การศึกษาภาษาอังกฤษโดยไม่มีครู ด้วยการอ่านหนังสือ
สวัสดีครับ
เรื่องที่ผมจะคุยด้วยต่อไปนี้อาจจะเป็นเรื่องที่สามัญมาก ซึ่งใคร ๆ ก็รู้จนไม่จำเป็นต้องนำมาพูด แต่ผมก็อยากพูดเพราะเชื่อว่า มันเป็นเรื่องสามัญที่บางคนไม่อยากมอง หรือมองแล้วแต่ไม่เห็น คือเรื่อง การศึกษาภาษาอังกฤษโดยไม่มีครู ด้วยการอ่านหนังสือ
ถ้าเราเรียนภาษาอังกฤษโดยมีครูก็เป็นเรื่องดี ถ้าสงสัยก็ถามครู แต่ถ้าไม่มีครูเราก็ต้องเรียนกับหนังสือ แต่หนังสือพอเราเราสงสัยมันไม่ตอบ อันที่จริงหนังสือก็แต่งโดยครู แต่ครูเล่มเดียวยอมไม่สามารถบรรจุคำตอบข้อสงสัยอันหลากหลายของผู้เรียนไว้ได้หมด เมื่อหนังสือทำหน้าที่ได้น้อยลง ผู้เรียนกับหนังสือก็ต้องทำหน้าที่มากขึ้น ดังนี้
1.เลือกหนังสือเล่มดี ที่เราถูกใจ
เลือกอย่างไร?
หนึ่ง –เลือกจากเล่มที่ผู้หวังดีแนะนำไว้ สำหรับเว็บนี้ได้แนะนำไว้แล้วบ้าง ที่นี่
หาด้วยตัวเองในเว็บ e4thai.com:
วิธีการค้นหาเรื่องต่าง ๆ ในเว็บ www.e4thai.com
เว็บภาษาไทย:
เว็บภาษาไทย เข้าไปเรียนภาษาอังกฤษ
ตัวอย่าง blogspot.com สอนภาษาอังกฤษ
รวมเว็บสอนภาษาอังกฤษฟรีของทางราชการ
รวมบทความภาษาอังกฤษที่น่าสนใจหลายเรื่อง
เรียนภาษาอังกฤษกับ Facebook ไทย
รวมเว็บไทยสอนภาษาอังกฤษ ที่ผมคัดเลือกแล้ว
รวม ดาวน์โหลด ตำราภาษาไทย ใช้เรียนภาษาอังกฤษ (คนไทยแต่ง)
ตำราเรียนภาษาอังกฤษของรามคำแหงมีมากมายให้ดาวน์โหลด ที่นี่
เว็บภาษาอังกฤษ:
รวมเว็บ YouTube ครูฝรั่ง สอนภาษาอังกฤษ ฟรี
รวมดาวน์โหลด eBook, mp3, โปรแกรม ภาษาอังกฤษ ซึ่งใช้ในการฝึกภาษาอังกฤษ
ดาวน์โหลดหนังสืออ่านนอกเวลากว่า 150 เล่ม
ดาวน์โหลดหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ ฟรี ที่ 4shared.com
Top 100 English-Study Websites
สอง - จากหลากหลายเล่มที่ถูกใจผู้แนะนำ เราต้องเลือกเองอย่างน้อย 2 – 3 เล่ม ที่ดีและถูกใจเรา แม้จะต้องเสียเวลาเลือกก็ต้องยอมลงทุน เพราะกำไรที่เกิดขึ้นเราเองเป็นคนได้รับ
นี่เพียงข้อ 1 คือ “เลือกหนังสือเล่มดี ที่เราถูกใจ” บางคนก็เริ่มบ่นแล้วว่า มีตั้งเยอะแยะเลือกไม่ถูก ผมอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบคนเหล่านี้เหมือนกับคนที่ปวดอุจจาระแล้วบอกให้ส้วมเดินมาหา แทนที่จะเดินไปหาส้วม
บางคนเลือกได้เล่มที่ถูกใจแล้วหลายเล่ม หรือดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้มากมาย แต่แทบไม่เคยเปิดดูหรือคลิกดู ก็ไร้ประโยชน์อีกเช่นกัน การบอกตัวเองว่าว่างเมื่อไหร่จะเข้าไปดู มักเป็นข้อแก้ตัวที่ความขี้เกียจยกขึ้นมาอ้าง
2.อ่านด้วยสมาธิ ที่มากเป็นพิเศษ
ที่ผมเน้นว่าต้องมากเป็นพิเศษ ก็เพราะเราเรียนอยู่คนเดียว ไม่มีครูคอยกำกับ ไม่มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนคอยเชียร์ คนที่ควบคุมความคิดจิตใจของตัวเองไม่ได้แต่หวังโชคช่วย มักเดินไม่ถึงเส้นชัย เขามักบ่นว่าเดินไม่ไหว ทั้ง ๆ เส้นทางก็มีอยู่และตัวเองก็ยังมีแรงแต่กลับไม่ยอมเดิน หวังจะโบกรถที่วิ่งผ่านไปมา แต่รถเหล่านั้นก็รีบไปไม่มีคันไหนหยุดจอดรับ
เราต้องอ่านด้วยสมาธิ ที่มากเป็นพิเศษ คือต้องขยันเป็นพิเศษ อดทนเป็นพิเศษ และอ่านด้วยใจที่จดจ่อเป็นพิเศษ
3.ถ้าอ่านเที่ยวเดียวไม่รู้เรื่อง ก็ต้องอ่านหลายเที่ยว
ถ้าเราไม่ได้เป็นดอกบัวปริ่มน้ำที่ฟังธรรมครั้งเดียวเข้าใจทะลุแจ้ง แต่เป็นดอกบัวใต้น้ำที่ต้องฟังซ้ำแล้วซ้ำอีกจึงจะเข้าใจ เราก็ต้องยอมรับสภาพและเพียรพยายามต่อไปไม่หยุด อย่าฆ่าตัวตายด้วยการบอกว่าเรื่องภาษาอังกฤษ เราเป็นบัวใต้โคลนตมรอถูกเต่าปลากัดกินเป็นอาหาร คนที่เกิดมาพิการยังไม่น่าสงสารเท่ากับคนที่ยอมแพ้ แต่โทษฟ้าโทษดินว่าลำเอียง
การศึกษาภาษาอังกฤษโดยไม่มีครู ด้วยการอ่านหนังสือ ซึ่งมี 3 ข้อ คือ
ข้อ 1.เลือกหนังสือเล่มดี ที่เราถูกใจ
ข้อ 2.อ่านด้วยสมาธิ ที่มากเป็นพิเศษ
ข้อ 3.ถ้าอ่านเที่ยวเดียวไม่รู้เรื่อง ก็ต้องอ่านหลายเที่ยว
ต้องทำทุกข้อ ห้ามขาดแม้แต่ข้อเดียว
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.