Articles
ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
♥ ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 - Language Use and Reading Comprehension (การใช้ภาษาและการอ่านเพื่อความเข้าใจ) 40 ข้อ มีเฉลยอยู่หน้าสุดท้าย
→ http://www.niets.or.th/uploads/editor/files/O-NET/exam_p6_2560/63%20ภาษาอังกฤษ.pdf
วิธีพูดให้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนฝรั่งพูด
คลิปนี้ ↓ ↓
เขาบอกว่า ถ้าเราจะพูดให้ฟังดูเป็นธรรมชาติเหมือนฝรั่งพูด ก็มีวิธีง่าย ๆ อยู่ 2 วิธี คือ พูดโดยใช้ fixed phrases และ collocations
[1] ใช้ fixed phrase - นี่ก็คือว่า ตอนที่ฝรั่งเขาถามอะไรมาและเราจะพูดตอบ หรือตอนเราจะพูดบ้างเช่นเสนอความเห็น เราไม่ต้องคิดแต่งประโยคขึ้นมาเองให้มันฟังดูดี ถูกต้อง หรือหรูหรา เพราะว่ามันมีวลีคงที่ซึ่งฝรั่งทั่วไปเขาก็ใช้กันเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อเราใช้ตามมันก็ฟังดูเป็นธรรมชาติ อย่างเช่น เขาพูดว่า Thank you. เราก็ตอบว่า You're welcome. หรือถ้าเราจะให้คำแนะนำแก่เพื่อน เราก็อาจจะเริ่มต้นประโยคว่า If I were you, .... อะไรทำนองนี้
[2] ใช้ collocation - collocation ก็คือคำที่ปกติฝรั่งเขาจะใช้ด้วยกัน เช่น เขาจะพูดว่า make a mistake ไม่ได้พูดว่า do a mistake ไม่มีคำอธิบายว่าทำไมเขาถึงใช้กันอย่างนี้ อันที่จริง collocation ก็มีอยู่ในทุกภาษา แต่อาจจะใช้ต่างกันไป เช่น ฝรั่งพูดว่า catch a cold (จับหวัด) แต่คนไทยพูดว่า เป็นหวัด
และในคลิปข้างบน ฝรั่งคนนี้ก็สอนว่า ถ้าเราพูดโดยใช้ fixed phrase และ collocation ศัพท์สำนวนที่เราใช้พูดก็จะฟังดูเป็นธรรมชาติ และเราก็ไม่ต้องไปคิดแต่งเอง อย่างเช่นเขาบอกว่า ในการพูดของฝรั่ง ก็จะมี fixed phrase ปนอยู่ถึง 40 - 80 %
คำถามก็คือ แล้วเราจะเรียนรู้หรือฝึกพูดให้ fixed phrase และ collocation มาเป็นส่วนหนึ่งของการพูดภาษาอังกฤษของเราได้อย่างไร ?
คำตอบของผมซึ่งสุดแสนจะสามัญก็คือ ก็ฝึกฟัง - ฝึกพูด ถ้อยคำพวกนี้ ด้วยหูและด้วยปากของตัวเองจริง ๆ จนชินหูและชินปาก ถ้าฝึกบ่อย ๆ เป็นประจำ เราก็จะค่อย ๆ สามารถพูดโดยใช้ fixed phrase และ collocation ได้ง่ายขึ้น
อันที่จริงถ้าเราดูเว็บหรือคลิปของครูไทยที่สอนภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นว่า วลีหรือประโยคที่คุณครูส่วนใหญ่นำมาสอน ก็ป้วนเปี้ยนอยู่กับ fixed phrase และ collocation นี่แหละ ซึ่งอาจจะมีทั้งวลีสั้น ๆแค่ 2 - 3 คำ หรือยาวหน่อย หรือเป็นประโยค ทั้งในการสนทนาเรื่องทั่ว ๆ ไป หรือเนื้อหาเจาะจง แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า ถ้าเราเอาแต่อ่าน หรือฟังแต่ไม่ฝึกพูด หรือฝึกพูดน้อยเกินไป สมองก็จะไม่เคยชินที่จะสั่งให้ปากพูด และปากก็จะพูดถ้อยคำพวกนี้ไม่ค่อยได้เมื่อถึงเวลาที่ควรพูด ทั้ง ๆ ที่อาจจะจำได้ เพราะการ "จำได้" กับ "ใช้จริง" แม้เกี่ยวข้องกันแต่ก็เป็นคนละเรื่อง
เอาเป็นว่า ผมฝากเรื่องนี้แล้วกันครับ ถ้าท่านต้องการฝึกให้สามารถพูดโดยใช้ศัพท์สำนวนได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยใช้ fixed phrase และ collocation อย่างที่ฝรั่งพูด เมื่อฝึกฟังหรือฝึกอ่าน ก็ต้องฝึกพูดออกมาจริง ๆ ด้วย ไม่ใช่ฝึกพูดในใจให้ตัวเองได้ยินอยู่คนเดียว
♥ และมีคลิปไทยมากมายที่ช่วยสอนในเรื่องนี้ แค่ไปที่ YouTube และพิมพ์คำค้น → สนทนาภาษาอังกฤษ
♥ ส่วนถ้าจะหาคลิปฝรั่ง ก็แค่พิมพ์ → english cerversation ก็จะเจอเยอะแยะ เลือกเอาได้เลยครับ ชอบคลิปไหนก็ฝึกกับคลิปนั้น
ลิงก์ที่เจอเมื่อค้นเขียนเรื่องนี้
english-at-home.com
fixed phrases
- https://www.fluentu.com/blog/english/basic-english-phrases/
- https://quizlet.com/222488199/english-vocabulary-76-fixed-phrases-in-conversation-flash-cards/
- https://www.youtube.com/playlist?list=PLc-dlJaGku7wg7XuGF2PjBny2pgrV0zNT
collocation
- https://www.youtube.com/watch?v=C0rM57QmM8E&list=PLHfAvPmQL3q1U0lqnmXCN7su0NzrzNpaG
- https://www.englishcurrent.com/idioms/esl-idioms-intermediate-advanced/
- http://eslgold.com/speaking/phrases/
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th
Let's Read and Write in English 4 เล่ม
ท่านผู้อ่านครับ ในการฝึกให้เก่งอังกฤษ การอ่านสำคัญมาก เพราะเมื่อเราอ่านเป็นประจำ แม้ไม่มีครูสอน ตัวการอ่านนั่นแหละจะเป็นครูสอนให้เรารู้จักศัพท์ การเดาศัพท์ การจับใจความ การตีความ โครงสร้างประโยค แกรมมาร์ที่ใช้ ลีลาของภาษา ฯลฯ ของพวกนี้เราจะได้จากการอ่าน ได้... ชนิดที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว และทักษะการอ่านเช่นนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพูด การฟัง การเขียน ต่อไปเรื่อย ๆ
และถ้าทำได้ เนื้อหาที่นำมาให้ท่านฝึกอ่าน ผมก็พยายามเลือกอันที่ สนุก - ง่าย - สั้น เพราะเหตุใด ?
- ถ้าอ่านเรื่องที่สนุก จะทำให้รักในการอ่าน ติดในการอ่าน และในอนาคตถ้าจำเป็นต้องอ่านเรื่องที่ไม่สนุกแต่มีประโยชน์ ก็จะปลอบใจตัวเองให้อ่านได้
- ถ้าอ่านเรื่องที่ง่ายและสั้น จะอ่านจบได้ไม่ยาก และเริ่มมั่นใจในความสำเร็จว่าเราอ่านจบได้ และในอนาคตถ้าจำเป็นต้องอ่านเรื่องที่ยากขึ้น - ยาวขึ้น จะมีพลังสะสมสามารถอึดอ่านต่อไปให้จบได้ เพราะเราก็เคยอ่านจบมาแล้ว
วันนี้ผมเจอหนังสือชุด Let's Read and Write in English 4 เล่มข้างล่างนี้ แต่ละเล่มมีข้อความหลากหลายให้อ่าน 20 เรื่อง และก็ล้วนเป็นข้อความที่ สนุก - ง่าย - สั้น → ผมตัดบางเรื่องมาให้ชิมอ่านเป็นตัวอย่างนิดหน่อย เรื่องจะยากและสนุกมากขึ้น ตามระดับที่สูงขึ้น
สำหรับคุณครู หนังสือ 4 เล่มชุดนี้ เหมาะมากครับที่จะเป็นแบบฝึกหัดสอนเด็กเรื่องการอ่านและการเขียน โดยผู้เรียบเรียงได้ให้คำแนะนำไว้แล้ว [ อ่าน ] โดยใช้เนื้อเรื่อง - รูปภาพ - Exercise - Answers ของแต่ละ Unit ให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่
เชิญครับ...
- Let's Read and Write in English 1 • ระดับ Beginner
- Let's Read and Write in English 2 • ระดับ Beginner
- Let's Read and Write in English 3 • ระดับ High Beginner
- Let's Read and Write in English 4 • ระดับ Low Intermediate
พิพัฒน์
ฟังธรรมะพร้อมฝึกภาษาอังกฤษ
หลวงพ่อท่านเทศน์เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย และมีคำแปล เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษบนจอ
- เที่ยวที่ 1 ฟังโดยไม่อ่านคำแปล
- เที่ยวที่ 2 ฟังพร้อมอ่านคำแปล
- เที่ยวที่ 3 ฟังโดยไม่อ่านคำแปล
https://www.youtube.com/playlist?list=PLp7CK-m0G2RFD406yKZbIXUEdUFBZeYx2
ABC English Made Easy : โปรแกรมเรียนภาษาอังกฤษสนุก, ง่าย
โปรแกรม ABC English Made Easy เป็นโปรแกรมสอนการเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เริ่มต้น A, B, C... ถ้าเด็กยังเล่นเองไม่เป็น พ่อแม่ก็เล่นกับลูก ถ้าเด็กเล่นเองได้ก็ให้เขาเล่นเอง เชื่อว่าจะช่วยปลูกฝังความรักภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียว เพราะเล่นสนุกดี และได้เรียนภาษาอังกฤษจาการเล่น
- คลิกดาวน์โหลดไฟล์โปรแกรม (13 MB)
เมื่อ download - extract - install เรียบร้อยแล้ว ให้คลิก unlock และเติม Serial 3 ชุดนี้: 0e0e - 3df3 - 3113 และคลิก OK
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th