คำแนะนำเบื้องต้น ในการใช้ชุดการฝึกภาษาอังกฤษ ที่โหลดฟรีได้จากเน็ต
สวัสดีครับ
ถ้าท่านรักการฝึกภาษาอังกฤษและใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งฝึกฝนพัฒนาทักษะมาเรื่อย ๆ ท่านจะเห็นได้ไม่ยากว่า ทุกวันนี้ทั้งเว็บไซต์ที่มีให้เข้าไปศึกษา online และไฟล์ที่สามารถดาวน์โหลดไปศึกษา offline มีการพัฒนาขึ้นมาก ดูเหมือนว่าเขาพยายามทำเพื่อให้คนศึกษา (1)ใช้ความพยายามน้อยที่สุด (2)รู้สึกเพลิดเพลินในการศึกษา หรือเบื่อน้อยที่สุด (3)เรียนได้ผลมาก และ (4)เรียนได้ผลเร็ว
♦ผมขอพูดเกี่ยวกับการศึกษา online ผ่านเว็บไซต์ก่อน
ในเว็บ www.e4thai.com นี้ ผมได้คัดเลือกเว็บหรือลิงค์เพื่อการฝึกภาษาอังกฤษไว้ที่นี่
เว็บภาษาไทย:
- รวมเว็บไทยสอนภาษาอังกฤษ ที่ผมคัดเลือกแล้ว
- เว็บภาษาไทย เข้าไปเรียนภาษาอังกฤษ
- เรียนภาษาอังกฤษกับ Facebook ไทย
- ตัวอย่าง blogspot.com สอนภาษาอังกฤษ
- รวมเว็บสอนภาษาอังกฤษฟรีของทางราชการ
เว็บภาษาอังกฤษ:
และก็ได้แนะนำเคล็ดในการ Search เว็บที่ต้องการ ที่ลิงค์นี้:
♦ส่วนเรื่องไฟล์เพื่อดาวน์โหลดไปศึกษาแบบไม่ต้องต่อเน็ต หรือ offline ก็ได้รวบรวมไว้ที่นี่:
- รวม ดาวน์โหลด ตำราภาษาไทย ใช้เรียนภาษาอังกฤษ (คนไทยแต่ง)
- ดาวน์โหลดหนังสืออ่านนอกเวลากว่า 150 เล่ม
- รวมดาวน์โหลด eBook, mp3, โปรแกรม ภาษาอังกฤษ ซึ่งใช้ในการฝึกภาษาอังกฤษ
- และ Download Sites
♦และวันนี้ผมขอแนะนำเพิ่มอีกนิดหน่อย เกี่ยวกับไฟล์ฝึกภาษาอังกฤษที่ท่านอาจจะไปเจอในเน็ต ดังนี้ครับ
[1] หลายบริษัทที่ผลิตสื่อการสอนภาษาอังกฤษเหล่านี้ เขาทำเป็นชุดที่มีทุกอย่างในนั้น ให้ผู้เรียนศึกษาด้วยตัวเอง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะมีไฟล์ pdf เป็น e-book มาพร้อมกับไฟล์ audio MP3, หรือบางชุดอาจจะมีไฟล์คลิป video และไฟล์โปรแกรมประเภท .exe, ISO, nrg ให้มาด้วย แต่ถ้าท่านได้มา โดยมีคนนำไป upload ไว้ในเว็บ มันอาจจะไม่สมบูรณ์ เช่น มี e-book แต่ขาด MP3 เป็นต้น อันนี้เป็นธรรมดาครับ เพราะของฟรี ท่านอาจจะต้องหาเพิ่มเติมจากที่อื่น เช่น ที่ผมหาบ่อย ๆ ก็คือจาก
[2] ไฟล์ชุดที่เขาทำขึ้นมานี้ มันอาจจะมียาก-ง่าย หลายระดับอยู่ในชุดเดียวกัน โดยแบ่งเป็น grade เช่น grade kindergarten(อนุบาล) ถึง grade 12, หรือ level ซึ่งอาจจะมีตั้งแต่ beginner ไปจนถึง advanced
ในข้อนี้ผมขอแนะว่า ท่านอย่าไปยึดมั่นถือมั่นตายตัวว่า ตัวเองอยู่ที่ grade นั้น ๆ หรือ level นั้น ๆ อย่างเช่น reading skill ของท่านอาจจะอยู่ในระดับ advanced แต่ listening skill อาจจะอยู่แค่ระดับ elementary เพราะจากที่เรียนมาในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย เราอ่านมากแต่ฟังน้อย เพราะฉะนั้น แม้เราจะเอาสื่อการเรียนที่ใช้สำหรับสอน listening สำหรับเด็ก grade ชั้นประถมมาฝึก ก็ไม่เป็นการเสียหน้าหรือเสียเกียรติโดยประการใด ๆ ทั้งสิ้น
ในทำนองตรงกันข้าม เราอาจจะรู้สึกว่า ภาษาอังกฤษของเรายังอ่อนแอ พอไปเจอ e-book เรียนภาษาอังกฤษระดับสูง ๆ ก็เลยขยาดไม่กล้าคลิกเข้าไปดู คำแนะนำของผมก็เหมือนเดิมครับ คืออย่าไปยึดมั่นถือมั่นปานนั้นเลย วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องคือ เมื่อได้ e-book ที่หน้าปกและชื่อเรื่องอาจจะดูน่ากลัว เช่นเล่มนี้ ซึ่งเป็นระดับ upper-intermediate
ก็ให้ทำใจดีสู้เสือ และค่อย ๆ คลิกเข้าไปดูทีละส่วน เช่นเล่มนี้พอแยกดูเป็นส่วน ๆ ก็จะเห็นดังนี้ (หนังสือพวกนี้ หลาย section เป็นภาคผนวกอยู่ท้ายเล่ม เราอาจจะคลิกหรือพลิกไปไม่ถึง)
section ที่อยู่ท้ายเล่ม
และเราอาจจะพบว่า ในหนังสือหลายร้อยหน้านั้น อาจจะมีสัก 10 หน้า ที่ถูกใจเราที่สุด หรือจากทั้งหมด 20 บทอาจจะมีที่ตรงเป๊ะกับที่เราต้องการอยู่ 1 บท ซึ่งเราสามารถนำไปใช้เรียนหรือท่องจำได้ทันที หรือครูอาจารย์อาจจะหยิบไปใช้สอนได้ทันที โดยมิต้องนำพาว่า มันจะเป็น Grade หรือ Level อะไร อย่างนี้เป็นต้น
[3] ผมขอแนะสักนิดในการคลิกเข้าไปดูโครงสร้างหรือเนื้อหาของ e-book เผื่อมีบางท่านที่ยังไม่คุ้นเคยกับไฟล์ pdf e-book
คือว่า ถ้าเป็นหนังสือธรรมดา ตอนดูเนื้อหาก็มี 2 แห่งให้พลิกเข้าไปดู คือ สารบัญ หรือ Contents ซึ่งอยู่ในหน้าแรก ๆ และ ดัชนี หรือ Index ซึ่งมักอยู่ท้ายเล่ม
แต่ถ้าเป็น e-book มันมีอีกอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า bookmarks(ซึ่งมักเป็นหัวข้อ และหรือหัวข้อย่อย ที่เมื่อคลิกแล้ว จะนำเราไปยังหน้านั้นทันที), โดย e-book เขาอาจจะทำ bookmark ไว้แล้ว หรืออาจจะไม่ได้ทำก็ได้, และถ้าทำไว้แล้ว พอคลิกเปิดไฟล์ขึ้นมา มันอาจจะโชว์ bookmark ทันที ที่คอลัมน์ซ้ายมือของไฟล์ pdf หรืออาจจะไม่โชว์ก็ได้ เพราะฉะนั้น ถ้ามันไม่โชว์ ท่านต้องเช็กดู โดยคลิกตามรูปข้างล่างนี้
[4] อย่างที่เรียนแล้วว่า ตำราพวกนี้ เขามักทำเป็นแบบ self-study คือให้ผู้เรียนไม่ต้องพึ่งครู เพราะฉะนั้น เมื่อมีแบบฝึกหัดให้ทำท้ายบทแต่ละบท ก็มักจะมีเฉลยอยู่ท้ายเล่ม, หรือเมื่อมีไฟล์ MP3 ให้คลิกฟัง ก็มักจะมี audioscript อยู่ท้ายเล่ม, นอกจากนี้ ยังอาจมีการรวบรวมคำศัพท์ของแต่ละบท หรือของทั้งเล่ม ในหัวข้อ word list หรือ vocabulary หรือ glossary ไว้ที่ท้ายเล่มเช่นเดียวกัน และก็อาจจะมีภาคผนวกต่าง ๆ ซึ่งน่าสนใจ และไม่ยาวเกินไป รวมไว้ที่ท้ายเล่มอีกนั่นแหละ ผมเองเมื่อเจอหนังสือพวกนี้ทีไร ชอบคลิกไปดูที่ท้ายเล่ม และบ่อยครั้งที่ได้ของดี ๆ มาฝากท่านผู้อ่าน (ก็เราไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งเล่มนี่ครับ)
สำหรับวันนี้ ผมก็ขอนำไฟล์ชุด FLASH on English ระดับ Upper Intermediate มาฝากท่าน อันที่จริงมันมีทั้งหมด 4 level ตั้งแต่Elementary ถึง Upper Intermediate แต่ผมได้มาเฉพาะ level สุดท้ายเท่านั้น แต่ก็นำมาฝากเพราะท่านอาจจะนำเอาไปคุ้ย ๆ ดู และพบบางหน้าที่ใช้งานได้ อย่างที่ผมแนะ
e-book
MP3
พิพัฒน์