Google WWW Blog e4thai www.e4thai.com

เพราะมีอิทธิบาทไม่ครบ 4 ข้อ ความสำเร็จจึงขาด ๆ วิ่น ๆ

 

buddhadasa cartoon

สวัสดีครับ

            คุณธรรมข้อหนึ่งที่เราถูกสอนมาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม-มัธยม คืออิทธิบาทสี่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ถ้ามีอิทธิบาท 4 ทำอะไรก็สำเร็จทั้งนั้น

            ผมเข้าใจว่าใน 4 ตัวนี้ ถ้าถามให้อธิบายความหมาย เด็กไทยจะอธิบายคล่องเฉพาะ 2 ตัวแรก ส่วน 2 ตัวหลังจะอธิบายไม่คล่องนัก

            ในที่นี้ผมขอพูดทีละตัว โดยสรุปความหมายที่เจาะจงจริง ๆ

            ฉันทะ คือรักที่จะทำ

            วิริยะ คือขยันที่จะทำ

            จิตตะ คือมีสมาธิในการทำ

            วิมังสา คือ หาทางปรับปรุงวิธีทำ

            มีบางคนบอกว่า ถ้ามีความรักซะอย่างเดียว อย่างอื่นก็จะตามมา เมื่อก่อนผมก็เชื่ออย่างนี้ แต่ตอนนี้ชักจะค่อยไม่เชื่อ และได้ข้อสรุปว่าสาเหตุที่หลายคนฟิตภาษาอังกฤษไม่สำเร็จ ก็เพราะมีอิทธิบาทไม่ครบ 4 ข้อ

            คนบางคนยืนยันหนักแน่นว่าเขารักภาษาอังกฤษ แต่พอถึงเวลาศึกษาก็หยุดอยู่แค่นั้น ความรักหรือฉันทะของเขาแผ่วเบาเหลือเกิน ไม่ไหลต่อเป็นการลงมือทำ หรือแม้ลงมือทำ ก็หยุด-สะดุด-ชะงักได้อย่างง่ายดาย วิริยะของเขาผิวเผิน เจออุปสรรคก็ยอมแพ้ เจอปัญหาก็ถอดใจ

            ถัดไปก็คือจิตตะ เรื่องของใจที่หนักแน่น สงบ และว่องไว...

            บางคนมีฉันทะใจรักเต็มร้อย มีวิริยะอดทนเต็มล้าน แต่ไม่มีจิตตะ จึงทำให้ความรักและความอึดในการเรียนอังกฤษ เหมือนเรือรั่วรอวันล่ม เพราะแพ้ภัยที่เกิดจากใจตัวเอง

            ใช่! จิตตะแปลว่าสมาธิ คือตาเปิดกว้าง 100% เพื่อฝึกอ่าน หูเปิดกาง 100 % เพื่อฝึกฟัง ปากพร้อมที่จะฝึกพูด มือพร้อมที่จะฝึกเขียน ไม่วอกแวกแต่ตั้งมั่น

แต่จิตตะยังหมายรวมไปถึงใจที่รอได้ คอยได้ เมื่อผลสำเร็จยังไม่แสดงตัว ไม่บ่นออกเสียง ไม่บ่นในใจ ไม่รู้สึกว่าล้มเหลวเมื่อยังเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่รู้สึกท้อเมื่อเดินไปยังไม่ถึง

            ในขณะที่ผมชื่นชมเด็กไทยหลายคนซึ่งเรียนภาษาอังกฤษโดยมีฉันทะเต็มร้อย มีวิริยะเต็มล้าน แต่ก็รู้สึกเศร้าที่เห็นเขามีจิตตะไม่ถึงห้าสิบ

            จิตตะเป็นคุณภาพของใจที่ต้องฝึก แต่ที่มันฝึกยากเพราะเรายอมใจให้สังคมครอบงำมานาน เราทุกคนเกิดมามีใจเหมือนสิงโตที่หนักแน่น สงบ และนิ่งพร้อมตะครุบเหยื่อ แต่เราเชื่องเพราะสังคมเลี้ยงเราเหมือนแมว และเราก็เชื่อว่าเราเป็นแมวจริง ๆ ไม่สามารถทำอะไรที่สิงโตทำได้

            เรื่องสุดท้ายคือวิมังสา คือหาทางปรับปรุงวิธีเรียนให้ดีขึ้น เราต้องคิด-คิด-และคิดว่า มีวิธีใดที่เราจะเรียนได้ดีขึ้นภายใต้ข้อจำกัดสารพัดอย่าง เช่น ไม่มีครูคอยแนะ ไม่มีเพื่อนคอยเชียร์ ไม่มีคนให้ฝึกด้วย ไม่มีเวลาเหลือแหล่ให้เรียน ไม่มีพื้นแข็งแรงให้รื้อฟื้นได้รวดเร็ว และอีกสารพัดขาดแคลนที่ชวนให้ไม่อยากฝึก

            เราต้องมองให้ทะลุว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อลองทำก็จะเจอปัญหา แต่ถ้าเราพยายามใช้สมองซึ่งมีวิมังสาเป็นเซล ปัญหาจะกระตุ้นให้เราคิดต่อเพื่อหาทางออก ทั้งสามสิ่งนี้คือ (1)ปัญหา (2)คิดแก้ปัญหาเพื่อหาทางออก (3)เดินตามทางออกที่มองเห็น (ด้วยฉันทะ-วิริยะ-จิตตะ)   มักคลุมเครือและขัดข้องเมื่อเริ่มครั้งแรก ๆ  แต่เมื่อทำไม่หยุด ทางออกก็จะค่อย ๆ สว่างและกว้างขึ้น

            ผมขอให้ท่านที่รักจะได้รับประโยชน์จากภาษาอังกฤษ ใช้อิทธิบาทให้ครบสี่ตัว ทั้งฉันทะ-วิริยะ-จิตตะ-วิมังสา และผลในการเรียนภาษาอังกฤษของท่าน ก็จะมีครบทั้งความสำเร็จและความสุขดังที่หวัง

 

Source: อิทธิบาท ๔ โดยท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ

พิพัฒน์

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

Google
Search WWW Search Blog e4thai Search www.e4thai.com