Articles
หลายเว็บทดสอบคำศัพท์
เมื่อทำเสร็จ บางเว็บก็แค่บอกว่าเราได้กี่คะแนน แต่บางเว็บก็ประเมินด้วยว่าเราน่าจะรู้ศัพท์สักกี่คำ บางเว็บก็ถามง่าย ๆ ว่าเรารู้จักศัพท์ที่ให้มาหรือเปล่า มีทั้งเว็บที่จับเวลาและให้ทำตามสบาย บางเว็บก็มีหลาย level หรือหลายหมวดคำศัพท์ให้เลือกทำ ฯลฯ ลองทำดูซีครับ สนุกดี
【1】https://www.oxfordonlineenglish.com/english-level-test/vocabulary
【2】https://www.arealme.com/vocabulary-size-test/en/
【3】http://my.vocabularysize.com/select/test
【4】http://learnersdictionary.com/quiz/vocabulary-start
【5】https://www.merriam-webster.com/word-games/vocabulary-quiz
【6】http://vocabulary.ugent.be/
【7】http://vocabulary.ugent.be/wordtest/start
【7】http://www.readingandwritingtools.com/cvst/checklisttest.html
【8】https://www.proprofs.com/quiz-school/story.php?title=NTYyNDEx
【9】http://www.speaking24.com/test.php
【10】http://a4esl.org/q/h/vocabulary.html
ฝึกให้ "รู้" ศัพท์พื้นฐาน 2000 คำอย่างจริงจัง
ทุกคนรู้แล้วว่าศัพท์นั้นสำคัญ ถ้ารู้ศัพท์การจะอ่าน-ฟัง-พูด-เขียนภาษาอังกฤษก็ง่าย
แต่คำว่า "รู้" มันหมายถึงอะไร? มันไม่ได้หมายถึงแค่รู้คำแปล เช่น book - หนังสือ, dog - สุนัข, chair - เก้าอี้, love - รัก ฯลฯ แต่มันหมายถึงว่า เมื่อเราไปอ่านเจอหรือได้ยินคำศัพท์ก็เข้าใจ, และเมื่อจะพูดหรือเขียนสื่อสารก็นำคำศัพท์มาใช้ผูกประโยคได้ และการจะฝึกให้สามารถ "เข้าใจ - ใช้เป็น" อย่างนี้ ก็ต้องอ่านและฟังภาษาอังกฤษบ่อย ๆ และพยายามหาโอกาสนำศัพท์ที่เจอไปใช้พูดหรือเขียนบ่อย ๆ ถ้าได้ฝึกบ่อย ๆ ทั้งอ่าน-ฟัง-พูด-เขียนแบบนี้ การ "รู้" ศัพท์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ผมมี 2 เว็บข้างล่างนี้ที่ขอแนะนำ เขานำศัพท์พื้นฐานประมาณ 2000 คำมาให้ ฝึกเพื่อรู้ อย่างจริงจัง
เว็บที่ 1
→ ลิงก์ 1 หรือ ลิงก์ 2
เป็นศัพท์ 2000 คำที่ Longman Dictionary จัดทำขึ้น เมื่อท่านคลิกเข้าไปแล้วให้ศึกษาแต่ละคำอย่างเต็มที่ โดยท่านจะเห็นคำศัพท์ที่ท้าย URL ตามตัวอย่าง 10 คำแรก เมื่อคลิกเข้าไปแล้ว ก็ให้...
อ่าน :
คืออ่านทั้งความหมาย (definition) และประโยคตัวอย่าง และอื่น ๆ ซึ่งมีให้อ่าน
ฟัง :
ให้คลิกไอคอนรูปลำโพงที่ท้ายคำศัพท์ เพื่อฟังเสียงอ่านคำศัพท์เป็นคำ ๆ และคลิกไอคอนที่หน้าประโยคตัวอย่าง เพื่อฟังเสียงอ่านทั้งประโยค ฟังซ้ำหลาย ๆ ครั้งจนชินหู - คุ้นหู โดยสังเกตการลงเสียงหนัก-เบา, ขึ้น-ลง, เบา-ค่อย นี่คือการให้โอกาสแก่หูทั้ง 2 ข้างของเราในการฝึก และก็คือการเจอกับฝรั่งตัวจริงโดยไม่ต้องเห็นตัว
พูดตาม :
เมื่อได้ฟังแล้วต้องเปล่งเสียงหรือพูดตามเสียงดัง ๆ ออกมาให้ตัวเองได้ยิน จนชินปาก ไม่ใช่ออกเสียงในใจโดยไม่มีใครได้ยิน อย่าลืมว่าตอนที่เราคุยกับคนต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษ เราต้องพูดออกเสียงให้เขาได้ยิน ไม่ใช่พูดในใจซึ่งเขาไม่มีทางได้ยิน เพราะฉะนั้นก็ฝึกพูดตอนนี้แหละ
เขียน :
หลังจากฝึกอ่าน-ฟัง-พูดตาม จนคุ้นตา-คุ้นหู-คุ้นปากแล้ว ถ้ายังไม่หมดแรง ก็ลองคลิกฟังโดยตาไม่ต้องอ่าน ฟังแล้วก็เขียนประโยคนั้นลงกระดาษ นี่คือการฝึกการสะกดคำ (spelling) และก็ฝึก listening - writing ไปพร้อม ๆ กัน
ลองฝึกตามแนวที่ผมแนะนี่แหละครับ รับรองว่าดีแน่ ๆ ท่านจะไล่ฝึกตั้งแต่คำแรกเรื่อยไปจนถึงคำสุดท้าย หรือจะกระโดดไป-กระโดดมา เลือกฝึกคำที่ท่านสนใจก็ได้ตามอัธยาศัย
เว็บที่ 2
ลิงก์ 1:
มีศัพท์อยู่ 11 เล่ม ๆ ละ 200 คำ ศัพท์ไม่ได้เรียงจาก A → Z แต่จะเรียงตามความบ่อยที่เจอ
→ http://www.skesl.com/vocabulary/books.aspx
หรือท่านจะคลิก Search by Letter หรือ Search by Word (พิมพ์คำที่ต้องการศึกษา) ก็ได้
ลิงก์ 2 :
มีศัพท์อยู่ 8 list หรือ 8 กลุ่มให้ท่านเลือกศึกษา, แต่ละกลุ่มจะเรียงตามความบ่อยที่เจอ จากบ่อยมาก→ บ่อยน้อย
→ http://www.skesl.com/vocabulary/english-vocabulary-list.aspx
ทั้ง 2 ลิงก์นี้มีวิธีการฝึกเหมือนกัน คือ ... ดูภาพข้างล่างนี้
อ่าน :
เขาจะบอกว่าศัพท์นั้นเป็นคำอะไร เช่นเป็น v (verb), n (noun) หรือ adj (adjective) ถ้าคำ ๆ หนึ่ง เป็นหลายอย่าง ก็จะแสดงทีละอย่าง ๆ ถัดลงไปข้างล่าง
เว็บนี้แสดงประโยคตัวอย่างควบคู่กับแสดง Collocation (คำที่มักใช้คู่กัน) เช่นคำว่า improve ตามตัวอย่างนี้ ก็จะแสดง collocation ซึ่งเป็น adverb, verb และ noun ที่มักจะใช้คู่กับ improve → คลิกดู
ฟังและพูดตาม :
มีจุดให้ท่านคลิกฟังและพูดตามอยู่ 5 จุด ตามภาพข้างบน
1 - เสียงอ่านคำศัพท์
2 - เสียงอ่านความหมาย
3 - เสียงอ่าน คำศัพท์, ความหมาย, และประโยคตัวอย่าง ทั้งหน้า
4 - เสียงอ่านประโยคตัวอย่าง ทั้งหน้า และจะหยุดนิดหน่อยเมื่อจบแต่ละประโยค ให้เราได้ฝึกพูดตาม
5 - คลิกแต่ละประโยค เพื่อฟังเสียงอ่านเฉพาะประโยคนั้น และฝึกพูดตาม
เอาละครับ ผมขอแนะนำเพียงเท่านี้ ขอให้ท่านฝึกอย่างจริงจังเข้มแข็งนะครับ เชื่อว่าจะช่วยให้ท่าน "รู้" ศัพท์มากขึ้นทีเดียว ท่านจะฝึกกับเว็บที่ 1 หรือเว็บที่ 2 ก็ตามสะดวกครับ
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th
หลวงพ่อ สอนเรื่อง ความรัก
https://www.youtube.com/watch?v=fyC7At81ae8
https://www.youtube.com/watch?v=boMncjHyttQ
https://www.youtube.com/watch?v=0W6DCWY8WJo
https://www.youtube.com/watch?v=PZjs2Qtl6Ww
https://www.youtube.com/watch?v=yakuf0yCGYE
https://www.youtube.com/watch?v=N3YFpW9LPZk
หนังสือ
- หลักรัก - ชยสาโรภิกขุ
- ความรักในทางพุทธศาสนา...พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
- ๔ ความรัก อะไรคือรักแท้ - ว.วชิรเมธี
คลิกภาพ ↓↓↓↓ คลิกภาพ
ขอคุยเรื่องวันวาเลนไทน์สักหน่อย
ทุกวันนี้คนไทยรู้จักวันที่ 14 กุมภาพันธ์ว่าเป็นวันแห่งความรัก วันนี้เป็นเทศกาลของฝรั่งที่เมืองไทย import มาได้สักประมาณ 40 ปีแล้ว
ผมลองค้นดูประวัติความเป็นมาก่อนที่จะยึดเอาวันที่ 14 กพ เป็นวันแห่งความรัก ก็ได้ข้อสรุปว่า ประวัติมันค่อนข้างสับสน หลากหลาย หรือมั่วนั่นแหละครับ และนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สารานุกรมระดับโลก Encyclopedia Britannica เขียนบทความเรื่อง Valentine's Day ไว้เพียงสั้น ๆ
→ คลิกดู
ผมไปอ่านเรื่องนี้ใน Wikipedia ซึ่งถ้าข้ามส่วนของประวัติความเป็นมา (→คลิกดู) แล้ว ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่น่าอ่าน คือประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้เขาฉลองเทศกาลนี้กันอย่างไรบ้าง ผมมีข้อสังเกต 2 - 3 ข้อดังนี้ครับ
[1] เห็นได้ชัดว่า สาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้เทศกาลนี้เฟื่องฟูก็คือ นักธุรกิจที่โหมโปรโมทเทศกาลนี้เพื่อขายสินค้าประเภทการ์ดส่ง message, ช็อกโกแลต, ดอกกุหลาบ, หรือทุกวันนี้อาจจะเพิ่มของขวัญ-ของฝาก-ของแทนใจอย่างอื่นเข้าไปด้วย เช่น เสื้อผ้า, อัญมณี, ทอง หรือในเมืองไทยก็มีเพิ่มมื้ออาหารนอกบ้าน หรือการไปเที่ยว นี่เห็นได้ชัดว่า เทศกาลอะไรก็ตามที่ทำให้ธุรกิจได้กำไร มันจะอยู่ได้นาน ไม่ว่ามันจะมีเนื้อหาดีหรือไม่ก็ตาม
[2] เจ้าหน้าที่ทางการหรือกลุ่มทางศาสนาในประเทศมุสลิมหลายประเทศไม่ชอบหรือต่อต้านเทศกาลวันวาเลนไทน์ คำกล่าวหาก็มีตั้งแต่ มันเป็นธรรมเนียมเลว ๆ ของโลกตะวันตก, มันขัดกับแนวคำสอนที่ดีงามของศาสนา, มันแทรกมากับลัทธิโลกาภิวัตน์ที่เข้ามากลืนกินวัฒนธรรมดั้งเดิมของประเทศ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ดูเหมือนว่า วัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่ของแทบทุกประเทศตะวันออก ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำเตือนของคนแก่
[3] มีหลาย ๆ ประเทศก็ก็มีวันวาเลนไทน์ในเวอร์ชันของเขาอยู่แล้ว เช่น ของจีนก็มีประเพณีจากตำนานอมตะเรื่องเจ้าหญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัว ของอินเดียก็มีตำนานเรื่องกามเทพ ของญี่ปุ่นก็มีเทศกาลเฉลิมฉลองทะนะบะตะ ฯลฯ แต่เมื่อมีเทศกาลวันวาเลนไทน์จากตะวันตกเข้ามา แต่ละประเทศก็มีทั้งต่อต้าน, เลือกรับ, หรือบางประเทศก็อ้าแขนรับทุกสิ่งทุกอย่าง
[4] อีกข้อข้อที่น่าสังเกตก็คือ ประเทศที่พัฒนามาก ๆ ในยุโรปบางประเทศ เช่น เดนมาร์กและนอร์เวย์ จากการสำรวจเมื่อปี 2558 ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีไม่ถึง 50 % ที่วางแผนจะซื้อของขวัญให้คู่ของตนเนื่องในวันวาเลนไลน์
→ คลิกอ่าน
แล้วเมืองไทยล่ะครับ เป็นยังไงบ้าง เกี่ยวกับวันวาเลน์ไทน์
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th
วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองผ่านเน็ต
สำหรับท่านที่เริ่มต้น ผมมีคำแนะนำ 2 ข้อ
ข้อที่ 1: อ่าน/ฟัง ศัพท์/วลี/ประโยค → พูดตาม
เข้าไปฝึกที่นี่ → ฝึก ฟัง – พูด ภาษาอังกฤษ ทีละคำ ทีละประโยค
ข้อที่ 2: อ่าน/ฟัง คำถาม → ตอบ
พยายามตอบด้วยสำนวนภาษาของตัวเอง เปล่งเสียงออกมาโดยไม่ต้องกลัวผิด
- http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf2/500grammarbasedconversationquestions.pdf
- https://www.conversationstarters.com/101.htm
- https://www.conversationstarters.com/generator.php
คำแนะนำก็มีสั้น ๆ แค่นี้แหละครับ แต่ความสำเร็จในการฝึกก็ขึ้นอยู่กับว่า ท่านจะอึดได้นานแค่ไหน
พิพัฒน์
www.facebook.com/en4th