Articles
คนฉลาดที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องไม่ทำอะไรบ้าง?
ถ้าถามว่า คนฉลาดที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องทำอะไรบ้าง? นี่อาจจะตอบยาก
แต่ถ้าถามใหม่ว่า ต้องไม่ทำอะไรบ้าง? นี่คงตอบได้ง่ายกว่า
ที่บทความนี้ "20 Things Smart People Don't Do"
เขารวบรวมคำตอบไว้ 20 ข้อ
ลองอ่านดูซีครับ → http://www.lifehack.org/articles/productivity/20-things-smart-people-dont.html
1. They don't overlook the possibility to save money.
2. They don't heavily rely on others.
3. They don't act irresponsibly.
4. They don't feel defeated just because they need to reevaluate their convictions.
5. They don't dwell on their errors.
6. They don't permit their past to hold them back.
7. They don't rely on good luck to solve their problems.
8. They don't neglect important aspects of their business.
9. They don't hesitate to learn from their mistakes.
10. They don't give up on their ideas just because other people don't agree with them.
11. They don't make strong remarks that can make them look weak in the future.
12. They don't lose the opportunity to broaden their experience.
13. They don't know how to back off from a good cause.
14. They don't waste the potentials of their gadgets
15. They don't overestimate their abilities.
16. They don't make redundant enemies.
17. They don't allow their pride to get in the way.
18. They don't put all the eggs in one basket.
19. They don't lie to themselves that everything will be easy.
20. They don't take unnecessary risks.
พิพัฒน์
eflnet.com - เว็บสอนภาษาอังกฤษที่ดีมาก
สวัสดีครับ
ท่านผู้อ่านครับ ผมไปเจอเว็บสอนภาษาอังกฤษเว็บนี้
→ http://www.eflnet.com/
ซึ่งน่าเรียนมาก ดีทั้งเรื่องเนื้อหาและการนำเสนอ
มีทั้งเรื่อง grammar, listening, reading และ vocabulary
ขอชวนให้ท่านที่รักภาษาอังกฤษคลิกเข้าไปดูด้วยตัวเองครับ
ถ้าแนะนำคงจะยาวเกินไปและน่าเบื่อ
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่น่าสนใจที่ lenplay.com
ที่เว็บ lenplay.com มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่น่าสนใจมากพอสมควร ลองเข้าไปดูได้เลยครับ
▬► คลิก
วิธีฝึกคิดและพูดภาษาอังกฤษ โดยไม่คิดเป็นภาษาไทย
สวัสดีครับ
ผมฟัง 3 คลิปข้างล่างนี้ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายกัน คือเขาบอกว่าถ้าเราพูดภาษาอังกฤษโดยต้องแปลเป็นภาษาแม่ก่อน(ของเราก็คือภาษาไทย) มันจะทำให้ภาษาอังกฤษที่เราพูดออกมาไม่เป็นธรรมชาติ เพราะทั้งศัพท์และแกรมมาร์ถ้าแปลจากภาษาแม่เป็นภาษาอังกฤษมันก็อดไม่ได้ที่จะเพี้ยน เพราะโครงสร้างประโยคและศัพท์ของทั้งสองภาษามันต่างกัน และข้อเสียประการที่สองคือ เมื่อต้อง "คิด-แปล-พูด" ถึง 3 ขั้นอย่างนี้มันทำให้ติดขัด ชะงัก และใช้เวลามาก แต่ถ้า "คิด-พูด" เป็นภาษาอังกฤษไปเลย ปัญหาเรื่องพูดช้าและชะงักก็จะไม่เกิด
พูดตรง ๆ นะครับ คำแนะนำให้ "คิดเป็นภาษาอังกฤษ" ทำนองนี้ผมเชื่อว่าพวกเราก็ได้ยินกันมาเยอะแล้ว แต่เราคงรู้สึกว่า การจะให้คิดเป็นภาษาอังกฤษเพื่อจะได้พูดเป็นภาษาอังกฤษออกไปเลยโดยไม่ผ่านภาษาไทยในสมองนั้นมันทำไม่ได้ แต่ฝรั่ง 3 คนใน 3 คลิปนี้ เขาก็ให้คำแนะนำในการฝึกคล้าย ๆ กัน โดยเขายืนยันว่า ถ้าเราฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษจะช่วยให้ 2 ปัญหาคือพูดภาษาอังกฤษได้ช้าและพูดไม่เป็นธรรมชาติหายไป โดยวิธีฝึกนั้น ให้
(1) เริ่มฝึกจากสิ่งง่าย ๆ
(2) ฝึกทุกวัน วันละหลาย ๆ ครั้ง อย่าขาด
(3) มันจะฝึกได้ผลช้า ติดขัด ผิดพลาด ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก
(4) ถ้าฝึกคิดแล้วติดขัด ไม่ว่าจะเป็นติดศัพท์หรือแต่งประโยคไม่ออกหรือไม่แน่ใจ ก็ให้จดไว้เพื่อไปหาคำตอบ อาจจะค้นคว้าจากตำรา เว็บ หรือผู้รู้ หรือวิธีอื่นใดก็ได้
ข้อที่น่าสนใจที่สุดในคำแนะนำของเขาก็คือ ขั้นตอนในการฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษ มี 4 ขั้นตอน จากง่ายไปยาก ดังนี้
ขั้นที่ 1: คิดเป็นคำ ๆ
คือมองเห็นอะไรก็ให้คิดเลยว่า ศัพท์ภาษาอังกฤษมันว่ายังไง ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน ขณะเดินทาง ฯลฯ ก็ให้ฝึกอย่างนี้เป็นนิสัย
ขั้นที่ 2: คิดเป็นประโยค
พอคิดเป็นคำ ๆ เริ่มจะคล่อง ก็ให้ขยับไปคิดเป็นประโยค โดยเริ่มจากประโยคที่ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน โดยประโยคพวกนี้อาจจะเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่กับที่, สิ่งเคลื่อนไหว, สิ่งที่เรามองเห็นหรือได้ยิน อาจจะอยู่ในบ้าน หรือขณะเดินทาง หรืออยู่ในที่ทำงาน เราทำได้เพราะเราไม่ได้พูดออกมา เพียงแค่ฝึกสมองให้คิดเงียบ ๆ อยู่ข้างใน ถ้าคิดเป็นภาษาอังกฤษเต็มประโยคคิดไม่ออก ก็ให้คิดครึ่งประโยคที่คิดออก หรือย้อนกลับไปคิดเป็นคำ ๆ ตามขั้นที่ 1 ก็ได้
ขั้นที่ 3: คิดวางแผน
เมื่อจะล้มตัวลงนอนหรือเมื่อลุกขึ้นตื่นนอน ก็ให้คิดเป็นภาษาอังกฤษว่า พรุ่งนี้หรือในวันนี้เราจะทำอะไร ให้คิดเป็นกิจกรรม 1... 2... 3... 4... ไปเรื่อย ๆ เช่น ทำไอ้นั่น แล้วก็ทำไอ้นั่น แล้วก็ทำไอ้นั่น และถ้าเป็นไปได้หรือมีเวลาก็ให้พยายามฝึกว่า ตอนที่อยู่ในสถานการณ์จริง ๆ เมื่อเราพูดประโยคภาษาไทยออกไปว่ายังไง ให้คิดประโยคนั้นตามทันทีในสมองเป็นภาษาอังกฤษ พยายามฝึกอย่างนี้ให้ได้มากที่สุด การฝึกอย่างนี้เราไม่ต้องเขินอายอะไร เพราะไม่มีใครได้ยินเราพูด แต่แม้จะไม่มีอะไรมากดดันเราก็อย่าหยุดฝึก
ขั้นที่ 4: จินตนาการว่าเราพูดภาษาอังกฤษยาว ๆ
อาจจะใช้เวลาที่เรานั่งคอยเพื่อน กำลังเดินทาง หรือเวลาส่วนตัวที่อยู่คนเดียว ให้จินตนาการว่าเรากำลังถามและตอบตัวเองในเรื่องนั้นเรื่องนี้ หรือคุยกับเพื่อน(ต่างชาติ)เป็นภาษาอังกฤษนาน ๆ แบบเขาถามเราตอบ เราถามเขาตอบ หรือเรากำลังเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้เขาฟังเป็นภาษาอังกฤษ
ท่านผู้อ่านครับ เมื่อดูทั้ง 3 คลิปนี้จบผมก็ถามตัวเอง 2 ข้อว่า คำแนะนำพวกนี้
(1)คนไทยสามารถฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษได้ไหม? และ
(2)เมื่อฝึกแล้วจะช่วยให้พูดภาษาอังกฤษได้เป็นธรรมชาติอย่างที่เขาโฆษณาไหม?
หลังจากที่คิดรอบคอบแล้วผมขอตอบว่า "ได้" ทั้ง 2 คำถาม แต่เราจะต้องฝึกอีกอย่างหนึ่งควบไปด้วย คือ ในทุกวันที่ฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษ ตามขั้นที่ 1 ถึงขั้นที่ 4 นี้ เราจะต้องเจียดเวลาพอสมควรให้กับการฟังและอ่านภาษาอังกฤษด้วย คือฟังเรื่องง่าย ๆ และอ่านเรื่องง่าย ๆ ... ง่ายมาก ๆ.... ง่ายชนิดที่เราฟังรู้เรื่องและอ่านรู้เรื่อง รู้และเข้าใจเป็นภาษาอังกฤษได้ทันทีโดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทยในสมอง (หรือแปลก็แค่นิดๆหน่อยๆ) และสิ่งง่าย ๆ ที่เราบรรจุใส่สมองผ่านการฟังและการอ่านเช่นนี้แหละ มันจะเป็นเชื้ออย่างดีที่จุดประกายให้เราสามารถคิดพูดในใจเป็นภาษาอังกฤษได้ ไม่ว่าจะคิดพูดเป็นคำ ๆ, คิดพูดเป็นประโยค, หรือคิดพูดเป็นเรื่องราว ได้ทั้งนั้น
เอาละครับ ท่านลองฟังคำแนะนำของทั้ง 3 คลิปนี้ด้วยตัวเองแล้วกันครับ ถ้าเห็นด้วยก็ฝึกตามขั้นตอนที่เขาแนะนำ บวกกับคำแนะนำของผม ขอรับรองครับว่า ท่านจะค่อย ๆ สามารถคิดเป็นภาษาอังกฤษ และพูดภาษาอังกฤษ โดยไม่ต้องคิดแปลเป็นภาษาไทย หรือถ้าต้องแปลก็จะค่อย ๆ แปลน้อยลง ๆ อย่างแน่นอน
เชิญครับ...
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th