Articles
ขอแนะนำ แกรมมาร์น่าหยิบ “Just Enough English Grammar Illustrated”
สวัสดีครับ
เรื่องแกรมมาร์นี่นะครับ ผมคิดว่า คงมีคนบ่นกันเยอะ ว่าน่าเบื่อ ว่ายาก ว่าอย่างโน้น ว่าอย่างนี้ ผมเองต้องขอชมนักวิชาการฝรั่งหลายท่าน ที่ไม่รู้จักหมดความอดทน พยายามผลิตหนังสือแกรมมาร์ออกมาหลากหมายรูปแบบ ให้คนเรียนเกิดความรู้สึกที่ดีต่อแกรมมาร์ ว่ามันไม่น่าเบื่อ, ไม่ยาก, น่าหยิบอ่าน เริ่มตั้งแต่การออกแบบหน้าปกให้ดูเป็นมิตร เพราะถ้าดูขึงขังมากเกินไปเดี๋ยวคนกลัว ตามด้วยการใส่รูป, ออกแบบการวางตัวอักษร, คัดเลือกข้อความที่ใช้อธิบายและประโยคตัวอย่าง ให้มันเข้าใจง่าย จำง่าย สนุก เป็นกันเอง ใกล้ตัว หรือถึงขั้นทำเป็นโจ๊กก็มี, เขียนแต่ละบทสั้น ๆ เพราะถ้ายาวเกินไปคนจะเบื่อ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เมื่อมีแบบฝึกหัดแล้วก็ต้องมีเฉลย และยังมีวิธีการอีกเยอะแยะที่สรรหามาใช้เพื่อทำให้หนังสือแกรมมาร์เป็นหนังสือที่น่าหยิบมาอ่าน นี่แหละครับที่ผมบอกว่า ผมนับถือท่านเหล่านี้ ถ้าเป็นผมคงหมดแรงไปนานแล้ว
และวันนี้ ผมก็มีหนังสือแกรมมาร์ ที่เขาพยายามทำให้มันน่าอ่านในทำนองที่ว่านี้มาฝากท่าน 1 เล่ม ตามหน้าปกข้างล่างนี้
ท่านลองคลิกดูสารบัญ หรือคำแนะนำสัก 2 – 3 หน้าก่อนก็ได้ครับ
ผมขอเดาว่า ถ้าเป็นอาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษ น่าจะนำบางหน้า บางตอน บางบท บางภาพ ไปสอนเด็กได้ดี
ถ้าชอบใจก็ดาวน์โหลดเลยครับ
พิพัฒน์
e-book สั้น สนุก อ่านง่าย A Resource for Reading & Words
สวัสดีครับ
วันนี้ ผมเจอหนังสือเล่มเล็ก ๆ ขนาด 133 หน้า ชื่อ A Resource for Reading & Words เขาสรุปเนื้อหาไว้ว่า ภายในเล่มมี…
- 110 reading passages
- 330 reading comprehension questions
- 1100 words defined
- 550 vocabulary exercises
ผมลองอ่านย่อหน้าสั้น ๆ ในเล่มดูก็พบว่า เขาสามารถใช้เนื้อหาของย่อหน้าสั้น ๆ พูดถึงสิ่งที่น่าสนใจได้ดีเกินคาด และใน 110 ย่อหน้านี้ก็มีเรื่องหลากหลายให้อ่าน และก็น่าสนใจทุกเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีคำอธิบายศัพท์ และแบบฝึกหัดทดสอบความเข้าใจและการใช้คำศัพท์อีกด้วย
ถ้าท่านนึกไม่ออกว่า วันนี้จะฝึกอะไรดีน้า..... ผมขอแนะนำให้ดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้ไปฝึก แต่ละบทสั้น ๆ ... สั้นมาก ถ้าท่านอ่านไม่ค่อยคล่องก็พยายามอ่านอย่างน้อย 1 บทให้จบอย่างรู้เรื่อง ถ้าท่านอ่านคล่องก็ตะลุยอ่านไปได้เรื่อย ๆ โดยท่านจะทำแบบฝึกหัดหรือไม่ก็ตามใจท่าน
คลิกดาวน์โหลด A Resource for Reading & Words
ขอแถมอีก 2 เล่มครับ
คลิกดาวน์โหลด TOEFL Test Assistant Reading
คลิกดาวน์โหลด TOEFL Test Assistant Vocabulary
เพิ่ม 3 มีนาคม 2558
Basic Skills Toef IBT Reading_2
พิพัฒน์
วิธีเปิดไฟล์ ISO โดยไม่ต้องเบิร์นลงแผ่น
1 พย 60 ไปที่นี่→ ฝากโปรแกรม audiobook 4 ชุด
สวัสดีครับ
ผมนำ Story Books รวม 7 ชุด ซึ่งเป็นไฟล์ ISO มาให้ท่านดาวน์โหลด ข้างล่างนี้
- ด/ล story ง่าย,สนุก,น่ารัก 19 เรื่องสั้น ๆ (ระดับ Easy Starts )
- ด/ล story ง่าย,สนุก 10 เรื่องสั้น ๆ (ระดับ Beginner )
- ด/ล story ง่าย,สนุก 10 เรื่องสั้น ๆ (ระดับ Elementary )
- ด/ล story ง่าย,สนุก 10 เรื่องสั้น ๆ (ระดับ Pre-Intermediate)
- ด/ล story ง่าย,สนุก 5เรื่องสั้น ๆ (ระดับ Intermediate)
- ด/ล story ง่าย,สนุก 5 เรื่องสั้น ๆ (ระดับ Upper-Intermediate)
- ด/ล story ง่าย,สนุก 5 เรื่องสั้น ๆ (ระดับ Advanced)
โดยผมบอกว่าให้เบิร์นลงแผ่นก่อน จึงจะเปิดใช้งานได้
แต่อันที่จริง เราจะไม่ต้องเบิร์นก็ได้ แต่ผมไม่ได้แนะนำวิธีไว้ เพราะผมไม่ค่อยคล่อง และวิธีทำก็มีหลายวิธี
วันนี้ผมมาคิดดูอีกที รู้สึกว่า ผมน่าจะแนะนำวิธีเปิดไฟล์ ISO โดยไม่ต้องเบิร์น ซึ่งเป็นวิธีที่ผมใช้ เผื่อมีบางท่านจะใช้ตามบ้าง ก็จะได้ไม่ต้องเปลืองแผ่น, ส่วนท่านใดทำได้ด้วยวิธีอื่น ๆ ที่อาจจะดีกว่า-ง่ายกว่า, ถ้าเขียนมาเล่าให้เพื่อนไทยด้วยกันทราบเป็นวิทยาทาน ก็ยิ่งดีครับ
เอาละครับ ผมขอเล่าวิธีที่ตัวเองใช้
ต้องบอกก่อนว่า ผมใช้ OS Windows 7, 64 bit
1.ให้ท่านติดตั้งโปรแกรม PowerIso โดยดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่นี่ คลิก
(เมื่อดาวน์โหลดเสร็จ, ก่อนจะแตกไฟล์ไฟล์ Rar PowerIso, ขอให้ท่าน disable โปรแกรม Anti-virus ในเครื่องคอมฯ ของท่านชั่วคราวก่อน, แล้วจึงค่อยติดตั้ง มิฉะนั้นโปรแกรม Anti-virus มันจะเหมาว่า PowerIso เป็น virus, และไม่ยอมให้ท่านติดตั้งใช้งาน, เมื่อติดตั้งแล้ว ก็ register ด้วย โดยคลิก Keygen เพื่อ copy Name และ Key มาใช้ในการ register
2.ให้ท่าน extract ไฟล์ Rar ของ story book ชุดที่ท่านดาวน์โหลดเสร็จแล้ว (ตอน extract ไฟล์,ถ้ามันถาม, อาจจะต้องใส่ code englishtips.org)
3.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ PowerIso story book ที่ extract แล้ว
4.คลิก Extract ใต้แถบ Menu bar (ดูภาพข้างล่างนี้)
5.ตรง extract to ให้สร้างโฟลเดอร์ใหม่, คลิก OK ข้างล่าง (ดูภาพข้างล่างนี้)
6.เสร็จแล้ว เข้าไปที่ โฟลเดอร์ที่ท่านสร้างขึ้นใหม่, คลิกไฟล์ start ก็เป็นอันว่าเปิดใช้งานดู Story book ได้เลย, โดยไม่ต้องใช้แผ่น, และจะทำอย่างนี้กี่ครั้งกี่ชุดก็ได้
อาจจะมีวิธีอื่น ๆ อีก แต่นี่คือวิธีที่ผมใช้, ผมไม่แน่ใจว่า ถ้าเป็น OS อื่น เช่น Windows XP หรือ Windows 8 จะใช้วิธีนี้ได้หรือเปล่า, หรือมีวิธีอื่นที่ง่ายกว่านี้หรือเปล่า ผมไม่ทราบครับ
พิพัฒน์
ทำไมเวลาเราพูดผิด เพื่อนฝรั่งไม่ช่วยแก้ให้ถูก
สวัสดีครับ
ผมไปเจอบทความนี้ที่ฝรั่งเขียน
คลิก: Why Native English Speakers Don't Correct You and Why That's Ok
เขาบอกว่าเราอาจจะสงสัยว่าว่า เวลาเราพูดผิดทำไมฝรั่งไม่ช่วยแก้ให้ถูก โดยเขาเฉลยว่า เป็นเพราะ....
[1] ตามธรรมเนียมฝรั่งถือว่า การทำอย่างนั้นเสียมารยาทมาก แค่ผิดแกรมมาร์เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือรายละเอียดหยุมหยิม จะมาบอกแก้เขาไม่ทำกัน ถ้าเขาพูดผิดเขาก็ไม่ต้องการให้ใครมาแก้ถ้อยคำที่เขาพูด และเขาก็ไม่อยากไปแก้ของใครด้วย การแก้อย่างนี้ ภาษาอังกฤษ คือ nitpick
[2] nitpick ถ้าขืนทำ แทนที่จะช่วยผูกกลับกลายเป็นทำลายความสัมพันธ์ ฝรั่งเขาอาจจะต้องการสนิทกับคุณมากกว่าทำให้คุณเสียหน้าเพราะแก้ภาษาอังกฤษที่คุณพูดผิด
[3] ฝรั่งคนที่เขียนบทความนี้แนะว่า ถ้าคุณต้องการพัฒนาพัฒนาภาษาอังกฤษก็หาโอกาสคลุกคลีพูดคุยกับเพื่อนฝรั่งต่างชาติของคุณ หากิจกรรมอะไรที่ชอบเหมือน ๆ กันทำด้วยกัน แล้วก็ไม่ต้องไปเคี่ยวเข็ญให้เขาแก้ไขภาษาอังกฤษที่คุณพูดผิด เพราะถ้าได้คุยกันมาก ๆ คุณก็จะได้ยินภาษาอังกฤษที่ถูกต้องจากเขา และคุณก็จะแก้ไขภาษาอังกฤษที่คุณพูดได้เอง และนี่เป็นวิธีเรียนที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่วิธีการที่เป็นวิชาการจ๋าแบบเสียเงินนั่งเรียนกับครูในชั้นเรียน การเรียนในชั้นเรียนนั้นก็ไม่เสียหายอะไรหรอก แต่การสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนฝรั่งนอกห้องเรียน และเรียนรู้ฝึกฝนอย่างผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ จะได้ผลกว่า
คำแนะนำของฝรั่งในบทความนี้ แม้จะดีแต่ก็ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะเราก็พอจะเดาออก แต่คำถามก็คือ ถ้าเป็นการยากมากที่เราจะมีเพื่อนฝรั่งที่เป็น native speaker ให้คลุกคลีด้วย เราจะฝึกยังไงให้สามารถพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ คำตอบของผม ท่านก็คงพอเดาออก คือ ...
- ฝึกฟังภาษาอังกฤษทุกวัน ให้มันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง, ฟังข่าว, ดูสารคดีที่ชอบ, ฟัง audiobook, เรื่องที่เนื้อหาหนักหรือเบา ดูมันทุกอย่าง ฟังมันทุกอย่าง และก็ไม่ต้องใจร้อน เคี่ยวเข็ญตัวเองให้ฟังรู้เรื่องและพูดได้ดังใจในเร็ววัน ไม่ต้องใจร้อนอย่างนั้นหรอกครับ แต่ถ้าฝึกไม่หยุด มันก็จะได้เองโดยไม่รู้ตัว เหมือนก้าวเท้าเดินบนทางที่ถูกต้อง ถ้าไม่เลิกเดิน ต่อให้ขี้เกียจเดิน มันก็จะค่อย ๆ เข้าไปไกล้และถึงที่หมาย อาจจะถึงโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
- บางคนดูหนังฝรั่ง ฟังภาษาสบถ ภาษาสแลง ก็อยากจะพูดเป็นและเริ่มฝึกอย่างนั้นบ้าง ในความเห็นของผม ภาษาพวกนี้ถ้าเข้าใจก็เป็นเรื่องดี แต่เราไม่จำเป็นต้องฝึกให้พูดเป็นหรอกครับ เอาเวลาไปฝึกภาษาพูดธรรมดา ๆ ดีกว่า และการฝึกพูดกับคลิป, กับเว็บ, กับ mp3, ฝึกพูดคนเดียวโดยการอ่านออกเสียงตามหนังสือเล่มที่ท่านชอบ ช้า ๆ ชัด ๆ, ฝึกแบบนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายครับ แต่มันมีคุณค่ามหาศาล คนในโลกนี้จำนวนมากมายมหาศาลที่พูดภาษาอังกฤษได้ด้วยวิธีฝึกแบบนี้
พิพัฒน์