Articles
ละครสั้นแนวดราม่าสนุกมาก
ละครสั้นเรื่องนี้ออกแนวดราม่า มีตัวแสดงอยู่ 5 ตัว แต่สนุกครับ ดูจบแล้วมีกิจกรรมให้ทำนิดหน่อย เข้าไปดูได้เลยครับ
▬► http://www.uplanguage.com.br/ibm/weblessonAdv01.swf
วิธีเรียนภาษาอังกฤษกับคำคม โดยไม่อ่านคำแปลไทย
สวัสดีครับ
คำคมมีประโยชน์อย่างไร ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ แทนที่จะต้องอ่านเรื่องราวข้อคิดเตือนใจยาว ๆ เป็นเล่ม เป็นหน้า ๆ เขาก็คัดเฉพาะประโยคเด็ด ๆ คม ๆ มาให้เราอ่าน โดยมักจะเป็นคำคมที่มีชื่อเสียง มีคนรู้จักหรือนิยมอยู่แล้ว โดยนำมาใส่ในภาพที่สวย ๆ ที่ช่วยเพิ่มความหมายหรือความน่าดึงดูดใจให้แก่คำคม และสำหรับเว็บไทยก็เพิ่มคำแปลภาษาไทยแนบลงไปด้วย ท่านลองคลิกดูก็ได้ครับ
วิธีหาคำคมพวกนี้ก็ง่าย ๆ คือไปที่ Google search, พิมพ์ key word เป็นหัวข้อของคำคมที่ต้องการอ่าน ทำนองนี้ เช่น → คำคม ความสำเร็จ หรือ → success quotes หรือชื่อบุคคล เช่น → albert einstein quotes
และถ้าต้องการอ่านคำคมพร้อมดูภาพ ก็คลิก Images
ผมมีความรู้สึกว่า เราสามารถฝึกภาษาอังกฤษจากคำคมภาษาอังกฤษ ได้ในลักษณะเดียวกับที่เราอ่าน story, eBook, joke, news, ฯลฯ โดยเราอย่าเอาแต่พึ่งคำแปลที่เว็บไทยแนบไว้ให้ เพราะว่า เราจะติดเป็นนิสัยในการต้องดูคำแปล บางทียังไม่ทันได้ออกกำลังสมองเพื่ออ่านภาษาอังกฤษก็เหลือบไปอ่านภาษาไทยซะก่อน และข้ออ้างที่บอกว่า ดูคำแปลภาษาอังกฤษเพื่อให้รู้ว่า ที่อ่านและแปลเองนั้นถูกต้องหรือไม่ จึงอาจจะเป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่จริงนัก เพราะความจริงที่เห็นอยู่ชัด ๆ ก็คือ เราอ่านคำแปลไทยอย่างจริงจัง แต่อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษอย่างผิวเผิน คำแปลไทยที่เว็บให้ไว้แม้จะช่วยให้เราเข้าใจคำคมเป็นภาษาไทย แต่ก็ทำให้เราเคยตัวขี้เกียจออกแรงในการอ่านภาษาอังกฤษ
ในที่นี้ผมก็ขอแนะนำเหมือนเดิมว่า ถ้าเราชอบอ่านคำคมเพราะเห็นว่ามีประโยชน์ และก็อยากจะพัฒนา English reading skill ไปพร้อมกัน ขอให้เราพยายามออกแรงอ่านต้นฉบับคำคมภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องพึ่งคำแปลไทย โดย...
ออกแรงสักหน่อยเพื่ออ่านให้เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็ให้สงบใจอ่านซ้ำ ถ้ายังไม่เข้าใจอีก ก็เลิกอ่านคำคมนั้น ขยับไปอ่านคำคมอื่นที่สั้นกว่า ง่ายกว่า โดนใจเรามากกว่า การฝึกอ่านแบบนี้ understanding เราอาจจะได้ไม่เต็มที่ แต่ reading skill ของเราจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว, แต่ถ้าเราเอาแต่พึ่งคำแปลไทยอย่างเต็มที่ เราอาจจะเข้าใจ คือได้ understanding 100 % แต่ reading skill ของเราจะค่อย ๆ ง่อยเปลี้ยเสียขาไปตามลำดับ
ข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างที่ผมหามา ท่านลองฝึกอ่านดูแล้วกัน ไม่ต้องไล่อ่านไปทุกคำคมหรอกครับ แต่เมื่ออ่านประโยคใดและรู้สึกว่าชอบใจ ก็ขอให้เพิ่มความพยายามอีกนิด เพื่ออ่านให้เข้าใจในประโยคที่ชอบใจ แต่ถ้ายังไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเสียใจ เลื่อนไปอ่านประโยคใหม่ถัดไป การฝึกแบบกัดฟันพึ่งตัวเองอย่างนี้ จะค่อย ๆ นำเราไปสู่ความเข้าใจเพราะอ่านรู้เรื่องด้วยตัวเอง ไม่ใช่เข้าใจเพราะอ่านคำแปลที่คนอื่นให้ไว้
ถ้าต้องการดิก ก็คลิกที่นี่ครับ → ดิก อังกฤษ - ไทย หรือ → ดิก อังกฤษ - อังกฤษ
เชิญเข้าไปอ่านคำคมตามหัวข้อข้างล่างนี้ ถ้าต้องการอ่านหัวข้ออื่นหรือคำคมของบุคคลอื่น ก็พิมพ์ search ได้เลยครับ
“No act of kindness, no matter how small, is ever wasted." - Aesop
“There is nothing more truly artistic than to love people.” – Vincent Van Gogh
"Kindness is the language which the deaf can hear and the blind can see." - Mark Twain
"Be kind whenever possible. It is always possible" - Dalai Lama XIV
rich OR wealth OR money quotes
learn OR study English language quotes
คำคมของบุคคล
- bill gates quotes
- dalai lama quotes
- albert einstein quotes
- mother teresa quotes
- napoleon hill quotes
- "ajahn chah" quotes
- "thich nhat hanh" quotes
- gandhi quotes
- dale carnegie quotes
รวมบทความเรื่องคำคมที่มีอยู่ในเว็บ e4thai.com
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th
ธรรมะน่าอ่าน + ดาวน์โหลด - ณชเล
♥ ธรรมะสั้น ๆ น่าอ่าน + ดาวน์โหลดไฟล์ pdf - ณชเล ♥
→ http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf2/dhamma_nachale.pdf
▬► https://www.scribd.com/user/5443183/ณชเล
▬► https://www.scribd.com/user/5443183/ณชเล/uploads
สมัครรับอีเมลธรรมะที่:
▬► This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ฝึกภาษาอังกฤษ กับ Diary of a Wimpy Kid
สวัสดีครับ
หนังสือชุด Diary of a Wimpy Kid มีทั้งหมด 11 เล่ม ออกมาตามลำดับ ตั้งแต่ปี 2007 และเขาบอกว่า เป็นหนังสือ bestseller ของสหรัฐฯ
ผมไม่แน่ใจว่า ท่านผู้อ่านส่วนใหญ่จะชอบหรือไม่ และคุณครูจะเห็นเหมาะสมในการแนะนำให้เด็กอ่านหรือไม่ อันดับแรกท่านลองอ่าน plot หรือเรื่องย่อก่อนก็ได้ ที่ 2 ลิงก์นี้
- อ่าน plot เรื่องที่ Wikipedia - คลิก
- อ่านเรื่องย่อของแต่ละเล่ม (เข้าไปแล้ว คลิกลิงก์ชื่อเรื่องใต้คอลัมน์ Book Title) - คลิก
ถ้าชอบหรือเห็นว่าน่าสนใจ ก็เชิญอ่านได้เลยครับ ข้างล่างนี้
- Diary of a Wimpy Kid 2007
- Diary Of a Wimpy Kid - Rodrick Rules 2008
- Diary of a Wimpy Kid - The Last Straw 2009
- Diary of a Wimpy Kid - Dog Days 2009
- Diary of a Wimpy Kid - The Ugly Truth 2010
- Diary of a Wimpy Kid - Cabin Fever 2011
- Diary of a Wimpy Kid - The Third Wheel 2012
- Diary of a Wimpy Kid - Hard Luck 2013
- Diary of a Wimpy Kid - The Long Haul 2014
- Diary of a Wimpy Kid - Old School 2015
11. Diary of a Wimpy Kid - Double Down
พิพัฒน์
ก้าวแรกของการฝึกฟังข่าวภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง
สวัสดีครับ
ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านจำนวนไม่น้อยที่รักภาษาอังกฤษ ต่างก็ต้องการฟังข่าวภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง และก็ฝึกฟังอยู่เรื่อย ๆ แต่บางท่านอาจจะท้อบ้างว่าฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรือรู้เรื่องช้า
ผมเองเป็นคนชอบอ่านและฟังข่าวภาษาอังกฤษ และรู้สึกว่าอ่านนั้นง่ายกว่าฟัง และคำแนะนำในการฟังข่าวภาษาอังกฤษ ผมก็แนะอยู่เรื่อย ๆ ในเว็บนี้ ซึ่งก็ไม่มีอะไรพิเศษ เหตุที่ไม่มีอะไรพิเศษก็เพราะว่า เรื่องนี้ไม่มีทางลัด... มันเป็นทางตรงธรรมดาซึ่งทุกคนที่ต้องการไปถึงปลายทางต้องก้าวขาเดินเอาเอง และเรื่องนี้ก็ไม่มีปาฏิหาริย์... แปลว่าใครอยากฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องต้องฝึกเอาเอง มันไม่สำเร็จได้ด้วยการอ้อนวอน และใครก็ช่วยใครไม่ได้
วิธีธรรมดาที่ผมแนะมาโดยตลอดก็คือ
(1) ฝึกให้บ่อยพอและนานพอ --- คือฝึกฟังทุกวัน ๆ ละอย่างน้อย 30 นาที ถ้าหาเวลาฟังรวดเดียว 30 นาทีไม่ได้ ก็ฟัง 3 ครั้ง ๆ ละ 10 นาทีก็ได้ และถ้าวันไหนพลาดไม่ได้ฟัง วันต่อไปให้ฟังชดเชย นี่เป็นกฎเหล็กที่ต้องปฏิบัติหากหวังความสำเร็จ
(2) หากข่าวที่ฟังมี script ให้อ่าน --- หรือมีข่าวประเภทเดียวกันให้ฝึกอ่าน เพื่อทำความคุ้นเคยกับศัพท์-สำนวน หรือฝึกตีความ ก็ควรฝึกอ่านเพื่อให้ได้ "สำนวน" ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้นเมื่อฟัง "สำเนียง"
(3) ในเรื่องเนื้อหาของข่าวที่จะฝึกฟัง --- ควรเป็นข่าวที่ไม่ยากเกินไป และเรารู้ background หรือคุ้นเคยกับข่าวนั้น เนื้อหาอย่างนี้จะช่วยให้เราฟังข่าวได้สนุก เดาศัพท์หรือตีความประโยคได้ไม่ยากนัก เพราะเรามีความสนใจและความเข้าใจเป็น hint อยู่แล้ว ทำให้ฟังเข้าใจได้ไม่ยาก
เนื้อหาข่าวที่จะฝึกฟังมี 2 แบบ
แบบที่ 1 – เป็นการฟังเสียงอย่างเดียว เช่นที่ลิงก์ข้างล่างนี้
แบบที่ 2 – เป็นการฟังพร้อมดูคลิปข่าว ลักษณะนี้น่าสนใจมาก เพราะเป็นการฝึกฟังภาษาอังกฤษที่ให้ทั้งความรู้ ความน่าสนใจ น่าตื่นเต้น และบางทีข่าวเดียวกัน แต่เสนอโดยต่างสำนักข่าว อาจทำให้เราได้ฟังข่าวที่หลากมุม และได้ฟังเสียงคนอ่านข่าว เสียงคนบรรยายข่าว หรือเสียงบุคคลในข่าว หลาย ๆ คน ทำให้เราได้ฟังสำเนียงที่หลากหลายขึ้น
ที่พูดมาทั้งหมดนี้ดูเหมือนน่าสนุกและง่าย แต่พอเข้าไปดูคลิปข่าวจริง ๆ เช่น ข่าว BBC, CNN หรือ Al Jazeera อาจจะไม่ง่ายและไม่สนุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนเริ่มฝึกฟัง
เพราะอะไร ?
เพราะว่ามันฟังไม่รู้เรื่อง !
และจะทำยังไงให้ฟังรู้เรื่อง จะได้ไม่น่าเบื่อและทนฝึกฟังไปได้เรื่อย ๆ
ท่านผู้อ่านครับ ผมคิดไปคิดมา คิดมาคิดไป ดูแล้วดูอีกหลายเที่ยว และขอสรุปว่า ทางออกที่ดีที่สุดมีอยู่ทางเดียว คือ ฟังและดูคลิปข่าวภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับประเทศไทย เพราะว่า แม้ว่าศัพท์หรือภาษาอาจจะยากไปสักนิด แต่เพราะมันเป็นข่าวบ้านเราที่เรารู้และคุ้นเคย การเดาศัพท์, เดาสำเนียง, ตีความประโยค จึงทำได้ง่าย... ง่ายกว่าดูคลิปข่าว world news ที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย
ข้างล่างนี้ ผมได้ใช้เทคนิคของ Google Search โชว์คลิปข่าวเฉพาะที่เกี่ยวกับเมืองไทย ที่สำนักข่าวโลกหลาย ๆ แห่งเขารายงาน ก่อนจะคลิกลิงก์เข้าไปดูข่าวใด ให้ท่าน(1)อ่านพาดหัวข่าวและ(2)ดูวันที่ซะก่อน จะได้รู้ว่าข่าวนี้มันถูกรายงานตั้งแต่เมื่อไหร่ บางข่าวอาจจะเก่า ก็ไม่เป็นไรครับ ให้ถือว่าเป็นการฟึกฟังภาษาอังกฤษและได้รื้อฟื้นความทรงจำในเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว, แต่ละคลิปฟังซ้ำได้ เที่ยวหลัง ๆ จะเข้าใจมากขึ้น
ผมเชื่อว่า คลิปข่าวข้างล่างนี้ทั้งหมดจะเป็นบทฝึกที่มีประโยชน์มากในการเพิ่ม listening skill ของทุกท่านที่ตั้งใจฝึก
เชิญครับ ...
- aljazeera.com
- bbc.com
- cnn.com
- voanews.com
- english.cctv.com
- dw.com/en
- channelnewsasia.com
- YouTube news
- Google news
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th