e4thai.com

       หนังสือชุดนี้มี 5 เล่ม แต่ผมได้มาเล่มเดียว คือ Level 1
 → Longman Academic Writing Series - Level 1
      ดูเหมือนว่าเขาจะเรียบเรียงให้ครูใช้เป็นคู่มือสอน แต่ผมดูแล้วถ้าเราไม่มีครูและขยันก็สามารถใช้สอนตัวเองได้ แม้ว่าแบบฝึกหัดจะไม่มีเฉลยหรือให้แนวคำตอบแค่นิด ๆ หน่อย ๆ
       ที่ผมเห็นว่าดีมาก ๆ ก็ที่เนื้อหานี่แหละครับ มีทั้งหมด 9 บท ดังนี้
Chapter 1 Introducing Yourself
Chapter 2 Everyday Routines
Chapter 3 Every Picture Tells a Story
Chapter 4 A Good Day
Chapter 5 Your Hometown
Chapter 6 On the Job
Chapter 7 Remembering an Important Event
Chapter 8 Memories of a Trip
Chapter 9 Looking Ahead
       เห็นได้ชัดเลยว่า เขาจะฝึกให้เราเขียนเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัวก่อน โดยแต่ละบท เขาจะมีการสอนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มด้วยให้ดู model ว่าควรจะเขียนยังไง ตามด้วยเรื่องศัพท์ที่จะใช้ โครงสร้างของประโยค หรือแกรมมาร์ที่ควรรู้ เช่นเรื่อง tense แถมด้วย tip การนำทักษะนี้ไปใช้ในการบันทึกไดอะรี่ประจำวัน ที่ฝรั่งเขาใช้คำว่า keep a journal นั่นแหละครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่อยากจะเขียนแต่นึกไม่ออกว่าจะเขียนเรื่องอะไร 
          ผมได้ตัดมาเฉพาะหน้าที่เขาให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง keep a journal 
→ คลิก 
       ท่านผู้อ่านครับ ผมขอให้ความเห็นแถมหน่อยนะครับ จากประสบการณ์การทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเขียนติดต่อสื่อสารและเขียนเรื่องอื่น ๆ อยู่บ้าง ผมพูดได้เลยว่า สำหรับคนไทยที่ไม่ได้มีโอกาสคลุกคลีกับภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้นมาสักช่วงหนึ่งที่นานพอสมควร อย่างคนที่ไปเรียนหรือใช้ชีวิตเมืองนอก หรือเรียนหลักสูตรอินเตอร์ฯ การจะสามารถเขียนให้ลื่นไหลพอสมควร ต้องฝึกกันหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่าน เพราะมันจะช่วยให้คุ้นเคยกับศัพท์สำนวนและโครงสร้างและลีลาของภาษาที่เขาใช้กันจริง ๆ
        แต่การฝึกกับตำราและ exercise ดี ๆ อย่างเล่มที่ผมแนะนำในวันนี้ มันเหมือนเติมหัวเชื้อน้ำมันให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น หรือเปรียบเทียบอีกอย่างก็เหมือนเราไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แม้ไม่มีไกด์เราก็เห็นอาคาร สถานที่ โบราณสถาน ภูเขา หิมะ ชายหาด ท้องฟ้า ฯลฯ แต่ถ้าได้ไกด์อาชีพหรือมีเพื่อนต่างชาติอยู่ที่นั่น หรืออย่างน้อยที่สุดมีหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ ติดมือไปสักเล่ม ไกด์หรือเพื่อนหรือหนังสือพวกนี้ก็จะช่วยให้เรา "เห็น" มากขึ้น
       ผมเชื่อว่า Longman Academic Writing Series - Level 1 เล่มนี้ จะช่วยให้ท่าน เห็น มากขึ้น ถึงวิธีในการเขียนภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น

        หมายเหตุ : ท่านใดมีไฟล์ของ Level 2 - 5 จะบริจาค ช่วยแจ้งด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th 

           มีหลายเว็บไทยที่สอนภาษาหรือสำนวนพูดภาษาอังกฤษ มีหลายคำที่ใช้เรียกสำนวนพวกนี้ เช่น  infornal / colloquial / spoken English, expression, idiom, slang   หรือที่เป็นภาษาพื้น ๆ ที่คนใช้พูดกันโดยทั่วไป ก็เช่น phrasal verb หรือ collocation เป็นต้น  คลิกดู → สำนวนภาษาอังกฤษ

        ผมไปเจอหนังสือเล่มนี้ → Speak_English_Like_an_American   by Amy Gillett

         เขามีวิธีที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยให้เราสามารถเติม idiom เข้าไปในบทสนทนาภาษาอังกฤษที่เราพูด โดยแบ่งเนื้อหาในหนังสือเป็น 25 บท, แต่ละบทก็จะมี 1 dialogue ที่คนอเมริกันครอบครัวหนึ่งคุยกันตามหัวข้อที่ตั้งไว้  และผู้แต่งก็แทรก idiom เข้าไปใน dialogue นี้แหละ ทำให้เรารู้สึกว่า idiom ที่เราเรียนมีชีวิตชีวาและเป็นของจริง ซึ่งทั้งเล่มมีประมาณ 300 idiom ที่คนอเมริกันใช้พูดกันบ่อย ๆ 

        หลังจาก dialogue สั้น ๆ แต่ละบท ก็จะมีอีก 2 ส่วน คือ (1)นำแต่ละ idiom ใน dialogue มาอธิบายพร้อมยกประโยคตัวอย่างประกอบ และ (2)มีแบบฝึกหัดเพื่อทดสอบความเข้าใจ-การจำได้ ในการนำ idiom ไปใช้พูดด้วยตัวเองจริง ๆ อย่างมั่นใจ และทุก 5 บทก็จะมี Review เป็นแบบทดสอบรวม

         พูดแบบชมเชยก็คือ หนังสือเล่มนี้ เขาไม่ได้สอนให้เราแค่รู้จัก idiom แต่ฝึกให้สามารถนำ idiom ไปใช้พูดได้จริง ๆ โดย idiom ที่บรรจุในหนังสือเล่มนี้ ก็มีแค่ประมาณ 300 idiom เท่านั้นเอง ไม่ได้มากมายอะไร

         สุดท้ายครับ ผมเข้าไปดูที่ YouTube ก็เห็นเขานำเสียงใน eBook เล่มนี้มาใส่ให้ฟัง แต่มีแค่ Lesson  1-20 (คือถึงหน้า 122 ของหนังสือ) แต่ก็ OK ครับ

        → https://www.youtube.com/playlist?list=PL6SmA-F0KPB-dAjjTinK4zIzvvrN__kbl

         ศึกษาเพิ่มเติม :

• 650+ English Phrases for Everyday Speaking

พิพัฒน์

www.facebook.com/en4th 

       วันนี้ผมขอเสนอ หนังสือประวัติและคำสอนของพระพุทธเจ้า 2 เล่ม ซึ่งเป็น bestseller
เล่มแรก Buddha แต่งโดย Karen Armstrong ตีพิมพ์ 2004
เป็น A New York Times Bestseller
→ http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf2/Buddha.pdf 
เล่มที่สอง Introducing Buddha แต่งโดย Jane Hope ตีพิมพ์ 2005
เป็น The International Bestseller
→ http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf2/introducing-buddha.pdf 
       ผมอ่านยังไม่จบหรอกครับ แต่มีความรู้สึกว่า ถ้าติดอันดับหนังสือ bestseller ระดับโลก ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่หนังสือเริงรมย์ ก็น่าจะมีอะไรดีอยู่พอสมควร ผู้คนถึงได้ยอมซื้อไปอ่านกันเยอะ ผมได้ทำ Bookmarks ใน ebook เพื่อให้ท่านเห็นหัวข้อย่อย ๆ และคลิกเข้าไปอ่านได้โดยสะดวก
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th 

      Playlist ชุดนี้มี 8 คลิป ๆ ละประมาณ 45 นาที เป็นข้อทดสอบ Listening ของ TOEIC คลิปละ 100 ข้อ จัดทำโดย Longman   เราต้องตั้งใจฟัง(ห้ามว่อกแว่ก) และเอากระดาษเปล่า 1 แผ่นมาทำ Answer Sheet ข้อ 1 – 100 และใส่คำตอบ A, B. C หรือ D ลงไปในแต่ละข้อที่ฟัง, และตรวจดูกับเฉลยที่ท้ายคลิป
      ผมดูแล้วคลิปชุดนี้เข้าท่าทีเดียวครับ เพราะว่าเราจะถูกเกลี้ยกล่อมกลาย ๆ ให้นั่งฟังและทำข้อสอบจนจบ  และที่สำคัญคือต้องมีสมาธิเหมือนกับอยู่ในห้องสอบ
     ถ้ามีเวลาพอ ก็เจียดให้ไปเลยครับประมาณ 45 นาที ทำ listening test ให้จบไป 1 คลิป, วันหลังก็มาทำคลิปถัดไป, แต่ถ้าไม่มีเวลาพอ ก็จดไว้ว่า คลิปหมายเลขนี้ – ฟังถึงนาทีนี้ เมื่อมีเวลาก็มาทำต่อให้จบ
     แม้สำหรับคนที่ไม่ได้ไปสอบ TOEIC ผมเห็นว่าข้อสอบ TOEIC นี้ก็มีประโยชน์ครับ คือมันไม่ได้ง่ายอย่างภาษาอังกฤษพื้นฐาน แต่มันก็ไม่ได้ยากถึงขั้น TOEFL แต่ถ้ารู้ศัพท์, วลี, สำนวน ระดับ TOEIC ก็หากินได้แทบทุกงานแหละครับ
     ลองเข้าไปดูซีครับ
→ https://www.youtube.com/playlist?list=PLd8QxovzklgbBoYd4zURP3GfTulV-yWav 

 พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th