Articles
วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่องและเป็นธรรมชาติ
สวัสดีครับ
ผมไปเจอคลิปนี้
วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่องและเป็นธรรมชาติ
How to Speak English Fluently and Naturally
http://www.youtube.com/watch?v=wTOHZ2dHsU0
โดยสรุปก็คือ เขาสอนวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ
ให้คล่องและเป็นธรรมชาติ
ด้วยวิธีฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษ
โดยมีวิธีฝึกอยู่ 4 ระดับ คือ
ระดับที่ 1:คิดเป็นภาษาอังกฤษ - เป็นคำ ๆ
ระดับที่ 2:คิดเป็นภาษาอังกฤษ - เป็นวลีหรือประโยค
ระดับที่ 3:เมื่อพูดอะไรเป็นภาษาไทยออกไป ให้คิดว่าถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะต้องพูดว่ายังไง
ระดับที่ 4:ฝึกเล่าเรื่องยาว ๆให้เพื่อนฟังเป็นภาษาอังกฤษ โดยคิดเป็นคำพูดในสมอง
ผมเห็นว่า เป็นวิธีที่ถ้าฝึกอย่างสม่ำเสมอและจริงจัง จะช่วยให้เราพูดภาษาอังกฤษได้คล่องและเป็นธรรมชาติอย่างที่เขาบอกจริง ๆ
โดยขอยกมาเล่าต่อทีละตอน ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบคลิป ข้างล่างนี้ครับ
-คุณพูดภาษาอังกฤษแบบติด ๆ ขัด ๆ อึก ๆ อัก ๆ เอามาก ๆ หรือเปล่า?
-คุณมีปัญหาหรือเปล่าในการแสดงความคิดเห็นออกไปเป็นภาษาอังกฤษ?
-คุณต้องคิดแปลจากไทยเป็นอังกฤษก่อนพูดหรือเปล่า?
-แต่พอพูดออกมาก็เป็นประโยคที่ผิด ๆ ถูก ๆ หรือไม่ใช่ภาษาแบบที่ฝรั่งเขาพูดกัน
-ถ้าคุณต้องการขจัดปัญหาเหล่านี้ และพูดภาษาอังกฤษให้ได้คล่องแคล่ว
เคล็ดลับนั้นมีอยู่ คือ...ฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษ
การคิดเป็นไทยแล้วค่อยแปลเป็นอังกฤษ ส่งผลเสีย คือ ประโยคที่พูดออกมาไม่เป็นภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง เพราะแกรมมาร์และโครงสร้างประโยคของอังกฤษและไทยไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ ถ้าต้องคิดและแปลก่อนพูดจะต้องใช้เวลามาก ทำให้พูดออกมาแบบติด ๆ ขัด ๆ อึก ๆ อัก ๆ ไม่รวดเร็วคล่องแคล่ว
นักศึกษาจำนวนมากเชื่อว่า การคิดเป็นภาษาอังกฤษนั้นยากเกินทำได้ แต่...ฉันกำลังจะสอนคุณวิธีที่ทำแล้วจะสำเร็จ
คุณสามารถเรียนรู้ทักษะนี้ด้วยการฝึกฝน ไม่ว่าขณะนี้คุณกำลังอยู่ในระดับเริ่มต้น ระดับกลาง หรือระดับก้าวหน้า ก็ตาม
เราจะเริ่มฝึกกันอย่างนี้....
ระดับที่ 1: คิดถึงคำแต่ละคำเป็นภาษาอังกฤษ
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้า คำต่อไปนี้คุณสามารถคิดได้เป็นภาษาอังกฤษ
เช่น bed, toothbrush, bathroom, eat,banana,coffee,clothes, shoes
เมื่อไปถึงที่ทำงาน คิดถึงคำพวกนี้เป็นภาษาอังกฤษ
เช่น car, job, company, desk, computer,paper, pencil, colleague, boss
ในช่วงระหว่างวัน ให้พยายามอยู่เรื่อย ๆ ที่จะฝึกคิดเป็นคำในภาษาอังกฤษ ทุกสิ่ง ที่คุณเห็น, ได้ยิน, หรือ ทำ
ลองฝึกทำดู: มองไปรอบ ๆ ตัวคุณเองขณะนี้เลย และคิดถึงคำเป็นภาษาอังกฤษสิ่งที่คุณมองเห็น (ฉันคาดว่าคุณจะคิดออกไม่น้อยกว่า 10 คำ)
ระดับที่ 2: คิดเป็นภาษาอังกฤษ เป็นวลีหรือประโยคเต็ม ๆ
อย่างเช่น ระหว่างอาหารกลางวัน ก็คิดถึงประโยคทำนองนี้
I'm eating a sandwich.
My friend is drinking soda.
This restaurant is very good.
อย่างเช่น
ตอนดูทีวี ก็คิดถึงประโยคทำนองนี้
That actress is beautiful.
The journalist has black hair.
He;s talking about politics.
ประโยคที่คิดมันจะ simple แค่ไหนก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ฝึกพัฒนานิสัยในการคิดเป็นประโยคเต็ม ๆ ในภาษาอังกฤษ
ระดับที่ 3:คิดถึงภาษาอังกฤษที่ใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ในระดับนี้ ให้จินตนาการว่า คุณจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในทุกสิ่งที่คุณทำ คือ เมื่อพูดอะไรเป็นภาษาไทยออกไป ให้คิดว่าถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะต้องพูดว่ายังไง ยกตัวอย่างเช่น จะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร เมื่อจะซื้อตั๋วโดยสารรถไฟ หรือสั่งเครื่องดื่ม ในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ
เช่น ประโยคทำนองนี้
-A round-trip to Central Station, plase.
-Could I have a lemonade with no sugar?
การฝึกคิดแบบนี้จะช่วยคุณพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษที่ต้องใช้ในสถานการณ์จริง ๆ ในชีวิต แม้ว่าคุณจะเพียงแค่คิด ยังไม่ได้พูดออกมา
ถ้าขณะที่ฝึกคิดแบบนี้ คุณคิดคำในภาษาอังกฤษไม่ออก ก็ค่อยไปเปิดดูในดิกเอาตอนหลังก็ได้
ถ้าได้ฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะพัฒนาตัวเองให้สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ในทุกสถานการณ์ของชีวิตประจำวัน
ระดับที่ 4:เล่าเรื่องเป็นภาษาอังกฤษ
คือ การเล่าเรื่อง หรือ พูดภาษาอังกฤษ ยาว ๆ
การฝึกแบบระดับที่ 4 นี้ ให้ทำเมื่อมีเวลานานสักหน่อย เช่น ตอนรอคิว หรือขณะเดินทางโดยสารรถสาธารณะ
และใช้ช่วงเวลานี้ ระลึกถึงเรื่องราวอะไรสักเรื่องที่คุณอยากจะเล่าให้เพื่อนของคุณที่พูดภาษาอังกฤษได้ฟัง และคุณก็ "เล่าเรื่อง" นั้นในสมองของคุณเป็นภาษาอังกฤษ
และในการฝึกเช่นนี้ คุณทำตามสบาย ๆ ได้อย่างเต็มความสามารถโดยไม่ต้องรู้สึกกดดัน เพราะคุณเพียงแค่คิด ไม่ต้องพูดจริง ๆ
ฉันหวังว่า คุณคงจะรู้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องก้าวหน้าแบบรวดเร็วสุด ๆ ในการคิดเป็นภาษาอังกฤษ
คุณสามารถเริ่มฝึกวันนี้ได้เลย
ใน 4 ระดับที่กล่าวมาข้างต้น คือ
ระดับที่ 1:คิดเป็นภาษาอังกฤษ - เป็นคำ ๆ
ระดับที่ 2:คิดเป็นภาษาอังกฤษ - เป็นวลีหรือประโยค
ระดับที่ 3:เมื่อพูดอะไรเป็นภาษาไทยออกไป ให้คิดว่าถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะต้องพูดว่ายังไง
ระดับที่ 4:ฝึกเล่าเรื่องยาว ๆให้เพื่อนฟังเป็นภาษาอังกฤษ โดยคิดเป็นคำพูดในสมอง
ให้คุณเลือกเอาเองแล้วกัน ว่าจะฝึกแบบระดับไหน และก็ลองฝึกมันตอนนี้เลย
ตอนนี้เชิญดูคลิปได้เลยครับ
การฝึกพูดตามวิธีข้างต้น ต้องทำพร้อมไปกับการฝึกฟัง
ตามลิงค์นี้: วิธีฝึกฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องอย่างรวดเร็ว
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
American English Pronunciation Dictionary (คลิป+หนังสือ)
สวัสดีครับ
ฟังการออกเสียง สระ และพยัญชนะ ทุกเสียง ของ American English ที่คลิปข้างล่างนี้
American English Pronunciation Dictionary
http://www.youtube.com/watch?v=-SObetOJ_yY
และมีหนังสือ แสดงภาพ และ ทุกถ้อยคำที่ปรากฏในคลิป
ให้ท่านดาวน์โหลด ไปศึกษา
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ขอแนะนำ toolbar Macmillan Dictionary
สวัสดีครับ
Macmillan Dictionary เป็นดิก online ให้ใช้ฟรี คุณภาพเยี่ยมไม่แพ้ Oxford, Longman, Cambridge หรือ Webster แม้ชื่อเสียงในหมู่คนไทยอาจจะน้อยกว่า
Macmillan Dictionary มี toolbar ให้ใช้กับ browser Internet Explorer (เวอร์ชั่น 7 ขึ้นไป) และ browser Firefox
วิธีติดตั้งที่ง่ายมาก
1.เปิด browser Internet Explorer หรือ browser Firefox ขึ้นมา (browser Google Chrome ใช้ไม่ได้ครับ)
2.คลิกลิงค์นี้ http://www.macmillandictionary.com/tools/toolbar.html
3.ท่านจะเห็นรูปข้างล่างนี้
ให้ท่านตัดสินใจเลือกว่า จะใช้ toolbar แบบ British English หรือ American English และก็คลิก Internet Explorer หรือ Firefox ให้ตรงกับ browser ที่ท่านกำลังเปิดอยู่
4.toolbar Macmillan Dictionary จะปรากฏตามตัวอย่างข้างล่างนี้
วิธีใช้งาน
1.เปิดหน้าเว็บด้วย browser ที่ท่านติดตั้ง toolbar เมื่อตะกี้นี้ และไฮไลต์ที่คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
2.คลิกขวาที่คำศัพท์ และคลิกซ้ายที่บรรทัดตามรูป
ถ้าเป็น IE ก็ตามรูปนี้
ถ้าเป็น Firefox ก็ตามรูปนี้
3.ความหมายของศัพท์จะปรากฏใน tab ใหม่, เมื่ออ่านเสร็จแล้วก็ลบ tab นั้นเสีย
เพียงเท่านี้ ท่านก็จะมีดิกคุณภาพระดับโลกไว้ใช้งาน ได้อย่างสะดวกสบาย
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
หลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ โดย วงศ์ วรรธนพิเชฐ
ที่มา: หลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
โดย วงศ์ วรรธนพิเชฐ
*****
Unit I: Words, Sentences, Phrases, Clauses
Unit II: Subject, Verb, Object
Unit III: Subjective Complements, Objective Complements
Unit IV: Passive
Unit V: Affirmation, Negation, Interrogation, Exclamations, Commands, Requests, Suggestions
Unit VI: Modifiers of Nouns, Appositives, Modifiers of Pronouns, Adjective Clauses
Unit VII: Modifiers of Adjectives & Adverbs , Modifiers of Verbs & Sentences ,Modifiers of Phrases & Clauses
Unit VIII: Adverbial Modifiers (Clauses)
Unit IX: Content Clauses, Interrogative Clauses , Relative Clauses
ความรักคือการให้ – แต่ให้อะไรล่ะ?
สวัสดีครับ
เป็นความบังเอิญอย่างยิ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมได้ไปนั่งในโบสถ์คาทอลิกแห่งหนึ่งที่อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี บาทหลวงกำลังทำพิธีแต่งงานให้บ่าวสาวคู่หนึ่ง พอมาถึงตอนให้คำแนะนำคู่บ่าวสาว ท่านพูดว่า
ถ้าถามผู้ชายว่า แต่งงานทำไม ถ้าตอบว่าจะได้มีคนซักผ้า ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้าน ถ้าแค่นี้ไม่ต้องมีเมียหรอก ไปซื้อเครื่องซักผ้าหรือจ้างคนทำก็ได้ และถ้าถามผู้หญิงว่า แต่งงานทำไม ถ้าตอบว่าจะได้มีคนคอยปกป้องดูแล อย่างนี้ก็ไม่ต้องมีผัวเช่นกัน ไปจ้างพวกบอดี้การ์ดก็ได้
การแต่งงานมีความหมายมากกว่านี้ มันคือการรวมร่างกายจิตใจของหญิงชายคู่หนึ่งเข้าด้วยกัน และยังมีอะไรอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เช่น การให้เกียรติ ความซื่อสัตย์
มีเรื่องเล่าว่าในสมัยโบราณมีชายคนหนึ่งไปขอให้บาทหลวงทำพิธีแต่งงานให้ บาทหลวงถามว่า ในอนาคตถ้าภรรยาของคุณไปสร้างหนี้สินไว้มากมายคุณยอมได้ไหม ชายหนุ่มตอบว่ายอมได้ ผมจะพยายามหาเงินมาใช้หนึ้ ถามต่อว่าถ้าภรรยาของคุณทำกับข้าวไม่ได้เรื่องเลยคุณทนได้ไหม ชายหนุ่มตอบว่าทนได้ผมทำเอง และถ้าภรรยาของคุณเผลอไปมีชายอื่นล่ะคุณยอมได้ไหม ชายหนุ่มตอบว่าอย่างนี้มันหมิ่นศักดิ์ศรีชาย คงยอมไม่ได้ บาทหลวงเลยตอบว่า ตอนนี้คงแต่งงานให้ไม่ได้ ถ้ายอมได้เมื่อไหร่ค่อยมาบอกแล้วจะทำพิธีให้
หลังจากนี้บาทหลวงองค์นี้ที่โบสถ์อำเภอขลุงก็พูดถึงโครินเธียนส์ 1 บทที่ 13 ในไบเบิ้ล ที่ว่าด้วยคำนิยามของความรัก ผมต้องยอมรับตรง ๆ ครับว่า โครินเธียนส์บทนี้ผมเองก็อ่านมาหลายสิบรอบแล้ว อ่านทีไรก็ซาบซึ้งกับความไพเราะของเนื้อหาและถ้อยคำ แต่ไม่เคยตระหนักเลยว่า การให้อภัย คือเรื่องที่สำคัญที่สุดของสิ่งที่เรียกว่า ความรัก
ผมนำโครินเธียนส์ 1 บทที่ 13 ในไบเบิ้ลมาให้ท่านที่เคยอ่านแล้วลองอ่านอีกครั้ง ท่านอาจจะเหมือนผม คือเกิดความรู้สึกใหม่ ๆ ในคำสอนเก่าที่เคยฟังมาหลายเที่ยวแล้ว
เชิญครับ....
ใช่แล้วครับ ความรักคือการให้ – ให้อภัย !!
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.