Articles
ฝึกพูดตัวเลขบอกราคาสินค้า 1 ถึง 100 บาท
สวัสดีครับ
ป้ายตัวเลขบอกราคาซึ่งติดไว้ที่ตัวสินค้า และการยื่นเครื่องคิดเลขที่เรากดตัวเลขราคาสินค้าให้ลูกค้าดู อาจช่วยให้ร้านค้าไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษสักคำ ก็สามารถขายสินค้าให้ลูกค้าต่างชาติได้ แต่กระนั้น การพูดภาษาอังกฤษได้บ้างก็น่าจะดีกว่า และคำศัพท์พื้นฐานที่สุดก็คือ ตัวเลข 1 ถึง 100 ที่ใช้บอกหรือต่อรองราคาสินค้า
ผมได้ทำไฟล์ 1 หน้า ขนาด A4 ให้ท่านที่ยังพูดตัวเลขไม่คล่อง หรือท่านที่ต้องการให้ลูกน้อง หรือคนขายของในร้านของท่าน หยิบมาดูและฝึกพูดเรื่อย ๆ จนคล่อง, ท่าน print เอกสารเพียงหน้าเดียวนี้ ออกมาวางไว้ใกล้ ๆ มือได้เลย, หรือท่านใดจะ print ไปฝากร้านค้าที่ชอบพอ ให้น้อง ๆ ซึ่งขายของที่ร้านนั้นได้ฝึกพูดก็ดีครับ
คลิกดาวน์โหลดไฟล์ pdf =คลิกดาวน์โหลดไฟล์ word
แต่การเขียนเสียงอ่านตัวเลขภาษาอังกฤษเป็นตัวหนังสือไทยนี้ บางคำก็เขียนยาก เช่น การลงเสียงหนัก/เสียงเบา, เสียงตัว th-ตัว t, เสียงท้ายคำที่เป็นตัว f – ตัว v เป็นต้น เพราะฉะนั้น ผมจึงหาเสียงอ่านมาให้ท่านคลิกฟังและฝึกพูดตาม ท่านอาจจะไม่สามารถพูดสำเสียงเหมือนฝรั่งเด๊ะ ขอเพียงพูดได้คล้าย ๆ ก็ขอรับรองว่า ลูกค้าฟังตัวเลขบอกราคาเป็นภาษาอังกฤษที่ท่านพูดได้รู้เรื่องแน่ ๆ ครับ
คลิก mp3 เพื่อฟังเสียงหลาย ๆ ครั้งจนคุ้นหู และฝึกพูดตามจนคุ้นปาก
(ถ้าคลิกขวาที่ mp3 และคลิกซ้าย open in new tab ก็ดีครับ เมื่อเลิกฟังแล้วจะได้ close ปิดไปเลย, ไม่ต้องคลิก Back ให้เสียเวลา)
♥ถ้าท่านต้องการดาวน์โหลดไฟล์ mp3 การออกเสียงตัวเลข 1 – 100 ชุดนี้ ก็ คลิกที่นี่
หมายเหตุ: ถ้าท่านเปิดด้วย browser IE - Internet Explorer และไม่สามารถฟังเสียง mp3 ได้
ให้ท่านเปิดด้วย Browser Google Chrome หรือ Firefox แทน
1 –วัน =mp3 = |
21-ทเวนทีวัน =mp3= |
41 –ฟอทีวัน =mp3= |
61 –ซิคซตีวัน =mp3= |
81 –เอทีวัน =mp3= |
2 – ทู =mp3= |
22 –ทเวนทีทู =mp3= |
42 –ฟอทีทู =mp3= |
62 –ซิคซตีทู =mp3= |
82 –เอทีทู =mp3= |
3 – ธรี =mp3= |
23 –ทเวนทีธรี =mp3= |
43 –ฟอทีธรี =mp3= |
63 –ซิคซตีธรี =mp3= |
83 –เอทีธรี =mp3= |
4 – ฟอ =mp3= |
24 –ทเวนทีฟอ =mp3= |
44 –ฟอทีฟอ =mp3= |
64 –ซิคซตีฟอ =mp3= |
84 –เอทีฟอ =mp3= |
5 –ไฟฟฺ =mp3= |
25 –ทเวนทีไฟฟฺ =mp3= |
45 –ฟอทีไฟฟฺ =mp3= |
65 –ซิคซตีไฟฟฺ =mp3= |
85 –เอทีไฟฟฺ =mp3= |
6 –ซิคซฺ =mp3= |
26 –ทเวนทีซิคซฺ =mp3= |
46 –ฟอทีซิคซฺ =mp3= |
66 –ซิคซตีซิคซฺ =mp3= |
86 –เอทีซิคซฺ =mp3= |
7 –เซฟเวน =mp3= |
27 -ทเวนทีเซฟเวน=mp3= |
47 –ฟอทีเซฟเวน =mp3= |
67 –ซิคซตีเซฟเวน =mp3= |
87 -เอทีเซฟเวน=mp3= |
8 -เอท =mp3= |
28 –ทเวนทีเอท =mp3= |
48 –ฟอทีเอท =mp3= |
68 –ซิคซตีเอท =mp3= |
88 –เอทีเอท =mp3= |
9 –ไนนฺ =mp3= |
29 –ทเวนทีไนนฺ =mp3= |
49 –ฟอทีไนนฺ =mp3= |
69 –ซิคซตีไนนฺ =mp3= |
89 -เอทีไนนฺ=mp3= |
10 –เท็น =mp3= |
30 –เธอที =mp3= |
50 –ฟิฟที =mp3= |
70 –เซฟเวนที =mp3= |
90 –ไนนฺที =mp3= |
11-อิเลฟเวน =mp3= |
31 –เธอทีวัน =mp3= |
51 –ฟิฟทีวัน =mp3= |
71 –เซฟเวนทีวัน =mp3= |
91 –ไนนฺทีวัน =mp3= |
12 –ทเว็ลฟ =mp3= |
32 –เธอทีทู =mp3= |
52 –ฟิฟทีทู =mp3= |
72 –เซฟเวนทีทู =mp3= |
92 –ไนนฺทีทู =mp3= |
13 –เธอทีน =mp3= |
33 –เธอทีธรี =mp3= |
53 –ฟิฟทีธรี =mp3= |
73 –เซฟเวนทีธรี =mp3= |
93 –ไนนฺทีธรี =mp3= |
14 -ฟอทีน=mp3= |
34 –เธอทีฟอ =mp3= |
54 –ฟิฟทีฟอ =mp3= |
74 –เซฟเวนทีฟอ =mp3= |
94 -ไนนฺทีฟอ=mp3= |
15 –ฟิฟทีน =mp3= |
35 –เธอทีไฟฟฺ =mp3= |
55 –ฟิฟทีไฟฟฺ =mp3= |
75 เซฟเวนทีไฟฟฺ=mp3= |
95 –ไนนฺทีไฟฟฺ =mp3= |
16-ซิคซฺทีน =mp3= |
36 –เธอทีซิคซฺ =mp3= |
56 –ฟิฟทีซิคซฺ =mp3= |
76 –เซฟเวนทีซิคซฺ=mp3= |
96 –ไนนฺทีซิคซฺ =mp3= |
17 เซฟเวนทีน =mp3= |
37 –เธอทีเซฟเวน =mp3= |
57 -ฟิฟทีเซฟเวน=mp3= |
77เซฟเวนทีเซฟเวน=mp3= |
97 -ไนนฺทีเซฟเวน=mp3= |
18 –เอทีน =mp3= |
38 –เธอทีเอท =mp3= |
58 –ฟิฟทีเอท =mp3= |
78 -เซฟเวนทีเอท=mp3= |
98 –ไนนฺทีเอท =mp3= |
19 ไนนฺทีน =mp3= |
39 –เธอทีไนนฺ =mp3= |
59 –ฟิฟทีไนนฺ =mp3= |
79 -เซฟเวนทีไนนฺ=mp3= |
99 -ไนนฺทีไนนฺ =mp3= |
20-ทเวนที =mp3= |
40 –ฟอที =mp3= |
60 –ซิคซตี =mp3= |
80 –เอที =mp3= |
100 วันฮันเดร็ด=mp3= |
100 วันฮันเดร็ด=mp3= 200 ทูฮันเดร็ด=mp3= 1000 วันเธาซันดฺ=mp3= 2000 ทูเธาซันดฺ =mp3=
พิพัฒน์
สไตล์การรายงานข่าวของ BBC
สวัสดีครับ
การพูดเป็น 1 ใน 3 กรรมของคนเรา คือ กายกรรม, วจีกรรม, และมโนกรรม และตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทุกกรรมจะต้องทำด้วยสุจริต
เฉพาะวจีกรรม คำสอนที่ได้ยินบ่อยนั้น พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนว่าให้พูดอะไร แต่สอนว่าอย่าพูดอะไร คืออย่าพูด 4 อย่าง คือ อย่าพูดเท็จ, อย่าพูดส่อเสียด, อย่าพูดคำหยาบ, และอย่าพูดเพ้อเจ้อ
ผมกำลังโยงเรื่องนี้เข้ากับเรื่องการรายงานข่าวของสำนักข่าวดังระดับโลก สำนักข่าวใดที่ยึดกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดว่า ต้องรายงานข่าวที่ไม่เท็จ ก็จะได้รับความเชื่อถือจากผู้เสพข่าว
แต่ข่าวก็มีเอกลักษณ์ของมันเอง คือข่าวที่ดีนอกจากเนื้อหาไม่เท็จ ยังต้องอ่านแล้วเข้าใจได้ทันที เพราะฉะนั้น ข่าวที่ดีจึงควรเข้าใจง่าย, ไม่เยิ่นเย้อ, ตรงไปตรงมา, ให้โอกาสแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับข่าวได้ให้ข้อมูลและความเห็น และเสนอได้รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ สำนักข่าวที่ยึดหลักการนี้อย่างเคร่งครัดมากเท่าใด ก็จะเป็นที่นิยมมากเท่านั้น – นี่เป็นเรื่องของเนื้อหาข่าว ซึ่งต้องไม่เท็จ ชัดเจน เข้าใจง่าย กระชับ เป็นกลาง รวดเร็ว
นอกจากเรื่องเนื้อหาแล้ว ข่าวยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่อง “ภาษา”
ท่านผู้อ่านลองสังเกตข่าวที่ท่านอ่านหรือฟังเป็นประจำวันก็ได้ครับว่า เขาใช้ภาษาที่ชัดเจนหรือคลุมเครือ, ภาษาที่เข้าใจง่ายหรือเข้าใจยาก, ภาษาที่กระชับหรือน้ำท่วมทุ่ง, ภาษาที่เป็นกลางหรือเอียงเข้าข้างโน้นออกข้างนี้
เรื่องภาษาที่ใช้รายงานข่าว จึงสำคัญไม่น้อยกว่าเรื่องเนื้อหาที่ถูกรายงาน
สำนักข่าว BBC เป็นสำนักข่าวดังระดับโลก วันนี้ผมจะไม่พูดถึงเนื้อหาข่าวที่เขารายงาน แต่ผมจะขอพูดถึงการใช้ภาษาในการรายงานข่าวของเขา
BBC มีสิ่งที่เรียกว่า styleguide ให้ผู้เขียนข่าวของเขาได้ใช้เป็นแนวทางในการเขียนข่าว ซึ่งครอบคลุมหลายเรื่อง เช่น การใช้คำย่อ แกรมมาร์ คำศัพท์ที่สับสน การสะกด เครื่องหมายวรรคตอน การอ้างอิงแหล่งข่าว และอื่น ๆ อีกหลายเรื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้เขาบอกว่า เพื่อทำให้มาตรฐานการใช้ภาษาข่าวของ BBC นั้นสูง ข่าวเข้าใจง่าย ชัดเจน
ท่านสามารถศึกษาที่เว็บข้างล่างนี้ครับ
- English grammar tips
- Grammar, spelling and punctuation
- BBC News style guide: fully searchable Word document
ขอยกตัวอย่างอีก 2 สำนักข่าว ซึ่งมีลักษณะนี้เช่นกัน
- The Economist Style Guide, Online version
- The Associated Press Stylebook
เรื่องที่ผมคุยในวันนี้อาจจะไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมขอให้ความเห็น คือ ในการศึกษาภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือภาษาใดก็ตาม การ “สังเกต”เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก ผมบอกไม่ได้หรอกครับว่า ต้องสังเกตยังไง แต่สามารถเปรียบเทียบง่าย ๆ อย่างนี้ครับ เหมือนกับเราเดินท่องป่า บนเส้นทางที่เท้าของเราสัมผัสพื้นขณะเดินทาง, ต้นไม้ ท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ ดวงดาว ที่เราเห็น, อากาศที่เราสูดเข้าปอด, เสียงของป่าทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนที่เราได้ยิน, ธารน้ำที่เราผ่านพบ ฯลฯ ทั้งหมดนี้มีอะไรมากมายให้เราสังเกต แม้ว่าในครั้งแรกที่เราสังเกตเห็น เราอาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เราก็ “รู้สึก” ได้ถ้าเราไม่ใจลอย
ในการศึกษาภาษาอังกฤษก็เช่นกัน ถ้าเรามีสมาธิขณะที่ฟังหรืออ่าน ถ้าเราไม่ใจลอย เราก็จะรู้สึกหรือเห็นอะไรบางอย่าง แม้อาจจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการศึกษาครับ
พิพัฒน์
โครงการฝึกอบรมเพิ่มสมรรถนะในการใช้ภาษาของนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ฟรี!
โครงการฝึกอบรมเพิ่มสมรรถนะในการใช้ภาษาสำหรับนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง
(ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาอินโดนีเซีย ภาษาฟิลิปปีโน)
โครงการฝึกอบรมเพิ่มสมรรถนะในการใช้ภาษาของนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยนักศึกษาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของบัณฑิตให้มีคุณภาพมาตรฐานในระดับภูมิภาคอาเซียน
รับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ณ สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง อาคารสุโขทัย ชั้น 4 ห้อง 408
ให้ thesaurus ช่วยเพิ่มพลังการพูด – การเขียน - การอ่าน ของท่าน (แนะนำวิธีใช้)
สวัสดีครับ
คนทั่วไปเวลาพูดจาหรือเขียนข้อความสื่อสารตามปกติ ก็มักใช้ศัพท์ธรรมดาสามัญ ไม่จำเป็นต้องกลั่นกรองหรือพิถีพิถันมากเกินไป และก็สื่อสารให้เข้าใจกันได้ แต่การใช้ศัพท์สามัญเช่นนี้ มี 2 – 3 ประเด็นที่น่าคิด คือ
[1] คำบางคำที่ใช้บ่อยเกินไป จะขาดพลัง ในการสื่อสาร เพราะคนฟังหรือคนอ่านเจอแต่คำนั้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ
[2] เราสามารถเพิ่มพลังและประสิทธิภาพในการสื่อสาร ถ้าเราใช้คำศัพท์ที่สื่อความหมายได้อย่างเจาะจง แทนที่จะใช้แต่คำกว้าง ๆ ทุกครั้ง เช่น
คำว่า say แปลว่า พูด/กล่าว จะพูดแบบไหนลักษณะใดก็ใช้คำว่า say ได้ทั้งหมด แต่ถ้าเราสามารถใช้คำศัพท์อื่นที่เจาะจงมากขึ้น ก็จะช่วยให้การพูดของเรามีพลังและน่าฟังยิ่งขึ้น
คำถามก็คือ ศัพท์อื่น ๆ ที่ว่านี้เราจะหาจากไหน?
คำตอบก็คือ มาจาก thesaurus!
Thesaurus คืออะไร? Thesaurus ก็คือดิกชันนารีประเภทหนึ่งที่รวบรวมคำศัพท์ที่มีความหมายเหมือน ๆ กัน หรือคล้ายกัน ที่เรียกว่า synonym ไว้ด้วยกัน และบางทีก็รวมคำที่มีความหมายตรงกันข้าม หรือ antonym ไว้ด้วย
วิธีค้นคำใน thesaurus ก็เหมือนกับในดิกชันนารี เขาจะเรียงคำหลัก ไปตาม A, B, C, D….อย่างเช่นคำหลัก คือ say ก็จะมี synonym และ antonym ของ say ให้เราดู เมื่อเราจะแต่งประโยคเพื่อใช้ในการพูดหรือเขียน เราก็สามารถดึงคำที่เขาโชว์ไว้มาแทนคำว่า say ทั้งนี้เพื่อให้ประโยคที่เราจะแต่ง มีความหลากหลาย ไม่ใช้คำเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ และเป็นคำใหม่ที่มีพลัง สื่อข้อความได้ชัดเจน ตรงประเด็น หรือให้ความรู้สึกตามที่เราต้องการจะสื่อ ซึ่งลักษณะเช่นนี้คำศัพท์สามัญอาจทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก เพราะมันสามารถให้ความหมายได้เพียงดาด ๆ
และกลุ่มคำที่มีความหมายเหมือนคำหลักที่ thesaurus โชว์นี้ อาจจะเป็นคำที่เราก็รู้จักเคยเห็นมาแล้ว แต่เวลาจะใช้เราอาจจะนึกไม่ออก เมื่อ thesaurus รวบรวมมาให้เรา ก็เท่ากับช่วยเรานึก เราสามารถหยิบมาใช้ได้ตามต้องการ
ยกตัวอย่างคำว่า say มีคำมากมายที่มีความหมายว่า “เปล่งเสียงออกจากปากเป็นคำศัพท์เพื่อสื่อข้อความ” ยกตัวอย่างเช่น เว็บ www.thesaurus.com ซึ่งเป็นเว็บ thesaurus ชื่อดัง มี Google PageRank ถึงระดับ 8 มีคำที่เป็น synonym ของ say ถึง 60 คำให้ท่านเลือกใช้ ดังนี้
add, affirm, allege, announce, answer, assert, break silence, claim, come out with, communicate, conjecture, convey, declare, deliver, disclose, divulge, do, estimate, express, flap, gab, give voice, guess, imagine, imply, jaw, judge, lip, maintain, make known, mention, opine, orate, perform, pronounce, put forth, put into words, rap, read, recite, rehearse, relate, remark, render, repeat, reply, report, respond, reveal, rumor, speak, spiel, state, suggest, tell, utter, verbalize, voice, yak
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ท่านผู้อ่านครับ เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้ ท่านเห็นเหมือนกับผมไหมครับว่า แม้ตามหลักการ ดูเหมือนว่า thesaurus จะมีประโยชน์ แต่มันก็ไม่น่าใช้เลย ดูตัวอย่างคำว่า say นี่ก็ได้ ถ้าจะต้องให้ผมไล่ดูถึง 60 คำและเลือกคำที่เหมาะมาใช้แทนคำว่า say อย่างนี้มันหมดแรงซะก่อน และคงไม่หยิบ thesaurus มาใช้หรอกครับ
ท่านอย่าเพิ่งท้อ โปรดฟังตอนต่อไปครับ...
แต่พอมาถึงยุคอินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ มีบางเว็บเขาคงจะเข้าใจปัญหาของคนใช้ thesaurus เขาจึงปรับปรุง thesaurus ให้มันใช้ง่ายขึ้น และวันนี้ผมขอแนะนำ 2 เว็บนี้
วิธีใช้ที่ว่าง่ายนั้น ทำอย่างนี้ครับ ผมขอยกตัวอย่างคำว่า say จากเว็บแรก
คำแนะนำข้างล่างนี้อาจจะยาวเกินไปสักนิดจนน่าเบื่อ แต่ถ้าท่านทนอ่านให้เข้าใจ เวลาใช้งานมันจะง่ายนิดเดียว
เมื่อเข้าไปที่เว็บ และพิมพ์คำค้น say เว็บจะแสดงผลอย่างนี้
ผมขออธิบายสิ่งที่เว็บแสดง เรียงลำดับทีละบรรทัด ดังนี้
- -คำว่า say เมื่อเป็น verb มีกี่ความหมาย โดยแต่ละความหมายจะมีหมายเลขกำกับ 1, 2, 3.... ในที่นี้ เว็บให้ 9 ความหมาย โดย 2 – 3 ความหมายแรกนั้นใช้บ่อยสุด เพราะฉะนั้น synonym ในความหมายแรก ๆ จึงน่าสนใจเป็นพิเศษ
ผมขอพูดตรงนี้เลยว่า หลายท่านสนใจคำศัพท์พื้นฐาน เช่น 1000 คำแรก หรือ 2000 คำแรก ผมขอเพิ่มว่า ท่านจะได้รับประโยชน์มาก ถ้าเพิ่ม synonym ในความหมายแรก ๆ ของคำศัพท์พื้นฐานเข้าไปในความสนใจของท่านด้วย นอกจากนี้ synnonym พวกนี้เรายังเจอบ่อยในการอ่านข่าวหรือบทความต่าง ๆ เพราะคนเขียนเขาก็ไม่ต้องการให้ข้อเขียนของเขามีแต่ศัพท์ดาด ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ เขาก็ใช้ synonym พวกนี้แหละในข้อเขียนของเขา
- -แต่ละความหมายที่ใช้ say จะมีประโยคตัวอย่างให้ท่านอ่าน, เพราะฉะนั้นขอให้ท่านอ่านประโยคตัวอย่างก่อน ขอย้ำตรงนี้ครับ ให้อ่านประโยคตัวอย่าง ก่อน ในเว็บแสดงประโยคตัวอย่างเป็นตัวเอน
- -เมื่ออ่านประโยคตัวอย่างแล้ว ท่านก็จะรู้ทันทีว่า say ที่ท่านต้องการจะใช้พูดหรือเขียนนั้น มันคือความหมายในประโยคหมายเลขอะไร
- -เสร็จแล้ว ท่านก็ดูเฉพาะคำเหมือน หรือ synonym ที่เขาให้มาเฉพาะที่ใช้ในความหมายนั้น ซึ่งท่านจะเห็นว่า คำที่ให้มานั้น เขาไม่ได้เรียงลำดับตาม a, b, c… แต่เขาเรียงตามความเหมาะสมจากมากไปน้อยที่ท่านจะหยิบไปใช้แทนคำว่า say แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านก็สามารถใช้วิจารณญาณของตัวเองได้ เพราะเรื่องของภาษา บ่อยครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่จะติดสินกันได้เด๊ะ ๆ เหมือน 1+1 = 2
- -คำที่เขาโชว์นี้ บางคำเป็นลิงก์ (คือคำที่ขีดเส้นใต้ ) นี่เป็นการอำนวยความสะดวกอีกอย่างหนึ่ง คือถ้าท่านต้องการดู synonym ของคำ ๆ นั้นต่อ ๆ ไปอีก ก็คลิกดูได้เลย (ขอแนะนำให้คลิกลิงก์ open in new tab เพื่อว่าเมื่อดูเสร็จ จะได้คลิก close ปิดไปได้เลย)
- -คำที่เขาโชว์นี้ บางคำเขาก็บอกด้วยว่า เป็น informal คือให้ใช้ในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ เช่น ใช้กับเพื่อนสนิท, อย่านำไปใช้ในลักษณะเป็นทางการ เช่น ในจดหมายติดต่อธุรกิจ, บางคำก็บอกว่าเป็น slang นี่ยิ่งต้องระวังมากเมื่อจะใช้
คราวนี้เชิญท่านเข้าไปดูของจริงได้, ขอย้ำนิดนึงนะครับ ให้อ่านประโยคตัวอย่างก่อน แล้วจึงค่อยอ่าน synonym ที่เขาให้มา
SAY
DO
คำว่า "ทำ" ในภาษาไทย สามารถคลุมทั้งความหมายที่ 1 แะ 2 ของ DO, สมมุติว่า ท่านชักจะงงว่า ประโยคที่ท่านจะเขียน ซึ่งแปลว่า "ทำ" มันจะเป็นข้อ 1 หรือข้อ 2, ก็ให้ท่านลองประมวลความหมายทั้งหมดของ synonym แยกข้อ เพื่อดูว่า สิ่งที่ท่านจะเขียน มันน่าจะสอดคล้องกับข้อ 1 หรือ 2, ถ้ายังงงอยู่อีก ก็ยังไม่ต้องรีบร้อนทำความเข้าใจก็ได้ครับ การงงไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะมันแสดงว่า เรากำลังเป็นนักศึกษา คนที่ไม่งงอะไรเลย อาจจะไม่ได้ศึกษาอะไรเลย จึงไม่งง แต่ความรู้ก็ไม่งอกงาม
GO
ABILITY
EAT
ที่พูดมาทั้งหมดนี้เป็นการใช้ thesaurus ขณะต่อเน็ต แต่ถ้าท่านต้องการดาวน์โหลด ebook ไว้ใช้โดยไม่ต้องต่อเน็ต ก็เชิญครับ วิธีใช้เหมือนกันทุกประการ แต่อย่าลืมที่ผมย้ำนะครับ คือ ในแต่ละความหมายนั้น ให้อ่านประโยคตัวอย่างก่อน
- คลิกดาวน์โหลด Oxford Paperback Thesaurus.zip
- ไฟล์ ebook thesaurus เล่มนี้ต้องเปิดด้วยโปรแกรม Mobipocket Reader คลิกดาวน์โหลดโปรแกรม
ท่านผู้อ่านครับ เรื่องการใช้ thesaurus อาจจะยากสักนิดสำหรับท่านที่ทักษะการอ่านยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก แต่มันก็มีประโยชน์มาก ผมขอแนะนำว่า...
[1] ให้ท่านเริ่มต้นจากคำศัพท์ง่าย ๆ ที่ท่านคุ้นเคยอยู่แล้ว
[2] ศึกษาเฉพาะ synonym ของ 2 – 3 ความหมายแรก ๆ ของคำศัพท์ก่อนก็ได้ ยังไม่ต้องศึกษา synonym ของทุกความหมาย
ผมขอรับรองว่า ถ้าท่านต้องการพัฒนาการใช้คำศัพท์ในการพูด การเขียน และการอ่าน ของท่าน ท่านจะได้รับประโยชน์คุ้มค่าจากการฝึกฝนการใช้ thesaurus แน่ ๆ ครับ
พิพัฒน์