ฟิตภาษาอังกฤษ กับเว็บท่องเที่ยวเมืองไทย
สวัสดีครับ
ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนประจำเว็บนี้คงสังเกตได้ไม่ยากว่า ผมพยายามหาไอ้นั่น ไอ้นี่ ไอ้โน่น มาเป็นอุปกรณ์ให้ท่านฟิตภาษาอังกฤษ บางท่านอาจจะรู้สึกว่า ต้องเป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษ อ่านคล่อง ฟังคล่องแล้ว จึงสามารถเรียนจากเว็บไซต์ยาก ๆ ที่ผมชักชวน ถ้าทักษะภาษาอังกฤษยังอ่อน ๆ คงเรียนได้ลำบาก
ด้วยความเคารพครับ นี่คงเป็นสไตล์ของผมที่บางท่านอาจจะไม่ค่อยชอบ ซึ่งทำให้ผมเป็นครูที่ดีไม่ได้ แต่จากประสบการณ์การฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่ผ่านมาในชีวิต ทำให้ผมได้ข้อสรุปว่า การฝึกภาษาอังกฤษก็เหมือนการเดินทางไกลด้วยเท้าไปยังเป้าหมายข้างหน้า เส้นทางที่เดินไปมีทั้งราบเรียบเดินง่ายและขรุขระเดินยาก แต่ถ้าเราอดทนเดินไม่หยุด ยิ่งเดินเราย่อมยิ่งใกล้เป้าหมาย และระหว่างทางที่เดินไปเราก็ชมนกชมไม้ได้แม้ยังไปไม่ถึง
สไตล์การฝึกภาษาอังกฤษแบบนี้บางคนอาจจะไม่ชอบ ซึ่งไม่ต่างจากคนถูกบังคับให้เดินทางไกล เขาจะมีคำถาม นั่น นี่ โน่น ตลอดเวลา ทั้งก่อนเดินทางและกำลังเดินทาง เขาไม่ยอมเริ่มเดินทาง หรือเมื่อเริ่มเดินแล้วก็เลิกเดินได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าเป็น trainer พาคนเดิน ผมก็คงเป็น trainer ที่โหดเพราะไม่ค่อยรอมชอมกับคนที่ขี้เกียจเดิน ผมเชื่อว่าทุกอย่างต้องมีก้าวแรก แม้ก้าวแรกอาจจะก้าวยาก แต่เราก็ควรก้าวถ้าเราหวังก้าวไกล ตอนเดินทางแม้จะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แข้งขาถลอกปอกเปิกหนามเกี่ยวเท้าช้ำ แต่ถ้ารักจะเดิน – รักจะฝึก ใจหนักและแข็งเหมือนหิน เรื่องอย่างนี้ขี้ปะติ๋วมาก แต่ถ้าใจนิ่มเหมือนตะโก้ เรื่องนี้ก็ยาก ทำไม่ได้ ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำ
อย่างเช่นวันนี้ ผมนึกได้ว่า ในอีกไม่กี่วันประเทศไทยก็จะเข้ายุคเออีซีแล้ว นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ นักเดินทาง นักศึกษา และใครต่อใครจากหลายประเทศ ทั้งในและนอกเขตอาเซียนก็จะเดินทางมาเมืองไทยมากขึ้น และก็คงมีโอกาสมากขึ้นในฐานะผู้ต้อนรับแขก ไม่ว่าจะเป็นผู้มาเยือนหน่วยงานของเรา, ลูกค้า, เพื่อนฝูง, ชาวต่างชาติที่รู้จักผ่าน social media, ฯลฯ เราจะต้องพาเขาเที่ยวที่นี่ที่นั่นในเมืองไทยบ้าง การเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้ให้สามารถเป็นไกด์จำเป็น น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
ท่านลองสมมุติว่า พรุ่งนี้ท่านต้องพาแขกไปเที่ยวที่ใดสักแห่งซึ่งท่านเคยไปมาแล้ว และต้องเป็นไกด์อธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ท่านพอจะกล้อมแกล้มทำไหวไหม? วิธีเตรียมตัวที่ง่ายที่สุดก็คือ (1)ท่านเข้าไปที่กูเกิ้ล พิมพ์ชื่อสถานที่ท่องเที่ยวนั้นเป็นภาษาอังกฤษลงไป แล้วก็ (2)ดูภาพพร้อมอ่านบทความที่มีคนเขียนไว้เกี่ยวกับสถานที่นั้น (3)เก็บข้อมูล ประโยค คำศัพท์ ของสถานที่นั้น ที่คิดว่าพอจะเอามาใช้ได้ในฐานะไกด์จำเป็น
ผมได้รวบรวมเว็บไซต์ซึ่งมีข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทยเป็นภาษาอังกฤษ ข้างล่างนี้ครับ
[1] เว็บเที่ยวทั่วเมืองไทย
- http://www.tourismthailand.org/
- http://www.thaiwaysmagazine.com/
- http://en.wikipedia.org/wiki/Tourism_in_Thailand (ดูใต้หัวข้อ Major destinations--เมื่อคลิกชื่อจังหวัดแล้ว ให้เลื่อนลงไปดูใต้หัวข้อ Sights--และ List of Buddhist temples in Thailand--คลิกลิงก์ชื่อวัด)
- http://www.tatnews.org/
- http://www.into-asia.com/thailand/
- http://www.touristclick.com/Asia_Thailand.html
- http://www.gothailand.com/
- http://www.visit-mekong.com/thailand/index.htm
- https://www.travelthailand.com/
- http://www.guidetothai.com/
- http://www.naturethai.net/
- http://www.travelatthai.com/
[2] เว็บเที่ยวเฉพาะบางจังหวัด
- http://www.gobangkok.com/
- http://www.into-asia.com/bangkok/
- http://www.gophuket.com/
- http://www.gokrabi.com/
- http://www.gokohsamui.com/
- http://www.pattayaholiday.biz/
- http://www.chiangmaisawasdee.com/
- http://www.onlychaam.com/
- http://www.sanctuaryoftruth.com/
ก่อนที่จะเริ่มเขียนบทความนี้ ผมใช้เวลามากพอสมควรลุยเข้าไปอ่านข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเว็บไซต์ข้างบนนี้ และได้ข้อสรุปอย่างนี้ครับ
[1] หลายเว็บเน้นการโฆษณาธุรกิจของเขา เช่น บริษัททัวร์ โรงแรม ร้านอาหาร เราก็เลือกอ่านเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเขาเขียนไว้ก็แล้วกันครับ
[2] ภาษาอังกฤษในเว็บพวกนี้ก็มีหลายระดับ มีทั้งเขียนได้น่าอ่านและน่าเบื่อ มีเยอะให้เลือกครับ
พออ่านไปได้พักใหญ่จึงได้รู้สึกว่า ภาษาอังกฤษสำหรับการท่องเที่ยวมันก็มีสไตล์ของมัน แต่เราก็สามารถมีสไตล์การพาเที่ยวของเราซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร และการศึกษาภาษาอังกฤษกับเว็บพวกนี้ นอกจากได้เก็บข้อมูลเพื่อการเป็นไกด์สมัครเล่นแล้ว ยังได้ฝึก reading skill และได้รับความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองไทยอีกด้วย
ผมขอชวนท่านลุยเข้าไปอ่านดูสักพัก ถ้าเว็บไหนอ่านยากก็ลองเปลี่ยนไปเว็บอื่น ไม่ต้อง serious ครับ
ถ้าเราเรียนภาษาอังกฤษด้วยใจที่เปิดกว้างและร่าเริง เราสามารถชมนกชมไม้ได้ตลอดเวลา
คนที่มีดอกไม้อยู่ในใจ แม้ไม่มีดอกไม้วางอยู่ตรงหน้าก็ร่าเริงได้เป็นนิจ
พิพัฒน์