Articles
แก้ปัญหาเรื่อง Reading และ Vocabulary
สวัสดีครับ
หลายคนพูดว่าในการอ่านภาษาอังกฤษ ถ้ารู้ศัพท์อย่างเดียวก็อ่านรู้เรื่อง เพราะฉะนั้นถ้าจะให้อ่านเก่งต้องพยายามรู้ศัพท์เยอะ ๆ และถ้าท่านพิมพ์คำว่า วิธีจำศัพท์ (คลิก) ลงไปใน Google ก็จะพบคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับเทคนิคการจำศัพท์
วันนี้ผมขอพูดเรื่องนี้ และรู้สึกว่ามีหลายประเด็นที่น่าพูด
เรื่องที่ 1:
ถ้าไม่รู้หลักแกรมมาร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องโครงสร้างประโยค ก็จะทำให้ความเข้าใจเบลอ จับประเด็นยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคยาว ๆ ที่ประธาน กริยา กรรม มีวลีและอนุประโยค ทำหน้าที่ขยายมากมายเต็มไปหมด ถ้ามีเวลาผมจะกลับมาพูดเรื่องนี้อีกสักครั้ง ผมเคยเขียนเรื่องนี้ไว้เพียงเล็กน้อย ที่บทความนี้
เทคนิคการอ่าน นสพ.ฝรั่งให้รู้เรื่อง
เรื่องที่ 2:
ทุกวันนี้เมื่ออ่านภาษาอังกฤษผ่านเน็ต ปัญหาไม่รู้ศัพท์แทบจะหมดไปเลยเพราะเราสามารถอาศัยตัวช่วยจากเน็ตที่เมื่อคลิกศัพท์ภาษาอังกฤษ คำแปลหรือความหมายก็โผล่ให้เห็นทันที เสียเวลาติดตั้งไม่กี่นาทีก็ใช้ได้แล้ว อ่านบทความนี้ครับ
การติดตั้ง add-ons dictionary อังกฤษ - ไทย
สำหรับ Browser Firefox และ Google Chrome แปลได้ทั้ง En-Th และ Th-En
อ่านคำแนะนำ:ติดตั้ง add-ons Longdo dictionary En Th
สำหรับ Browser Internet Explorer (IE) แปลได้เฉพาะ En-Th
อ่านคำแนะนำ:ให้ Google แปลศัพท์ En - > Th ทุกคำเมื่อท่องเน็ต
เรื่องที่ 3:
เมื่อเราจะฝึกเดาศัพท์ เราควรเริ่มจากการอ่านอะไร? ตามความเห็นของผม เราควรเริ่มจาก (1)เรื่องที่ไม่ยากเกินไปสำหรับเรา (2)เรื่องเราคุ้นเคยเข้าใจอยู่บ้าง ทั้ง 2 ข้อนี้จะช่วยให้การเดาของเราไม่เป็นงานที่หนักมากนัก และข้อ (3) ก็คือ เราควรฝึกอ่านเรื่องที่เราชอบหรือสนใจเป็นพื้นฐาน เพราะถ้าอ่านและต้องเดาศัพท์จนเหนื่อย เราก็จะไม่บ่นเพราะเราชอบ
การหาเรื่องที่ไม่ยากนัก-เรื่องที่รู้-เรื่องที่ชอบ จะหายังไง ลองไปที่ลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ ผมแนะนำไว้แล้ว
เว็บดีที่ถูกใจ-คนดีที่ถูกใจ ต้องลงทุนหาเองครับ ที่นี่ !!
เรื่องที่ 4:
มีผู้รู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของภาษา ได้รวบรวม list คำศัพท์ที่เจอบ่อยเมื่ออ่านและฟัง และใช้บ่อยเมื่อต้องพูดหรือเขียน และแนะนำให้ผู้ศึกษาภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็ชาวต่างชาติอย่างคนไทยนี่แหละ ได้ศึกษาคลุกคลีทำความคุ้นเคยกับมันจนคล่องแคล่ว และศัพท์พวกนี้จะเป็นพื้นฐานอย่างวิเศษให้เราเหยียบปีนขึ้นไปและเดาศัพท์ที่สูงขึ้น ถ้าศัพท์เตี้ย ๆ ยังไม่รู้ ศัพท์สูง ๆ ก็คงไม่รุ่ง ผมได้รวบรวมศัพท์พวกนี้ไว้แล้ว ที่บทความนี้
ดูคำศัพท์+คำแปล คลิกที่นี่: คลิกที่่นี่
ศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2,000 คำ ของ Longman Dictionary
คำศัพท์ 1,000 คำแรก พร้อมคำแปล ที่มีการใช้มากที่สุดในภาษาอังกฤษ
เรื่องที่ 5:
คราวนี้มาถึงเรื่องสุดท้าย คือเทคนิคการเดาศัพท์
ผมไม่รู้ว่านักเรียนรุ่นหลังผมได้เรียนเรื่องนี้บ้างหรือเปล่า แต่สำหรับผมไม่เคยเรียนเรื่องนี้เลยในโรงเรียน น่าแปลกมากที่เรื่องที่มีประโยชน์และจำเป็นขนาดนี้ไม่มีการสอน ทำไมจึงพูดว่าจำเป็น ก็เพราะว่าเมื่อเราอ่านภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องใหม่ ๆ หรือเรื่องที่ไม่คุ้นเคย มันยากที่เราจะรู้ศัพท์ทุกคำ แต่การจะเปิดดิกบ่อยเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี แถมยังมีงานวิจัยชี้ไว้อีกว่า การเปิดดิกบ่อยเกินไปแม้จะทำให้รู้ศัพท์ทันที แต่ผลเสียที่นอกจากอ่านจบช้าแล้ว ยังทำให้ความสามารถให้การทำความเข้าใจ-จับประเด็น-ตีความ ลดลงไปอย่างมาก เพราะฉะนั้นคำตอบสุดท้ายก็คือ การเดาศัพท์จากข้อความในประโยค ที่เรียกว่า Context
มีผู้รู้หลายท่านได้แนะนำเทคนิคการเดาศัพท์ ท่านเพียงพิมพ์คำว่า เทคนิคการเดาศัพท์ (คลิก) ลงไปใน Google ก็จะพบคำแนะนำมากมาย
ผมขอแนะนำสักนิดหน่อย ที่สั้น ๆ ก็ลิงค์นี้
!!รวมเทคนิคการเดาVocabด้วยวิธีต่างๆ+ - Eduzones
หรือถ้าจะศึกษายาว ๆ อย่างละเอียด ก็ไปที่นี่
(1)การเดาความหมายของศัพท์ - วิชัยมากอยู่ - คลิก
(2) http://www.bangkokpost.com/education/site2000/buildvoc.htm
อย่างไรก็ตาม เพียงรู้แค่ทฤษฎีไม่พอแน่ ๆ เพราะทักษะหรือความชำนาญในการเดาศัพท์ต้องมาจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง การอ่านอย่างช่างสังเกต ฝึกเดา ฝึกตีความ บ่อย ๆ จะทำให้เรามั่นใจในการเดา คือ เมื่อเจอศัพท์ใหม่แม้อาจจะไม่รู้ 100% ในคำแปลของศัพท์ แต่อย่างน้อยก็รู้แนวโน้มของความหมาย คือแน่ใจว่ามันควรจะแปลไปในทำนองไหน
ผมมีของแถมให้ท่านฝึกการเดาศัพท์จาก context หรือบริบท ซึ่งฝรั่งเขาทำให้นักเรียนระดับประถม-มัธยมเล่น
วิธีเล่น
(1)คลิก Start Game
(2)คลิก คำศัพท์ที่คอลัมน์ซ้าย และประโยคที่คอลัมน์ขวา ที่ match กัน โดยคลิกให้ต่อเนื่องกัน จะเกิดเส้นเชื่อมคำและประโยคที่เราเลือกนี้
(3)เมื่อทำครบแล้ว ให้คลิก Check Answers ที่ด้านล่าง
(4)ถ้าทำบางข้อผิด ให้คลิก Try Again ที่ด้านล่าง และทำใหม่, ข้อที่โยงถูกจะอยู่เหมือนเดิม แต่ข้อที่โยงผิดจะหายไปเพื่อให้เราโยงใหม่
(5)เมื่อทำถูกต้องครบหมดทุกข้อแล้ว ให้คลิก Refresh ทางเว็บจะสุ่มชุดใหม่มาให้ทำ อาจจะมีบางข้อที่ซ้ำเดิม
เชิญครับ…..
ระดับ อนุบาล – เกรด 2
Ramona Forever Vocabulary Context
ระดับ เกรด 3-5
Bridge to Terabithia Context Game
ระดับ เกรด 6-8
Call of the Wild Context Match
ระดับ เกรด 9-12
บทความนี้อาจจะ serious ไปสักหน่อย แต่น่าจะพอมีประโยชน์อยู่บ้างนะครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ช่อง URL ของ Google Chrome ทำหน้าที่ได้เหมือนช่อง Google Search
สวัสดีครับ
สำหรับท่านที่ใช้ Browser Google Chrome
ไม่ว่า ณ ปัจจุบันท่านจะอยู่ที่หน้าใดก็ตาม
♣ท่านสามารถพิมพ์คำค้นลงไปในช่อง URL ของหน้านั้นได้เลย มันจะทำหน้าที่เป็นช่อง Search ของ Google โดยท่านไม่ต้องเปิดหน้า www.google.com
♣ถ้าท่านต้องการให้มันแสดงผลการค้นใน tab ใหม่ ก็ให้กด Alternate (Alt)ค้างไว้ก่อนกด Enter
♣ หรือท่านจะพิมพ์ URL ของเว็บใหม่ลงไปก็ได้ และ (กด Alt ค้างไว้) กด Enter
ตามรูปข้างล่างนี้ครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เอาตัวรอดในต่างประเทศด้วยประโยคพื้นฐาน 4 ด้าน
แหล่งที่มา: http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=71786
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศมือใหม่ที่อ่อนภาษาอังกฤษ การเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งไกด์ทัวร์ นับเป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัวเกินกว่าจะมีอารมณ์สุนทรีย์กับทิวทัศน์รอบตัวได้ จะไปไหนก็ไปไม่ถูก จะถามใครก็พูดไม่เป็น เข้าร้านอาหารก็ไม่รู้จะสั่งอาหารอย่างไร จะช้อปปิ้งก็ยังไม่กล้าถามราคาอีก ชีวิตนี้ช่างมืดมนโดยแท้ กลับถึงเมืองไทยได้อย่างปลอดภัยก็นับว่ายอดแล้ว
แต่มันจะไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าเราได้ซักซ้อมใช้ประโยคพื้นฐานภาษาอังกฤษเอาไว้เสียก่อนที่จะเดินทางไป ซึ่งประโยคสำหรับเอาตัวรอดในต่างแดนก็มีอยู่ด้วยกัน 4 ด้านหลักๆ คือ การแนะนำตัว การเดินทาง กิน-เที่ยว และที่พักอาศัย มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊
1. การแนะนำตัว
แนะนำตัว
Peter : Hello. My name's Peter. What's your name?
(สวัสดีครับ ผมชื่อปีเตอร์ คุณชื่ออะไรครับ)
Janet : Janet.
(เจเน็ตค่ะ)
Peter : Where are you from Janet?
(คุณเจเน็ตมาจากประเทศอะไรครับ)
Janet : I'm from Seattle. Where are you from?
(ฉันมาจากซีแอ็ทเทิล แล้วคุณมาจากประเทศอะไรคะ)
Peter : I'm from Madrid.
(ผมมาจากเมืองมาดริดครับ)
Peter : Are you American?
(คุณเป็นชาวอเมริกันหรือเปล่าครับ)
Janet : Yes, I am. Are you Spanish?
(ใช่ค่ะ ฉันเป็นชาวอเมริกัน แล้วคุณเป็นชาวสเปนหรือเปล่าคะ)
Peter : Yes I am.
(ใช่ครับ ผมเป็นชาวสเปน)
ทักทาย
Janet : Hello, Peter. How are you?
(สวัสดีค่ะคุณปีเตอร์ สบายดีหรือเปล่าคะ)
Peter : Fine, thanks. How are you?
(สบายดีครับ ขอบคุณครับ แล้วคุณสบายดีหรือเปล่าครับ)
Janet : I'm fine, thank you.
(สบายดีค่ะ ขอบคุณค่ะ)
Peter : Goodbye, Janet. See you tomorrow!
(ลาก่อนครับคุณเจเน็ต แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ)
Janet : Bye bye, Peter. Have a nice evening.
(ลาก่อนค่ะคุณปีเตอร์ ขอให้มีความสุขในค่ำคืนนี้นะคะ)
Peter : Thanks, you too!
(ขอบคุณครับ คุณก็เช่นกันนะครับ)
Janet : Thanks.
(ขอบคุณค่ะ)
สรุปรูปประโยคสำคัญ
My name is... (ฉันชื่อ...)
What's (is) your name? (คุณชื่ออะไร)
Where are you from? (คุณมาจากที่ไหน)
I'm from... (ผมมาจาก...)
Are you (Spanish, American, German, etc.) (คุณเป็นชาว (สเปน, อเมริกัน, เยอรมัน หรืออื่นๆ) หรือไม่)
Hello... How are you? (สวัสดี สบายดีหรือเปล่าคะ)
I'm (fine, OK, well) thank you (ผมสบายดี ขอบคุณครับ)
Goodbye, bye bye (ลาก่อน)
See you tomorrow (แล้วพบกันพรุ่งนี้ครับ)
Have a nice (day, evening) (ขอให้มีความสุขใน (วัน, คืน) นี้นะครับ)
◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊
2. การเดินทาง
ที่สนามบิน
Officer : Good morning. Can I have your ticket, please?
(สวัสดีตอนเช้าครับ ผมขอตั๋วโดยสารของคุณได้หรือไม่ครับ กรุณาด้วยครับ)
Traveller : Here you are.
(นี่ครับ)
Officer : Thank you. Would you like smoking or non-smoking?
(ขอบคุณครับ คุณต้องการสูบบุหรี่หรือไม่สูบครับ)
Traveller : Non-smoking, please.
(ไม่สูบครับ กรุณาด้วยครับ)
Officer : Would you like a window or an aisle seat?
(คุณต้องการที่นั่งริมหน้าต่างหรือริมทางเดินครับ)
Traveller : An aisle seat, please.
(ที่นั่งริมทางเดินครับ กรุณาด้วยครับ)
Officer : Do you have any baggage?
(คุณมีสัมภาระมาด้วยหรือไม่ครับ)
Traveller : Yes, this suitcase and this carry-on bag.
(มีครับ นี่กระเป๋าเดินทาง และนี่กระเป๋าเป้ครับ)
Officer : Here's your boarding pass. Have a nice flight.
(นี่บัตรผ่านขึ้นเครื่องบินของคุณครับ ขอให้มีความสุขกับการบินนะครับ)
Traveller : Thank you.
(ขอบคุณครับ)
ที่ด่านตรวจหนังสือเดินทาง
Officer : Good morning. Can I see your passport?
(สวัสดีตอนเช้าครับ ผมขอดูหนังสือเดินทางของคุณได้หรือไม่ครับ)
Traveller : Here you are.
(นี่ครับ)
Officer : Thank you very much. Are you a tourist or on business?
(ขอบคุณมากครับ คุณเป็นนักท่องเที่ยวหรือมาทำธุรกิจครับ)
Traveller : I'm a tourist.
(ผมเป็นนักท่องเที่ยวครับ)
Officer : That's fine. Have a pleasant stay.
(ดีครับ ขอให้มีความสุขในการพักอาศัยครับ)
Traveller : Thank you.
(ขอบคุณครับ)
สรุปรูปประโยคสำคัญ
Can I have your ticket? (ขอตั๋วโดยสารของคุณได้หรือไม่ครับ)
smoking, non-smoking (สูบบุหรี่, ไม่สูบบุหรี่)
window seat, aisle seat (ที่นั่งริมหน้าต่าง, ที่นั่งริมทางเดิน)
baggage, suitcase, carry-on bag (สัมภาระ, กระเป๋าเดินทาง, กระเป๋าเป้)
boarding pass (บัตรผ่านขึ้นเครื่องบิน)
flight (การบิน)
Can I see your passport? (ผมขอดูหนังสือเดินทางของคุณได้หรือไม่ครับ)
tourist, business (นักท่องเที่ยว, ทำธุรกิจ)
สอบถามทาง
Traveller : Excuse me. Is there a bank near here?
(ขอโทษครับ มีธนาคารอยู่แถวๆ นี้หรือเปล่าครับ)
Women : Yes. There's a bank on the corner.
(มีค่ะ มีธนาคารอยู่ตรงหัวมุมถนน)
Traveller : Thank you.
(ขอบคุณครับ)
Women : You're welcome.
(ไม่เป็นไรค่ะ)
Traveller : Excuse me. Is there a supermarket near here?
(ขอโทษครับ มีซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่แถวๆ นี้หรือเปล่าครับ)
Women : Yes. There's one near here.
(มีค่ะ มีอยู่ที่หนึ่งใกล้ๆ ตรงนี้)
Traveller : How do I get there?
(ผมจะไปที่นั่นได้อย่างไรครับ)
Women : At the traffic lights, take the first left and go straight on. It's on the left.
(ตรงสัญญาณไฟจราจร เลี้ยวซ้ายแรก แล้วตรงไป มันจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ)
Traveller : Is it far?
(อยู่ไกลหรือเปล่าครับ)
Women : Not really.
(ไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ)
Traveller : Thank you.
(ขอบคุณครับ)
Women : Don't mention it.
(ไม่เป็นไรค่ะ)
สรุปรูปประโยคสำคัญ
Is there a ... near here? (มี...อยู่แถวๆ นี้หรือเปล่าครับ)
on the corner (ตรงหัวมุมถนน)
on the left (อยู่ทางซ้ายมือ)
on the right (อยู่ทางขวามือ)
straight on, straight ahead (ตรงไป)
turn left (เลี้ยวซ้าย)
turn right (เลี้ยวขวา)
traffic lights (สัญญาณไฟจราจร)
สอบถามเวลา
Traveller : Excuse me. Can you tell me the time, please?
(ขอโทษครับ คุณช่วยบอกเวลาให้ผมได้หรือไม่ครับ กรุณาด้วยครับ)
Man : Yes, of course. It's seven o'clock.
(ได้แน่ครับ ตอนนี้เวลา 7 นาฬิกาครับ)
Traveller : Thank you.
(ขอบคุณครับ)
Man : No problem.
(ไม่มีปัญหาครับ)
Traveller : What time is it?
(ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงครับ)
Women : It's half past three.
(ตอนนี้เป็นเวลา 3 นาฬิกา 30 นาทีค่ะ)
Traveller : Thanks.
(ขอบคุณครับ)
Women : You're welcome.
(ไม่เป็นไรค่ะ)
สรุปรูปประโยคสำคัญ
Excuse me. (ขอโทษครับ, รบกวนด้วยครับ)
Can you tell me the time, please? (คุณช่วยบอกเวลาให้ผมได้หรือไม่ครับ กรุณาด้วยครับ)
What time is it? (ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงครับ)
It's half past... (ตอนนี้เป็นเวลา....นาฬิกา 30 นาที)
It's quarter past... (ตอนนี้เป็นเวลา...นาฬิกา 15 นาที)
It's ten to... (ตอนนี้เป็นเวลาอีก 10 นาทีจะ....นาฬิกา)
It's quarter to... (ตอนนี้เป็นเวลาอีก 15 นาทีจะ...นาฬิกา)
o'clock (นาฬิกา)
◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊
3. กิน-เที่ยว
ที่ร้านอาหาร
Waitress : Hi. How are you doing this afternoon?
สวัสดีค่ะ เย็นนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ)
Traveller : Fine, thank you. Can I see a menu, please?
(ดีครับ ขอบคุณครับ ขอผมดูเมนูอาหารได้หรือเปล่าครับ กรุณาด้วยครับ)
Waitress : Certainly, here you are.
(ได้แน่นอนค่ะ นี่ค่ะ)
Traveller : Thank you. What's today's special?
(ขอบคุณครับ วันนี้มีอะไรเป็นพิเศษบ้างครับ)
Waitress : Grilled tuna and cheese on rye bread.
(ปลาทูน่าย่างและเนยแข็งบนขนมปังไรย์ค่ะ)
Traveller : That sounds good. I'll have that.
(ฟังดูดีนะครับ ผมเอาอันนั้นหล่ะครับ)
Waitress : Would you like something to drink?
(คุณต้องการดื่มอะไรหรือไม่คะ)
Traveller : Yes, I'd like a coke.
(ครับ ผมต้องการโค้กครับ)
Waitress : Thank you.
(ขอบคุณค่ะ)
Waitress : Here you are. Enjoy your meal!
(นี่อาหารของคุณค่ะ ขอให้มีความสุขกับอาหารนะคะ)
Traveller : Thank you.
(ขอบคุณครับ)
Waitress : Can I get you anything else?
(มีอะไรให้ดิฉันรับใช้อีกหรือไม่คะ)
Traveller : No thanks. I'd like the check, please.
(ไม่แล้วครับ ขอบคุณครับ ผมต้องการคิดเงินแล้วครับ กรุณาด้วยครับ)
Waitress : That'll be $6.75
(ทั้งหมดเป็นเงิน 6.75 เหรียญค่ะ)
Traveller : Here you are. Keep the change!
(นี่ครับ เก็บเงินทอนไปเลยครับ)
Waitress : Thank you! Have a good day!
(ขอบคุณค่ะ ขอให้มีความสุขในวันนี้นะคะ)
Traveller : Bye.
(ลาก่อนครับ)
สรุปรูปประโยคสำคัญ
Can I see a menu? (ขอผมดูเมนูอาหารได้หรือเปล่าครับ)
here you are (นี่ของคุณค่ะ)
Enjoy your meal! (มีความสุขกับอาหาร)
Would you like ... (คุณต้องการ...หรือไม่)
Can I get you anything else? (มีอะไรให้ดิฉันรับใช้อีกหรือไม่คะ)
I'd like the check, please. (ผมต้องการคิดเงินแล้วครับ กรุณาด้วยครับ)
That'll be $6.75 (ทั้งหมดเป็นเงิน 6.75 เหรียญค่ะ)
Have a good day! (ขอให้มีความสุขในวันนี้นะคะ)
ที่ร้านขายของ
Seller : Can I help you?
(มีอะไรให้ดิฉันช่วยเหลือหรือไม่คะ)
Traveller : Yes, I'm looking for a sweater.
(มีครับ ผมกำลังมองหาเสื้อสเว็ตเตอร์ครับ)
Seller : What size are you?
(คุณใส่ขนาดอะไรคะ)
Traveller : I'm an extra large.
(ผมใส่ขนาดใหญ่พิเศษครับ)
Seller : How about this one?
(ตัวนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ)
Traveller : Yes, that's nice. Can I try it on?
(ดีครับ มันสวยมาก ผมสามารถลองใส่ได้หรือเปล่าครับ)
Seller : Certainly, there's the changing rooms over there.
(ได้แน่นอนค่ะ มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ตรงนั้น)
Traveller : Thank you.
(ขอบคุณมากครับ)
Seller : How does it fit?
(มันพอดีหรือไม่คะ)
Traveller : It's too large. Do you have a small?
(มันใหญ่เกินไป คุณมีตัวเล็กกว่านี้หรือเปล่าครับ)
Seller : Yes, here you are.
(มีค่ะ นี่ค่ะ)
Traveller : Thank you. I'll have it, please.
(ขอบคุณครับ ผมเอาอันนี้หล่ะ กรุณาด้วยครับ)
Seller : OK, how would you like to pay?
(ตกลงค่ะ คุณต้องการจะจ่ายอย่างไรคะ)
Traveller : Do you take credit cards?
(คุณรับบัตรเครดิตหรือเปล่าครับ)
Seller : Yes, we do. Visa, Master Card and American Express.
(ใช่ค่ะ เรารับบัตรวีซ่าการ์ด มาสเตอร์การ์ด และบัตรอเมริกัน เอ๊กเพรส)
Traveller : OK, here's my Visa.
(ตกลงครับ นี่บัตรวีซ่าของผม)
Seller : Thank you. Have a nice day!
(ขอบคุณค่ะ ขอให้มีความสุขในนี้นะคะ)
Traveller : Thank you, goodbye.
(ขอบคุณครับ ลาก่อน)
สรุปรูปประโยคสำคัญ
Can I help you? (มีอะไรให้ดิฉันช่วยเหลือหรือไม่คะ)
Can I try it on? (ผมสามารถลองใส่ได้หรือเปล่าครับ)
extra small, small, medium, large, extra large (เล็กเป็นพิเศษ, เล็ก, กลาง, ใหญ่, ใหญ่เป็นพิเศษ)
How does it fit? (มันพอดีหรือไม่คะ)
changing rooms (ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า)
How would you like to pay? (คุณต้องการจะจ่ายอย่างไรคะ)
credit cards (บัตรเครดิตการ์ด)
◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊
4. ที่พักอาศัย
ที่โรงแรม
Reception : Good evening. Can I help you?
(สวัสดีตอนเย็นค่ะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยเหลือหรือไม่คะ)
Traveller : Yes, please. I'd like a room for the night.
(ครับ กรุณาด้วยครับ ผมต้องการห้องพักสำหรับคืนนี้)
Reception : Would you like a single room, or a double room?
(คุณต้องการห้องเตียงเดี่ยวหรือห้องเตียงคู่คะ)
Traveller : A single room, please. How much is the room?
(ห้องเตียงเดี่ยวครับ กรุณาด้วยครับ ห้องราคาเท่าไหร่ครับ)
Reception : It's $55 per night.
(ราคา 55 เหรียญต่อคืนค่ะ)
Traveller : Can I pay by credit card?
(ผมสามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้หรือเปล่าครับ)
Reception : Certainly. We take Visa, Master Card and American Express. Could you fill in this form, please?
(ได้แน่นอนค่ะ เรารับบัตรวีซ่าการ์ด มาสเตอร์การ์ด และบัตรอเมริกัน เอ๊กเพรส คุณช่วยกรอกข้อมูลลงในเบบฟอร์มนี้ได้หรือไม่คะ กรุณาด้วยค่ะ)
Traveller : Do you need my passport number?
(คุณต้องการหมายเลขหนังสือเดินทางของผมด้วยหรือเปล่าครับ)
Reception : No, just an address and your signature.
(ไม่ค่ะ แค่ที่อยู่และลายเซ็นของคุณเท่านั้นค่ะ)
Traveller : Here you are.
(นี่ครับ)
Reception : Here's your key. Your room number is 212
(นี่กุญแจของคุณค่ะ ห้องของคุณหมายเลข 212 ค่ะ)
Traveller : Thank you.
(ขอบคุณครับ)
Reception : Thank you. If you need anything, dial 0 for the reception area. Have a good stay!
(ขอบคุณค่ะ ถ้าคุณต้องการอะไร กดเลข 0 เพื่อโทรมาที่ฝ่ายต้อนรับแขกนะคะ ขอให้มีความสุขกับการเข้าพักค่ะ)
สรุปรูปประโยคสำคัญ
Can I help you (มีอะไรให้ดิฉันช่วยเหลือหรือไม่คะ)
I'd like a room (ผมต้องการห้องพัก)
single room (ห้องเตียงเดี่ยว)
double room (ห้องเตียงคู่)
Can I pay by credit card? (ผมสามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้หรือเปล่าครับ)
fill in this form (กรอกข้อมูลลงในเบบฟอร์ม)
passport number (หมายเลขหนังสือเดินทาง)
room number (หมายเลขห้องพัก)
reception (ฝ่ายต้อนรับแขก)
ที่มาข้อมูล : http://esl.about.com
เรียนพูดภาษาอังกฤษ "เพื่อนภาษา" กับแอนดรูว์ บิ๊กส์ (10 ตอน)
เรียนพูดภาษาอังกฤษกับแอนดรูว์ บิ๊กส์ (10 ตอน)
1 ทักทาย
http://www.youtube.com/watch?v=Ehl99MjlCJE
2 อำลา
http://www.youtube.com/watch?v=D6vYb7y9jOw
3 แนะนำตัวเอง
http://www.youtube.com/watch?v=8a5x_uw5Mtk
4 ต้อนรับ
http://www.youtube.com/watch?v=HnxCC8SEI0M
5 เอ่ยปากเรียก / ขัดจังหวะ
http://www.youtube.com/watch?v=DMZf1j9cPo4
6 ถามว่าเขาพูดอะไร / ขอให้เขาพูดช้าลง
http://www.youtube.com/watch?v=bwWZum5m7X4
7 พูดขอบคุณ
http://www.youtube.com/watch?v=VbNWoJ-oDD0
8 พูดขอ / ขอร้อง
http://www.youtube.com/watch?v=TmmCJ1ci7Ew
9 พูดขอตัว
http://www.youtube.com/watch?v=NbBQN7CPgOU
10 บอกสิ่งที่ชอบ / ไม่ชอบ
http://www.youtube.com/watch?v=8uF2lve2daI
หลวงพ่อโต-หลวงปู่ทวด พระสงฆ์ที่ popular ตลอดกาล
สวัสดีครับ
งานอดิเรกที่ผมทำบ่อยในวันเสาร์อาทิตย์คือนั่งรถเมล์จากอู่บางเขนไปเที่ยว 9 วัดตามที่ทาง ขสมก.เขาจัด ท่านใดต้องการดูรายละเอียด เข้าไปดูที่นี่ได้เลยครับ
คลิกที่ชื่อวัดจะมี facebook ของวัดได้ดูภาพและอ่านเรื่องของวัดก่อนไปเที่ยวจริง ๆ
ผมมี 2 เรื่องที่เป็นข้อสังเกตจากการไปเที่ยว 9 วัดมาหลายครั้ง
เรื่องที่ 1: พระพุทธรูปปางใด มีมากที่สุดในประเทศไทย?
ตอนแรกผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นปางสมาธิ แต่เท่าที่เจอกลับกลายเป็นปางมารวิชัย ซึ่งองค์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ พระพุทธชินราชที่วัดต่าง ๆ จำนวนมากมาย นิยมสร้างขึ้นให้ประชาชนเข้าไปนมัสการ
แต่ถ้าถามว่าพระปางสมาธิที่คนไทยรู้จักมากที่สุดคือองค์ใด ผมไม่รู้จริง ๆ ครับ ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้ว สนามหลวง แต่พระแก้วมรกตกลับไม่ใช่พระพุทธรูปปางสมาธิที่วัดต่าง ๆ สร้างรูปจำลองมากที่สุด ถ้าท่านใดพอจะทราบว่าพระปางสมาธิที่มีการสร้างรูปจำลองอยู่ตามวัดต่าง ๆ มากที่สุดในประเทศใทยคือองค์ใด ช่วยบอกด้วยนะครับ
เรื่องที่ 2: ที่ผมสังเกตจากการไปเที่ยว 9 วัดก็คือ มีพระสงฆ์ 2 องค์ที่ได้รับความเคารพสูงสุดตลอดกาลจากคนไทย โดยมีการสร้างรูปจำลองเป็นพระองค์โต ๆ ตามวัดต่าง ๆ และเป็นพระห้อยคอ ซึ่งก็คือ หลวงพ่อโต และ หลวงปู่ทวด
ผมเคยเขียนเกี่ยวกับ 2 ท่านนี้ไว้ที่ 2 บทความนี้
[2354] ประวัติและคำสอน พระที่คนไทยห้อยคอมากที่สุด
[2302] ประวัติ และ คำสอน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี
และแม้ 2 ท่านนี้จะมีคำสอนที่น่ารับฟังอย่างยิ่งแต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก และผมก็เดาว่าคนไทยส่วนใหญ่ศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์แคล้วคลาดโชคดีจากการบูชามากกว่าจากคำสอน ซึ่งถ้าจริงก็ไม่ใช่เรื่องผิด ผมเองที่บ้านก็มีพระหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ไว้บูชาเหมือนกัน
ผมพูดถึงพระพุทธรูป 2 องค์ที่ popular, พระสงฆ์ 2 องค์ที่ popular ด้านความศักดิ์สิทธิ์ คราวนี้มาถึงคำถามว่า ถ้าให้ยกชื่อพระสงฆ์ 2 องค์ที่ popular ที่สุดด้านคำสอน น่าจะเป็นท่านใด?
เรื่องนี้ผมคิดแล้วคิดอีกก็ตอบไม่ได้ และในเว็บนี้ผมจึงได้ทำลิงค์นี้ขึ้นมา ใครชอบใจธรรมะของอาจารย์ใดก็เข้าไปค้นหาได้เลยครับ
รวมเว็บธรรมะภาษาไทย หลายอาจารย์-หลายสำนัก
โดยส่วนตัว ผมชอบใจธรรมะของ ท่านอาจารย์พุทธทาส และหลวงพ่อชาครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.