Articles
ภาษาอังกฤษทางธุรกิจที่ใช้กันผิดบ่อยๆ
ภาษาอังกฤษทางธุรกิจที่ใช้กันผิดบ่อยๆ
http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf/oftenwrongbusinessterms.pdf
10 ภาพข่าวจากนิตยสาร Time ฉบับ July 28, 2014
สวัสดีครับ
ผมเห็น The 10 Best Pictures of the Week จาก นิตยสาร Time ฉบับ July 28, 2014 เห็นว่าน่าสนใจดี จึงนำมาฝาก คลิกดาวน์โหลดไฟล์ PDF
ใน 10 ภาพนี้ มี 3 ภาพที่แสดงถึงภาวะสงคราม ความยากจน และความอดอยากยากแค้นในทวีปแอฟริกา ผมขอนำมาลงให้ดู
พูดถึงปัญหาอย่างนี้ของประเทศในทวีปนี้ เราคนไทยก็ได้อ่านได้ยินได้ดูข่าวมาโดยตลอด ไอ้ที่ผมงงก็คือว่า เราได้ยินมาว่าทวีปนี้มีทรัพยากรธรรมชาติเยอะ แต่ทำไมจึงหลุดไม่พ้นจากวังวนปัญหาเหล่านี้ มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ผมลองหาอ่านดู ก็เห็นแต่หัวข้อปัญหาเดิม ๆ คือ ความยากคน ภัยสงคราม ความขัดแย้ง การขาดการศึกษา โรคภัย การว่างงาน ปัญหาการถือครองที่ดิน การขาดเงินลงทุน อิทธิพลเดิมที่ยังหลงเหลืออยู่จากอดีตประเทศอาณานิคมที่เคยครอบครอง ฯลฯ แต่คำถามก็คือ มนุษยชาติเดินทางมาถึงคริสตวรรษนี้แล้ว ด้วยเทคโนโลยี ความรู้และสติปัญญาที่พัฒนามามากมาย มองออกทั้งปัญหาและเห็นทั้งทางแก้ แต่ทำไมยังทำอะไรไม่ได้
คลิกอ่านลิงค์ 1 ♦คลิกอ่านลิงค์ 2♦คลิกอ่านลิงค์ 3
อ่านเรื่องของเขาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องของเรา
พิพัฒน์
สำหรับคนที่ท้อแท้ในชีวิต...
สำหรับคนที่ท้อแท้ในชีวิต
การเงยหน้ามองท้องฟ้า ดูตะวัน
อาจช่วยให้เห็นความจริง และเกิดกำลังใจ
ให้ชีวิตเดินต่อไป
http://www.youtube.com/watch?v=2PRgvzuULJc
พูดอีกครั้งได้ไหม (Asking to repeat)
ที่มา:http://www.dailyenglish.in.th/asking-to-repeat/
พูดอีกครั้งได้ไหม (Asking to repeat)
เคยมั้ย? เดินอยู่ดีๆมีนักท่องเที่ยวฝรั่งที่ไหนไม่รู้เข้ามาทักทาย ยิงภาษาอังกฤษมาเป็นชุดๆเลย ไอ้เราก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง แล้วจะตอบยังไงดี? อย่างแรกตั้งสติก่อนนะครับ ถ้าฟังไม่ทันจริงๆก็ขอให้เค้าพูดซ้ำอีกครั้งซะก็หมดเรื่อง แต่คำว่า Again please? คลิกฟังเนี่ยมันเช๊ยเชย ลองเปลี่ยนมาใช้คำใหม่ๆพวกนี้ดู
—————————————–
สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
—————————————–
Excuse me? คลิกฟังอิ๊กส์-คิวส์-มี
I’m sorry?คลิกฟัง ไอม์-ซอรี๋
2 คำนี้ใช้ได้กว้างขวางมาก และคงได้ยินกันบ่อยที่สุดแล้ว ความหมายก็ประมาณว่า “อะไรนะ พูดอีกทีซิ”
What do you mean? คลิกฟังว็อท-ดยู-มีน
ใช้ตอนที่เราได้ยินชัดแล้ว แต่ไม่เข้าใจ ก็ให้คนพูดอธิบายให้เคลียร์นิดนึงว่าที่พูดมาหมายความว่าไง
Could you repeat that? คลิกฟัง ขุด-ดยู-รีพีท-แ(th)ท
คำนี้ใช้ให้เค้าพูดซ้ำ ซึ่งมักจะใช้กับข้อมูลที่มีรายละเอียดเยอะ ถ้าเป็นบทสนทนาทั่วไปใช้คำอื่นดีกว่านะ
Pardon?คลิกฟัง - ผาร์-เดิ้น
อันนี้ถ้าไม่ใช่ผู้ดี๊ ผู้ดีจริงๆคงไม่ค่อยมีใครใช้แล้วล่ะครับ เพราะมันเป็นทางการมากกว่าทุกคำข้างบนซะอีก แต่ยังไงก็รู้ไว้เผื่อเจอเนาะ
——————————————————————–
สำหรับใช้กับเพื่อนๆ หรือคนแปลกหน้าแต่ไม่อบากเป็นทางการมาก
——————————————————————–
Hmm? / Huh? – หืม/ หา
ไม่มีอะไรมาก กับเพื่อนสนิทแค่ “ห๊ะ หา” ก็คงเข้าใจว่าเราให้มันพูดอีกครั้ง
What? (อะไรนะ)
What was that?คลิกฟัง
จะพูดสั้นๆ หรือยาวก็ได้ทั้งคู่
Speak up!คลิกฟัง (พูดดังๆหน่อยว้อย ไม่ได้ยิน!)
Come again? คลิกฟัง(มาอีกรอบซิ)
เฮ้ยยย ไม่ใช่แล้ว ในบริบทนี้มันหมายความว่า “ไหนพูดอีกทีซิ” นะครับ อย่าเข้าใจผิดนะ
โอเคครับ แค่นี้ก็คงพอเอาตัวรอดให้ฝรั่งเค้าพูดซ้ำให้เราฟังได้แล้ว แต่จากนั้นจะตอบยังไงก็ตัวใครตัวมันแล้วนะจ๊ะ ทางที่ดีฝึกการฟังให้คล่อง พยายามฟังรอบเดียวไม่ต้องขอ repeat ดีกว่านะ
บอกทางภาษาอังกฤษ…ง่ายนิดเดียว
ที่มา: http://www.dailyenglish.in.th/giving-directions/
บอกทางภาษาอังกฤษ…ง่ายนิดเดียว
คนไทยอย่างเราก็โชคดีนะครับที่ประเทศเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวไหลเข้ามาจากต่างแดนเต็มไปหมด ทั้งชาวยุโรป อเมริกัน หรือแม้แต่คนเอเชีย (โดยเฉพาะพี่จีน) ทำให้เศรษฐกิจคึกคัก พ่อค้าแม่ค้ายิ้มกันถ้วนหน้า
แต่สำหรับบางคนที่ไม่ช่ำชองเรื่องภาษา การเผชิญหน้ากับฝรั่งที่ถือแผนที่เข้ามาถึงกับทำให้หน้าถอดสีเลยทีเดียว อะอ้าววว คนอื่นมีตั้งเยอะแยะไม่ถาม ทำไม๊ทำไมต้องเป็นเราด้วย(วะ)เนี่ย วันนี้ผมจึงมาบอกวิธีง่ายแสนง่ายที่จะทำให้เราตอบคำถาม หรือให้ทิศให้ทางกับนักท่องเที่ยวแบบไม่มีการขายหน้าอย่างแน่นอน ขอแบ่งเป็น 2 กรณีละกันนะครับ
1. คุณรู้ทาง…จัดไปเลย
———————————————————————————————
Where do you want to go? I’ll help you. คลิกฟัง(อยากไปไหนครับ เดี๋ยวผมบอกทางให้)
———————————————————————————————
ร้อนก็ร้อน แผนที่ก็ดูไม่รู้เรื่อง ถามใครก็เบือนหน้าหนีกันหมด พอเจอเราออกตัวแบบนี้นักท่องเที่ยวรักตายเลยครับ ถ้าสถานที่อยู่ใกล้แถมเรารู้ทางด้วยทุกอย่างก็ง่ายมาก เพียงจำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับการบอกทิศทางให้ได้ก็พอ ซึ่งหลักๆก็คือตรงไปกับให้เลี้ยวนั่นเอง หลายคนคงพอรู้อยู่แล้วนะครับ เอ้าเรามาทวนกันดู
- You need to go straight ahead คลิกฟัง(เดินตรงไปเลย)
- Then make a right/left turn คลิกฟัง 1-คลิกฟัง 2(จากนั้นเลี้ยวซ้าย/ขวานะ)
————————————–
We’re at… – ตอนนี้พวกเราอยู่ที่…
————————————–
พอเสนอตัวแล้วก็บอกเค้าไปซะว่าเราอยู่ไหนกันแน่ ฝรั่งบางคนมาเที่ยวครั้งแรกเนาะ ก็ต้องเข้าใจว่าเค้าคงไม่รู้จริงๆหรอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้ว ถึงเวลาทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีก็คราวเนี้ย เล็งจุดบนแผนที่ให้ดีแล้วก็จิ้มบอกเค้าไปซะว่า “Right now, we’re at Huaykaew Road” คลิกฟัง(คือตอนนี้เราอยู่บนถนนห้วยแก้วนะครับ)
————————————————————————
It’s just around the corner คลิกฟัง– ใกล้แล้วๆ ตรงหัวมุมข้างหน้านี่เอง
————————————————————————
กรณีสถานที่อยู่ในระยะเผาขนก็พูดง่ายๆแบบนี้แหละครับ ไหนๆก็ไหนๆเดินไปส่งเค้าด้วยสิ (Let me walk you there.) คลิกฟังโอ้โหน่าประทับใจขนาดนี้ สร้างภาพลักษณ์ดีๆได้สบาย งานนี้ฝรั่งได้รู้เลยว่าคนไทยมีน้ำใจจริงๆนะ
——————————————————————–
You have to go that way คลิกฟัง- เดินไปทางนั้นเลย (ชี้นิ้วไปด้วย)
——————————————————————–
สำหรับระยะกลางๆพอเดินเท้าได้ อย่าลืมบอกระยะทางคร่าวๆด้วยนะ เดี๋ยวแทนที่จะช่วยกลับทำให้ฝรั่งหลงทาง เช่น Go that way for about 500 meters, then turn left. คลิกฟัง(เดินไปทางนั้นซักครึ่งกิโลนะคุณ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเลย) จังหวะนี้จะไปตรง-ซ้าย-ขวายังไงก็แล้วแต่สถานการณ์
———————————————————————————————————
It’s too far to walk. You should take a cab. คลิกฟัง(ไกลขนาดนี้เดินไม่ไหวมั้ง เรียกแท็กซี่ดีกว่าจ้ะ)
———————————————————————————————————
แต่ถ้าจุดหมายมันไกล๊…ไกลเหลือเกิน ก็ให้เค้านั่งแท็กซี่ไปเถอะครับ ประหยัดทั้งเรี่ยวแรงและเวลาด้วย cab ในที่นี้คือรถแท็กซี่ จะเปลี่ยนเป็น bus, van, sky train etc. ได้ตามสะดวกเลยนะครับ อย่างว่าแหละ มันมีช่องทางให้เลือกเยอะแยะ จากนั้นก็ปล่อยให้คนขับเค้าสานต่อ เราทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมแล้ว
Tips: แถมคำศัพท์เกี่ยวกับเส้นทางนิดนึง ที่เจอบ่อยๆก็มี junction (สามแยก) intersection (สี่แยก) traffic light (ไฟจราจร) lane (ซอย) on the other side of the road คลิกฟัง(อยู่บนฝั่งตรงข้ามถนน)
2. งงด้วยคน ไปทางไหนเนี่ย??
ในทางกลับกันถ้าคุณไม่รู้ทางเลยก็อย่าทะลึ่งพยายามไปบอกทางเค้านะครับ มันมีหลายวิธีที่จะช่วยเค้าได้ อย่าเพิ่งยอมแพ้แล้วโพล่งออกไปว่า “Sorry, I don’t speak English” คลิกฟัง(โทดทีครับ ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้) แหม่…แล้วที่พูดออกมานี่มันไม่ใช่ภาษาอังกฤษรึไงกัน….ไม่ได้ๆ เราต้องรักษาฟอร์มไว้ก่อน
————————————————————————————————–
I don’t know the way. But I’ll try to help you. คลิกฟัง(ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมจะลองช่วยดูนะ)
————————————————————————————————–
จากนี้ไปจะเป็นวลีเด็ดๆที่ใช้เพื่อ “เอาตัวรอด” ล้วนๆครับ ปกติแล้วเราจะพูดว่า “I don’t know” คลิกฟังเฉยๆเวลาไม่รู้ แบบนี้เสียหน้าแย่เลย แค่เสริมไปหน่อยว่าเราจะพยายามช่วย แค่นี้นักท่องเที่ยวก็ซึ้งใจแล้วครับ จากนี้ไปพยายามงดพูดว่า “ไอ ด๊อนท์ โนว์” หัวชนฝาแล้วเดินจากไปแบบนี้นะครับ
——————————————————————-
Let me ask someone who knows. คลิกฟัง(เดี๋ยวถามผู้รู้ให้แล้วกัน)
——————————————————————-
เฮ้ย นี่มันโบ้ยความรับผิดชอบให้คนอื่นนี่นา…. ไม่ใช่หรอกครับ มันเหมือนกับการ “ส่งไม้ต่อ” ต่างหาก อย่างน้อยถ้าเราไม่รู้ก็ช่วยถามคนแถวๆนั้นดูก็ได้ ว่าแล้วก็บอกฝรั่งว่า Just a moment.คลิกฟัง (รอแป๊บนึงนะ) ไปถามคนแถวนั้นเป็นภาษาไทยมาให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับมาบอกทางให้ตามข้อ 1. ต่อไป ห้า่มชิ่งนะครับ (ฮ่าๆๆ)
———————————————————————-
You should ask a tourism officer. คลิกฟัง(ถามเจ้าหน้าที่ดีกว่าครับ)
———————————————————————-
สุดท้ายถ้าไม่รู้จริงๆก็ให้เค้าโทรถาม call center ดีกว่าครับ เบอร์โทรของบริการให้ข้อมูลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคือ 1672 (ไปสืบมาเรียบร้อย) อาจพูดว่า “The number is 1672.” คลิกฟังแล้วก็ส่งไม้ต่อให้เจ้าหน้าที่อีกที
เป็นไงบ้างครับ แค่เรื่องถามทางนี่จิ๊บๆมากเลยใช่มั้ย คราวหน้าเจอนักท่องเที่ยวหลงทางอย่าลังเลครับ เข้าไปช่วยเล้ย นอกจากจะได้ความรู้สึกดีๆกลับมาแล้วยังมีโอกาสได้ฝึกภาษาอังกฤษฟรีๆด้วย แบบนี้เรียกว่าคุ้มสุดๆ!