Articles
อ่านและฟัง ประวัติบารัค โอบามา - หนังสืออ่านนอกเวลา Level 2
สวัสดีครับ
ผมเจอ หนังสืออ่านนอกเวลา ง่าย ๆ Level 2 ซึ่งนำประวัติบารัค_โอบามาก่อนขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาเขียน ชื่อ Barack Obama: The Story of One Man’s Journey to the White House จำนวน 10 บท แค่ 43 หน้า
ผมเห็นว่าน่าสนใจมาก จึงขอเชิญชวนท่าน....
♦ดาวน์โหลดทั้งไฟล์หนังสือ และไฟล์เสียงอ่าน คลิก
♦อ่านและฟัง online ที่ละบท ---
ขอให้คลิก open in new tab นะครับ เพื่อหน้าเสียง mp3 จะได้ไม่บังหน้าไฟล์หนังสือ pdf
เมื่อเปิดหน้าไฟล์ pdf แล้ว, กด Control ค้างไว้ แล้วกลิ้งล้อบนเมาส์ ไป-มา เพื่อ เพิ่ม-ลด ขนาด ฟอนต์ ตามต้องการ
บทที่ 1-pdf-mp3- บทที่ 2-pdf-pm3- บทที่ 3-pdf-mp3
บทที่ 4-pdf-mp3- บทที่ 5-pdf-mp3- บทที่ 6-pdf-mp3
บทที่ 7-pdf-mp3- บทที่ 8-pdf-mp3- บทที่ 9-pdf-mp3
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เรียงคำให้เป็นประโยคที่ถูกต้อง – บทที่ 1 ของการฝึกเขียน
สวัสดีครับ
มีบางคนพูดว่า การเขียนภาษาอังกฤษยากที่สุด ยากกว่าการอ่าน การพูด การฟัง เพราะนอกจากจะต้องเขียนให้ถูกแกรมมาร์แล้ว ยังต้องเขียนให้กระจ่าง กระชับ และจับใจ ฟังเขาพูดแล้วก็ชวนให้ท้อว่าชาตินี้เราคงไม่สามารถเขียนภาษาอังกฤษได้ แต่พอมานึกอีกที เราใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ไม่ใช่เพื่อการแข่งขัน ถ้าสื่อสารได้ก็ถือว่าใช้ได้ เราไม่ได้แข่งกับใครในการสื่อสาร เพราะฉะนั้นเมื่อสื่อออกไป มันจะผิดแกรมมาร์บ้าง ชวนงงบ้าง ชวนง่วงบ้าง เยิ่นเย้อบ้าง ก็ปรับปรุงแก้ไขกันไปทีละน้อยเท่าที่พอจะทำได้ ไม่เห็นจะต้องซีเรียสอะไรนักหนา
ผมขอเปรียบเทียบการฝึกภาษาอังกฤษกับการเข้าร่วมการวิ่งมินิมาราธอนแล้วกันครับ เส้นทาง 10 กิโลเมตรนี้ ปกติเขาจะให้เวลาวิ่งไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งคนเข้าร่วมวิ่งก็ต้องฟิตร่างกายโดยซ้อมวิ่งอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเวลา 90 นาทีมันก็ไม่ได้โหดเกินไปนัก แต่ถ้าไม่เคยซ้อมเลยก็คงวิ่งไม่ทันเวลา พวกเราส่วนใหญ่ที่ฝึกซ้อมภาษาอังกฤษเพื่อใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ก็เหมือนนักวิ่งมินิมาราธอนที่ใช้การวิ่งเพื่อรักษาสุขภาพ เราไม่ได้พูดหรือเขียนภาษาอังกฤษเพื่อแข่งขันเอาโล่ เหมือนนักวิ่งมินิมาราธอนทั่วไป ซึ่งไม่ใช่นักวิ่ง “แนวหน้า” ที่วิ่งเอาถ้วย เพราะฉะนั้น เราก็ซ้อมอยู่เสมอเพื่อให้ภาษาอังกฤษแข็งแรงพอจะใช้งานได้ ไม่ใช่ซ้อมเพื่อไปประกวดหรือแข่งขัน
พูดถึงการซ้อมภาษาอังกฤษ จนทักษะเริ่มจะติดลมบนและอยู่ตัวนี้ แต่ละคนอาจจะใช้เวลาไม่เท่ากัน แต่มันก็เหมือนการเดินทางนั่นแหละครับ ถ้าเราเดินทุกวัน ไม่ว่าฝนตก-ฝนหยุด แดดออก-แดดร่ม เราก็เดินทุกวัน มากบ้าง-น้อยบ้าง เร็วบ้าง-ช้าบ้าง แต่เราก็เดินทุกวัน-ไม่มีวันที่หยุดเดิน ระหว่างทางก็กินลมชมวิวเรื่อยไป-ไม่เครียดเค้นเท้าให้ก้าวทันใจจนไร้ความสุข เราถึงที่หมายแน่ ๆ ครับ... เพราะเราเดินถึงทุกวัน เราได้อะไรเพิ่มขึ้นทุกวัน
อย่างเช่นวันนี้ ผมก็จะชวนท่าน “เดิน” พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยการฝึกเขียน
ในหลาย ๆ เว็บ เขามักจะเอาเรื่อง Grammar และ Writing ไว้ด้วยกัน เขาคงคิดว่า 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องบทแรกที่ต้องทำให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องถัดไป คือ การเขียนให้กระจ่าง กระชับ ชวนอ่าน มีโครงสร้างที่ดีในการเขียน นี่อาจจะเป็นบทหลัง
ผมลองเข้าไปหาเรื่อง Writing ในเน็ต ก็เจอเว็บดัง ๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บางเว็บ เช่น
- http://www.rong-chang.com/writing.htm (เว็บนี้ รวบรวมไว้ดีมาก)
- http://www.englishclub.com/writing/
แต่แบบฝึกหัดเกี่ยวกับการเขียนที่ผมอยากจะชวนในวันนี้ ต้องถือว่าเป็น A…B… C… หรือบทที่ 1 ของการฝึกเขียน คือ การเรียงคำให้เป็นประโยคที่ถูกต้อง คือ โจทย์จะให้คำมาหลาย ๆ คำ หน้าที่ของเรา คือ คลิก หรือลาก หรือ พิมพ์ เพื่อเรียงจากคำแรกไปจนถึงสุดท้ายให้มันเป็นประโยคที่สมบูรณ์ ซึ่งเขาจะมีเฉลยให้เราคลิกดูด้วย นี่คือการ test ไม่ใช่ teach เพราะฉะนั้น ถ้าเราทำผิดและดูเฉลยแล้วก็ยังงงว่า ทำไมเขาถึงเฉลยอย่างนั้น ก็อาจจะไปหาหนังสือแกรมมาร์มาอ่านดู ที่ลิงค์นี้
รวม ดาวน์โหลด ตำราภาษาไทย ใช้เรียนภาษาอังกฤษ (คนไทยแต่ง)
หรือถ้ายังไม่มีเวลาไปหาอ่าน ก็อาจจะทำ test และศึกษาจากเฉลยไปเรื่อย ๆ ก่อนก็ได้ครับ
เชิญคลิกเข้าไปทำได้เลยครับ:
- http://www.rong-chang.com/easyread/emx/contents.htm
- http://a4esl.org/q/j/ck/wo-01.html
- http://a4esl.org/q/j/ck/wo-02.html
- http://goo.gl/58F3gt
- http://goo.gl/dSGYGy
- http://goo.gl/4zPTbx
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ความหมาย - คุณค่า วันวิสาขบูชา โดย ท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ
ตอนที่ ๑
ตอนที่ ๒
ตอนที่ ๓
ตอนที่ ๔
ตอนที่ ๕
เรียนภาษาอังกฤษ บนเส้นทางของการฝ่าฟัน เรียนรู้ และความสำเร็จ
สวัสดีครับ
ผมทำบล็อกต่อด้วยเว็บ e4thai.com นี้มาได้ 7 ปีกว่าแล้ว ในช่วง 7 ปีนี้บางครั้งผมถูกถามว่า ทำอย่างไรผมจึงไปซอกแซกหาเว็บนั้นเว็บนี้แปลก ๆ มาได้? ผมจะตอบคำถามนี้ยังไงดีนะ เพราะผมไม่เคยถามตัวเองจริง ๆ จัง ๆ สักทีว่ามีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่าในการหาให้พบ หรือ Search เว็บที่ต้องการ
ผมใช้คำว่า search นี่น่าจะถูกต้องนะครับ เหมือนตำรวจคนหนึ่งที่รู้แน่ ๆ ว่าผู้ร้ายคนนี้ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ที่เสื้อผ้าหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ก็พยายามค้นตัวคนร้ายจนทั่วด้วยความพิถีพิถันระมัดระวัง และในที่สุดก็ค้นจนพบยาเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ นี่คือการ search
ผม search เน็ตก็ด้วยวิธีและความรู้สึกเดียวกัน คือแทบทุกครั้งผมจะตั้งเป้าไว้ในใจก่อนเลยว่า ผมต้องการเอาเว็บหรือเนื้อหาอะไรมาเป็นบรรณาการแด่ท่านผู้อ่าน ที่ผมใช้คำว่า “บรรณาการ” นี่ก็น่าจะถูกต้องอีกเช่นกันนะครับ เพราะบรรณาการแปลว่า “สิ่งที่ส่งไปให้ด้วยความเคารพนับถือหรือด้วยไมตรี” ผมเคารพนับถือท่านผู้อ่านเพราะผมเห็นว่า การมาศึกษาภาษาอังกฤษเป็นการใช้เวลาที่เป็นประโยชน์ ถ้าผู้อ่านเป็นน้อง ๆ ที่อายุยังน้อยและพยายามสอบภาษาอังกฤษผ่านให้ได้เพื่อน้องจะได้เรียนจบและมีงานทำ ผมก็เคารพที่น้องพยายามทำความดีเพื่อช่วยเหลือตัวเอง-ทำให้ตัวเองพึ่งตัวเองได้ แต่ถ้าท่านผู้อ่านเริ่มมีอายุและการพยายามหาความรู้ด้านภาษาอังกฤษจากเว็บนี้มีส่วนช่วยให้ท่านมีงานทำพึ่งตัวเองได้ หรือสามารถเอาความรู้ไปเผื่อแผ่ให้แก่คนอื่นอีกต่อหนึ่ง ผมก็เคารพท่านในลักษณะเดียวกัน ผมคิดว่าด้วยเหตุผลเช่นนี้ที่ทำให้ผมเคารพท่านผู้อ่าน และพยายามหาสิ่งที่มีประโยชน์มาเป็นบรรณาการ น่าจะเป็นเหตุผลที่พอฟังขึ้น
เมื่อผมตั้งเนื้อหาที่พิจารณาแล้วว่า มันน่าจะมีคนจัดทำขึ้นไว้แล้วในโลกนี้ และผมจะต้อง Search ให้ได้ ผมก็ตั้งความเชื่อไว้เลยว่า เว็บหรือเนื้อหาที่ผมอยากได้นี้ ในโลกอันกว้างใหญ่และในเน็ตอันไพศาลนี้ ผมคงไม่ใช่คน ๆ เดียวที่อยากได้ของสิ่งนี้ และเมื่อมี demand ก็ต้องมี supply มันต้องมีอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่งหรือหลายแห่งใน world of webs ที่สุดแสนจะ wide แห่งนี้ และผมก็ตั้งต้นค้นหา โดยมีเงื่อนไขว่าจะถือว่าหาพบก็ต่อเมื่อสิ่งที่พบมีคุณภาพดีและฟรีไม่ต้องจ่ายตังค์ และผมก็ค่อย ๆ พบทีละเว็บ ๆ เมื่อผ่านไปหลายวัน หลายสัปดาห์ หลายเดือน หลายปี เว็บฟรีและดีตามเกณฑ์ที่ผมตั้งไว้มันก็ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนประจำเว็บนี้คงจะผ่านตามาบ้างที่ผมเล่าว่า ผมหาเว็บแบบนี้ ๆ มาตั้งนานแล้ว เพิ่งจะพบวันนี้เอง พูดอีกอย่างก็คือ เว็บบางอย่างก็หาง่าย บางอย่างก็หายาก แต่เมื่อ start ด้วยความเชื่อว่ามันต้องมี ผมก็อยากจะเชื่ออย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ถ้าเว็บเช่นนี้มีอยู่จริงใน world wide web มันจะหนีพ้นมือผมไปได้ก็ให้มันรู้ไป ดูไปก็บ้า ๆ อยู่เหมือนกันนะครับ
ผมไม่ได้มีเคล็ดลับพิเศษอะไรในการหา ก็เพียงแต่ศึกษาหลักเบื้องต้นในการใช้ Search Engine ของ Google แล้วก็หาไปตามหลักนั้น และคำค้น หรือ search terms ที่ผมใช้บ่อย ๆ ก็คือ “ESL” หลายท่านคงทราบแล้วว่า ESL ย่อมาจาก English as a Second Language ซึ่งตาม Cambridge Dictionary อธิบายว่าเป็น the teaching of English to speakers of other languages who live in a country where English is an official or important language หรือ “การสอนภาษาอังกฤษให้แก่ผู้ที่พูดภาษาอื่นซึ่งอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการหรือภาษาสำคัญ” สำหรับประเทศไทย แม้ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาทางการ แต่ก็ต้องถือว่าเป็นภาษาที่มีความสำคัญมากขึ้น ๆ ทุกวัน
ด้วยเหตุที่ผมพยายามหาอยู่บ่อย ๆมาอย่างต่อเนื่อง ในระยะหลัง ๆ ก็ชักจะหาได้เร็วขึ้น ตรงกับสิ่งที่ต้องการมากขึ้น หรือบางครั้งถึงขั้นได้ดีกว่าสิ่งที่ใจหวังไว้ซะอีก เข้าทำนองลงไปคลุกขุดดินหวังจะได้พลอยสักเม็ดแต่กลับได้เพชรมาโดยไม่คาดฝัน คำเปรียบเทียบเช่นนี้อาจจะดูเว่อไปสักนิด แต่ผมรู้สึกอย่างนี้จริง ๆเมื่อเจอเว็บที่มีคุณภาพดีกว่าที่มุ่งไว้หลายเท่า ท่านผู้อ่านจะไม่ให้ผมดีใจได้ยังไงล่ะครับ ท่านลองคำนวณง่าย ๆ อย่างนี้ก็ได้ครับ ในวันหนึ่ง ๆ มีคนเข้ามาใช้เว็บนี้ประมาณ 7,000 – 8,000 คน โดยเป็นคนที่ log-in จากในประเทศไทยประมาณ 92 % อีก 8 % เป็นคนไทยที่ log-in จากต่างประเทศ ถ้าเนื้อหาที่ผมนำมาเสนอนี้ ช่วยผู้อ่านเพียงสัก 100 คนให้ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อหนังสือ หรือ CD หรือจ้างฝรั่งมาสอนภาษาอังกฤษ เพียงแค่คนละ 10 บาท ก็เท่ากับช่วยประหยัดเงินให้กับท่านผู้อ่าน 1,000 บาทต่อวัน การได้มีโอกาสช่วยเหลือคนไทยด้วยกันเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ ก็ถือว่าผมโชคดีมากพอสมควรแล้วล่ะครับ แล้วจะไม่ให้ดีใจได้ยังไง
มาคิดดูอีกแง่หนึ่ง การที่ทักษะภาษาอังกฤษของผมอยู่แค่ระดับปานกลางไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีอะไรนัก นี่ก็มีข้อดีอยู่นะครับ ผมว่าอย่างน้อยมันทำให้ผมรู้ใจคนที่ไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษ ถ้าผมเก่งเอามาก ๆ ผมอาจจะไม่ค่อยเข้าใจว่าคนไม่เก่งเขารู้สึกยังไง พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่า การมีพรสวรรค์ด้านภาษาเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ได้หมายความเช่นนี้เลยครับ ผมเพียงแต่อยากจะบอกว่า การไม่เก่งก็ทำให้ไม่เหงา ทำให้รู้ใจคนอื่น และมีอะไรให้ทดสอบตัวเอง เป็นการออกกำลังใจไปในตัว
ย้อนกลับมาพูดถึงคำค้น คือ ESL ถ้าจะพูดให้ง่ายเข้าก็คือ ESL เป็นประตูบานใหญ่ให้ผมเดินเข้าไปค้นหาเว็บภาษาอังกฤษมาลงแนะนำในเว็บนี้
จากงานที่ผมถือว่าเป็น labor of love นี้ ช่วยให้ผมสรุปบทเรียนที่สำคัญของชีวิตได้ 1 บท คือ ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมานี้ ผมได้ใช้ความพยายาม (Effort)หาเว็บนั้นเว็บนี้มาลงแนะนำในเว็บนี้ และก็อย่างที่เรียนให้ท่านทราบแล้ว พอพยายามบ่อย ๆ เข้าผมก็เริ่มมีความชำนาญ (Skill) สามารถหาจนพบเว็บที่ผมตั้งใจจะหา และนี่ก็คือโชค (Luck) ที่ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ แต่เป็นโชคที่มาจากความชำนาญ และก็เป็นความชำนาญที่มาจากความพยายามอีกต่อหนึ่ง เพราะฉะนั้นสำหรับผมแล้ว ESL ไม่ใช่เพียงแค่เป็นคำย่อของ English as aSecond Language เท่านั้น แต่ ESL ยังเป็นคำย่อของอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่า คือ Effort, Skill & Luck ซึ่งก็คือ ความพยายาม, ความชำนาญ และโชค ซึ่งเกิดขึ้นตามลำดับ 1, 2, และ 3 โดยอันแรกเป็นเหตุของอันหลัง อันหลังมาจากอันแรก ถ้าอยากได้ความสำเร็จ หรือ โชค หรือ Luck จะต้องทำให้ตัวเองมีความชำนาญ หรือ Skill, แต่ความชำนาญ หรือ Skill ก็ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไร้สาเหตุ, Skill ต้องมาจากความพยายาม หรือ Effort นั่นเอง
ผมอยากให้ท่านผู้อ่านของผมทุกท่าน เรียน ESL ไปตามเส้นทางของ “ESL” เส้นทางความสำเร็จที่ผ่านการฝ่าฟันและการเรียนรู้
เหนือสิ่งอื่นใด ผมอยากให้ท่านผู้อ่านทุกท่านมีโชค(luck) อันเกิดจากฝีมือ (skill) ที่ท่านสร้างขึ้นด้วยความพยายาม (effort) ของท่านเอง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการศึกษาภาษาอังกฤษ หรือความดีความงามในทุกด้านของชีวิต
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ดาวน์โหลด นิยายของ จอห์น กริแชม (John Grisham)
19 มกราคม 2561: โดย John Grisham 40 เล่ม เป็นไฟล์ epub → คลิกดาวน์โหลด • เปิดด้วยโปรแกรม→ EPUB File Reader
11 กย 58: - ขอเพิ่มใหม่อีก 2 เล่ม เพิ่งได้มาครับ:
สวัสดีครับ
งานเขียน ของ จอห์น กริแชม (John Grisham) ที่แปลและพิมพ์จำหน่ายเป็นภาษาไทย มี 14 ล่ม
(ข้อมูลถึง มกราคม พ.ศ. 2552 จาก http://th.wikipedia.org/wiki/จอห์น_กริแชม)
♦ถ้าต้องการดาวน์โหลดทุกเล่มในคราวเดียว 18 MB ก็ คลิกที่นี่
ถ้าต้องการดาวน์โหลด หรืออ่าน online ทีละเล่ม ก็คลิก ที่ท้ายหนังสือ
- A Time to Kill (1989) ยุติธรรมอำมหิต (แดง ชารี สนพ. มีเดียโฟกัสบุคส์ - คู่แข่ง) คลิก
- The Firm (1991) องค์กรซ่อนเงื่อน (ศ.เจริญ วรรธนะสิน สนพ. คู่แข่ง) คลิก
- The Pelican Brief (1992) แฟ้มเขย่าทำเนียบขาว (สันติ อิศโรวุธกุล สนพ. คู่แข่ง) คลิก
- The Client (1993) พยานตัวแสบ (สมพล สังขะเวส สนพ. คู่แข่ง) คลิก
- The Chamber (1994) นาทีประหาร (ไตรภพ สนพ. คู่แข่ง) คลิก
- The Rainmaker (1995) หักเขี้ยวเสือ (แดง ชารี สนพ. คู่แข่ง) คลิก
- The Partner (1997) เงาล่ามรณะ (วลีพร หวังซื่อกุล สนพ. นานมีบุคส์) คลิก
- The Street Lawyer (1998) ทนายข้างถนน (วิมล กมลตระกูล สนพ. นานมีบุคส์) คลิก
- The Testament (1999) ทายาทพินัยกรรม (ธันวารินทร์ สนพ. นานมีบุคส์) คลิก
- The Brethren (2000) แผนซ้อนกล ปิยดา (ปิยะมาลย์มาศ สนพ. นานมีบุคส์) คลิก
- The Summons (2002) หมายเรียก (นิติกร สนพ. นานมีบุคส์) คลิก
- The Broker (2005) ถล่มแผนสังหาร (สุดจิต ภิญโญยิ่ง สนพ. นานมีบุคส์) คลิก
- The last Juror (2004) ลูกขุนคนสุดท้าย (ผจงจินต์ สันตพงศ์ นานมีบุคส์) คลิก
- The King of Torts (2003) ตามล่าจอมบงการ (สุพจน์ อุ้ยนอก นานมีบุคส์) คลิก
ผมมีต้นฉบับภาษาอังกฤษอีก 3 เล่ม แต่ไม่ทราบว่ามีการแปลเป็นภาษาไทยหรือยัง
มีข้อแนะนำ 3 ข้อครับ คือ
{1}ถ้าต้องการอ่านเรื่องย่อของแต่ละเล่ม เป็นภาษาไทย ก็พิมพ์หาได้ใน Google น่าจะพอมีให้อ่านบ้างเช่น
พิมพ์ว่า เรื่องย่อ The Street Lawyer คลิก
ส่วนในภาษาอังกฤษมีให้อ่านมากกว่ากันเยอะเลย เช่น
พิมพ์ว่า summary The Street Lawyer คลิก
{2}ถ้าท่านชอบใจไฟล์ชุดนี้ ก็ให้ดาวน์โหลดไว้เลย ผมไม่แน่ใจว่า มันจะอยู่ใน server ของ e4thai ได้นานสักกี่วัน
{3}ถ้าต้องการ audio book ของหนังสือเล่มใด ลองหาดูได้ที่นี่ครับ
- englishtips.org ต้อง register ก่อนจึงจะเห็นลิงค์ที่ดาวน์โหลด
- http://goo.gl/nHMPW3
•ดูชื่อเล่มอื่น ๆ ของจอห์น กริแชม ที่เว็บของเขา
http://www.jgrisham.com/ebooks/
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.