Articles
7 ประโยคคำถามเอาตัวรอดเมื่อคุณไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ
7 ประโยคคำถามเอาตัวรอดเมื่อคุณไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ
โดย คริสโตเฟอร์ ไรท์ จากหนังสือ ภาษาอังกฤษแบบฝรั่งเข้าใจ คนไทยเก็ท
ที่มา: http://www.learners.in.th/blogs/posts/124676
1.Again please? (คลิกฟัง / พูดตาม)
หรือ Pardon (คลิกฟัง / พูดตาม)
= ช่วยพูดอีกทีได้ไหม
2. Could you please spell that word? (คลิกฟัง / พูดตาม)
= ช่วยสะกดคำ ๆ นั้น ให้หน่อยได้ไหม
3. Could you please explain that? (คลิกฟัง / พูดตาม)
= ช่วยอธิบายสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่หน่อยได้ไหม
4. What does that word mean? (คลิกฟัง / พูดตาม)
= คำ ๆ นั้นแปลว่าอะไร
5. Could you please slow down? (คลิกฟัง / พูดตาม)
= ช่วยพูดช้า ๆ หน่อยได้ไหม
6. Could you please use simple English? (คลิกฟัง / พูดตาม)
= ช่วยใช้ภาษาอังกฤษที่ง่ายกว่านี้หน่อยได้ไหม
7. Can you speak Thai? (คลิกฟัง / พูดตาม)
= คุณพูดภาษาไทยได้หรือเปล่า
การ present งานเป็นภาษาอังกฤษ
เรียนคณพิพัฒน์
สวัสดีครับ ผมเป็นเเฟนเว็บไซต์ของคุณพิพัฒน์ซึ่งมีประโยชน์มากในการพัฒนาทักษะภาษาของผมในด้านๆต่าง โดยส่วนตัวผมอยากฝึกทักษะ การ Presentation เป็นภาษาอังกฤษครับ เนื่องมาจากผมต้องใช้พรีเซ้นต์โปรเจค ถ้าคุณพิพัฒน์มีเว็บไซต์แนะนำ ในการใช้รูปประโยค, sign posts, และอื่นๆ รบกวนคุณพิพัฒน์โพสต์ใส่เว็บไซต์ด้วยครับ
ขอบคุณครับ
พงศธร
ตอบ:
ผมรวบรวมไว้ที่นี่ครับ
ภาษาไทย
หลายบทความดี ๆ จากเว็บ British Council (เพิ่ม 7 กพ 62)
http://www.si-englishbkk.com/study-guide/direction-present-english-language/
http://thai2eng.blogspot.com/p/blog-page_2208.html
http://kmlite.wordpress.com/2011/01/10/v4i1-05/
http://kmlite.wordpress.com/2011/04/08/v4i2-05/
ภาษาอังกฤษ
http://english-for-thais.blogspot.com/2008/01/1-present.html
http://english-for-thais-2.blogspot.com/2010/03/1401-present-2.html
“เหมือนกับใจ คล้ายกับจิต” ไทยเทียบอังกฤษ บทต่อบท
อ่านธรรมะในหนังสือ
เพื่อเตือนสติให้อ่านธรรมะในใจ
“เหมือนกับใจ คล้ายกับจิต”
เป็นหนังสือ อุปมาธรรมะสุดล้ำค่า ของหลวงพ่อชา สุภัทโท
เชิญทุกท่านดาวน์โหลดไปศึกษาได้เลยครับ....
[1] “เหมือนกับใจ คล้ายกับจิต” -คลิก
[2] แปลเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อ “In Simple Terms” - คลิก
[3] นำภาษาไทยมาเทียบภาษาอังกฤษ บทต่อบท - คลิก
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
10 นิสัยเจ้าปัญหาของคนไทย ในการเรียนภาษาอังกฤษ
**
เรื่อง “10 นิสัยเจ้าปัญหาของคนไทยในการเรียนภาษาอังกฤษ” ที่ผมจะพูดต่อไปนี้ ถ้าผิดขอให้ท่านผู้อ่านแผ่เมตตาให้ผมด้วยที่มีมิจฉาทิฐิ แต่ถ้ามันถูกขอให้ช่วยส่งต่อ
10 นิสัยเจ้าปัญหาของคนไทย ที่ผมขอพูดก็คือ
[1] ไม่ยอมชดใช้กรรมเก่า
เมื่อตอนเป็นเด็กขี้เกียจเรียนและเกลียดภาษาอังกฤษ, ลอกการบ้านส่งครูหรือให้เพื่อนทำให้, หรืออาศัยงานกลุ่มที่ให้คนเก่งทำเลยพลอยได้คะแนนไปด้วย, อ่านหนังสือเพียงพอให้สอบผ่าน, หรือเข้าติวเพื่อให้ทำข้อสอบได้โดยไม่ต้องเข้าใจ, เมื่อสงสัยก็ไม่ค้นคว้าหนังสือหรือไต่ถามผู้รู้, แม้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยได้ปริญญาตรี แต่ความรู้ภาษาอังกฤษกลับอยู่แค่ระดับประถม จากวิบากกรรมที่ตนทำเอง
บาปที่ทำกับภาษาอังกฤษเช่นนี้ ถ้าไม่ยอมสำนึกผิด โดยกลับไปเริ่มเรียนบทสุดท้ายที่รู้เรื่อง - ถ้าไม่ยอม “แก้กรรม” บาปที่ทำก็คงไม่สิ้น และต่อยอดความรู้ได้ยาก
[2] อยากเกินพิกัด
พอเรียนปุ๊บก็จะให้รู้เรื่องปั๊บ ไม่ให้เวลาสำหรับการตกตะกอนของความรู้ ความอยากที่เยอะจนทำให้ความรู้ไม่ย่อยนี้ ทำให้ไม่อยากเรียน และเมื่อทนเรียนก็ไม่รู้เรื่อง แท้จริงแล้วควรลดละความอยากซะบ้างเพื่อให้ใจสงบ สมองจะปลอดโปร่งและเรียนได้รู้เรื่องมากขึ้น
[3] ความอดทนมีขีดจำกัด
ถ้าหวังมากแต่พยายามน้อยก็คงสมหวังยาก การให้อภัยตัวเองที่มีความอดทนจำกัดนั้นทำได้ แต่ถ้าอภัยเช่นนี้บ่อย ๆ ก็คงผิดหวังง่าย และทำใจยาก
[4] เบื่อความซ้ำซาก
การฝึกซ้ำ ๆ จะทำให้เกิด 2 อย่าง คือ (1)ความชำนาญและ (2)ความเบื่อ คนที่ทนความเบื่อได้ยาก ก็จะมีความชำนาญได้ยากเช่นกัน
[5] เป็นเด็กไม่รู้จักโต
โตแล้วก็ยังเป็นเด็กที่ขาดครูไม่ได้ ไม่ยอมเรียนด้วยตัวเองทั้ง ๆ ที่สื่อการเรียนแทนครูก็มีเยอะแยะ
[6] เอาแต่รอคนมาให้กำลังใจ
กำลังใจใคร ๆ ก็ต้องการ แต่กำลังใจจากคนอื่นแม้สวยงามปานใดก็เปราะบางปานนั้น ต่างจากกำลังใจที่ให้ตนเองเพราะพยายามเรียนจนรู้เรื่อง แม้ได้ทีละน้อยแต่ก็มั่นคง ทนแดดทนฝน ทนต่อกาลเวลา
[7] ต้องเรียนแบบไม่เครียด
บ่อยครั้งที่เราได้ยินคำชมว่า อาจารย์คนนั้นคนนี้สอนเก่ง สอนสนุก เรียนแล้วไม่เครียด หัวเราะทั้งชั่วโมง ขอถามว่า นี่เรายังไม่เลิกนิสัยของเด็กอนุบาลอีกหรือที่อะไร ๆ ก็ต้องสนุกไปซะทุกอย่าง ถ้าไม่สนุกฉันไม่เรียน
[8] พวกมากลากไป
ถ้าขาดเพื่อนก็ขาดคนปรึกษาหารือ ขาดกำลังใจ เลยไม่เรียน ถ้ายังมีชนิดของกำลังใจที่ไร้กระดูกเช่นนี้ ก็คงทำอะไรสำเร็จได้ยาก
[9] “กินอาหารไม่ครบหมู่”
แม้แต่ละคนจะมีวิธีที่ถนัดในการเรียนต่างกัน แต่ก็ควรใช้ให้ครบทั้ง 4 อวัยวะในการเรียน คือ ใช้ตาอ่านและดู - ใช้หูฟัง – ใช้ปากพูด – และใช้มือเขียน ไม่ใช่ใช้อวัยวะอย่างเดียวที่ตนถนัดในการเรียนภาษาอังกฤษ และปล่อยให้อวัยวะอื่นอีก 3 อย่างว่างงาน ถ้าขืนทำอย่างนี้นาน ๆ ก็จะเป็นโรคขาดสารอาหารทางทักษะภาษาอังกฤษ
[10] “ไม่เข้าถ้ำเสือแต่อยากได้ลูกเสือ”
หลายคนพออ่านภาษาอังกฤษที่ไม่มีคำแปลไทย, ดูคลิปวีดิโอที่ไม่มีซับไตเติ้ลภาษาไทย, เปิดดิกชันนารีฝรั่งที่ไม่ใช่ดิกอังกฤษ-ไทย, ก็มีอาการคล้ายถูกภาษาอังกฤษขบกัดหรือขีดข่วน และขยาด แต่ทำไมท่านไม่ถามตัวเองสักหน่อยว่า ถ้าท่านอยากได้ลูกเสือ แต่กลัวเสือกัดจนไม่กล้าเข้าถ้ำเสือ ท่านต้องรออีกนานเท่าไรจึงจะได้ลูกเสือ
พิพัฒน์
ทำ English test กับ Bangkok Post โชคดีอาจได้รับรางวัล iPad mini
ทำ English test กับ Bangkok Post โชคดีอาจได้รับรางวัล iPad mini
ทำอย่างนี้ครับ
1.ไปที่ http://www.bangkokpost.com/
2.คลิก LEARNING http://www.bangkokpost.com/learning/
3.คลิก English test http://www.bangkokpost.com/learning/english-test
4.คลิก START NOW! และคลิก Start http://www.bangkokpost.com/learning/english-test/test
5.จะมี test เลือก A, B, C, D ให้ทำ 30 ข้อ ภายในเวลา 40 นาที
6.เมื่อทำเสร็จ เขาจะให้เรากรอกชื่อ – นามสกุล และแจ้งอีเมล ซึ่งเขาจะส่ง Certificate ที่แจ้งผลการทำ test ไปให้เรา
7.เราสามารถทำ test นี้ หลาย ๆ ครั้งก็ได้ และครั้งใหม่ที่ทำ เขาจะสุ่มข้อสอบชุดใหม่มาให้ทำ ซึ่งอาจจะมีบางข้อที่เคยทำแล้ว ซึ่งหมายความว่า ท่านสามารถได้รับ certificate หลายใบเท่าจำนวนครั้งที่ท่านทำ test
8.ท่านอาจได้รับรางวัล เพราะเขาจะเอาชื่อคนทำ test ไปจับสลากเลือกผู้โชคดีประจำเดือน จะแจกไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้ รางวัลมีดังนี้ครับ
1. English improvement books
2. English course
3. E-book reader
4. iPad mini
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.