces Day.
-พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์
-Tomorrow is Saturday.
-หยุดวันอาทิตย์ไหม?
-Is it closed on Sunday?
-มะรืนมาไหม?
-Will you come on the day after tomorrow?
-เราจะย้ายในวันพรุ่งนี้
-We will move tomorrow.
-กี่โมงแล้ว
-What time is it?
-ยังเช้าอยู่เลย
-It is still early.
-นี่สายแล้ว
-It is late.
-ออกจะสายไปหน่อย
-It is a little late.
-เลยเวลาไปแล้ว
-The time has passed.
-นี่บ่ายโมง
-one o’clock in the afternoon.
-บ่ายโมงกว่าแล้ว
-It is past one p.m. already.
-เที่ยงวัน
- It’s noon. / It’s twelve noon. / It’s midday.
-เกือบสามโมงเช้าแล้ว
-Nearly nine a.m.
-ดูนาฬิกาข้อมือสิ
-Look at wrist watch.
-นาฬิกาข้อมือของฉันไม่เดิน
-My wrist watch does not work.
-นาฬิกาของท่านกี่โมง?
-What time is it by your watch?
-นาฬิกาของฉันไม่ตรง
-My watch is not accurate.
-นาฬิกาของท่านเดินเร็วมาก
-Your watch is too fast.
-นาฬิกาเสีย
-My watch is out of order.
-เสียเมื่อไหร่?
-When did it get out of order?
-เข็มนาฬิกาหัก
-The watch – hand is broken.
-ต้องเอาไปซ่อมแล้ว
-Get it repaired.
-เวลาน้อยไปไม่ทัน
-Not enough time to go.
-เวลานี้ไม่ว่าง / ยุ่งมาก
-I am busy now.
-มาสาย
-Coming late.
-ท่านมาสายไปหน่อย
-You came a little late.
-ถึงเวลาแล้ว
-Now is the time.
-ท่านมาสายเสมอ
-You always come late.
-เวลาล่วงเลยไปเร็ว
-Time passes by quickly. / The time is running out.
-เวลาทำงานของท่านเวลาอะไร?
- What are your office hour?
-ตั้งแต่ห้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น
-From nine in the morning to five in the afternoon. / From nine a.m. to five p.m.
-บริษัทท่านอยู่บนถนนพญาไทหรือ?
- Is your company on Phayathai Road?
-เดี๋ยวนี้ย้ายไปถนนราชวิถีแล้ว
-It has been moved to Ratchwithi Road already.
23. AT THE RAILWAY STATION (เกี่ยวกับสถานีรถไฟ)
-ฉันจะไปสถานีรถไฟ
-I will go to the railway station.
-ท่านจะไปด้วยไหม?
-Will you accompany me?
-ท่านไปก่อน ฉันมาทีหลัง
-Go ahead, I will come later on.
-ฉันมาที่นี่โดยรถไฟ
-I came here by train.
-พูดให้ชัดเจน
-Speak clearly.
-รถออกเวลาเท่าไร?
-What time does the train leave?
- ท่านซื้อตั๋วแล้วหรือยัง?
-Have you bought the ticket? / Do you buy a ticket already?
-ใช่ ฉันซื้อมาแล้วสี่ใบ
-Yes, I have bought four tickets.
-ท่านจะไปโดยรถด่วนหรือ?
-Are you going by the express train?
-เปล่าฉันจะไปโดยรถธรรมดา
-No, I will go by ordinary / regular train.
-รถจะถึงนครสวรรค์กี่โมง?
-What time will the train arrive in Nakornswan?
-ฉันคิดว่าเก้าโมงเช้า
-I think about nine a.m.
-ห้องขายตั๋วอยู่ที่ไหน?
-Where is the booking office?
-ตั๋วชั้นหนึ่งไปเชียงใหม่เท่าไหร่?
- How much is a first class ticket to Chiangmai.
-ฉันมีกล่องใบใหญ่หนึ่งใบ
-I have a big box. ,
-และใบเล็กสี่ใบ
-and four small boxes.
-นั่นเป็นรถไฟโดยสารหรือเปล่า?
-Is that a passenger train?
-เปล่ามันเป็นรถสินค้า
-No, It is a goods train.
-กระเป๋าใส่เสื้อผ้าของฉันอยู่ไหน?
-Where is my suitcase?
-ฉันวางมันไว้ที่ชานชาลา
-I place it on the platform.
-บอกให้คนขนของขนกระเป๋าไปไว้ที่รถไฟ
-Tell the porter to take this suitcase to the train.
-เขาไปไม่ทันรถ
-He failed to catch the train.
-ฉันจะรับประทานอาหารกลางวันในรถไฟ
-I will have my lunch on the train.
-เร็วๆเข้า
-Hurry up,
-มิฉนั้นจะหาที่นั่งไม่ได้
-otherwise, we will not be able to get a seat
-วันนี้รถไฟช้ามาก
-The train is very late today.
-เพื่อนของฉันจะมารับที่สถานีมักกะสัน
-My friend will pick me up at Mukkasan Station.
- มีรถเสบียงในขบวนนี้ไม๊?
-Is there a restaurant car in this train?
24. IN A HOTEL (ในโรงแรม
-โรงแรมที่ดีสุดอยู่ที่ไหน?
-Where is the best hotel in this town?
-อยู่ที่ถนนราชดำริ
-It is on Rachadamri Road.
-โรงแรมนั้นชื่ออะไร?
-What is the name of that hotel?
-ชื่อโรงแรมเอราวัณ
-It is Erawan Hotel.
- โปรดบอกคนขับรถไปส่งฉันที่นั่น
-Please tell the driver to send me there.
-ฉันต้องการห้องใหญ่
-I want a big room.
-ท่านมีห้องที่ดีกว่านี้ไม๊?
-Do you have a better room than this?
-นี่เป็นห้องดีที่สุดที่เรามีอยู่
-This is the best room we have.
-ค่าเช่าวันละเท่าไร?
-How much does it cost per day?
-วันละหนึ่งหมื่นบาท
-Ten thousand baht per day.
-บอกให้บ๋อยปลุกฉันพรุ่งนี้เวลา หกโมงเช้า
-Tell the boy to wake me up at 6 a.m. tomorrow.
-ต้องการห้องที่มีสองเตียง
- I want a twin room.
-วันละห้าพันไม่รวมค่าอาหาร
- It is five thousand per day excluding food.
-ดีแล้วฉันจะเอาห้องนี้
-All right I will take this room.
-บอกบ๋อยเอาหนังสือพิมพ์มาให้หนึ่งฉบับ
-Tell the boy to bring me a newspaper.
-ท่านมีผ้าห่มที่ดีกว่านี้ไหม?
-Do you have a better blanket than this one?
25. LETTER / MAIL / POST OFFICE
(เกี่ยวจดหมาย / ที่ทำการไปรษณีย์)
-เมื่อวานท่านส่งจดหมายหรือเปล่า?
Did you go to mail the letter yesterday?
-นั่นจดหมายของใคร?
Whose letter is that? / Whose letters are those?
-ฉันจะไปที่ทำการไปรษณีย์
I will go to the post office.
-ฉันไปด้วยได้ไหม?
Can I go with you?
-ฉันต้องการซื้อแสตมป์ดวงละสามบาท
I want to buy three baht stamp.
-ยื่นให้แล้วบอกว่า นี่ไงล่ะ
Yes, here it is
-ค่าแสตมป์ส่งไปแอลเอเท่าไหร่?
What is a postage for a letter to Los Angeles?
-ขอแสตมป์ดวงละสามบาทให้ฉันสิบดวง
Give me three baht ten stamps.
-ฉันจะเอาแสตมป์ปิดที่จดหมายฉบับนี้
I will stick a stamp on this letter.
-จะไปหย่อนมันในตู้ไปรษณีย์
I drop it into the post box.
-ฉันต้องการส่งโทรเลขไปที่ลอนดอน
I want to send a telegram to London.
-ฉันต้องการจะส่งอีเมลล์ไปอเมริกา
I want to send an email to the U.S.
-ฉันต้องการจะลงทะเบียนจดหมายฉบับนี้
I want to have this letter registered. / I want send by registered mail.
-จะต้องจ่ายค่าลงทะเบียนเท่าไหร่?
How much I pay for registered mail?
-กินเวลานานเท่าไหร่จดหมายถึงอเมริกา
How long will this letter from here to U.S.A.
-ฉันจะส่งธนาณัติไปประเทศญี่ปุ่น
I will send a money order to Japan.
-ฉันจะส่งพัสดุทางไปรษณีย์
I will send a package by post.
-จดหมายฉบับนี้ด่วน
This letter is urgent.
-ท่านมีอากรแสตมป์ขายบ้างไหม?
Do you have any duty-stamps for sale?
-มีเหลือดวงเดียว
I have only one left.
26. QUESTION WORD (คำถามที่ขึ้นต้นด้วย “WH” )
-ท่านชื่ออะไร?
What’s your name?
-ฉันชื่อ ........
My name is ……………
-ท่านอายุเท่าไร?
How old are you?
-ฉันอายุห้าสิบเท่านั้นเอง
I am fifty years old.
-ท่านอยู่ที่ไหน?
Where do you live?
-ฉันอยู่ในกรุงเทพฯ
I live in Bangkok.
-บ้านท่านไกลจากที่นี่ไหม?
Is your house very far from here?
-อยู่ไกลมาก
Yes, it is very far.
-พ่อแม่ของท่านยังอยู่ไหม?
Are your parents still living?
-ใช่ ท่านยังมีชีวิตอยู่
Yes, they are still living.
-ท่านกำลังจะไปไหน?
Where are you going?
- ฉันไปบ้านนอกมา
I went up country. / I went from rural area.
-ปากกานี้เป็นของใคร?
Whose pens are these?
-บ้านท่านอยู่ที่ไหน?
Where is your house?
-เขาอยู่ที่ไหน?
Where does he/she live?
-เขาอยู่ที่บางแค
He/She lives at Bangkhae.
-ท่านใช้เวลาเดินทางเท่าไร?
How long does it take?
-บ้านท่านห่างไกลจากที่นี่แค่ไหน?
How is your house far from here?
-ใช้เวลาเพียงสามสิบนาที
It takes thirty minutes.
-ท่านคอยใคร?
Whom are you waiting for?
-เขาจะมาถึงเมื่อไหร่?
When will he / she arrive?
-ท่านมีความเห็นอย่างไร?
What is your idea?/ What is your opinion?/ What do you think?
-ท่านไปนานเท่าไร?
How long ago did you go?
-ท่านเกิดที่ไหน?
Where were you born?
-เขามาจากไหน?
Where did he/she come from?
-เขามาจากสุโขทัย
He/she came from Sukhothai Province.
-สะพานหันอยู่ที่ไหน?
Where is Saparnhun?
-มันอยู่ใกล้ๆที่นี่
It is near here.
-มีเสียงเคาะประตู
There is a knocking outside.
-ใครกดกระดิ่ง
Who is ringing the bell?
-บอกเด็กเปิดประตู
Call the boy to open the door.
-ไปดูซิใครมา
Go and see who has come.
-ใครมา
Who is it?
-คุณ ...... มาพบท่าน
Mr. …./ Mrs. …. has come to see you.
-เราไม่ได้พบกันนานแล้ว
We haven’t seen you for ages. / We haven’t seen you in a long time.
-มีข่าวอะไรบ้าง?
What is the news?
-ท่านได้ข่าวนี้มาจากไหน?
Where did you hear that news?
-เพื่อนเล่าให้ฟัง
Some friends told me.
-มีข่าวสงครามไหม?
Is there any war news?
27. TRAVELLING (การเดินทาง)
-ท่านเคยไปอเมริกาไหม?
Have you ever been to U.S.A.?
-ไปเสมอ
Yes, I go often.
-จะไปอีกเมื่อไหร่?
When is your next trip?
-จะไปเร็วๆนี้
Not very long off. / soon.
-ฉันอยากไปอเมริกาเหมือนกัน
I want to see America too.
I want to go America too.
I want to visit America too.
-ไปเที่ยวด้วยกันไม๊?
Shall we go together?
-ดีทีเดียว
Good that would be very nice.
-จะไปจริงๆจะบอกให้รู้
When I really go, I will tell you.
28. FAMILY (เกี่ยวกับครอบครัว)
-แต่งงานหรือยัง?
Are you married?
-มีบุตรกี่คน?
How many children do you have? / How many kids do you have?
-ฉันมีพี่ชาย / น้องชายสองคน
I have two brothers.
-ฉันมีพี่สาว / น้องสาวสามคน
I have three sisters.
-พี่สาวคนโต
Elder sister.
-น้องสาวคนเล็ก
Youngest sister
-คุณลุง
Uncle
- คุณป้า
Aunt
-หลานสาว
Niece
- หลานชาย
Nephew
29. CAREER / WORK / JOB / ASKING FOR A JOB
(เกี่ยวกับงานอาชีพ)
-ท่านอาชีพอะไร?
What is your occupation? / What is your profession? / What is your work? / What is your career?
-เขาทำงานอยู่ที่ไหน?
Where does he/she work?
-เขาทำงานที่บริษัท
He/She works at a company.
-ที่นี่สงบเงียบดีนะ
This is a quiet place.
-ที่นี่ปลอดภัยดีนะ
This is a safety area.
-นี่เป็นงานหนัก
This is a hard job. / This is a hard work.
-ท่านต้องทำเอง
You must do it by yourself.
-เมื่อไหร่ท่านถึงจะทำเป็น
When can you do it?
-ฉันจะช่วยท่านเอาไหม?
Do you want me to help you?
-ท่านไม่ควรทำเช่นนี้
You should not do like this.
-เขาจำเป็นต้องทำเช่นนี้
He / She must do like this.
-ทำตามที่ฉันบอก
Follow my suggestion.
- สวัสดีครับ
Good morning, Sir.
29. CAREER / WORK / JOB / ASKING FOR A JOB
(เกี่ยวกับงานอาชีพ)
-สวัสดีครับ ท่านต้องการอะไร?
Good morning, what do you want?
-ท่านต้องการจ้างเสมียนไหม?
Do you need of a clerk? / Are you in need of a clerk?
-ใช่ฉันต้องการ
Yes, I need one.
-ผมขอสมัครได้ไหม?
May I offer you my service? / May I work in your office?
-ได้สิ ท่านอายุเท่าไร?
Yes, how old are you?
-ผมอายุ 30 ปี ครับ
I am thirty years old.
-ท่านทำงานครั้งสุดท้ายที่ไหน?
Where were you last employed? / Please tell me your last company.
-ผมเป็นเสมียนอยู่ที่โรงแรมนายเลิศ
I used to be a clerk at Nai Lerd Hotel.
-ท่านออกจากที่นั่นเมื่อไหร่?
When did you leave there?
-ผมออกจากที่นั่นสองเดือนแล้ว
I left there two months ago.
-ผมออกเพราะว่าผมป่วย
because I had got sick.
29. CAREER / WORK / JOB / ASKIN FOR A JOB
(เกี่ยวกับงานอาชีพ)
-ท่านได้รับเงินเดือนเท่าไหร่?
How much did you receive for your salary?
-ผมได้รับเดือนละหนึ่งหมื่นสองพันบาท
I received twelve thousand baht.
-ดีแล้ว ฉันจะให้ท่านเท่านั้น
Well, I will pay you the same.
-ขอบคุณครับ
Thank you, Sir.
-ท่านจะมาทำงานได้เมื่อไหร่?
When can you come to work?
-ถ้าท่านเห็นสมควร
If you like,
-ผมจะมาที่นี่ในต้นเดือนหน้า
I can come here at the beginning of next month.
-ท่านชื่ออะไร?
What is your name?
-ผมชื่อสามารถ
My name is Samart.
-ท่านทำบัญชีเป็นไม๊?
Can you do book keeking?
-ผมทำเป็นครับ
Yes, I can.
-ท่านพิมพ์ดีดได้ไม๊?
Can you type?
-ได้ครับ ทั้งไทยและอังกฤษ
Yes, I can type both Thai / Siamese and English.
-เยี่ยมเลย
That’s fine.
29. CAREER / WORK / JOB / ASKIN FOR A JOB
(เกี่ยวกับงานอาชีพ)
-เงินเดือนเริ่มต้นของท่านหนึ่งหมื่นสองพันบาท
I will start you with a twelve thousand baht per month.
-และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
And it will be increased from time to time.
-ท่านใช้คอมพิวเตอร์ได้ไม๊?
Can you use computer?
30. APPLYING FOR A POSITION (การเข้าสู่ต าแหน่ง)
-ผู้จัดการท่านอยู่ที่ไหน?
Where is your manager?
-ท่านอยู่ข้างบน
He is upstairs.
-สวัสดีครับท่านผู้จัดการ
Good morning, Sir.
-ท่านต้องการอะไร?
What do you want?
-และท่านคือใคร?
And who are you?
-ผมเป็นคนงานครับ
I am a workman.
-มิสเตอร์Leonard แนะน าให้ผมมาที่นี่
Mr. Leonard advised me to come here.
-นี่คือจดหมายของเขา
Here, this is his letter.
-อ้อ ! ท่านกำลังวิ่งหางานทำใช่ไม๊?
Oh! Are you hunting for a job?
-ใช่ครับ
Yes, Sir.
30. APPLYING FOR A POSITION (การเข้าสู่ต าแหน่ง)
-ฉันคิดว่าท่านควรไปหา Mr. Jonathan.
I think you’d better go to see Mr. Jonathan.
-เขาเป็นนายช่าง
He is an engineer.
-Mr. Jonathan อยู่ที่ไหน?
Where is Mr. Jonathan?
-เขาอยู่ในโรงงาน
He is in the factory.
-ผมจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้
I will go to see him right now.
-ลาก่อนนะครับ
Good-bye.
-สวัสดีครับ Mr. Jonathan.
Good morning Mr. Jonathan.
-สวัสดีครับ
Good morning.
-Mr. Leonard ส่งผมมาที่นี่
I was sent here by Mr. Leonard.
-เขาบอกว่าท่านต้องการคนงาน
He told me that you are looking for a workman.
-ใช่ ฉันต้องการคนงานที่มีความช านาญ
Yes, I want an expert workman.
-ท่านทำงานอะไรได้บ้าง?
What kind of work can you do?
-ผมเป็นช่างฟิตครับ
I am a fitter.
30. APPLYING FOR A POSITION (การเข้าสู่ต าแหน่ง)
-ทำได้ทุกๆสิ่งที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์
I can do everything about machinery.
-ท่านแก้รถยนต์ได้ไหม?
Can you repair a car? / Do you know how to repair a car?
-ได้ครับ ผมช านาญทีเดียว
Yes, Sir I know very well about that.
-ถ้าเช่นนั้น ลองแก้คันนี้ให้ดู
Then, will you try to repair this car?
-ได้สิครับ
Yes, I will.
-ดีแล้ว ผมจะจ้างคุณ
All right, I will employ you.
-เงินเดือนท่านเริ่มขึ้นที่แปดพันบาท
Your salary will be eight thousand baht per month.
-ท่านกรุณาให้ผมสักเก้าพันได้ไหม?
Will you be kind enough to give me nine thousand baht?
-ตกลง
All right,
-แต่ท่านต้องทำงานให้ดี
But you must work well;
-มิฉนั้น ท่านจะถูกไล่ออก
otherwise you will be fired.
31. LANGUAGE, LEARNING AND TEACHING
(เกี่ยวกับภาษา การเรียนและการสอน)
-อ้อ! ท่านพูดภาษาอังกฤษเป็นด้วย
Oh! You can speak English too.
-ฉันพูดภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย
I can speak English a little.
-ท่านเขียนอังกฤษได้ไหม?
Can you write English?
-ฉันเขียนไม่ได้หรอก
I cannot write well.
-ท่านเรียนภาษาอังกฤษมานานเท่าไรแล้ว?
How long have you been learning English?
-เรียนมาสามเดือนเท่านั้น
I have been learning only three months.
-นั่นดีมากเลย
That is very nice.
-ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น
I don’t think so.
-ท่านกำลังศึกษาอะไรอยู่?
What are you studying now?
-ฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่
I am studying English.
-ท่านกำลังทำอะไรอยู่ในห้องเรียน?
What are you doing in the classroom?
-กำลังเตรียมบทเรียนอยู่
I am preparing my lessons.
-อย่าทำงานให้มากเกินไป
Don’t work too hard.
31. LANGUAGE, LEARNING AND TEACHING
(เกี่ยวกับภาษา การเรียนและการสอน)
-เดี๋ยวทำให้สุขภาพทรุดโทรมนะ
It will injure your health. / Your health will be weak.
-ฉันเป็นคนชอบเรียนมาก
I like learning very much.
-อย่ารีบนักเลย
Don’t make such haste.
-เรามาอ่านหนังสือพิมพ์กันดีกว่า
Let’s read newspaper.
-โปรดอย่ากวนฉัน
Don’t disturb me please.
-ที่ห้องประชุมกำลังฉายหนัง
The conference room is showing the movie.
- อย่างงั้นหรือ?
Is that so?
-ท่านเห็นใบประชาสัมพันธ์ (โฆษณา) ไม๊ล่ะ?
Do you see the big advertisement?
-ฉันอยากจะดูละครสัตว์
I want to see the circus.
-ฉันจะไปกับท่าน
I shall / will go with you.
-ท่านกำลังอ่านหนังสืออะไรอยู่?
What book are you reading now?
-กำลังอ่านหนังสืออ่านเล่น
I am reading an English novel.
31. LANGUAGE, LEARNING AND TEACHING
(เกี่ยวกับภาษา การเรียนและการสอน)
-เป็นหนังสือที่ใช้เป็นหนังสือเรียน
It is used as a text book.
-มันเป็นหนังสือที่เขียนโดย ดร. วาทิต
It was written by Dr. Wathit.
-เธอเป็นนักประพันที่มีชื่อมาก
She is a great novelist.
-ท่านจะให้ฉันยืมหนังสือเล่มนี้ไม๊?
Will you lend this book to me? ***(lend = ให้ยืม , borrow = ขอยืม)
-ใช่ฉันให้ยืม
Yes, I will.
32. ROUTINE ACTIVITIES (กิจวัตรประจำวัน)
-วันนี้ท่านตื่นเช้ามาก
You wake up very early today.
/ You get up very early today.
/ You are up very early today.
- ท่านก็ตื่นเช้าเหมือนกันกับฉัน
You wake up as early as I am.
-กี่โมงแล้ว?
What time is it?
-ประมาณหกนาฬิกา
It is about six a.m.
-ท่านออกมาแต่เช้าทุกๆวันหรือ?
Do you always come out early every day? / You always come out early every day right?
-ใช่ทุกวัน
Yes, I do.
-ท่านทำอะไรทุกเช้า
What do you do every morning?
-ฉันออกมาเดินเล่น
I come out every morning for a walk.
-ฉันจะไปเล่นฟุตบอลล์
I am going to play football.
-ฉันอาบน ้าวันละสองครั้ง
I take two baths per day/ a day.
32. ROUTINE ACTIVITIES (กิจวัตรประจำวัน)
-หน้าหนาวท่านตื่นกี่โมง
What time do you wake up in the cold weather? / What time do you arise in the cold weather?
-ในฤดูหนาวตื่นไม่เช้าเหมือนในฤดูร้อน
I don’t get up so early in winter as in summer.
-ใช่ฉันก็เหมือนกันกับท่าน
Yes, I am the same as you.
-ฉันอยากรับประทานอาหารเช้า
I want to have some breakfast.
-ท่านหิวไม๊?
Are you hungry?
-ใช่ ฉันหิวหลังจากเดินเล่น
Yes, I am always hungry after my walk.
-งั้นเราไปรับประทานอาหารเช้ากันเถอะ
Let’s go to breakfast.
-โปรดรับประทานอาหารเย็นกับฉันที่นี่
Please stay here and have dinner with me.
-เสียใจด้วยจะต้องไป
I am sorry I have to go. / I really must be going.
32. ROUTINE ACTIVITIES (กิจวัตรประจำวัน)
-ทำไมท่านถึงรีบร้อน
Why are you in such a hurry?
-จะต้องไปดูแม่ที่โรงพยาบาล
Because I must go to see my mom at the hospital.
33. AT BREAKFAST (สนทนาที่โต๊ะอาหารเช้า)
-เราจะรับประทานอาหารเช้าอะไรกันดี?
What are we going to have for breakfast?
-แม่บ้านกำลังจะเอามาให้เร็วๆนี้
The housewife is getting the breakfast soon.
-เราจะรับประทานไข่ดาวก่อนไหม?
Shall we have fries egg first?
-เราจะรับประทานผลไม้ก่อน
Shall we have fruit first.
-ปอกให้ฉันสักลูกหนึ่งได้ไหม?
Will you please to peel one for me?
-ฉันต้องการช้อนหนึ่งและซ่อมหนึ่ง
I would like a spoon and a fork.
-ขอขนมปังหนึ่งชิ้น
Give me a slide of bread
-เช้านี้ท่านหิวไม๊?
Are you hungry this morning?
-เปล่าไม่หิวมากนักหรอก
No, not very. / No, not much.
33. AT BREAKFAST (สนทนาที่โต๊ะอาหารเช้า)
-โปรดเทนมลงในกาแฟ
Please pour some milk in the coffee.
-ท่านต้องการน ้าตาลไม๊?
Do you want some more sugar?
-ท่านชอบกาแฟแก่หรืออ่อน?
Do you like strong or weak coffee?
-ท่านต้องการเนยบ้างไม๊?
Do you want some butter?
-ไม่ ขอบคุณ
No, thank you.
34. AT MEAL TIME (สนทนาขณะรับประทานอาหาร)
-ท่านรับประทานอาหารเช้าเมื่อไหร่?
When do you have your breakfast?
-ธรรมดาทานเจ็ดโมงครึ่ง
Usually at 7:30 a.m./ half past seven.
-ท่านจะรับประทานอะไรดี?
What will you have?
-ฉันจะรับประทานขนมปังปิ้ง
I would like some toast.
-ท่านชอบขนมไม๊?
Do you like pudding?
-ท่านชอบขนมหวานหลังอาหารไม๊?
Do you like some dessert?
-ฉันไม่ชอบ, ฉันชอบผลไม้
No, I like fruit.
34. AT MEAL TIME (สนทนาขณะรับประทานอาหาร)
-ท่านชอบสลัดไม๊?
Do you like salad?
-ฉันชอบเพราะว่าอร่อยมาก
Yes, it is very delicious.
-ท่านจะเอาอะไรเพิ่มไม๊?
Do you have some more?
-ไม่เอาอีกแล้ว ขอบใจ
No more, thank you.
-ในกระป๋องนั้นมีอะไร?
What is in the can?
-เนื้อวัวหรือเนื้อไก่
Beef or chicken is in the can?
-ที่เปิดกระป๋องอยู่ที่ไหน?
Where is the can opener?
-ที่เปิดกระป๋องอยู่ในลิ้นชัก
It is in the drawer?
-ท่านจะรับประทานซุบอะไร?
What soup do you want?
-ฉันต้องการซุปข้าวโพด
I want corn soup.
-ท่านชอบปลาทอดไม๊?
Do you like fried fish?
-โปรดส่งเกลือกับพริกไทยให้หน่อย
Please pass some salt and pepper for me.
-นี่คือรายชื่ออาหาร
This is the menu.
-ท่านจะรับประทานอะไร?
What will you have? / What will you eat?
-ไม่รู้จะเลือกอะไรดี
I don’t know what to choose.
-ท่านต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ชนิดใด บรั่นดีหรือวิสกี้?
Would you like some drink brandy or whisky?
34. AT MEAL TIME (สนทนาขณะรับประทานอาหาร)
-ไม่ ขอบคุณ
No, thank you.
-ผมไม่ดื่มเหล้า
I don’t drink.
-ท่านต้องการผักชนิดใด?
What kind of vegetable do you want?
-อะไรก็ได้ ผมกินได้หมด
Any kind I can eat.
-ท่านสูบบุหรี่หรือเปล่า?
Do you smoke?
-ผมสูบครับ
Yes, I do.
35. ACCOUNTS & FINANCE (เกี่ยวกับบัญชีและการเงิน)
-การจ่ายเงินรายนั้นยังไม่ได้ลงบัญชี
That payment was not entered in the account book.
- ฉันลืมลงบัญชี
I have forgotten to enter the account book.
-ฉันคิดว่าคงลงผิดที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
I think there must be an error somewhere.
-ขอดูบัญชีงบดุลหน่อย
Show me the balance sheet.
-อ้าว! มันผิดตรงนี้เอง
Ah! Here the mistake.
- สมุดบัญชีเงินสดอยู่ที่ไหน?
Where is the cash book?
-อยู่บนโต๊ะ ใกล้ๆกับสมุดแยกประเภท
It is on the table, near the ledger.
35. ACCOUNTS & FINANCE (เกี่ยวกับบัญชีและการเงิน)
-จำนวนรวมยอดเท่าไหร่?
How much does the total come to?
-รายจ่ายเราเพิ่มขึ้นมากเหลือเกิน
Our expenses have greatly increased.
-เดือนนี้มีกำไรเท่าไร?
How much profit for this month?
-เราขาดทุนไปสี่พันบาท
We have lost four thousand baht already.
-ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
From now on.
-เราต้องลดรายจ่ายให้มากสุดเท่าที่จะทำได้
we must reduce expenses as much as possible.
- เงินที่มีอยู่ฉันใช้หมดแล้ว
The money that I had be all spent.
-นี่ธนบัตรปลอมหรือ?
Is this counterfeit bank note?
-ฉันยังไม่แน่ใจนัก
I am not so sure.
-เราเอาไปที่ธนาคารดีกว่า
We’d better take it to the bank.
-เขาเป็นลูกหนี้ของเราหรือ?
Is he our debtor?
-เปล่าเขาเป็นเจ้าหนี้เรา
No, he is our creditor.
-ฉันมีเงินหมื่นบาท
I have ten thousand baht.
35. ACCOUNTS & FINANCE (เกี่ยวกับบัญชีและการเงิน)
-เขาเป็นคนมัธยัสถ์
He/she is an economical man/woman.
36. AT THE BANK (ในธนาคาร)
-ฉันต้องการจะกู้เงิน
I want to get a loan.
-ท่านต้องการเท่าไร?
How much do you want?
-ประมาณแสนบาท
About one hundred thousand baht.
-ท่านมีอะไรเป็นประกัน
What security have you?
-ฉันมีเงินฝากอทบ.
I have a provident fund of RTA.
-มีมูลค่า สามแสนบาท
It is worth three hundred thousand baht.
-อัตราดอกเบี้ยเท่าไร?
What is the interest rate?
-ห้าเปอร์เซ็นต์ต่อปี
It is five percent per annum / year.
-ท่านจะคืนเงินนี้ให้เราเมื่อไหร่?
When will you repay us?
-จะคืนท่านปลายปีนี้
I will repay you at the end of this year.
36. AT THE BANK (ในธนาคาร)
-ฉันตั้งใจจะฝากเงินในธนาคาร
I intend to deposit this money in your bank.
-อัตราดอกเบี้ยกระแสรายวันเท่าไร?
What is the rate of interest on current accounts?
-อัตราดอกเบี้ยส าหรับฝากประจำเท่าไร?
What is the interest rate on fixed deposits?
-โปรดเซ็นที่นี่
Please sign here.
-ฉันต้องการจะถอนเงิน
I want to draw out my money.
-ถอนเงินบอกล่วงหน้าสองเดือน
If you wish to draw out your money, you must let us know two months in advance.
-ธนาคารปิดกี่โมง
What time the bank close?
37. IN A CLOTHING STORE (ในร้านเสื้อผ้า)
-ต้องการเสื้อผ้าที่ตัดเสร็จแล้ว
I want to buy a ready-made suit.
-กางเกงตัวนี้ยาวเกินไป
These trousers are too long.
-ที่เอวกว้างเกินไป
They are too wide at the waist.
-ท่านทำให้เสร็จในสามวันได้ไหม?
Can you finish it in three days?
37. IN A CLOTHING STORE (ในร้านเสื้อผ้า)
-ที่แขนยาวเกินไป
The sleeves are too long.
-ที่หัวไหล่คับเกินไป
It is too tight at the shoulders.
-ท่านจะแล้วเสร็จเมื่อไร?
When you can have it ready? / when my clothes will be finished?
-วันพฤหัสบดีหน้า
Next Thursday.
-กระดุมนี้ใหญ่เกินไป
This button is too big.
38. BUSINESS (เกี่ยวกับกิจการต่างๆ)
-ท่านได้รับใบสั่งนี้เมื่อไหร่
When did you receive this order?
-เมื่อสองสามวันมานี้
Only a few days ago.
-ฉันจ่ายเงินล่วงหน้าไปสองพันบาท
I have paid two thousand in advance.
-การจ่ายเงินจะถึงกำหนดในวันศุกร์
The payment is due on Friday.
-ร้านของท่านมีประกันไฟหรือเปล่า?
Does your shop have any fire insurance?
Have you insured your shop against fire?
38. BUSINESS (เกี่ยวกับกิจการต่างๆ)
-อัตราค่าประกันเท่าไหร่?
What is the rate for insurance?
-ฉันจะจ่ายเงินได้อย่างไร?
How to pay the money?
-ท่านวางมัดจำห้าเปอร์เซ็นต์
You must deposit five percent.
-ราคาขายส่งถูกกว่าขายปลีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์
The wholesale price is cheaper than the retail price twenty percent.
-จะมีการประชุมที่ไหน?
Where will the meeting take place?
-เขาอยู่ในห้องผู้จัดการ
He is in the manager’s room.
-ฉันจ่ายเงินให้ท่านด้วยเช็คได้ไหม?
Can I pay you by cheque?
-ฉันอยากได้เงินสดมากกว่า
I rather prefer cash.
-เขาเป็นลูกค้าของเรามาหลายปี
He has been our customer for years.
-ฉันจะไปขึ้นเช็ค
I will go to cash the cheque.
-โปรดทอนเงินให้ฉันห้าร้อยบาท
Please give me five hundred baht change.
-บริษัทนี้เป็นบริษัทที่เก่าแก่
This is an old company.
39. WAR & PEACE (เกี่ยวกับสงครามและสันติสุข)
-จะมีสงครามอีกไหม?
Is there any war?
-ท่านคิดเกี่ยวกับสงครามเป็นอย่างไร?
What do you think about war?
-ชาวโลกต้องการสันติภาพ
All the world prefers peace.
-ฝ่ายไหนเสียเปรียบ
Which side is disadvantaged? / Which side is handicapped?
-ใครเป็นผู้ก่อให้เกิดสงคราม?
Who is stirring up a war?
-สงครามโลกครั้งครั้งที่สามจะเกิดเมื่อไหร่?
When will the third world war occur? / When will the third world war happen?
/ When will the third world war break out?
-คาดว่าในห้าปีไม่มีสงคราม
There will be no war in the next five years. / I believe that no war in the next five years.
-สงครามจะเลิกแล้ว
War is about obsolete.
-มาคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า
Let’s talk about another subject. Let’s move to another topic.
39. WAR & PEACE (เกี่ยวกับสงครามและสันติสุข)
-มีเรื่องอะไรจะคุย
What’s an interesting one?
40. PAYING A VISIT (การเยี่ยมเยียน)
-ดร. วาทิต อยู่ไหม?
Is Dr. Wathit at home?
-เปล่าท่านไม่อยู่
No, she’s not here.
-แล้วสามีเธอล่ะ
How about her husband?
-ท่านอยู่
He is here.
-ถ้าท่านไม่ติดธุระจะขอพบหน่อย
If he’s not busy, I would like to see him.
-เชิญมาข้างใน
Please come in.
-เชิญนั่ง
Please take a seat. / Sit down please.
-ท่านชื่ออะไร?
What’s your name please?
-ฉันชื่อโรส
I am Rose. / My name is Rose.
-ท่านสบายดีหรือ?
Are you quite well, Dr Sakol?
-สบายดีครับ
Very well, thank you.
-ท่านมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?
When did you arrive here?
-เมื่อคืนนี้
Last night.
-เมื่อเช้าวานนี้
Yesterday morning.
40. PAYING A VISIT (การเยี่ยมเยียน)
-ท่านมาโดยรถยนต์หรือเครื่องบิน
Did you come by car or by plane?
-โดยเครื่องบิน
By plane
-ภรรยาของท่านมาด้วยหรือเปล่า?
Did your wife come with you?
-เธอไม่ได้มา
No, she did not come with me.
-ท่านพักอยู่ที่ไหน?
Where are you staying now?
-ฉันพักที่โรงแรม
I am staying in a hotel.
-โรงแรมชื่ออะไร?
What is the name of the hotel?
-โรงแรมเฟิร์ท
It is First Hotel.
-มันไกลจากที่นี่ไม๊?
How far is it from here?
-ประมาณ สิบกิโล
It is about ten kilometers.
-ท่านมาที่นี่ช้าเกินไป
You have come too late.
-ภรรยาของผมออกไปข้างนอก
My wife has gone out.
-ไม่เป็นไรหรอก
That is all right.
-ฮัลโหล เพื่อนซี้
Hello! my old chap!
-สบายดีหรือ?
How are you? / How are you doing?
-สบายดีเช่นเคย
Quite well, as usual.
40. PAYING A VISIT (การเยี่ยมเยียน)
-ไม่เห็นกันมาตั้งเป็นปีแล้ว
I haven’t seen you for one year.
-ฉันไปเยี่ยมเมื่อเร็วๆนี้
I called on you recently,
-แต่ท่านไม่อยู่
But you were not at home.
41. PAYING A VISIT FOR A PATIENT (การเยี่ยมผู้ป่วยเจ็บ)
-ท่านค่อยยังชั่วไม๊?
Are you better? ….. ตามด้วยชื่อคนไข้
-จ้ะ ฉันค่อยยังชั่วมากแล้ว ขอบคุณ
I’m much better, thank you.
-ท่านเป็นอะไรไป?
What was the matter with you?/ What’s wrong with you?
-ฉันปวดศีรษะ
I had a headache. / I’ve got a headache.
-อ้อ! เมื่อวานนี้ท่านไม่ได้ไปทำงาน
Oh! You’re not at your office yesterday right.
-ฉันป่วยมากเมื่อวานนี้
I was very ill yesterday. / I got sick yesterday.
41. PAYING A VISIT FOR A PATIENT
(การเยี่ยมผู้ป่วยเจ็บ)
-ฉันเจ็บคอและไอ
I had a sore throat and a cough.
-ท่านควรจะพักผ่อน ดีแล้ว
You should take a rest, good for you.
-แพทย์แนะน าให้นอนพัก ไม่ต้องลุกขึ้นทำอะไร
My doctor doesn’t allow me to get up.
-หมอพูดว่าอย่างไร?
What did your doctor say?
-ท่านบอกว่าเมื่อวานซืนฉันกินมากไป
The doctor said I ate too much the day before yesterday. (the day before yesterday แปลว่า เมื่อวานซืน)
-ท่านปวดท้องหรือไม่?
Do you have any a stomachache?
-เปล่าฉันปวดฟัน
No, I got a toothache. / No, I have a toothache.
-ท่านควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละสองครั้ง
You should brush your teeth at least twice a day?
41. PAYING A VISIT FOR A PATIENT (การเยี่ยมผู้ป่วยเจ็บ)
-ท่านเป็นไข้หรือไม่?
Do you have any fever? / Have you got a fever?
-ใช่ ฉันคิดว่าฉันเป็นมาลาเรีย
Yes, I think it is malaria.
-ไข้ขึ้นเท่าไหร่?
What’s is your temperature?
-หมอบอกว่าไข้ขึ้น 40 องศาเซลเซียส
The doctor said my temperature was forty degree Celsius.
-ฉันหวังว่าท่านคงจะดีขึ้นเร็วๆนี้
I hope you will be better soon.
-ขอบคุณ ฉันก็หวังจะเป็นเช่นนั้น
Thank you , I hope so.
42. QUESTION FOR RENTING (เกี่ยวกับการเช่าที่อยู่อาศัย)
-มีกี่ห้องนอนใน apartment ของท่าน
How many rooms in your apartment?
-มีห้องน ้ากี่ห้องใน apartment ของท่าน
How many bathrooms in your apartment?
-คุณมีห้องและห้องน ้ากี่ห้อง?
How many rooms/bathrooms do you have?
42. QUESTION FOR RENTING (เกี่ยวกับการเช่าที่อยู่อาศัย)
-วันที่ครบกำหนดเช่าวันไหน?
When the rent due?
-มันเริ่มในวันที่ 1 ของทุกๆเดือน
It’s on the first of every month.
-อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์หรือเปล่า?
Do you allow pet?
-อนุญาตให้ดูแลเด็กหรือเปล่า?
Do you allow kids?
-เลี้ยงสัตว์ได้หรือเปล่า?
Are pets allowed?
-ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์
No, pets aren’t allowed.
-เพราะว่าฉันแพ้แมว
Because I’m allergic to cats.
-มีที่จอดรถกี่ที่?
How many parking spaces do you have?
-อนุญาตให้ทำอาหารหรือเปล่า?
Am I / Are we allowed to cook?
-จัดงานปาร์ตี้ได้ไม๊?
Can I have parties?
-ขออนุญาตจัดงานปาร์ตี้ได้ไม๊?
Am I allowed to have parties?
-มีระเบียบอะไรบ้างเกี่ยวกับญาติที่มาเยี่ยม?
What are your rules on visitors?
-มีสิ่งอ านวยประโยชน์มากน้อยเพียงใด?
How much are the utilities?
42. QUESTION FOR RENTING (เกี่ยวกับการเช่าที่อยู่อาศัย)
-มีสิ่งอ านวยประโยชน์อะไรบ้าง?
What does the utilities include? (utilities จะหมายถึงสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น รถเมล์ รถราง รถไฟ โทรศัพท์ ไฟฟ้า ฯลฯ)
-apartment นี้ปลูกสร้างมานานแค่ไหนแล้ว
How old is the apartment?
-พรมที่ใช้อยู่ใช้มานานแค่ไหน?
How old is the carpet?
-ใน apartment มีเฟอนิเจอร์ให้ด้วยหรือไม่?
Is the apartment furnished or unfurnished? (ถ้า unfurnished แสดงว่า empty room คือห้องว่างเปล่า)
-คุณมีสิ่งอ านวยความสะดวกอะไรบ้าง?
What kinds of facilities do you have?
-ต่อเน็ตได้หรือเปล่า?
Is there internet connection?
-จะต้องวางเงินล่วงหน้าไว้เท่าไหร่?
How much is the deposit?
-ฉันเอาเพื่อนมาอยู่ได้ไหม?
Can I have another roommate?
42. QUESTION FOR RENTING (เกี่ยวกับการเช่าที่อยู่อาศัย
-ฉันเอาคนมาอยู่ด้วยได้กี่คน?
How many people can I live here?
-apartment ของท่านตั้งอยู่ที่ไหน?
What is the apartment located?
-ช่วยบอกทิศทางไปยังที่อยู่ของท่าน?
Can you give me direction to your place?
-กี่โมงล่ะที่ท่านจะสะดวก?
What time are you available? / When are you available?
43. GENERAL PHRASES (คำง่ายๆที่ควรรู้)
-ฉันไม่ทราบ
I don’t know.
-เขาแกล้งทำ
He/She does it on purpose.
-ฉันไม่รู้แน่
I don’t know exactly.
-อย่าเอาใจใส่เขาเลย
Don’t mind how he/she is.
-คุณรู้ไหม?
Do you know?
-นั่นนะถูกแล้วใช่ไหม?
Is that right?
-ไม่ใช่ฉัน
It is not me.
-ท่านถูก
You are right.
-ท่านผิด
You are wrong.
43. GENERAL PHRASES (คำง่ายๆที่ควรรู้)
-ล้อเล่นน่า
Just having some fun with you.
-โธ่! เหลวไหล
Oh! Nonsense!
-ดูนี้สิ
Look here!
-ไม่ใช่ความผิดของฉัน
It is not my fault.
-คอยสักครู่
Just a moment / wait a minute
-ท่านพูดว่าอะไร?
What did you say?
-พูดใหม่อีกครั้ง
Repeat it again please. / Please say it again.
-ฉันไม่เข้าใจ
I don’t understand.
-ฉันไม่เคยพูดเช่นนั้นเลย
I have never spoken like that.
-ท่านไว้ใจเขาหรือ?
Can you trust in him/her?
-ท่านพูดภาษาอังกฤษได้ไหม?
Can you speak English?
-มีใครพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง?
Have anyone who can speak English?
-ทำไม่ไม่ตอบ
Why don’t you answer?
-ทำอย่างนี้ไม่ถูก
This way is not right.
-แน่นอน
Certainly.
-ฉันไม่กล้า
I cannot dare. / I dare not.
43. GENERAL PHRASES (คำง่ายๆที่ควรรู้)
-โปรดอย่าพูดเร็วนัก
Don’t speak so quick please.
-ฉันพูดได้บ้างเล็กน้อย
Yes, I can speak English just a little bit.
-มาเร็วๆนะ
Come quickly please.
-ค่อยๆไป
Go slowly.
-เร็วๆเข้า
Hurry up.
-มานี่สิ
Come here.
-รีบไปเลย
Go away quickly.
-อย่าคอยเลย
Don’t wait at all.
-ไม่เป็นไร
Never mind.
-ดีแล้ว
Good
-ดีเหมือนกัน
Good enough.
-ใช้ไม่ได้
Useless.
-ฉันชอบ
I like it.
-ฉันไม่ต้องการ
I don’t want it.
-ฉันไม่ชอบ
I don’t like it.
-จริงหรือ?
Really!
-เรื่องนี้ไม่จริง
It is not truth.
-กำลังทำอะไรอยู่?
= What are you doing?
43. GENERAL PHRASES (คำง่ายๆที่ควรรู้)
-ท่านรู้ได้อย่างไร?
How do you know?
-ท่านเคยเห็นเขาไหม?
Have you ever seen him?
-เขาเป็นคนที่น่าเคารพ
He is a respectable man.
-ฉันไม่รู้จักเขา
I don’t know him.
-พูดง่ายทำยาก
Easy to say but difficult to do.
-เมื่อตะกี้นี้เขาอยู่ที่นี่
He was here just a moment ago.
-ยังทำไม่เสร็จ
Not finished yet.
-ทำใหม่ทั้งหมดอีกที
Do it all over.
-ทำดีไม่ได้ (ทำกี่ครั้งก็ ห่วยแตก)
You can do but not well. /
Jack of all trades but master of none. / You are not behaving. / You are not interested on your job.
-ไม่เอาถ่าน
Good for nothing
-ท่านมีความเห็นอย่างไร?
What is your idea? / What is your opinion? / What do you think?
-ฉันลืมแล้ว
I have forgotten.
43. GENERAL PHRASES (คำง่ายๆที่ควรรู้)
-บ้านหลังนี้เป็นของท่านหรือ?
Is this your house?
44. คำศัพท์ทั่วๆไปที่ใช้ประกอบทำให้สนทนาง่ายขึ้น
TIME = เวลา :
-ปี
Year
-ปีนี้
This year
-ปีที่แล้ว
Last year
-ปีหน้า
Next year
-ต้นปี
Beginning of the year
-ปลายปี
End of the year
-กลางปี
Middle of the year
-ปีใหม่
New Year
-ทุกๆปี
Yearly
-หนึ่งร้อยปี
One century
-เดือน
Month
-หนึ่งเดือน
One month
-เดือนนี้
This month
-เดือนที่แล้ว
Last month
-เดือนหน้า
Next month
-ตลอดปี
All the year round
44. คำศัพท์ทั่วๆไปที่ใช้ประกอบทำให้สนทนาง่ายขึ้น
TIME = เวลา :
-ครึ่งเดือน
half a month
-ทุกๆเดือน
Monthly
-ต้นเดือน
Beginning of a month
-ปลายเดือน
End of a month
-อาทิตย์
Week
-หนึ่งอาทิตย์
One week
-สองอาทิตย์ (ระยะเวลา 14 คืนและ 14 วัน)
A fortnight
-อาทิตย์นี้
This week
-อาทิตย์ที่แล้ว
Last week
-อาทิตย์หน้า
Next week
-วัน
Day
-หนึ่งวัน
One day
-ทุกๆวัน (รายวัน)
Daily
-ทุกๆวัน
Every day
-ตลอดวัน
Whole day
-ครึ่งวัน
Half day
-วันนี้
Today
44. คำศัพท์ทั่วๆไปที่ใช้ประกอบทำให้สนทนาง่ายขึ้น
TIME = เวลา :
-พรุ่งนี้
Tomorrow
-เมื่อวานนี้
Yesterday
-วันเว้นวัน
Every other day
-คอยสักสองสามวัน
Wait a few days
-เมื่อสามวันมาแล้ว
Three days ago
-วันนี้อาทิตย์หน้า
This day next week
-วันหน้า
The next day
-กลางวันแสกๆ
In broad daylight
-เมื่อตอนเย็นที่แล้ว
Last evening
-คืนพรุ่งนี้
Tomorrow night
-เมื่อคืนนี้
Last night
-วันพระ
Buddhist day
-วันคริสต์มาส
Christmas Day
-ปีใหม่
New Year
-เที่ยง
Noon
-บ่าย
Afternoon
-เช้า
Morning
-เย็น
Evening
44. คำศัพท์ทั่วๆไปที่ใช้ประกอบทำให้สนทนาง่ายขึ้น
TIME = เวลา :
-กลางคืน
Night
-คืนหนึ่ง
One night
-ห้าวินาที
Five seconds
-หนึ่งชั่วโมง
One hour / An hour
-สิบห้านาที
Quarter of an hour / fifteen minutes
ญาติ = RELATIONS :
-พ่อ
Father
-แม่
Mother
-ตา
Grandfather (mother’s side)
-ปู่
Grandfather (father’s side)
-ยาย
Grandmother (mother’s side)
-ย่า
Grandmother (father’s side)
-พี่ชาย
Brother (elder)
-น้องชาย
Brother (younger)
-พี่สาว
Sister (elder)
-น้องสาว
Sister (younger)
ญาติ = RELATIONS :
-ลุง
Uncle (elder brother of one’s father)
-อา
Uncle (younger brother of one’s father)
-ป้า
Aunt (elder sister of one’s father)
-อา
Aunt (younger sister of one’s father)
-สามี / ผัว
Husband
-ภรรยา / เมีย
Wife
-ลูกพี่ลูกน้อง
Cousin
-ลูกหัวปี
Eldest son
-ลูกคนสุดท้อง
Youngest son
-เด็ก
Children
-หลาน
Nephew
-ลูกเขย
Son-in-law
-ลูกสะไภ้
daughter-in-law
-ลูกเลี้ยง(ชาย)
Adopted son
-ลูกเลี้ยง(หญิง)
Adopted daughter
ญาติ = RELATIONS :
-หลานสาว
Granddaughter
-หลายชาย
Grandson
-ลูกกำพร้า
Orphan
-พ่อตา
Father-in-law
-แม่ยาย
Mother-in-law
-ทายาท
Heir
-เพื่อน
Friend
-เพื่อนสนิท
Intimate friend
-นายผู้ชาย
Master
-นายผู้หญิง
Mistress
-คนใช้ผู้ชาย
Man-servant
-คนใช้ผู้หญิง
Maid-servant
-เจ้าของบ้าน
Landlord
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>THE END >>>>>>>>>>>>>>>>>