Articles
ว่าด้ายเรื่องการฟิตศัพท์กับ wordlist (อีกครั้ง)
สวัสดีครับ
ในโลกอินเทอร์เน็ต เราพบว่ามีผู้เชี่ยวชาญหลายคน หลายสำนัก จัดทำ wordlist คำศัพท์ภาษาอังกฤษ รายการคำศัพท์ที่เขาคัดเลือกรวบรวมไว้นี้เขาบอกว่า เป็นคำที่เจอบ่อย-ใช้บ่อย ถ้าจำได้ก็มีประโยชน์มาก
ดิก oxford และ Webster ก็ทำ wordlist เช่นนี้ และเปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าไปศึกษาได้ฟรีที่เว็บไซต์ดิกชันนารีของเขา
♥The Oxford 3000™: English Dictionary(3000 คำ)
♥ Top 1000 frequently used words(1000 คำ)
♥ 3000 Core English Vocabulary Words - Merriam-Webster(3000 คำ)
ดิก Longman และ Macmillan ก็ทำ wordlist เช่นกัน แต่ไม่ได้รวบรวมเป็น list ของ link คำศัพท์ให้ศึกษาเหมือนดิก oxford และ Webster
The Longman Defining Vocabulary(2000 คำ)
Parent Wordlists | Macmillan English(7500 คำ)
ยังมี wordlist ดัง ๆ ของสำนักอื่น ๆ อีก เช่น
♥ Ogden’s Basic English wordlist (850 คำ)
VOA Special English Word Book (1500 คำ)
Word frequency: based on 450 million word COCA corpus(5000 คำ)
♥ 1000 Most Common Words - ESL Desk(1000 คำ)(1.คลิก Definition Oxford & คลิกคำศัพท์ เพื่อดูความหมาย 2.เลือก Thai, คลิก translation & คลิกคำศัพท์ เพื่อดูคำแปล)
♥ Essential ESL Vocabulary List - ESL Desk(709 คำ) (1.คลิก Definition Oxford & คลิกคำศัพท์ เพื่อดูความหมาย 2.เลือก Thai, คลิก translation & คลิกคำศัพท์ เพื่อดูคำแปล)
ผมเคยอ่านพบคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จาก wordlist พวกนี้ เขาพูดทำนองนี้
1.การท่องจำก็มีประโยชน์ แต่อย่าเอาแต่ท่องอย่างเดียว อันดับแรกให้ดูว่า list ไหนที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ยาก-ไม่ง่าย, ไม่มาก-ไม่น้อย เกินไป; เมื่อเลือก list ได้แล้ว ก็เช็กดูว่าคำไหนรู้แล้ว คำไหนยังไม่รู้หรือไม่แน่ใจ ก็ใส่ใจคำพวกนี้มากเป็นพิเศษสักหน่อย
2.ฝึกอ่านและฝึกฟังภาษาอังกฤษ ที่ทำให้เรามีโอกาสเจอศัพท์พวกนี้ในรูปประโยคที่แท้จริง และนำศัพท์พวกนี้ไปใช้เขียนหรือพูด ในจังหวะที่เหมาะสม
คำแนะนำ 2 ข้อนี้เป็นคำแนะนำที่สามัญอย่างยิ่ง และดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าหวังความสำเร็จก็ควรทำ
ในการฝึกภาษาอังกฤษ บ่อยครั้งที่ทางลัดคือทางตันหรือทางลวง แต่แปลกที่คนจำนวนไม่น้อยชอบรอให้มีคนมาบอกทางลัด และก็อยู่เฉย ๆ ไม่ยอมทำอะไรเลยตอนที่รอ
มีอีก 1 วิธีที่ผมแนะนำบ่อย ๆ คือการศึกษาคำศัพท์กับประโยคตัวอย่าง ในลิงค์ข้างบนที่มีรูปหัวใจสีแดง ♥ ลิงค์นั้นแหละครับคลิกเข้าไปได้เลย มันมีประโยคตัวอย่างให้ศึกษา
ขอแถมท้ายโดยการเล่าเรื่องเกี่ยวกับดิก Macmillan สักนิดนะครับ เว็บดิก Macmillan คือ http://www.macmillandictionary.com/
เท่าที่ใช้ดูก็รู้สึกว่า ดิก Macmillan มีอะไรดี ๆ มากทีเดียว เขาบอกว่า มีศัพท์พื้นฐานที่ใช้บ่อยอยู่ 7500 คำ, แบ่งเป็น
3 ดาวแดง *** = ใช้บ่อยสุด 2500 คำ
2 ดาวแดง ** = ใช้บ่อยปานกลาง 2500 คำ
1 ดาวแดง *= ใช้บ่อยน้อย 2500
แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังหาไม่เจอ Wordlist ของเขา ถ้าเจอเมื่อไรจะนำมาบอกครับ แต่ถ้าท่านเจอก่อนก็ช่วยแจ้งด้วยนะครับ จะได้เป็นประโยชน์ต่อคนไทยด้วยกัน
วันนี้ผมเจอคำไฟล์ pdf ศัพท์ 3 ดาวแดง *** ของดิก Macmillan ซึ่งมีประโยคตัวอย่างให้ศึกษา มีไม่เยอะนักแต่ก็น่าสนใจทีเดียว ท่านที่ต้องการฟิตศัพท์พื้นฐานน่าจะใช้ประโยชน์ได้
พิพัฒน์
ศึกษาประวัติคนดัง ช่วยให้อ่านข่าวได้รู้ลึกและสนุก
สวัสดีครับ
อินเทอร์เน็ตทำให้คนต่างสถานที่ในโลกทุกวันนี้ใกล้ชิดกันขึ้น เหตุการณ์ที่เป็นข่าวในประเทศ ก. กระทบถึงชีวิตคนในประเทศ ข., ค, ง. แม้จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เรื่องที่เคยเป็น “ข่าวต่างประเทศ” ย่อมกลายเป็น “ข่าวในประเทศ” มากขึ้น เป็นไปได้ว่าในอนาคต หนังสือพิมพ์หรือเว็บข่าว อาจไม่มีการแบ่งข่าวเป็นในประเทศต่างประเทศเช่นทุกวันนี้
ข่าวคือรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ปัจจุบันมาจากอดีตและนำไปสู่อนาคต เพราะฉะนั้น การอ่านหรือฟังข่าวถ้ารู้เรื่องอดีตน้อยเกินไป อาจทำให้เข้าใจข่าวได้ตื้น และเดาอนาคตได้ใกล้ หรือเดาถูกได้ยาก
วิธีศึกษาอดีตมีหลายวิธี แต่วิธีที่ผมรู้สึกว่าสนุกและเข้าใจได้ง่ายที่สุด คือการศึกษาประวัติบุคคลสำคัญในข่าว ทั้งคนที่ยังเป็นและตายแล้ว เรื่องราวของเขามักโยงใยกับเหตุการณ์ที่เป็นข่าว และกับบุคคลอื่นที่เป็นข่าวร่วมกัน มันเหมือนดูหนังดูละครที่ไม่มีตอนจบ ใช่! โลกนี้คือละครที่ไม่มีตอนจบ
การศึกษาชีวิตคนในข่าวทำได้ง่ายมาก ท่านเพียงกูเกิ้ลด้วยชื่อคน ๆ นั้นเป็นภาษาอังกฤษ ประวัติของเขาก็จะถูกดึงมาให้ท่านอ่านทันที
แต่ที่ผมตั้งใจนำมาแนะนำในวันนี้ คือหนังสือดีเล่มหนึ่งที่รวบรวมประวัติคนในข่าวอย่างเป็นกิจจะลักษณะ และเขียนได้น่าอ่านทีเดียว น่าอ่านเพราะว่า
[1]ใช้ภาษาอังกฤษง่าย ๆ ให้คนทั่วไปอ่าน ไม่ใช้ภาษายากเหมือนเขียนตำราวิชาการ เขารู้ว่าถ้าใช้ศัพท์และสำนวนยาก คนจะไม่พลิกหรือไม่คลิกเข้าไปดู เพราะคนเดี๋ยวนี้ใจร้อนและไม่ชอบอดทน
[2]เขาไม่เขียนพร่ำพรรณนามากเกินไป แต่ใช้ภาษาสั้นกระชับ และเขียนในลักษณะที่ให้คนที่ตามข่าวเป็นปกติอยู่แล้วได้อ่าน เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นการรวบรวมเรื่องหรือไฮไลต์มาให้อ่านจบในเวลาอันสั้น ใช่แล้วครับ! นอกจากเรื่องยากที่คนไม่อยากอ่าน เรื่องยาวเกินไปคนก็ไม่ชอบอ่านเช่นกัน
[3]เขาเขียนอย่างไม่มีอารมณ์ ไม่รักไม่ชัง ไม่เข้าไม่ออก จึงน่าอ่าน แต่สไตล์การเขียนแบบนี้ ถ้ามีเป้ามุ่งให้คนอ่านเชื่อเรื่องเท็จ หรือเกลียดคนที่ผู้เขียนไม่รัก จะทำได้แนบเนียนมาก จึงต้องระวังบ้าง
วันนี้ ผมมีเรื่องประวัติบุคคลในข่าวที่เขียนในทำนองที่ว่านี้มาแนะนำให้ท่านอ่าน และแถมด้วยอีก 4 - 5 เว็บ
เรื่องที่ 1:ebook The 100 Most Influential World Leaders of All Time คลิกดาวน์โหลด
เมื่อคลิกเปิดไปที่หน้าสารบัญ (Contents) ท่านคลิกชื่อคนที่จะอ่านได้เลย (มันเป็นลิงก์), เมื่อจะย้อนกลับลิงก์เดิม ให้กด Alternate+ลูกศรซ้าย
ท่านเลือกอ่านประวัติคนที่ท่านสนใจแล้วก่อนกันครับ หนังสือเล่มนี้จัดทำโดย Encyclopedia Britannica ซึ่งชื่อเสียงพอจะประกันคุณภาพได้ แต่เพราะตีพิมพ์ปี 2010 เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดหลังปีนี้ ถ้าสนใจต้องไปหาอ่านต่อจากที่อื่น
เรื่องที่ 2: เว็บรวบรวมประวัติบุคคลที่ทรงอำนาจ โดย Time Magazine
เข้าไปแล้ว ดูที่แถบบน แล้วคลิกเลือก Titans - Pioneers - Artists - Leaders - Icons
- http://time.com/time100-2014/
- http://time100.time.com/2013-2/
- Time 100 - Wikipedia, the free encyclopedia
เรื่องที่ 3: เว็บรวบรวมประวัติบุคคลที่ทรงอำนาจ โดยนิตยสาร Forbes
- http://www.forbes.com/lists/2011/20/powerful-people_2010.html
- Forbes list of The World's Most Powerful People - Wikipedia
เรื่องที่ 4: สารานุกรมประวัติบุคคลสำคัญระดับโลก
หวังว่าคงได้รับความรู้และความเพลิดเพลินบ้างนะครับ
พิพัฒน์
วิธีตั้งเวลาปิดเครื่องคอมฯ
สวัสดีครับ
บางครั้งเราต้องการตั้งเวลาให้คอมฯ มันปิดตัวเอง เช่น ก่อนนอนเราเปิดเพลงทำสมาธิเช่นคลิปข้างล่างนี้ฟัง
https://www.youtube.com/watch?v=ls7NMH_O5Ck
และเชื่อว่าสัก 1 ชั่วโมงเราก็คงจะหลับ และจึงอยากจะตั้งให้คอมฯ มัน shut down ไปเองด้วย
วิธีตั้งเวลาปิดเครื่อง ทำได้ดังนี้ครับ
1.คลิกที่รูป Windows คือมุมซ้ายมือล่างของจอคอมฯ
2. พิมพ์ cmd ในช่อง Search programs and files แล้วกด enter
3. เมื่อ มันขึ้นสกรีนสีดำๆ ขึ้นมาแล้ว พิมพ์ shutdown -s -f -t 3600
(มันคือ shutdown, เว้นวรรค -s, เว้นวรรค -f, เว้นวรรค -t, เว้นวรรค จำนวนวินาทีที่ต้องการให้ shut down)
ถ้าต้องการให้คอมฯ shut down ในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า, ก็พิมพ์เลข 3600 (มันคือ 60 วินาที คูณ 60 นาที) ตามภาพข้างล่างนี้
วิธีนี้อาจจะดูยากเล็กน้อย
แต่ถ้าได้ทำสักสองสามครั้งแล้วจะรู้ว่ามันสะดวกมากครับ
หมายเหตุ:คำแนะนำนี้ ผมได้มาจากคุณประสาร คิดดี technical webmaster ของเว็บ e4thai ครับ
พิพัฒน์
ดาวน์โหลดไฟล์ภาพศัพท์ บ้านและข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน
สวัสดีครับ
วันนี้ผมมีไฟล์ภาพศัพท์บ้านและข้าวของเครื่องใช้ในบ้านมาฝาก หวังว่าคงมีประโยชน์บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณครู อาจจะนำไปใช้เป็นสื่อการสอนได้บ้าง
คลิกดาวน์โหลด ไฟล์ที่ •1•2•3•4•5•6•
แถม:Oxford Picture Dictionary - Second Edition
ขอเรียนว่าการหาภาพศัพท์ทำนองนี้ ทำได้ไม่ยาก ทำยังงี้ครับ
- ไปที่ https://images.google.com/
- พิมพ์คำค้น เช่น vocabulary feeling, Enter
- ถ้าต้องการเจาะจงเป็นภาพสี ก็คลิก Search tools --> Color, --> Full color
- ถ้าต้องการเจาะจงเป็นไฟล์ขนาดใหญ่ ก็คลิก Search tools --> Size, --> Large
หรือ จะระบุทั้ง color และ size ก็ได้
ตัวอย่าง คลิก--> vocabulary feeling Large และ Full color
ศึกษาเพิ่มเติม:
pinterest.com : แหล่งเข้าไปหา infographic มาใช้ในการเรียน-การสอน ภาษาอังกฤษ
พิพัฒน์
ฝึกฟัง - ฝึกพูด กับพัน ๆ ประโยคตัวอย่าง ในดิก Longman
สวัสดีครับ
ดิก online คุณภาพดีชื่อดังทุกยี่ห้อ มีปุ่มให้คลิกฟังเสียงอ่านคำศัพท์และฝึกออกเสียงตาม
ทุกยี่ห้อมีประโยคตัวอย่างให้ศึกษา แต่เสียดายที่ไม่มีปุ่มให้เราคลิกฟังเสียงอ่านประโยค ถ้ามีก็คงจะดีมาก ๆ เพราะนี่จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกฟัง-ฝึกพูดได้อย่างวิเศษ ไม่ใช่เพียงฟังศัพท์เป็นคำ ๆ เท่านั้น
แต่ อ๊ะ ก็ไม่เชิงซะทีเดียว เพราะมีอยู่ยี่ห้อหนึ่ง คือดิก Longman เขามีปุ่มให้เราคลิกฟังประโยคตัวอย่างได้ทุกประโยค แต่ได้เฉพาะศัพท์ที่ขึ้นด้วยด้วยตัว d และตัว s, 2 ตัวนี้เท่านั้น ท่านลองเข้าไปดูก็ได้ครับ จะเห็นต้นประโยคมีไอคอนรูปลำโพง คลิกตรงนั้นแหละครับ
D: http://www.ldoceonline.com/dictionary/day
S: http://www.ldoceonline.com/dictionary/say_1
ตามตัวอย่างในภาพ ข้างล่างนี้
ผมมาคิดดูแล้วก็เห็นว่า แม้จะมีให้เราฝึกเพียงเท่านี้ แต่ถ้าจะตั้งใจฝึกจริง ๆ มันก็มากมายเกินพอ เพราะว่าประโยคตัวอย่างของคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย d และ s เมื่อรวมกันแล้วก็น่าจะหลายพันประโยค และคำศัพท์ในประโยคเหล่านี้ มันก็เป็นตัวอักษร ตั้งแต่ a ถึง z ที่เราต้องเจอ – ต้องใช้เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงเพียงพออย่างยิ่งสำหรับการฝึกฟัง ฝึกอ่าน ฝึกพูดตาม
ท่านอาจจะเริ่มด้วยการฝึกกับศัพท์พื้นฐานก่อน
- คลิกดู:ศัพท์พื้นฐานที่ขึ้นต้นด้วย d (ตาม list ของดิก Longman)
- คลิกดู:ศัพท์พื้นฐานที่ขึ้นต้นด้วย s (ตาม list ของดิก Longman)
คลิก ศัพท์ตัว D พร้อมคำแปล ♦ คลิก ศัพท์ตัว S พร้อมคำแปล
อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจว่าบางท่านอาจจะมีปัญหาในการคลิกฟังเสียงประโยคตัวอย่างที่ว่านี้ จากเว็บดิกของ longman โดยตรง เพราะฉะนั้น เพื่ออำนวยความสะดวก ผมจึงได้ save ไฟล์ mp3 ประโยคตัวอย่างของคำว่า day ที่ longman ให้ไว้ ซึ่งมีถึง 66 ประโยค มาให้ท่านลองฝึก ถ้าฝึกแล้วรู้สึกว่าเข้าท่า ก็ลองหาวิธีแก้ปัญหาให้สามารถคลิกฟังเสียงจากเว็บดิก Longman ให้ได้
ไฟล์ mp3 นี้ ผม save มาโดยใช้โปรแกรม IDM เชิญ คลิกดาวน์โหลดโปรแกรม IDM
สำหรับการฝึกไปทีละประโยค ผมขอแนะนำอย่างนี้ครับ
[1] อ่านประโยคให้เข้าใจ
[2] คลิกประโยคเพื่อฟัง, ท่านสามารถอ่านข้อความของประโยค ที่ URL ของไฟล์ mp3 ก็ได้
[3] ฟังเสร็จ ให้ออกเสียงตามทันที เพื่อฝึกพูด
ในการฝึกฟังและฝึกพูดนี้ นอกจากเสียงหนัก-เบาของพยางค์แล้ว ควรใส่ใจเสียงท้ายพยางค์ เช่น –ed, -es ด้วย, และควรฝึกหลาย ๆ เที่ยว ในเที่ยวหลัง ๆ ควรฝึกฟังโดยละสายตาออกจากข้อความ หรือพูดโดยไม่ต้องดูประโยค
[4] ถ้าแรงยังไม่หมด ควรฝึกฟังแล้วเขียน นี่เป็นการฝึก spelling และเป็นก้าวแรกของการเขียน
สำหรับท่านที่ต้องการไฟล์ mp3 และ script ของทั้ง 66 ประโยคนี้ เชิญ คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด
ท่านอย่าถามเลยนะครับว่า ทำไมผมไม่แปลประโยคข้างล่างนี้ให้ด้วย?
แต่ถ้าท่านถาม ผมก็ขอถามกลับว่า ท่านพอเดาได้ไหมครับว่า ทำไมผมถึงไม่แปล?
เชิญครับ...
- We spent three days in Paris
- 'What day is it today?' 'Friday.'
- He left two days ago.
- I'll call you in a couple of days.
- The following day, a letter arrived.
- Over 10,000 soldiers died on that one day in January.
- What really happened on that day so long ago?
- I saw Jane the day before yesterday.
- We're leaving for New York the day after tomorrow.
- Women generally use up about 2000 calories a day.
- I got an email from Sue the other day.
- She only leaves her house during the day.
- It was a cold blustery day.
- Kept in that dark cell, I could no longer tell whether it was day or night.
- She first met Steve on a cold but sunny day in March.
- Owls usually sleep by day and hunt by night.
- The day dawned bright and clear.
- His day begins at six.
- Jackie starts the day with a few gentle exercises.
- Sometimes I feel I just can't face another day.
- 'See you later,' said the girl,'Have a nice day.'
- It's been a long day.
- I work a ten-hour day.
- Rail workers are campaigning for a shorter working day.
- I've got a day off tomorrow.
- I knew him pretty well from his days as a DJ in the Bounty Club.
- I always used to do the cooking in the early days of our marriage.
- Not much was known about the dangers of smoking in those days.
- They were very much opposed to the government of the day.
- One day , a mysterious stranger called at the house.
- From day one , I knew I wouldn't get on with him.
- In my day, kids used to have some respect for their elders.
- I used to run six miles a day in my army days.
- We used to stay in bed all morning and party all night. Those were the days!
- I don't do much exercise these days.
- It's incredible that such attitudes still exist in this day and age.
- To this day, he denies any involvement in the crime.
- This tradition has continued right up until the present day.
- I'd like to go and visit the States one day.
- Some day we might get him to see sense.
- One of these days I'm going to walk right out of here and never come back.
- Kelly's expecting the baby any day now.
- The day will come when he won't be able to care for himself any more.
- My uncle was a famous radio personality in his day.
- Don't be too disappointed you didn't win - your day will come.
- Game shows like that have had their day.
- Rioting broke out just three days before polling day.
- It's two years to the day since he died.
- She ended her days in poverty.
- It seems that the hospital's days are numbered.
- I couldn't stand sitting at a desk day after day.
- I never know from day to day what I'm going to be doing.
- His moods swung wildly from one day to the next.
- Her health was improving day by day.
- Being together night and day can put a great pressure on any relationship.
- A visit to the caves makes a fascinating and exciting day out for all the family.
- Even the greatest athletes have their off days.
- Hearing her voice on the phone really made my day.
- Since I had the accident, I've learned to take each day as it comes.
- It wasn't Chris's day - he overslept and then his car broke down.
- If the weather's nice, we'll make a day of it and take a picnic.
- 'Bill says he's going to start going to the gym.' 'That'll be the day!'
- Hurry up! I haven't got all day!
- Let's go out and celebrate. After all, it's not every day you get a new job.
- I'm on days this week.
- She's ninety if she's a day.
พิพัฒน์