Articles
โปรแกรม ศัพท์ TOEFL จาก ExamWord.com โดย อ. ยุทธนา
สวัสดีครับ
อาจารย์ยุทธนาได้ทำโปรแกรมศึกษาศัพท์ยากเพื่อสอบเข้าทำงานหรือศึกษาต่อ รวมทั้งหมด 4 โปรแกรมแล้วข้างล่างนี้
* ศัพท์ TOEFL 1000 คำ จากง่ายไปยาก
* ศัพท์เตรียมสอบ IELTS 4000 คำ
* ศัพท์ TOEIC 3420 คำ , โปรแกรมทดลองสอบ TOEIC
และวันนี้ผมขอแนะนำอีก 1 โปรแกรมใหม่ของอาจารย์ยุทธนา คือ
* ศัพท์ TOEFL จาก ExamWord.com
โปรแกรมนี้ ได้รวบรวมศัพท์จำนวน 1,354 คำที่มักจะพบในการสอบ TOEFL IELTS SAT ECPE PTE MELAB MCAT GRE GMAT PCAT TOEIC ACT
ลิงก์ที่มาของคำศัพท์:
วิธีหาภาษาอังกฤษง่าย ๆ ให้ตัวเองเรียน
สวัสดีครับ
ในเว็บ e4thai.com นี้ ผมพยายามหาเรื่องหลาย ๆ ประเภท, และหลาย ๆ ระดับความยาก-ง่าย มาให้ท่านได้เลือกเรียน ท่านเพียงคลิกเข้าไปที่ปุ่มต่าง ๆ ในเมนูที่คอลัมน์ซ้ายมือ และคลิกชื่อบทความที่ท่านสนใจ หรือจะพิมพ์คำค้นลงในช่อง “Google Search” หรือช่อง “Search this website only” ที่มุมบนซ้ายมือของหน้าเว็บ โดยถ้าต้องการเรื่องง่าย ๆ ก็ให้มีคำว่า ง่าย อยู่ในคำค้นนั้นด้วย เช่น
เพียงเท่านี้ท่านก็จะได้เรื่องง่าย ๆ จากเว็บ e4thai.com มาใช้ฝึกภาษาอังกฤษ
หรือท่านจะให้ Google ช่วยหาเรื่องง่าย ๆ จากเน็ตก็ได้ โดยทำดังนี้
[1] พิมพ์คำเหล่านี้พร้อมไปกับคำค้นของท่าน คือ
easy, simple, common, elementary, beginner, plain, in plain english, introduction, for kid, fundamental, entry level, step-by-step
ท่านก็จะได้เนื้อหาง่าย ๆ มาศึกษา
คลิกดูตัวอย่างข้างล่างนี้
- easy english stories
- simple english conversation
- common english vocabulary
- basic english grammar
- english cartoon for kid
- primary english exercises
- elementary english test
[2] เมื่อพิมพ์คำค้นตามข้อ [1] และ enter, ถ้าท่านต้องการให้ Google ใช้เครื่องมือของเขาคัดอีกครั้ง และแสดงเฉพาะเนื้อหาที่ง่ายที่สุด (เท่าที่เครื่องมือของ Google สามารถคัดกรองได้) ก็ให้คลิกตามรูปข้างล่างนี้
1.คลิก Search tools 2.คลิก All results 3.คลิก Reading level 4.คลิก Basic
แต่การค้นตามวิธีที่ [2] นี้ จะทำได้เมื่อตั้งภาษาที่ค้นเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น,
เพราะฉะนั้น ถ้าหน้า Google ของคอมฯ ท่านเป็นภาษาไทย
ท่านจะต้องเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ โดยคลิกที่ English ตามภาพข้างล่างนี้เสียก่อน
[3] เมื่อพิมพ์คำค้นตามข้อ [1] และ enter,
ถ้าท่านต้องการเฉพาะคลิปวิดีโอมาศึกษา ก็ให้คลิกคำว่า วิดีโอ หรือ Videos ตามภาพข้างล่างนี้
หวังว่า tip เล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้คงช่วยได้บ้างนะครับ
พิพัฒน์
วิธีง่ายที่สุด - เร็วที่สุด ในการทำ ebook คำศัพท์ อังกฤษ – ไทย
สวัสดีครับ
สมมุติว่า ท่านมีศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่สัก 1,000 คำ และท่านต้องการทำ ebook ขึ้นมาเล่มหนึ่ง ซึ่งมีคำศัพท์ชุดนี้พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย, ebook เล่มนี้ ท่านอาจจะเก็บไว้ดูเอง หรือมอบให้ลูกศิษย์เป็นคู่มือศึกษาคำศัพท์ก็ได้ ถ้าท่านต้องไปหาคำแปลและพิมพ์ลงไปทีละคำ กว่าจะครบ 1,000 คำคงเหนื่อยเอาการ ผมจึงขอแนะนำวิธีทำ ebook เล่มที่ว่านี้ด้วยวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด ดังนี้ครับ
[1] ให้ท่านเตรียมรายการคำศัพท์ภาษาอังกฤษของท่านไว้ จะอยู่ในรูปของไฟล์ WORD หรือ ไฟล์ Notepad ก็ได้ โดยขอให้มีแต่คำศัพท์ภาษาอังกฤษล้วน ๆ, อย่ามีภาษาไทย หรือสัญลักษณ์อื่นใดทั้งสิ้นอยู่ในไฟล์นี้
[2] ไปที่ http://dict2003.longdo.com/
[3] คลิก "ขยายขนาดเพื่อใส่ข้อความหลายบรรทัด" ที่ด้านขวาของช่องพิมพ์
[4] copy คำศัพท์ paste ลงไป ในช่อง “ใส่ข้อความ สำหรับบริการ PopThai”
[5] ตรง เลือกบริการ, ให้คลิก Vocabulary (text)
[6] คลิก submit
พอถึงตรงนี้ เว็บจะช่วยแปลศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยคำต่อคำ โดยเรียงลำดับคำตามที่ท่าน paste ลงไป
มีข้อมูลที่ขอแจ้งให้ทราบไว้ก่อน ดังนี้ครับ
♣บางครั้งเว็บ longdo หรือเน็ตที่ท่านใช้อาจจะรวนชั่วคราว ท่านอาจจะต้องกลับไปเริ่มทำ ข้อ [3], [4], [5], [6] ใหม่ และบางครั้งอาจจะต้องทำซ้ำถึง 3 – 4 รอบ หรืออาจจะต้องรอ 3 – 10 นาที เพื่อรอให้เว็บหายรวน หรือเน็ตของท่านมีเรี่ยวแรงมากขึ้นก่อน
♣ถ้าท่าน paste คำศัพท์จำนวนมากเกินไปในครั้งเดียว เว็บอาจจะเดี้ยงและไม่ยอมแปล ถ้าเจออย่างนี้ก็ให้ลดจำนวนคำลง คือให้เว็บแปลหลายครั้ง ๆ ละน้อย ๆ คำ และขอบอกว่า ถ้าเน็ตของท่านไม่ค่อยแรง การแปลของเว็บจะเดี้ยงง่าย
♥ เมื่อเว็บและเน็ตทำงานได้ตามหน้าที่ของมัน ผลการแปลคำศัพท์แต่ละคำจะมีหน้าตาอย่างนี้
ตามภาพข้างบน
♦-ท่านจะเห็นว่า เว็บ dict2003.longdo.com แสดงคาแปลเป็นภาษาไทยจาก 3 ฐานข้อมูล เรียงลาดับ ดังนี้: Lex2, Hope และ Nontri โดยคำแปลไทยจากฐานข้อมูลเหล่านี้อาจจะซ้ำกันบ้าง
♦-คำแปลไทยจากฐานข้อมูล Hope แสดงคำอ่านเป็นภาษาไทยไว้ให้ด้วย ถ้าต้องการดูคำอ่านก็ต้องกวาดสายตามองหาบรรทัดนี้
- ศัพท์ภาษาอังกฤษบางคำ เว็บไม่ยอมแปลให้ หรือถ้าเป็นคำที่ยากหรือเป็นศัพท์เทคนิคมากเกินไป ก็อาจจะไม่มีคำแปลในฐานข้อมูลของเขา หรือคำประเภท two-word verb หรือ idiom บางคำ ก็อาจจะไม่มีคำแปล
- ถ้าท่านใส่ verb ช่อง 2 รูปผิดปกติลงไป, เว็บจะบอกก่อนว่า มันเป็นช่อง 2 ของคำว่าอะไร แล้วจึงตามด้วยช่อง 1 พร้อมคำแปล ดังภาพข้างล่างนี้
[7] เอาละครับ เมื่อหน้าเว็บแสดงผลการแปลอย่างที่ต้องการ ท่านสามารถ save หน้าเว็บได้ 2 วิธี คือ
♥- save เป็นไฟล์ html ธรรมดา ๆ โดย กด Control + S และ save
♥- save เป็นไฟล์ pdf เพื่อทำ ebook โดยกด Control + P และตรง Select Printer (หรือ Print Destinations หรือ Printer Name) นั้นให้เลือก PDF และก็ save เป็นไฟล์ pdf
-ถ้าท่าน save เป็นไฟล์ pdf หลาย ๆ ไฟล์ เมื่อจะรวมหลาย ๆ ไฟล์นี้ให้เป็น ebook เล่มเดียวกัน คอมฯของท่านจะต้องลงโปรแกรมที่สามารถ combine ไฟล์ pdf หลาย ๆ ไฟล์เข้าด้วยกัน เช่น โปรแกรม Acrobat Pro
ขั้นตอนทั้งหมดก็มีแค่นี้แหละครับ
ผมขอยกตัวอย่างงานที่ทำเสร็จ ตามวิธีการที่อธิบายมานี้
รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษพยางค์เดียว พร้อมคำแปลไทย คลิกดาวน์โหลด
พิพัฒน์
วิธีฝึกศัพท์กับดิก ให้พูดอังกฤษได้
สวัสดีครับ
ท่านผู้อ่านครับ จากประสบการณ์การเป็น webmaster ของ e4thai.com ผมสังเกตว่า เมื่อนำรายการคำศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมคำแปลภาษาไทยมาให้ ท่านผู้อ่านจำนวนมากจะชอบคลิกเข้าไปดูกันเยอะ เช่นที่ 2 ลิงค์นี้
-
ศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2,000 คำ ของ Longman Dictionary
-
คำศัพท์ 1,000 คำแรก พร้อมคำแปล ที่มีการใช้มากที่สุดในภาษาอังกฤษ
แต่ถ้าผมนำรายการคำศัพท์ที่มีประโยคตัวอย่างมาให้ศึกษา จะมีคนคลิกเข้าไปดูไม่มาก ผมขออนุญาตให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้สักนิดนะครับ
ก็คือว่า การที่เราศึกษาคำศัพท์พร้อมคำแปลไทยนั้น เช่น โดยนำมาท่องหรือทบทวนอยู่เรื่อย ๆ จนจำได้ มันได้ประโยชน์แน่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ในการอ่าน คือเมื่อเราไปอ่านภาษาอังกฤษและเจอศัพท์พวกนี้ เราก็เข้าใจอ่านไม่ชะงักเพราะรู้ศัพท์ที่อ่าน
แต่การฝึกอย่างนี้วิธีเดียวมันไม่พอครับ เพราะการรู้ศัพท์นั้น นอกจากรู้เพื่อเอาไปอ่านแล้ว ยังควรรู้เพื่อเอาไปพูดหรือเอาไปเขียนให้ได้ด้วย แต่การรู้คำแปล มันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เรานำคำศัพท์นั้นไปแต่งประโยคเพื่อพูดและเขียน การจะแต่งประโยคด้วยคำศัพท์ เราจะต้องฝึกอ่านประโยคที่แต่งด้วยคำศัพท์นั้น ๆ พอถึงเวลาที่จะพูด เราก็จะสามารถลอกเลียนประโยคตัวอย่างนั้น ๆ ไปใช้พูดได้โดยไม่รู้ตัว
คำถามก็คือ คำศัพท์ที่มีประโยคตัวอย่างนี้ หาได้จากไหน? ก็หาได้จาก ดิกอังกฤษ-อังกฤษ หลายยี่ห้อ ที่มีให้ใช้ online คลิกที่ลิงก์นี้ และดูที่ข้อ [1]
แต่การใช้ดิกในข้อ [1] ท่านอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสะดวก เพราะถ้าจะศึกษา 100 คำก็ต้องพิมพ์ศัพท์ลงไป 100 ครั้ง
ผมมาพิจารณาดูแล้วเห็นว่า วิธีที่สะดวกที่สุดก็คือ ศึกษากับ ebook dictionary ที่รวบรวมเฉพาะคำศัพท์ใช้บ่อย ซึ่งมีประโยคตัวอย่างแนบมาให้ ซึ่งผมขอคัดเลือกมาให้ท่าน 2 เล่มนี้
เล่มที่ 1:Longman Basic English – Thai Dictionary
เป็นดิก Longman อังกฤษ แปลไทย โดยประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษที่ให้ไว้นั้น มีคำแปลเป็นภาษาไทยให้ไว้ด้วย
เล่มที่ 2:Longman Dictionary of American English
เป็นดิก Longman อังกฤษ – อังกฤษ
โดยวิธีศึกษาที่ผมขอแนะนำก็คือ
ข้อ 1 ให้ท่านอ่านประโยคตัวอย่างที่เป็นตัวเอน, แต่ละประโยคอ่านหลาย ๆ เที่ยว, และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรอ่านออกเสียงให้ตัวเองได้ยินด้วย อย่าอ่านเงียบ ๆ ในใจ
ข้อ 2 พออ่านประโยคแล้ว ก็ให้พยายามนึกและตีความให้ออกว่า ทั้งประโยคนี้แปลว่าอะไร, ศัพท์แต่ละคำแปลว่าอะไร
ข้อ 3 อ่านความหมายของคำศัพท์ที่ดิก Longman เล่มที่ 2 ให้ไว้เป็นภาษาอังกฤษ หรือ คำแปลที่ดิก Longman เล่มที่ 1ให้ไว้เป็นภาษาไทย
ตอนที่ศึกษา ผมขอแนะนำให้ท่านเปิดขึ้นมาพร้อมกันทั้ง 2 เล่ม โดยศึกษาความหมาย, คำแปล, ประโยคตัวอย่าง ที่ทั้ง 2 เล่มให้ไว้ พร้อมกันไปเลย
สำหรับบางคำที่ไม่มีประโยคตัวอย่างให้ไว้ ท่านก็ศึกษาความหมาย (Definition) เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งดิก Longman เล่มที่ 2 ให้ไว้แล้วกันครับ
ด้วยการศึกษากับดิก 2 เล่มนี้ ซึ่งมีทั้งประโยคตัวอย่าง, ความหมาย, และคำแปล ท่านก็จะได้ฝึกหลายอย่างพร้อมกันไปเลย คือ ฝึกอ่าน, ฝึกตีความ ทั้งประโยคตัวอย่างและคำจำกัดความ ถ้าท่านดู definition ในเล่มที่ 2 แล้วไม่แน่ใจ ก็ดูคำแปลในเล่มที่ 1 ก็ได้ และในเล่มที่ 1 นี้ ประโยคตัวอย่างมีคำแปลให้ด้วย ขอให้ท่านพยายามแปลด้วยตัวเองให้เต็มที่ก่อน แล้วจึงค่อยตรวจดูความถูกต้องกับคำแปลภาษาไทยที่ดิกให้ไว้
ผมหวังว่า ดิก Longman 2 เล่มนี้จะเป็นเครื่องมือที่ดี ให้ท่านได้ฝึกภาษาอังกฤษหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน การฝึกอย่างนี้ ท่านอาจจะต้องเหนื่อยหน่อย แต่ผมขอรับรองว่า ประโยชน์ที่ท่านได้รับจะมากกว่าการท่องจำคำศัพท์+คำแปล เข้าไปดื้อ ๆ การท่องนั้นท่านต้องใช้สมองแน่ ๆ แต่มันเป็นการใช้สมองทำงานด้านเดียว แต่การฝึกอย่างที่ผมแนะนำนี้ มันต้องใช้สมองทำงานหลายด้าน บางด้านท่านอาจจะไม่คุ้นเคยที่จะใช้ แต่ถ้าเราลงแรงฝึกให้สมองทำงานด้านใหม่ ๆ เราก็จะได้รับผลสำเร็จด้านใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยได้มาก่อน
ไฟล์ pdf ดิก Longman ทั้ง 2 เล่มนี้ เชิญ save เก็บไว้ได้เลยครับ
พิพัฒน์
English test online - กิจที่พึงทำเป็นประจำ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
สวัสดีครับ
การเจียดเวลาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง มาทำ test ภาษาอังกฤษมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
- ได้รู้ว่า ตอนนี้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษของเรามันขนาดไหน ดีขึ้น หรือแย่ลง หรือคงเดิม
- ได้รู้ว่า อะไรที่เราลืมไปแล้ว ยังงงอยู่ หรือไม่เข้าใจ ถ้ามีโอกาสจะได้เช็กบิล สะสาง ฟื้นฟู
กิจวัตรอันนี้ ถ้าวันทำงานไม่มีเวลาทำ ก็ทำตอนวันหยุดเสาร์อาทิตย์นั่นแหละครับ
วิธีทำก็ง่าย ๆ เพียงเข้าไปที่เว็บ e4thai.com นี้ และคลิกที่ปุ่ม Test ที่คอลัมน์ซ้ายมือ ในนั้นมี test ให้เลือกทำมากมาย
สำหรับท่านที่ไม่ชอบความซ้ำซาก ผมขอแนะนำ 2 บทความนี้
- ทำ Random English Test ไม่ซ้ำซาก - E4Thai.com
- ภาษาอังกฤษสำหรับคนขี้เบื่อ – ต้องให้เว็บ Random สุ่ม exercise & test มาให้ทำทีละข้อ
หรืออีกวิธีหนึ่ง เพียงเข้าไปที่หน้า google.com แล้วพิมพ์คำว่า English test online ลงไป Google ก็จะโชว์เว็บมากมายให้ท่านเข้าไปทำ test ทดสอบระดับภาษาอังกฤษของท่าน คลิกดู
หรือท่านจะพิมพ์คำให้ Google ค้นอย่างเจาะจงมากยิ่งขึ้นก็ได้ เช่น
- english+reading+comprehension+test+online
- english+vocabulary+test+online
- english+grammar++test+online
- english+listening+test+online
ขอเรียนว่าเว็บพวกนี้ หลายเว็บก็เป็นเว็บขายของ คือ พอเราทำ test จบ เขาก็จะแจ้งว่าทักษะภาษาอังกฤษของเราอยู่ที่ระดับนั้นระดับนี้ เราน่าจะเข้าไปเรียนคอร์สนั้นคอร์สนี้ หรือซื้อหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ที่เว็บของเขาขาย อันนี้เราไม่ต้องสนใจหรอกครับ เราเพียงรู้ว่าผลการทดสอบของเราเป็นอย่างไรก็พอแล้ว
และวันนี้ ผมมีเว็บง่าย ๆ มาแนะนำสัก 2 เว็บ
เว็บที่ 1:http://www.bbsi.co.uk/online_english_language_test
เมื่อทำเสร็จแล้ว เขาจะประกาศผล ซึ่งมีหน้าตาเป็นอย่างนี้
ตามตัวอย่างนี้ เขาเทียบให้ดูคร่าว ๆ เลยว่า ผลการทดสอบที่เว็บ BBSI ของเขา มันเท่ากับระดับ C2 ของ CEFR หรือ Council of Europe และเท่ากับระดับ 7.5 ขึ้นไป ของการสอบ IELTS
เว็บที่ 2: http://www.macmillanreaders.com/level-test/
เมื่อทำเสร็จแล้ว เขาจะประกาศผล ซึ่งมีหน้าตาเป็นอย่างนี้
มันมีปุ่ม Facebook ให้ท่านคลิกส่งไปอวดเพื่อนได้ด้วย
อีกวิธีหนึ่งที่ผมขอแนะนำ คือ...
นั่งกับเพื่อนที่หน้าคอมฯ แล้วทำด้วยกัน ช่วยกันคิด, ถกเถียงอธิบายไปด้วยกัน, ช่วยกันคลิก
นี่เป็นวิธีที่ช่วยกันเรียน ทำให้ไม่เบื่อ และเก่งไปด้วยกัน
พิพัฒน์