ควรกลับไปอ่านนิทานนิยายที่ไม่เคยอ่านบ้าง

reading flying

สวัสดีครับ

       ในฐานะ webmaster ของเว็บ e4thai.com ซึ่งอยากจะให้คนไทยเก่งภาษาอังกฤษ  เรื่องที่ผมต้องยอมรับกับตัวเองบ่อย ๆ ก็คือ ระดับทักษะภาษาอังกฤษทั่วไปของเด็กไทยและคนไทยจำนวนไม่น้อย ยังไม่ถึงขั้นใช้งานได้ ผมมานั่งถามตัวเองบ่อย ๆ ว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่เรียนภาษาอังกฤษมาเกือบ 20 ปีกว่าจะจบมหาวิทยาลัย หลายคนมักจะมีคำตอบสำเร็จรูปว่า ครูเน้นแต่แกรมมาร์ เด็กไทย(และผู้ใหญ่ไทย)ก็เลยไม่กล้าพูดและพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะได้  แต่พูดอย่างนี้หมายความว่า คนไทยอ่านภาษาอังกฤษเก่งหรือ? เท่าที่เห็นก็ยังไม่ค่อยเก่งหรือที่อ่านแทบไม่ได้ก็เยอะ ทำไปทำมาอะไรล่ะคือสาเหตุที่คนไทยภาษาอังกฤษแย่?

       ถ้าว่ากันเฉพาะเรื่องอ่าน   ผมขอถามหน่อยว่า ตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาล ๑ จนจบมหาวิทยาลัย ปี ๔ ในห้วงเวลา 18 ปีนี้ คนไทยอ่านหนังสือภาษาอังกฤษจบเล่มจริง ๆ สักกี่เล่ม และแต่ละเล่มที่อ่านจบนั้นมีกี่หน้า นี่อาจจะเป็นคำตอบว่า ทำไมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยทั่วไปของคนไทยจึงอ่อน ศัพท์ก็รู้น้อย เดาประเด็นหรือจับใจความก็ทำไม่ค่อยเป็น

       หรือว่าปัญหาอยู่ที่เด็กมีกิจกรรมเยอะที่ต้องทำ ทั้งกิจกรรมในหลักสูตร กิจกรรมนอกหลักสูตร กิจกรรมกับเพื่อน กิจกรรมเสาร์-อาทิตย์ เวลาจะอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ(หรือหนังสือภาษาไทยก็เถอะ)จึงมีน้อยหรือมีน้อยมาก ทักษะในการอ่านภาษาอังกฤษ(รวมทั้งภาษาไทย)ก็เลยไม่ค่อยมี

       ถ้าท่านเป็นผู้ใหญ่และเผอิญได้มาอ่านจนถึงบรรทัดนี้  และโชคร้ายที่เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของตัวเองไม่ค่อยดี   ผมมีคำแนะนำว่า อย่าไปเสียดายหรือเสียใจกับอดีตที่แก้ไขไม่ได้เลยครับ   เรามาเริ่มต้นกันใหม่ ณ วันนี้ก็ยังไม่สาย  ผมพูดคำว่า “ยังไม่สาย” นี่เป็นคำจริงไม่ใช่คำให้กำลังใจ เพราะเราเริ่มสิ่งดี ๆ ได้ใหม่เสมอถ้าเรารักและกล้าที่จะเริ่ม แต่ถ้าเราเกลียดและกลัวที่จะเริ่ม เราก็ทำอะไรไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่มันทำได้

เริ่มยังไง?

       ในเรื่องของการอ่าน ผมพูดไว้บ่อยมากในเว็บนี้ว่า ให้เริ่มอ่านเรื่องง่าย ๆ เพื่อถมหลุมบ่อในอดีตให้เต็มก่อนตอกเสาเข็มสร้างตึก เพียงท่านพิมพ์คำว่า อ่านง่าย ที่ช่อง Search ของเว็บ ก็จะเจอเรื่องง่าย ๆ มากมายให้อ่าน คลิกดู

       ในบรรดาเรื่องง่าย ๆ นี้ สามารถแบ่งใหญ่ ๆ ได้ 2 อย่าง คือ ข่าวง่าย ๆ และ story ง่าย ๆ  และอาจจะเป็นไปได้ว่า ตอนนี้ท่านโตเป็นผู้ใหญ่ อารมณ์แบบเด็ก ๆ จึงตายไปนานแล้ว จะให้อ่านนิทานนิยายแบบเด็ก ๆ ก็ทนไม่ได้ นี่แสดงว่า เราใช้สมองซีกซ้ายด้านความคิดมากเกินไป และละเลยการใช้จินตนาการด้วยสมองซีกขวากับการอ่าน story  ละเลยตั้งแต่เด็กจนใช้มันไม่เป็น

       มีหนังสือดี ๆ มากมาย ประเภทนิทานนิยาย ที่กระตุ้นความคิดและจินตนาการ  บางเล่มดีมากจนนับถือกันว่าเป็นวรรณกรรมหรือเรื่องที่แต่งดี  และหากเราฝึกอ่านภาษาอังกฤษกับเรื่องเหล่านี้ นอกจากได้พัฒนา reading skill ยังได้จรรโลงจินตนาการอีกด้วย

หนังสืออะไรบ้างล่ะที่จะช่วยเราในเรื่องนี้?  ผมขอแนะนำดังนี้ครับ

ส่วน story ใหม่ ๆ ที่อ่านฟรีในเน็ต ก็มีเยอะ

       เมื่อเราเริ่มมาอ่านภาษาอังกฤษอีกครั้งโดยไม่มีภาษาไทยช่วย ถ้าเรารู้สึกอึดอัดติดขัดใจ ก็ขอให้เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเรามีสติ  ขันติ  และศรัทธา เราจะผ่านเรื่องยากไปสู่ความสำเร็จได้ โดยใจไม่เป็นทุกข์

พิพัฒน์

https://www.facebook.com/EnglishforThai