Articles
ตัวอย่างการเขียนแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทยเป็นภาษาอังกฤษ
สวัสดีครับ
ที่ลิงค์นี้
http://www.engjang.com/article/category-75428.html
มีบทความภาษาอังกฤษสั้น ๆ เขียนแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย 21 แห่ง ผมเห็นว่า น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจ เช่น อาจารย์ที่จะมอบการบ้านเรื่อง writing ให้นักศึกษา, เจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำป้ายให้นักท่องเที่ยวอ่าน เป็นต้น
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า บทความข้างล่างนี้เขียนได้ perfect เพียงแต่ผมนำมาให้ดูเป็นเลา ๆ ถึงการเขียนข้อความสั้น ๆ ในเรื่องทำนองนี้
ลองอ่านดูได้เลยครับ
เมื่อเปิดหน้าไฟล์ pdf ข้างล่างนี้แล้ว
กด Control ค้างไว้, และกลิ้งล้อบนเมาส์ ไป-มา เพื่อเพิ่ม-ลด ขนาดตัวหนังสือให้เหมาะกับสายตาของท่าน
- กรุงเทพ - Bangkok
- เกาะพีพี - Phi Phi Island
- เกาะล้าน - Koh Lan
- เกาะสมุย - Koh Samui
- เขาใหญ่ - Khao Yai National Park
- เชียงใหม่ - Chiang Mai
- เชียงใหม่ไนท์บาซ่า - Chiang Mai Night Bazaar
- ดอยปุย - Doi Pui
- ดอยอินทนนท์ - Doi Inthanon National Park
- ดอยอ่างขาง - Doi Ang Khang
- ตลาดจตุจักร - Chatuchak Market
- ถนนข้าวสาร - Khaosan Road
- ถนนคนเดินเชียงใหม่ - Chiang Mai Walking Street
- ถ้ำเชียงดาว - Chiang Dao Cave
- พัทยา - Pattaya
- ภูเก็ต - phuket
- เวียงกุมกาม - Wiang Kum Kam
- สยามโอเชียนเวิล์ด - Siam Ocean World
- สวนสัตว์เชียงใหม่ - Chiang Mai Zoo
- สามเหลี่ยมทองคำ -The Golden Triangle
- อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - Victory Monument
พิพัฒน์
แนะนำเว็บดูหนังฟรีเต็มเรื่อง: megashare.info
สวัสดีครับ
คุณ Flamingo ได้แนะนำเว็บนี้ให้ดูหนังฟรีเต็มเรื่อง
http://megashare.info/#AllFilm,S
โดยบอกมาว่า มีหมวดหมู่ให้เลือก ทั้งที่เป็น single movies และ series movies แต่รู้สึกเว็บจะ มีปัญหา เขาไม่ อัพภาพยนต์เรื่องใหม่ๆแล้ว แต่ก็มีเรื่องเก่าให้เลือกดูอยู่เยอะเลยค่ะ subtitle ก็โหลดเอา ใช้ IDM หรือโปรแกรมอะไร ก็ได้ค่ะ ภาพยนตร์ในเว็บนี้ชัดดีค่ะ
ผมลองเข้าไปดูแล้ว ได้เรื่องที่ผมชอบคือTitanic
http://megashare.info/watch-titanic-online-TkRBPQ
แต่เรื่องอื่น ๆ หาไม่ค่อยได้ มันชอบขึ้นว่า Failed to load, try again later. ท่านลองใช้ดูแล้วกันครับ ถ้าโชคดีอาจเจอเรื่องที่ชอบ
ขอบคุณคุณ Flamingo มากนะครับที่ช่วยแนะนำ
พิพัฒน์
ป้ายแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษที่ติดไว้ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอ่าน
สวัสดีครับ
วันนี้ผมขอพูดเรื่อง ป้ายแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษที่ติดไว้ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอ่าน
Thailand เป็นสถานที่อันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชอบมาเยือน ผมเดาว่าคงมีหลายสาเหตุที่ดึงดูดคน เช่น เรามีทุกอย่างสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ชายหาด เกาะ ภูเขา ดอย เทศกาล อาหาร ผลไม้ หัตถกรรม ของที่ระลึก สถานที่เคารพสักการะ แหล่งประวัติศาสตร์ สินค้าแท้ราคาแพง สินค้าเทียมราคาถูก ตีกอล์ฟ เดินป่า บันเทิงราตรี ศัลยกรรม-ทันตกรรมราคาถูก และสถานที่ปฏิบัติธรรม และที่สำคัญที่สุด เรามีคนไทยที่ยิ้มง่ายและไม่โหดหรือขี้โกงเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับเจ้าของบ้านอีกหลาย ๆ ประเทศ คนต่างชาติจึงมาเที่ยวเยอะ และเมืองไทยก็ popular มานานแล้ว
ในเรื่องภาษาอังกฤษซึ่งต้องใช้สื่อสารกับนักท่องเที่ยว คนไทยก็เก่งขึ้นเยอะ แต่ผมเห็นว่า เราต้องเก่งกว่านี้อีก ไม่ว่าจะเป็นคนขายของ คนขับรถสาธารณะ หรือคนไทยโดยทั่วไปซึ่งทำหน้าที่เป็นเจ้าของบ้าน ควรสามารถทักทายหรือพูดคุยกับเขาได้บ้าง ตามโอกาสอันเหมาะสม และผมว่านี่เป็นเสน่ห์นะครับ นักท่องเที่ยวจะรู้สึกอยากมาบ้านเราอีกถ้าคนไทยออกปากพูดด้วย ไม่ใช่มาอยู่เมืองไทยหนึ่งอาทิตย์พูดภาษาอังกฤษกับคนไทยแค่คนเดียวคือไกด์
ขอวกมาเรื่องที่ผมตั้งใจจะพูดในวันนี้ คือป้ายแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษที่ติดไว้ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอ่าน ผมเห็นบางสถานที่ติดไว้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้าไปจัดการ หรือวัด เจดีย์ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ นี่เป็นเรื่องดีที่ควรทำ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและควรรู้ในเวลาอันสั้น เพียงแค่อ่านรวดเดียวก็รู้แล้ว
แต่ขอให้ผมบ่นหน่อยเถอะครับ เท่าที่ผมเห็น ป้ายแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษหลาย ๆ แห่งยังต้องปรับปรุง ยกตัวอย่างในเรื่องต่อไปนี้
เขียนยาวเกินไปและอ่านยาก:
บางแห่ง เช่น สถานที่ทางประวัติศาสตร์ เขียนไว้ยังกะลอกข้อความในหน้าพงศาวดารมาแปะ เราควรจะเขียนด้วย plain English language ให้มันอ่านง่าย ๆ คำที่เป็น technical term ทางประวัติศาสตร์ก็ควรเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษแบบชาวบ้าน และอย่ายาวเกินไป เพราะเราไม่จำเป็นต้องให้รายละเอียดเขามากเกินไป รายละเอียดนี้เราสามารถเขียนให้คนไทยอ่านในป้ายภาษาไทย ที่ไม่จำเป็นต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดคำต่อคำ
เขียนผิดแกรมมาร์และ spelling:
นี่เป็นสิ่งที่ผมเจอบ่อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องง่าย ๆ ที่ไม่ควรผิด เช่น เล่าเหตุการณ์ในอดีตควรจะใช้ past tense กลับใช้ present tense, ใช้ run-on sentence, spelling ผิด, ผิดเรื่อง article หรือ เติม –es, -ed ผิดอย่างโต้ง ๆ เป็นต้น ของเหล่านี้ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิตหรอกครับ แต่ก็ไม่น่าจะปล่อยให้ผิดออกมาโชว์ชาวบ้าน เพราะมันเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่น่าจะช่วยกันดูให้ดีเสียก่อน ผมเห็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรีที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ป้ายที่เป็นภาษาอังกฤษในนั้นเขียนผิดแกรมมาร์ทุกป้าย มากบ้างน้อยบ้าง เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อทำไปแล้วมันก็แก้ยากเพราะใช้เงินเยอะถ้าต้องทำป้ายใหม่
เรื่องนี้ผมเห็นว่า ควรมอบให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษที่อยู่ในจังหวัดนั้น ๆ ช่วยกันรับผิดชอบ
ผมเข้าไปดูหน้าภาษาอังกฤษของเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ที่นี่: http://www.tourismthailand.org/home
ก็เห็นว่ามีข้อมูลของแต่ละจังหวัดเป็นภาษาอังกฤษ รวมทั้งข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
ที่หน้าภาษาอังกฤษของ Wikipedia ก็มีอยู่บ้าง
- http://en.wikipedia.org/wiki/Provinces_of_Thailand
- http://en.wikipedia.org/wiki/Category:Visitor_attractions_in_Thailand_by_province
- http://en.wikipedia.org/wiki/Category:Visitor_attractions_in_Thailand
แต่ข้อมูลเหล่านี้ก็มิใช่ว่าจะสามารถลอกมาเขียนลงป้ายได้เลย คงต้องปรับเกลาอยู่พอสมควร
น่าเสียดายที่ผมลืมถ่ายรูปภาษาอังกฤษผิด ๆ ที่เล่ามานี้ จึงไม่มีตัวอย่างมาให้ดู (ที่สุพรรณบุรีถ่ายไว้แต่ไม่กล้านำมาลงกลัวถูกฟ้อง) ในที่นี้ผมขอนำภาพที่ถ่ายในเมืองไทยที่หาได้จากเน็ตให้ท่านดูเป็นตัวอย่างพอให้เห็นลาง ๆ ว่า ถ้ามันเป็นป้ายที่เป็นทางการ คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ที่พูดมาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบน่าจะช่วยจัดการได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เพียงแต่ต้องระวังมากขึ้นสักนิดเท่านั้นเอง
พิพัฒน์
ฟิตภาษาอังกฤษโดยการดูหนังฝรั่ง ได้ผลมากน้อยแค่ไหน? และวิธีฝึกให้ได้ผลมากฝึกยังไง ?
สวัสดีครับ
หลายคนถามว่า การฟิตภาษาอังกฤษโดยการดูหนังฝรั่งได้ผลมากน้อยแค่ไหน? และวิธีฝึกให้ได้ผลมากฝึกยังไง ? เรื่องนี้ขอตอบยาวสักนิด ท่านอดทนอ่านสักหน่อยนะครับ
[1]
หนังที่ดูไม่ควรเป็นหนัง action ที่มีบทพูดน้อย หรือพอพูดแต่ละทีก็มีแต่สแลงหรือคำหยาบ(ที่เราไม่ควรจำไปพูด) แต่ควรเป็นหนังที่มีบทพูดเยอะ ๆ เช่น การดำเนินคดีในศาลที่คู่ความพูดโต้กันไปโต้กันมา หรือหนังดราม่า หนังแบบนี้เราได้ฝึกฟัง เรียนรู้คำศัพท์และสำนวน และถ้าเป็นเรื่องที่เราชอบ เราจะเข้าใจได้ง่าย จำได้เร็ว
[2]
หนังในข้อ [1] รวมไปถึงหนังการ์ตูน เช่นหนังวอลท์ ดิสนีย์ หรือหนังสารคดีต่าง ๆ หรือ ซิตคอม สรุปก็คือ เป็น story ที่มีบทพูดเยอะให้เราดูและฟัง
[3]
อันดับแรก ให้ท่านหาคลิป Youtube ที่มี subtitle ให้อ่านพร้อมดูหนัง, หาได้ยังไง?
ไปที่นี่:ดูหนังฝรั่งเรื่องยาว พร้อม subtitles ภาษาอังกฤษ
หรือที่นี่ :วิธีเลือกคลิปที่มี closed caption หรือ subtitle ภาษาอังกฤษ
[4]
ถ้าท่านไปซื้อหนังแผ่นที่มี subtitle ให้เลือกทั้งไทยและอังกฤษ ในเที่ยวแรกที่เปิดดู ท่านอาจจะดูหนังฝรั่งพากย์ภาษาอังกฤษและอ่าน subtitle ภาษาไทย พอให้รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร หลังจากนั้น ถ้าทำได้ก็ให้ปิด subtitle ภาษาไทยและเปิด subtitle ภาษาอังกฤษแทน อย่าใช้วิธีอ่านภาษาไทย+ฟังเสียงฝรั่งไปตลอด เพราะการฝึกฟังภาษาอังกฤษจะทำได้น้อย เนื่องจากสมาธิของท่านจะถูกแบ่งไปอยู่ที่ภาษาไทยที่กำลังอ่านเกินครึ่ง
[5]
การดูหนังฝรั่งเพื่อฝึกภาษาอังกฤษจะต้องดูหลาย ๆ เที่ยว อาจจะเป็นสิบเที่ยวก็ได้ แต่ละเที่ยวดูยังไง? อันนี้ผมไม่มีคำแนะนำเด็ดขาดให้ เพราะแต่ละคนย่อมมีวิธีฝึกที่ได้ผลต่างกันไป ฝึกอันนั้นมาก อันนี้น้อย อันนั้นก่อน อันนี้หลัง หรืออันนั้นพร้อมกับอันนี้ เรื่องนี้ต้องหาให้พบด้วยตัวเอง ผมขอยกตัวอย่างข้างล่างนี้ (ซึ่งท่านไม่จำเป็นต้องทำตามที่ผมว่าไว้ ถ้าท่านฝึกตามวิธีของท่านและได้ผลดีกว่า) เช่น
- -ดูหลาย ๆ เที่ยว ให้หูคุ้นสำเนียงของศัพท์และสำนวน คุ้นกับประโยคที่นักแสดงพูด คุ้นหูโดยอาจจะยังไม่เข้าใจก็ได้ แต่เพียงแค่จับได้ว่าเขาพูดว่ายังไง โดยยังไม่เข้าใจ นี่ก็พัฒนาไปเยอะแล้วครับ
- -ทำความเข้าใจกับบท, subtitle, หรือ script (ถ้ามี), การทำความเข้าใจก็มีหลายวิธี แล้วแต่ชอบหรือถนัด ไม่ต้องยึดกฎเกณฑ์มาก ขอให้สนุกและไม่เบื่อก็ใช้ได้ เช่น
- A- ดูและอ่าน subtitle ภาษาอังกฤษไปเรื่อย ๆ ถ้าเราอ่านทัน หรือถ้าประโยคไหนอ่านไม่ทัน ก็ pause และอ่านตีความให้แตกก่อน, และคลิก play เพื่อดูต่อ แต่ก็ไม่จำเป็นต้อง pause+อ่าน+ตีความ ทุกประโยคที่ไม่เข้าใจ ประโยคไหนอยากผ่านไปก่อนก็ผ่านไปได้ บอกแล้วว่าไม่ต้อง serious มาก (- -การฝึกดูแบบนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ท่านทำได้หลายเที่ยว- -) ถ้าดูไม่จบในรวดเดียวก็จดไว้แล้วกันครับว่า ค้างอยู่ ณ นาทีที่เท่าไหร่ เมื่อมาดูใหม่ก็ start ตรงจุดที่ stop ไว้
- B- ถ้าท่านเป็นคนที่ชอบให้รู้เรื่องแบบละเอียดยิบเป็นหลัก ในเที่ยวหลัง ๆ ที่ดู ท่านอาจจะปิดเสียงเลย, play คลิปและค่อย ๆ อ่าน subtitle บนจอไปทีละประโยค ๆ, ประโยคไหนไม่เข้าใจก็ pause+อ่านตีความให้รู้เรื่อง และ play ทำอย่างนี้ตั้งแต่ต้นจบจบเรื่อง หรือถ้ามี script หรือ e-book อยู่ในมือ ก็อาจจะศึกษาให้ตลอดก่อนก็ได้ (- - การฝึกอ่านและตีความแบบนี้ทำเที่ยวเดียวก็น่าจะพอ - -) นี่หมายความว่าถ้าท่านชอบแบบนี้ก็ทำแบบนี้ได้ ถ้าไม่ชอบแบบนี้ก็อย่าทำ มันจะเครียด ให้ทำแบบข้อ A น่าจะดีกว่า
[6]
เมื่อฝึกดูและอ่านในลักษณะนี้ จนคุ้นตาและคุ้นหูพอสมควรแล้ว ก็ฝึกดูโดยปิด subtitle เราสามารถฝึกอย่างนี้จนจบเรื่องหลาย ๆ เที่ยว แต่ถ้าฝึกแล้วรู้สึกว่าไม่ไหว คือรู้เรื่องน้อยจัง ก็สามารถกลับไปฝึกแบบข้อ [5] หรือ [5]-A ก็ได้ คือดูคลิปพร้อมอ่าน subtitle
[7]
ที่พูดมาทั้งหมดข้างต้นนี้ คือการดูหนังฝรั่งธรรมดา ๆ ที่เขาทำขึ้นมาเพื่อให้คนทั่วไปดู ไม่ใช่หนังที่เขาทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อการฝึกภาษาอังกฤษ ผมขอยกตัวอย่างหนังที่ทำพิเศษข้างล่างนี้
Living English (42 ตอนจบ โดย australianetwork.com)
The Flatmates (200 ตอนจบ โดย BBC)
Lifetime (3 คลิป โดย Oxford)
1•2 • 3 •
New Headway ((4 คลิป โดย Oxford))
1 •2 •3 • 4 •
English Conversation (25 คลิป)
หนังฝรั่งพวกนี้ เขาทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกภาษาอังกฤษ มันมักจะเป็นแบบดราม่าหลายตอนจบ และมีบทพูดเยอะ บางชุดมีคำอธิบายแทรกเมื่อจบแต่ละตอน เขาพยายามสร้างเนื้อเรื่องให้สนุกเพื่อคนเรียนจะได้ไม่เบื่อ แต่มีการควบคุมหลายอย่าง เช่น ควบคุมศัพท์ สำนวน ลักษณะประโยค ความเร็วที่ตัวละครพูด และอาจจะแบ่งเป็น level ง่าย-ยากให้เราเลือก แถมบางเรื่องมียัง subtitle ให้อ่านอีกด้วย หนังประเภทนี้แม้จะไม่สนุกเท่าหนังประเภทแรก แต่ก็ไม่น่าเบื่อนัก และที่สำคัญที่สุดคือ เราจะเรียนได้ง่ายกว่าประเภทแรก
ท่านผู้อ่านครับ มาถึงตรงนี้ ผมขอย้อนกลับไปยังคำถามที่ตั้งไว้ตอนต้นว่า ฟิตภาษาอังกฤษโดยการดูหนังฝรั่ง ได้ผลมากน้อยแค่ไหน? คำตอบของผมคือ ได้ผลครับ ได้ผลมากซะด้วย แต่ก็เป็นอย่างที่ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า การฝึกภาษาอังกฤษต้องใจเย็นและอดทนต่อเนื่อง เพราะการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษนั้น เหมือนการเดินทางไกลที่ไม่มีทางลัด เหมือนการเดินขึ้นชั้นบนของตึกสูงที่ไม่มีลิฟต์ แต่ถ้าเราหวังจะไปให้ถึงที่หมายหรือขึ้นที่สูง ก็ต้องใจเย็นและอดทน มีทางนี้ทางเดียวเท่านั้น ไม่มีทางอื่นครับ
พิพัฒน์
ฝึก reading skill กับ email ลวงโลก
สวัสดีครับ
ผมคิดว่าหลายท่านคงเคยเจอมาบ้าง คือจู่ ๆ อีเมลหรือ Facebook ของท่านก็ได้รับข้อความจากใครก็ไม่รู้ เป็นคนแถวแอฟริกา ชื่อประเทศแปลก ๆ บอกเราว่าอีเมลหรือ Facebook ของเราถูก lottery, หรือเขากำลังดำเนินธุรกิจแต่ต้องการให้เรารับรองเพราะกฎหมายในประเทศของเขาติดขัดดำเนินเรื่องต่อไปไม่ได้, หรือเขาได้รับมรดกต้องการให้เราการันตี หรือเหตุผลอะไรต่ออะไรอีกมากมาย เล่ามายังกะนิยาย และขอให้เราส่งข้อมูลไปให้ เช่น ชื่อ-สกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หนังสือเดินทาง ฯลฯ พร้อมกับยื่นเงื่อนไขว่า ในอนาคตจะเป็นหุ้นส่วนกัน จะแบ่งเงิน 50 – 50 % พร้อมกับยกยอดเงินจำนวนมหาศาลมาให้อ่าน อีเมลนิยายทำนองนี้ ยังมีประหลาดมากกว่านี้อีกเยอะ
หลายท่านที่เจอทำนองนี้คง delete ไปเลย แต่ท่านเชื่อไหมครับ ก็ยังมีบางคนถูกหลอกเพราะอีเมลทำนองนี้ คือหลวมตัวเขียนติดต่อกับเขา แล้วก็ตะครุบเหยื่อล่อ ส่งเลขบัตรเครดิตไปให้เขา หรือส่งเงินไปให้เขาก้อนหนึ่ง โดยหวังว่าเขาจะส่งก้อนมหาศาลกลับมาให้เพราะเป็นหุ้นส่วนกันแล้ว
ผมขอชวนให้ท่านลองอ่านดูสัก 3 ตัวอย่าง นี้
ผมขอตั้งความเชื่อแล้วกันครับว่า แฟนเว็บและ Friend &Fan Facebook ของผม ไม่มีใครถูกหลอกอย่างนี้ วันนี้จึงขอนำ 1 เว็บที่รวบรวมอีเมลลวงโลกพวกนี้มาฝาก
ที่นี่: http://nigerian-419scams.blogspot.com/
ผมนำเว็บนี้มาฝาก เพราะ
- ต้องการเตือนบางท่านที่อาจจะยังไม่รู้เล่ห์กลพวกนี้ อย่าได้ไปยุ่งกับมัน
- ถ้าเห็นใครมีท่าทางว่าจะถูกหลอก ก็ช่วยเตือนเขาด้วย
- หรือไม่ก็อ่านอีเมลพวกนี้เพื่อฝึก reading skill หรืออ่านเป็นนิยายประเทืองอารมณ์ก็ได้ครับ
คลิกเลือก Contents ที่คอลัมน์ขวามือ หรือใช้ Search ก็ได้
พิพัฒน์