Articles
แม้ว่าของฟรีไม่มีในโลก แต่สินค้าตัวอย่างให้ลองใช้ฟรี มีอยู่ครับ
สวัสดีครับ
ในเว็บ www.e4thai.com นี้ ผมยึดหลักว่า เว็บที่จะนำมาแนะนำจะต้องมี 3 อย่าง คือ เนื้อหาดี รูปแบบน่าสนใจ และฟรี อย่างเช่นเว็บภาษาไทยที่ผมรวบรวมไว้ที่ 2 ลิงค์นี้
รวมเว็บไทยสอนภาษาอังกฤษ ที่ผมคัดเลือกแล้ว
เรียนภาษาอังกฤษกับ Facebook ไทย
แต่ผมอยากจะขอแนะนำเพิ่มเติมว่า อันที่จริงก็มีอีกหลายเว็บที่เขาทำขึ้นมาเพื่อการโฆษณาสินค้าของเขาโดยเฉพาะ เช่น โฆษณาโรงเรียนสอนภาษา หรือโฆษณาหนังสือสอนภาษาอังกฤษ เป็นต้น
แต่ถ้าท่านซอกแซกดูสักนิด ท่านก็จะเจอของฟรีแทรกอยู่ในรูปสินค้าตัวอย่างให้ทดลองใช้ และถ้าท่านจะตระเวนไปหลาย ๆ เว็บเพื่อหาของฟรีใช้ไปเรื่อย ๆ เช่น บทความฟรี, test ฟรี ก็ไม่มีใครว่าอะไร
อย่างไรก็ตาม ของฟรีที่ว่านี้อาจจะดูยาก ยกตัวอย่างเว็บนี้
http://www.kaplaninternational.com/tha/
ทั้ง ๆ ที่เว็นเว็บภาษาไทย แต่ดูแทบไม่ออกว่ามีของฟรีอยู่ตรงไหน แต่ถ้าท่านจะเล่นง่าย ๆ โดยพิมพ์คำว่า ฟรี ลงไปใน ช่อง Search ที่มุมบนขวา ก็จะเจอของฟรีตามลิงค์นี้
http://www.kaplaninternational.com/tha/blog/category/เรียนภาษาอังกฤษฟรี/
หรืออีกสัก 1 ตัวอย่าง คือเว็บนี้
http://www.enconcept.com/index.php
เมื่อกวาดตาดูที่เมนูบาร์ด้านบนของเว็บ ก็จะเจอปุม ความรู้ ซึ่งมี 3 ปุ่มย่อย คือ
หรือบางเว็บ เช่น ยินดีดอตคอม http://www.yindii.com/
เว็บนี้ ของขาย-ของแถม มันปะปนกันจนตาลาย อย่างนี้ท่านคงต้องเพ่งลูกตาไล่ดูทีละคอลัมน์ จากบนลงล่างมาทีละบรรทัด ก็จะเจอของฟรีแทรกอยู่เหมือนกัน
ผมเล่ามาเล็ก ๆ น้อย ๆ พอเป็นไอเดีย เผื่อท่านเข้าไปในเว็บพวกนี้จะได้ไม่หลง แต่ถ้าท่านขี้เกียจจะลุยเข้าไปหาของฟรี ก็ไปที่ 2 ลิงค์ที่ผมให้ไว้ข้างบนก็ได้ครับ สะดวกดี โดยถ้าผมเจอเว็บใหม่เมื่อใด ก็จะนำมาเติมเรื่อย ๆ
รวมเว็บไทยสอนภาษาอังกฤษ ที่ผมคัดเลือกแล้ว
เรียนภาษาอังกฤษกับ Facebook ไทย
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
โรคติดเน็ตและ social media ลดสมรรถภาพการฟิตภาษาอังกฤษ
สวัสดีครับ
สองโรคที่ผมเป็น คือ 1)โรคติดเน็ต และ 2)โรคติด social media ซึ่งทำให้สมรรถภาพในการเรียนภาษาอังกฤษของผมลดลง ที่ผมกำลังจะเล่าให้อ่านผู้อ่านฟังต่อจากนี้ ถ้าท่านใดเป็นโรคเดียวกับผมก็ถือว่าคนหัวอกเดียวกันปรับทุกข์กัน แต่ถ้าท่านใดไม่เป็นก็อาจจะเก็บวิธีรักษาไปเล่าให้เพื่อนของท่านที่เป็นได้ฟังก็ได้ครับ
ท่านที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของผมคงนึกออกว่า ผมเริ่มงานเขียนบทความแนะนำเว็บ ให้ความเห็น และแนะนำแหล่งดาวน์โหลดไฟล์เรียนภาษาอังกฤษมาประมาณสิบปีแล้ว ณ สถานที่ตามลำดับข้างล่างนี้
english-for-thais.blogspot.com
english-for-thais-2.blogspot.com
จนสุดท้ายก็มาถึง www.e4thai.com ทุกวันนี้
มีหลายคนถามผมว่า ทำไมผมถึงได้ไปซอกแซกหาอะไรมาแนะนำได้เยอะแยะจนเว็บ e4thai.com มีเนื้อหาค่อนข้างหลากหลาย ผมมานั่งนึกดูก็ได้คำตอบว่านี่น่าจะเป็นนิสัยส่วนตัวที่ฝังมานานหลายสิบปีที่แล้วตั้งแต่เรียนธรรมศาสตร์ เวลานั้นผมชอบเข้าไปที่ห้องสมุดกลางของมหาวิทยาลัย และหยิบหนังสือจากชั้นนั้นชั้นนี้ เล่มนั้นเล่มนี้มาพลิกดู ถ้าสนใจเล่มไหนก็อ่าน บางเล่มก็อ่านแค่หน้าปก , อ่านเพียง 1 ย่อหน้า, อ่านเพียง 1 บท, ส่วนเล่มที่ชอบใจมาก ๆ จึงจะอ่านจบเล่ม
พอเมืองไทยมีเน็ตและผมจับงานหาเว็บภาษาอังกฤษมาแนะนำท่านผู้อ่าน ผมก็ใช้ปลายนิ้วท่องเน็ตเหมือนกับที่ในอดีตผมใช้ขาเดินไปตามชั้นหนังสือของห้องสมุด พยายามหาอะไรที่น่าสนใจ ดี และฟรี มาแนะนำ
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้มีหลายสิ่งเกิดขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเรียนภาษาอังกฤษ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโทษด้วย ผมขอพูดด้านประโยชน์ก่อนแล้วกันครับ
1)เน็ตในเมืองไทยมีความเร็วสูงขึ้นกว่าเดิมมากมาย
2)มีเว็บต่าง ๆ มากมายเกิดเพิ่มขึ้น เพื่อให้เราเข้าไปศึกษาภาษาอังกฤษได้ฟรี ๆ มันดีทั้งเนื้อหาและรูปแบบ ทั้งเว็บฝรั่งและเว็บไทย
3)Google Search มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้สามารถค้นเรื่องได้ตรงกับที่เราต้องการ
4)มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาภาษาอังกฤษ เป็น smartphone, iPhone, iPad, social media network
ผมเองในขณะที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ “บ๋อย” ซึ่งยกอาหารคือเว็บภาษาอังกฤษมา “เสริฟ” ท่านผู้อ่าน ก็ต้องเป็นนักศึกษาเองด้วย เพราะงานประจำที่ผมทำอยู่แม้จะใช้ภาษาอังกฤษแต่ก็ไม่มากนักจึงต้องฝึกเพิ่มเรื่อย ๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่า สมรรถนะของเน็ตที่สูงขึ้นกลับทำให้สมรรถภาพของผมในการเรียนภาษาอังกฤษลดลง ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น? มันเป็นอย่างนั้นก็เพราะอาการต่อไปนี้มันเกิดขึ้น
1)สมาธิมันสั้นและบางลง
พอผมนั่งลงที่หน้าเน็ต เช่น ยกตัวตัวอย่างว่า ตั้งใจจะอ่าน Bangkok Post หรือฟังข่าว BBC สัก ครึ่งชัวโมง แต่พอเกิดอยากรู้อะไรขึ้นมากะทันหันก็จะ search ให้รู้ทันที และหลายเรื่องก็เป็นเพียงความอยากรู้อยากเห็นที่ไร้สาระ ทำให้เวลาที่เคยให้กับการฝึกภาษาอังกฤษ ลดน้อยลงทั้งปริมาณและคุณภาพ
ทำไปทำมา บางครั้ง ผมต้องแก้นิสัยของตัวเอง โดยการไปนั่งดูข่าวจาก cable TV และอ่านภาษาอังกฤษจากหนังสือพิมพ์เล่มหรือ text มากกว่านั่งหน้าจอท่องเน็ต
2)ขยันดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ แต่ไม่คลิกเข้าไปศึกษา
พอมาวิเคราะห์ตัวเองก็ได้ข้อสรุปว่า การดาวน์โหลดนั้นง่าย แต่การศึกษาไฟล์ที่ดาวน์โหลดนั้นยากกว่าเพราะต้องมีทั้งวินัย-วิริยะ-และสมาธิ เอาเข้าจริง ๆ การดาวน์โหลดก็เป็นเพียงการหาอะไรมาแก้ตัว เพื่อที่ใจจะได้ไม่ต้องตำหนิตัวเองว่าขี้เกียจ
3)พึ่งเทคโนโลยีมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่การฝึกภาษานั้น เทคโนโลยีช่วยเราได้ในปริมาณหนึ่งเท่านั้น
ในบางครั้งผมน่าจะเหมือนกับหลายคนที่เผลอคิดไปว่า เทคโนโลยีคือพระเจ้าที่สามารถช่วยเราให้เก่งภาษาอังกฤษได้ และวิธีฟิตภาษาอังกฤษอันดับแรกคือคือการส่ายตามองหา apps, gadget, eBook, software, โปรแกรม, mp3, คลิปวีดิโอ ฯลฯ ที่ดีกว่าเดิมและช่วยเราได้ โดยเราไม่ต้องออกแรงมากนัก
ผมต้องย้อนกลับมาเบรคตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่า อย่าหลงทาง เพราะการเก่งภาษาต้องบังคับให้อวัยวะทำงาน คือ บังคับตาให้อ่านหรือดู, บังคับหูให้ฟัง, บังคับปากให้พูด, และบังคับมือให้เขียน แบบฝึกหัดหรือบทเรียน และทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ เทคโนโลยีก็เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกเท่านั้นเอง แต่มันทำงานแทนเราไม่ได้ แม้จะเตือนตัวเองอย่างนี้ก็ยังเอาไม่ค่อยอยู่ เผลอไม่ได้เลยครับ
4)social media ทำให้ผมเสียเวลาที่ไม่น่าจะเสีย
social media ในที่นี้ คือ Facebook ซึ่งผมมีอยู่ 2 ลิงค์คือ
https://www.facebook.com/e4thai มี Friend กว่า 5000
https://www.facebook.com/EnglishforThai มี Fan กว่า 8,700
แม้ผมจะไม่ได้คุยกับใครมากมายเหมือนที่คนอายุน้อย ๆ เขาคุยกัน แต่ผมก็ใช้ facebook เป็นตัวชี้วัดว่าบทความที่ผมเขียนลงเว็บ และนำมา post ลง facebook มีเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของท่านผู้อ่านมากน้อยเพียงใด โดยอ่าน Comments และดูจำนวน Like และ Shares ผมต้องยอมรับกับท่านผู้อ่านว่า ผมดูพวกนี้บ่อยเกินไป และคิดไปถึงคนที่ตั้งใจฝึกภาษาอังกฤษผ่านเน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่น ถ้าต้องเสียเวลาไปกับการ chat และเช็กเรตติ้งมากเกินไป เขาคงมีเวลาน้อยเกินไป ในการฝึก
โรคติดเน็ตและ ติด social media ที่ทำให้สมรรถภาพในการรียนภาษาอังกฤษของผมลดลงนี้ ท่านผู้อ่านเป็นบ้างหรือเปล่าครับ ถ้าเป็นท่านรักษาอย่างไร เขียนมาเล่าให้ฟังบ้างซีครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
รวมเว็บสอนภาษาอังกฤษฟรีของทางราชการ
สวัสดีครับ
ผมเข้าใจว่ามีหน่วยราชการของไทยหลายหน่วยจัดทำเว็บหรือสื่อการเรียนภาษาอังกฤษให้คนไทยได้เข้าไปใช้หรือดาวน์โหลดไฟล์ฟรี แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายหรือเนื้อหาของเว็บของแต่ละหน่วยงานอาจจะแตกต่างกัน แต่ชาวบ้านทั่วไปก็สามารถเข้าไปใช้ได้
ผมจึงสงสัยว่า มีหน่วยงานใดบ้างไหมที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมเว็บหรือสื่อการเรียนภาษาอังกฤษของทุกหน่วยราชการไว้ด้วยกัน ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกต่อประชาชนที่ต้องการศึกษาภาษาอังกฤษจากผู้เชื่ยวชาญภาครัฐที่ทำของฟรีขึ้นมาบริการประชาชน
ในที่นี้ ผมได้รวบรวมเว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษฟรีข้างล่างนี้ของทางราชการ ที่ผมรู้จัก
[1] ดาวน์โหลดตำราภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
http://e-book.ram.edu/e-book/inside/html/link.asp?ID=EN
[2] SchoolNet ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
http://www.school.net.th/schoolnet/directory/elearning.php?cat_id=2
[3] ชุดฝึกอบรมทางไกล การเขียนหนังสือราชการภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
http://www.stou.ac.th/schools/sla/b.a.english/oce/Pages/Content.html
*********
เพิ่ม 28 เมษายน 2557
English Grammar in Use-ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
http://www.stou.ac.th/schools/sla/b.a.english/D4LP/14212/Contents.html
Common Grammar and Writing Problems-ปัญหาที่พบเสมอด้านไวยากรณ์และการเขียน
http://www.stou.ac.th/schools/sla/englishwriting/cd-rom/Module5/Index5.htm
Welcoming Guests-การต้อนรับชาวต่างประเทศ
http://www.stou.ac.th/schools/sla/b.a.english/WelcomingGuests/Contents.html
**********
[4] English Course มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าไปแล้วอาจจะต้องรอนิดหน่อย มันโหลดช้าครับ
EL070 English Course 1 : ภาษาอังกฤษคอร์ส 1
http://e-learning.tu.ac.th/demoLMS/lms/E25/EL070/EL070.html
EL171 English Course 2 : ภาษาอังกฤษคอร์ส 2
http://e-learning.tu.ac.th/demoLMS/lms/E25/EL171/EL171.html
EL172 English Course 3 : ภาษาอังกฤษคอร์ส 3
http://e-learning.tu.ac.th/demoLMS/lms/E25/EL172/EL172.html
EL226 English for Import-Export Business
http://e-learning.tu.ac.th/demoLMS/lms/E15/EL226/EL226.html
[5] การศึกษาทางไกลผ่านดามเทียม
เมื่อเข้าไปแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม ABC ใต้คอลัมน์ ภาษาอังกฤษ1 - ภาษาอังกฤษ2
[6] คู่มือการสนทนาภาษาอังกฤษฯ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
[7] โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
จะเข้าใช้งานได้ ต้อง สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อ Log in เข้าสู่ระบบ
[8] Play & Learn สถาบันภาษาอังกฤษสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
http://www.plearnenglish.com/main_menu.php
[9] กองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
การร่างหนังสือรับรองเป็นภาษาอังกฤษ
บทสนทนาทางโทรศัพท์ที่ใช้ในการทำงาน
การจัดทำประวัติส่วนตัว กำหนดการประชุม และกำหนดการต้อนรับ เป็นภาษาอังกฤษ
[10]สำนักงาน ก.พ.- ชื่อสายงาน ตำแหน่งงาน และระดับ เป็นภาษาอังกฤษ
http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/files/Position_Spec/Web_classEN52.pdf
[11]กระทรวงการต่างประเทศ
ตัวอย่างการแปลเอกสารราชการต่าง ๆ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ควรทราบและใช้ในการแปลอยู่เสมอ
แปล:เครื่องราชอิสริยาภรณ์ของไทยในปัจุบัน
[12]ราชบัณฑิตยสถาน
ดาวน์โหลด โปรแกรม-หนังสือ พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
[13] ภาษาอังกฤษ ชั้น ป.6 ครูศิรดา ฤกษ์มงคล โรงเรียนวัดหญ้า นครศรีธรรมราช
แถม:ภาษาอังกฤษของสถาบันการศึกษาภาคเอกชน (มหาวิทยาลัยสยาม) คลิกดาวน์โหลด slide
|
|
|
|
|
แต่ผมอยากรู้จักมากกว่านี้ หรือถ้าจะให้ดีถ้ามีเว็บใดที่รวบรวมไว้ให้เลย ท่านใดทราบช่วยแจ้งด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
A ถึง Z ในการเรียนภาษาอังกฤษ
สวัสดีครับ
ผมขอฝาก A ถึง Z ในการเรียนภาษาอังกฤษ แด่ท่านผู้อ่านทุกท่านที่รักการเรียนภาษาอังกฤษ
A – active: มีกายใจที่กระฉับกระเฉงพร้อมเสมอที่จะเรียนภาษาอังกฤษ
B – brave: กล้าหาญ ไม่ยอมให้ความกลัวในอดีตและความกังวลในอนาคตมาหลอกหลอน จนเลิกเรียนภาษาอังฤษ
C – can-do: มี can-do attitude หรือ can-do spirit ว่าเราทำได้ ยินดีที่จะลองทำสิ่งใหม่ในการเรียนภาษาอังกฤษ และก็เชื่อว่าทำแล้วต้องสำเร็จ
D – determined: มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคในการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ว่าอุปสรรคนั้นจะเป็นคนหรือเหตุการณ์ก็ตาม
E – eager: สนใจภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ ไม่ใช่สนใจแบบธรรมดา ๆ
F – fight your way: ต่อสู่ฝ่าฟันเพื่อวันที่ดีกว่า ซึ่งก็คือทุกวันซึ่งทักษะภาษาอังกฤษของเราค่อย ๆ ดีขึ้นนั่นเอง
G – get-up-and-go: มีพลังและความมุ่งมั่นที่จะฝ่าฟันไปสู่ความสำเร็จ ในการเรียนภาษาอังกฤษ
H – happy: มีความสุขที่ได้เรียนภาษาอังกฤษ กับความสำเร็จที่ได้รับเพิ่มขึ้นแม้เพียงทีละนิด ที่อาจจะไม่จุใจ ไม่ทันใจ
I – ideal: เรียนภาษาอังกฤษอย่างมี ideal อุดมคติ;
i = identify problems หาปัญหาให้พบ;
d = define goals กำหนดเป้าหมายให้ชัด;
e= explore strategies สำรวจหายุทธวิธีที่จะใช้เรียน;
a = act ลงมือเรียน;
l = learn เรียนรู้จากการเรียน
J – joy: มีการเรียนภาษาอังกฤษเป็นแหล่งของความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต
K – keep practicing: ฝึกเรื่อยไป แม้วันที่ไม่มีเวลา ก็พยายามหาเวลาฝึกจนได้
L – love: คำนี้มีความหมายที่ชัดเจนแล้ว ว่าสำคัญมากเพียงใดต่อการเรียนภาษาอังกฤษ
M – must: ให้ถือว่าภาษาอังกฤษเป็น a must ต้องเรียนให้ได้ ไม่เรียนไม่ได้
N – non-stop: แม้วันที่อยากหยุดเรียนก็ไม่ยอมหยุดตามอยาก ทำอะไรก็ได้ให้เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษบ้าง
O – open-minded, observe: เปิดใจให้กว้าง สังเกตทั่ว ๆ ถ้าปิดใจเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษจะกลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย
P - prepared: เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเสมอที่จะเรียนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเตรียมใจ ถ้าใจพร้อมอย่างอื่นก็พร้อม
Q –quantity & quality:ฝึกอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง แม้ยังไม่ค่อยรู้เรื่องหรือทำผิด ๆ ถูก ๆ บ้างก็ไม่เป็นไร ขอให้ตั้งใจทำเยอะ ๆ ไว้ก่อน ในที่สุดปริมาณ หรือ quantity จะนำไปสู่คุณภาพ หรือ quality เองแหละครับ
R – realistic: ไม่ขยันอย่างหักโหม ไม่หวังความสำเร็จอย่างเกินพิกัด ทุกอย่างต้องยืนอยู่บนความจริง แต่ก็ไม่ปล่อยให้ความจริงที่อาจจะอยู่ไกลมาทำให้ใจเราท้อจนไม่มุ่งมั่นเดินไปหาความจริงที่เราหวัง
S – self-motivated: เรียนภาษาอังกฤษโดยเป็นกำลังใจให้ตัวเอง เพราะนี่คือแหล่งของกำลังใจที่แท้จริง
T – train & test: ฝึกและทดสอบต้องไปด้วยกัน
U – use: เมื่อมีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษก็ให้รีบใช้ ไม่อายไม่กลัวผิด แต่ถ้าไม่มีโอกาสใช้ก็ให้พยายามหาโอกาสที่จะใช้ ไม่เอาแต่รอให้โอกาสเดินเข้ามาหา และใช้โอกาสอย่างเสียไม่ได้
V – vie with oneself: เรียนภาษาอังกฤษอย่างแข่งกับตัวเอง ไม่ต้องไปแข่งกับคนอื่น
W – wholehearted: เรียนภาษาอังกฤษด้วยทั้งหมดของใจ ไม่ใช่เรียนด้วยใจเพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ
X – xerox: เมื่อพูดหรือเขียนภาษาอังกฤษ ถ้าต้อง copy ใครในครั้งแรกก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ คำว่า copy มาก่อน create (สร้างสรรค์)
Y – youthfulness: ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นสิ่งดึงความสดชื่นสดใสของวัยรุ่นกลับมาสู่ชีวิตเรา
Z - zeal: ทุ่มพลังหมดใจให้แก่การเรียนภาษาอังกฤษ
แกรมมาร์เบื้องต้น สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา
สวัสดีครับ
ที่ลิงค์นี้ http://neric-club.com/data.php?menu_id=41&member=free
มีคำอธิบาย แกรมมาร์เบื้องต้น สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา ความยาวทั้งหมด 68 หน้า มีทั้งหมด 49 หัวข้อตามข้างล่างนี้ อธิบายด้วยภาษาไทย อ่านง่าย
อันที่จริง วันนี้ผมก็จะแนะนำแค่นี้แหละครับ ที่เหลือก็ให้ท่านเข้าไปคลิกอ่านเอาเอง แต่ผมขออนุญาตพูดอะไรเพิ่มเติมอีกสักนิดเกี่ยวกับแกรมมาร์
คือในเมืองไทยนี่นะครับ ผมได้ยินแต่คนติฉินนินทา ต่อว่า เหยียดหยาม ประณาม ว่าแกรมมาร์เป็นเรื่องไม่จำเป็นต้องเรียน เสียเวลาเรียน บางคนพูดหนักถึงขั้นพิพากษาให้แกรมมาร์ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดในห้องเรียน ด้วยคำตัดสินว่าเพราะสอนแต่แกรมมาร์ คนไทยเลยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
แต่ตามความเห็นของผม ตำราแกรมมาร์ก็เหมือนแผนที่นั่นแหละครับ เราศึกษาแผนที่เพื่อว่าเมื่อออกเดินทางจริง ๆ เราจะได้ไม่หลงทิศหลงทาง เราอาจจะเดินทางสะเปะสะปะครั้งแรก แต่ถ้าความรู้เรื่องแผนที่ของเราแน่นปึ๊ก เมื่อเดินทางครั้งที่ 2 – ครั้งที่ 3 เราจะไม่หลงทางอีก เพราะทฤษฎีกับปฏิบัติมันผนึกรวมกันเป็นหนึ่ง
หากจะมีเรื่องน่าเศร้าก็คือ หลายคนติดแผนที่โดยไม่ยอมออกเดินทาง และเมื่อต้องเดินทางจริง ๆ ก็เอาความรู้จากแผนที่ไปใช้ไม่ได้ ซึ่งไม่ต่างจากคนที่ลุยเดินทางลูกเดียวโดยไม่ยอมดูแผนที่ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่จะต้องเดินหลงบ้าง หรือเดินหลงบ่อย
จริง ๆ แล้ว ทั้ง 2 อย่างต้องไปด้วยกันแล้วมันจะช่วยเหลือกัน ความชำนาญในการใช้แผนที่ต้องมาจากการได้ออกเดินทางจริง ๆ ตามเส้นทางในแผนที่ เหมือนกับความชำนาญในเรื่องแกรมมาร์ ต้องมาจากการเอาแกรมมาร์ไปใช้ในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน และทักษะในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ของเราก็จะดีขึ้น เพราะแกรมมาร์ที่เราอาจจะดูแคลน
เรื่องที่ผมอยากจะบ่นก็มีแค่นี้แหละครับ
ต่อไปนี้ก็เชิญศึกษาบทเรียนแกรมมาร์เพื่อเอาไปใช้ในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ขอเชิญครับ....
- What is a sentence?
- What are the parts of speech?
- Nouns
- Ponouns
- Adverbs
- Verbs
- Adjectives
- Prepositions
- Conjunctions
- Interjections
- Verb to be
- Used to
- Need
- Verb to do
- Ought
- Must
- Verb to have
- Dare
- Can,could
- Will,would
- May,might
- Shall should
- Singular Plural & Contractions with be
- Contractions ของ Verb to be
- Prepositional Phrase
- Yes /No Questions
- The Simple Past : Yes/No Questions
- Present Progressive Tense
- Present Simple Tense
- The Simple Past : Irregular Verbs
- The Simple Past : Negative
- Where, When, What time และ Why
- Gerunds
- Comparisons
- การใช้ Future Time
- How many และ How much
- Numbers
- Countable noun uncountable nouns
- Conditional Sentences
- Active And Passive voice
- Agreement Of Subject And verb
- Infinitive,Gerund,
- เปรียบเทียบการใช้ Infinitive กับ Gerund
- How to Pronounce -ed in English
- How to Pronounce "the" in English
- Homophones
- Word Stress in English
- Direct & Indirect Speech
- Conditional Sentences
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.