Articles
แนะนำ “อุปมาอุปไมยของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทโท)” โดย พระมหาสมพร อาภากโร (เหลาฉลาด)
สวัสดีครับ
คำสอนของหลวงพ่อชา ที่จัดพิมพ์เป็นธรรมะสั้น ๆ หรืออุปมาอุปมัย มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ผมได้รวบรวมไว้ที่ลิงก์นี้
หนังสือรวบรวมคำสอนสั้น ๆ ของหลวงพ่อชา
แต่มีอีกเล่มหนึ่งที่ผมเจอหลายวันแล้ว แต่ยังไม่ได้นำมาแนะนำ คือวิทยานิพนธ์ การศึกษาอุปมาอุปไมยในคำสอนของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) โดย พระมหาสมพร อาภากโร (เหลาฉลาด) โดย วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ตามหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พุทธศักราช ๒๕๔๘
ที่นี่ครับ http://www.mcu.ac.th/thesis_file/254855.pdf
หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมคำสอนของหลวงพ่อชาที่เป็นอุปมาอุปไมย รวม 119 หัวข้อ ผมได้นำมาไฮไลท์สีเหลืองตรงที่เป็นชื่อหัวข้อ เพื่อให้สังแกตได้ง่าย ๆ
นอกจากธรรมอุปมา 119 หัวข้อแล้ว ผมขอชวนให้ท่านคลิกไปที่หน้า 120/185 เพื่ออ่าน ข้อ “ ๓.๓ สาเหตุที่พระโพธิญาณเถรใช้การสอนแบบอุปมาอุปไมย”
คลิกดาวน์โหลด→ การศึกษาอุปมาอุปไมยในคำสอนของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) - พระมหาสมพร อาภากโร (เหลาฉลาด)
ขอขอบคุณ คุณ Den Tupsai ซึ่งช่วยชี้แจงเรื่องเจ้าของผลงานที่แท้จริงของวิทยานิพนธ์ฉบับนี้
พิพัฒน์
ส่งลูกเข้าโรงเรียนอินเตอร์เพื่อหัดพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล แค่นี้ยังไม่พอหรอกครับ....
สวัสดีครับ
ผมเห็นพ่อแม่รุ่นใหม่บางบ้าน เมื่อสมัยอยู่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ภาษาอังกฤษมากนัก แต่หลังเรียนจบปริญญาและได้งานทำ พอมีลูกและรู้สึกว่าทุกวันนี้ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งจำเป็น ก็ยอมเสียเงินมากหาโรงเรียนอินเตอร์ ให้ลูกได้หัดพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล เป็นโรงเรียนที่จ้างครูต่างชาติสอนเด็กเป็นภาษาอังกฤษ โดยหวังว่าจะโยนภาระทั้งหมดในการฝึกลูกพูดภาษาอังกฤษให้ครูที่โรงเรียนรับไป และก็รอฟังหรืออ่านผลจากรายงานของโรงเรียนว่า ตอนนี้ลูกของตัวเองพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแค่ไหนแล้ว
ผมอยากจะบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า ท่านให้ลูกแค่นี้ยังไม่พอหรอกครับ เพราะยังมีสิ่งดี ๆ อีกหลายอย่างที่ท่านทำได้แต่อาจจะยังไม่ได้ทำ นั่นก็คือว่า ถ้าท่านต้องการปลูกฝังให้ลูกมีใจรักและเก่งภาษาอังกฤษ ท่านก็ต้องเป็นตัวอย่างให้แก่เขา, เป็นแรงบันดาลใจและตัวกระตุ้นเขา และจัดสิ่งแวดล้อมในบ้านให้ลูกได้ใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งในการอ่าน (เช่น มีมุมหนังสือ), ในการฟัง (มีคอมฯ, เว็บ, แผ่น ฯลฯ ให้เปิด และท่านก็เล่นเป็นเพื่อนเขา), ในการเขียน (เช่น มี whiteboard ให้ลูกได้เขียนข้อความเป็นภาษาอังกฤษ) และในการพูด (ลงทุนฝึกพูดภาษาอังกฤษกับลูก) ท่านจะเห็นว่า กิจกรรม ทั้ง ฟัง –พูด – เขียน – อ่าน ที่กล่าวมานี้ ท่านจะต้องลงทุนทำเอง ไม่ใช่โยนภาระให้ครูที่โรงเรียนหรือใครอื่น
ฟังเผิน ๆ นี่ดูเหมือนจะเป็นภาระเพิ่มนอกเหนือจากการหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่มันก็ขึ้นอยู่กับการจัดสรรเวลาของท่านเองด้วยแหละครับ ถ้าท่านตั้งใจจริง มันก็น่าจะทำได้ วันละนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังดี แต่ควรได้ทำทุกวัน
คลิปในเน็ต เป็นเครื่องมือง่าย ๆ อย่างหนึ่ง ที่ท่านสามารถนำมานั่งเรียนภาษาอังกฤษกับลูกเล็กของท่านได้ ท่านเพียงเข้าไปที่ google.com และพิมพ์คำค้นง่าย ๆ เช่น English for kids, cartoons for kids หรืออะไรทำนองนี้, enter, และคลิก Videos หรือ วิดีโอ ที่แถบเมนูใต้ช่อง Search ก็จะมีคลิปมากมายให้ท่านเลือกคลิกเล่นกับลูก อ่านจะหลังทานอาหารเย็น หรือก่อนนอน เรื่องนี้ทำได้ไม่ยากหรอกครับ แต่ถ้าไม่เคยทำ ในระยะแรกเริ่ม ท่านอาจจะต้องใช้ศิลปะในการจูงลูกอยู่บ้าง
ผมขอยกตัวอย่าง ข้างล่างนี้
- Google Search – English for kids - คลิก
- Kids English Learning Shows - Full Episodes - คลิก • ถ้าต้องการดาวน์โหลดคลิป คลิกที่นี่•
- bedtime stories for children - คลิก
- Kids Learn English with Story - คลิก
ลองทำดูนะครับ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ ไม่มากก็น้อย
พิพัฒน์
United to help people of Nepal through the Nepali community.
คลิกอ่าน → รวมใจช่วยคนเนปาลผ่านชุมชนคนเนปาล
Hi!
Now, both the government and private sectors of Thailand put their efforts to send aid to Nepal. Some Nepalese people have already been rescued. But there are more, not less, waiting for help. The reason is that the aid cannot reach them, or reach too few of them. I think Thai people who follow the news already know the situation. However, all parties are working hard. We all hope that the misery suffered by the people of Nepal would be gradually diminishing.
Roads damaged by the quake (Photo: Ramesh Tamang)
As the webmaster of www.e4thai.com , I have never asked you to join any social contribution or donation. Today, I would like to ask for your contributions for the first time here. Now it's a matter of helping the people of Nepal.
I have a friend named Suresh Tamang, he is a Buddhist. (Officially, 11% of Nepalese are Buddhists, and 81% are Hindus). Suresh and I attended a training course in Sweden in 2002. After the training course, I went to Nepal 2 times, covering half of the country. When Suresh visited Thailand, I acted as his local guide. Now Suresh has completed his social welfare doctorate degree at the USA. Before his study in the USA, he had many years of working experience with non-profit non-governmental organizations (NGOs) in Nepal, as a social worker and public health coordinator to help villagers in local communities. So he has relations with community networks. After finishing his study, he is planning to return to Nepal to work and help his country again.
I and my wife with Suresh’s family in Bhaktapur, this temple is totally collapsed due to the quake (Photo: Suresh Tamang)
A few days ago, Suresh informed me that he and his group are raising fund to help the people of Nepal who have suffered from the earthquake. People can donate money via this website. http://www.gofundme.com/psyrecoverynepal And he also asked me to tell this story through my website e4thai.com.
cultural exchange between us (Photo: Suresh Tamang)
I asked him what he will do with the money he is raising, he explained that this calamity in Nepal was very great and serious. People need both short- and long- term assistances, to remedy, relieve, rehabilitate, and reconstruct their lives, both physically and mentally. All individuals, families and communities, especially pregnant women, children, the disabled, and injured need helps.
The proceeds from the raising will be used in activities such as training staff and community leaders to help those affected people recover from the calamity, to buy necessary things, and conduct training. The target groups and activities include children, families, activities centers and learning centers in the villages, safe space for children, the disabled and so on.
For me, the activities of my friend’s group are very helpful for local people because Mr. Suresh is a Buddhist in the country where most people are Hindus. He has many years of working experience as a social worker and healthcare coordinator. He has a network working together in the community. And his project will involve the affected communities to participate in helping the communities themselves. His work is not that of an outsider who does not know the community, though such help is necessary in the beginning. But for long-term sustainability, it must be a holistic community-based approach which provides assistance to communities. Only by this method, the Nepalese who suffered will be able to support themselves and return to normal life as before.
I tell this to ask you to consider. If you wish to help, click the “Donate Now” button in the website.
http://www.gofundme.com/psyrecoverynepal
Pipat
https://www.facebook.com/En4Th
รวมใจช่วยคนเนปาลผ่านชุมชนคนเนปาล
click to read →United to help people of Nepal through the Nepali community.
สวัสดีครับ
ตอนนี้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยก็ร่วมใจส่งความช่วยเหลือไปเนปาลมากทีเดียว คนเนปาลหลายคนก็ได้รับความช่วยเหลือบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่รอรับความช่วยเหลือ สาเหตุที่ความช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึงหรือเข้าถึงน้อยเกินไป สาเหตุเพราะอะไรทุกท่านที่ติดตามข่าว็คงทราบกันอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกฝ่ายก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ เราทุกคนมีความหวังว่าความทุกข์ยากเดือดร้อนของคนเนปาลจะค่อย ๆ ลดน้อยลงตามลำดับ
ถนนที่ได้รับความเสียหาย จากแผ่นดินไหว (ภาพโดย Ramesh Tamang)
ท่านผู้อ่านครับ เว็บ e4thai.com ไม่เคยทำอะไรที่เป็นการบอกบุญท่านผู้อ่านเลย วันนี้ผมขออนุญาตบอกบุญเป็นครั้งแรกนะครับ ก็เรื่องการช่วยเหลือชาวเนปาลนี่แหละครับ
คือว่า ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อ Suresh Tamang เขาเป็นชาวพุทธ (คนเนปาลนับถือศาสนาพุทธ 11 %, และนับถือศาสนาฮินดู 81%) เราเป็นเพื่อนกันเพราะไปเข้าคอร์สอบรมที่สวีเดนเมื่อ พ.ศ. 2545 ด้วยกัน หลังจากนั้นผมก็ไปเที่ยวเนปาล 2 ครั้ง ได้เที่ยวเนปาลสักครึ่งประเทศ โดยมี Suresh นำเที่ยว ตอนที่เขามาเที่ยวเมืองไทย ผมก็พาเขาเที่ยว ตอนนี้ Suresh เรียนจบปริญญาเอกสาขาสังคมสงเคราะห์ที่สหรัฐฯแล้ว ก่อนไปเรียนเขามีประสบการณ์หลายปีในการทำงานกับองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร (เอ็นจีโอ)ในเนปาล โดยทำงานเป็นนักสังคมสงเคราะห์และผู้ประสานงานด้านสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน จึงมีเครือข่ายของคนเนปาลด้วยกันในเรื่องนี้ และเมื่อเรียนจบแล้วก็จะกลับไปทำงานอย่างเดิมอีก
ผมและภรรยา และครอบครัวของ Suresh ที่ Bhaktapur, โบสถ์ในภาพที่เห็นนี้พังทลายสิ้นเพราะแผ่นดินไหว (ภาพโดย Suresh Tamang)
เมื่อไม่กี่วันมานี้เขาแจ้งข่าวให้ผมทราบว่า เขาและกลุ่มของเขากำลังระดมความช่วยเหลือชาวเนปาลที่เดือดร้อนเพราะแผ่นดินไหว โดยทุกท่านสามารถบริจาคเงินผ่านเว็บไซต์นี้ http://www.gofundme.com/psyrecoverynepal และขอให้ผมช่วยแจ้งเรื่องนี้ผ่านเว็บ e4thai.com ด้วย
การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม: ภรรยาของผมลองใส่ชุดส่าหรี ทำให้ลูกจีนคนนี้กลายเป็นแขกขึ้นมานิดหน่อย
ผมถามเขาว่า จะนำเงินที่ระดมนี้ไปทำอะไรช่วยบอกให้ชัดหน่อย เขาอธิบายว่าหายนภัยครั้งนี้ยิ่งใหญ่และรุนแรงมาก คนที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือทั้งระระสั้นและระยะยาว เพื่อเยียวยา, บรรเทา, ฟื้นฟู, บูรณะ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทั้งต่อบุคคล, ครอบครัว และชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มของเขาให้ความสำคัญเป็นพิเศษแก่หญิงตั้งครรภ์, เด็ก, คนพิการ, และผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยเงินที่ได้จากการระดมครั้งนี้จะนำไปใช้ในกิจกรรมหลายอย่าง เช่น อบรมเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนให้สามารถทำหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านให้ฟื้นตัวจากหายนภัยครั้งนี้, ซื้อเครื่องมือข้าวของการฝึกอบรม, สิ่งของเพิ่อกิจกรรมสำหรับเด็ก, ดำเนินกิจกรรมศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวและศูนย์การเรียนรู้ในหมู่บ้าน, จัดที่พักที่ปลอดภัยสำหรับคนแก่ เด็ก คนพิการ เป็นต้น
สิ่งที่ทำให้ผมเห็นว่าการช่วยเหลือกิจกรรมของกลุ่มนี้น่าสนใจเพราะ นาย Suresh Tamang เพื่อนสนิทของผมคนนี้ เขาเป็นชาวพุทธในประเทศซึ่งคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู เขามีประสบการณ์หลายปีในการทำงานเป็นนักสังคมสงเคราะห์และผู้ประสานงานด้านสาธารณสุขชุมชน มีเครือข่ายที่ทำงานในชุมชนด้วยกัน และจะเข้าไปทำงานในลักษณะให้ชุมชนมีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการช่วยเหลือชุมชนด้วยกันเอง มิใช่ทำงานในลักษณะคนนอกที่ไม่รู้จักชุมชนนำสิ่งของเข้าไปแจกซึ่งแม้ว่าจะเป็นภารกิจเร่งด่วนเฉพาะหน้าที่จำเป็น แต่การช่วยเหลือในระยะยาวที่ยั่งยืนจะต้องเป็นการช่วยเหลือแบบองค์รวมซึ่งให้ชุมชนเองเข้ามาเป็นตัวจักรสำคัญเพื่อความยั่งยืนต่อเนื่อง จนชาวเนปาลที่เดือดร้อนสามรถช่วยเหลือตัวเองได้และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ดังเดิม
ผมจึงแจ้งข่าวนี้มาเพื่อขอให้ท่านพิจารณาครับ ถ้าท่านประสงค์จะช่วยเหลือ ในเว็บของเขามีปุ่มให้คลิกบริจาคครับ
http://www.gofundme.com/psyrecoverynepal
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th
ฟังเพลง "เป็นโรคแพ้ฝรั่ง"
https://www.youtube.com/watch?v=W9NUCilLMeY