Articles
แนะนำหนังสือ Buddhadasa – Servant of the Buddha
สวัสดีครับ
ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนประจำของเว็บ e4thai.com คงจะสังเกตได้ว่า มีอย่างหนึ่งที่ต่างมากระหว่างเว็บนี้กับเว็บไทยอื่น ๆ ที่สอนภาษาอังกฤษ นั่นก็คือ ในขณะที่เว็บอื่น ๆ สอนภาษาอังกฤษให้แก่ท่าน แต่เว็บนี้กลับสอนให้ท่านสอนภาษาอังกฤษให้แก่ตัวเอง ดู ๆ แล้วคนเรียนที่จะเป็นครูให้ตัวเองได้จะต้องมีความอึดเป็นพิเศษ และนี่อาจจะเป็นลักษณะที่บางท่านไม่ค่อยชอบ แต่ท่านผู้อ่านโปรดให้อภัยผมเถอะครับ เพราะนี่เป็นวิธีที่ผมฝึกภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก เมื่อสงสัยเรื่องอะไรก็ค้นหาเอง เมื่อไม่เข้าใจเรื่องอะไรก็พยายามขบคิดตีความด้วยตัวเอง เมื่ออยากเก่งเรื่องอะไรก็พยายามฝึกเอง และนิสัยอย่างนี้ก็ติดตัวมา ทำให้ชอบลุ้นให้ผู้อ่านฝึกภาษาอังกฤษด้วยการพึ่งตัวเอง จะปลี่ยนสไตล์การเขียนบทความเป็นอย่างอื่นก็ไม่ถนัด
อย่างวันนี้ผมเจอหนังสือเล่มนี้ Buddhadasa – Servant of the Buddha เป็นประวัติของท่านอาจารย์พุทธทาสที่เขียนโดยพระรูปหนึ่ง เมื่ออ่านแล้วก็ชอบใจเพราะเป็นเรื่องที่ผมสนใจ และสำนวนภาษาก็กระชับไม่เยิ่นเย้อ ผมจึงขอแนะนำให้ท่านดาวน์โหลดไปอ่านบ้าง
แต่ถ้าท่านไม่อ่าน หรือไม่สนใจแม้แต่นิดเดียวผมก็รู้สึกเฉย ๆ ไม่นึกต่อว่าอะไรเลย และขอสรุปคำแนะนำที่ผมเคยพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก คือ
❶การอ่านภาษาอังกฤษนั้นมีประโยชน์ นอกจากได้ความรู้แล้ว ยังช่วยให้การพูด การฟัง การเขียน ภาษาอังกฤษดีขึ้นด้วย คนที่ไม่ฝึกอ่านแต่หวังว่าจะพูดเก่ง-ฟังเก่ง-เขียนเก่ง มันก็ยากอยู่นะครับ เหมือนทำงานหนักแต่ไม่มีคนช่วย
❷แต่เราต้องหาให้พบเรื่องที่เรารักจะอ่าน ถ้าหาไม่พบก็ให้หาต่อไปจนกว่าจะพบ เมื่อพบหนังสือเล่มนั้นแล้ว เราจะอ่านด้วยความรักและไม่ขี้เกียจอ่าน แต่ถ้าไม่เจอเล่มที่รัก อ่านไปก็ไม่สนุก และเลิกอ่านได้ง่าย ๆ
❸และยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คือ อย่าฝึกอ่านเรื่องที่ยากเกินไป หรือยาวเกินไป เพราะจะทำให้เราอ่านไม่รู้เรื่อง หรืออ่านได้ช้าเกินไป ทำให้ไม่อยากหยิบขึ้นมาอ่าน
❹แต่ปัญหาก็คือว่า ภาษาอังกฤษที่อ่านง่าย ๆ นั้น มักมีเนื้อเรื่องแบบเด็ก ๆ เราโตแล้วพออ่านเนื้อหาทำนองนั้นก็เบื่อ ตรงนี้แหละครับที่ผมขอบอกว่า ท่านต้องอดทนสักนิดเถอะครับ มันเหมือนเดินผ่านทุ่งที่แล้งกลางแดดร้อน เมื่อผ่านไปได้และ reading skill ท่านสูงขึ้น จะอ่านอะไรก็พอรู้เรื่องได้ไม่ยาก เมื่อถึงตอนนั้นท่านก็จะสามารถอ่านเนื้อหาได้หลากหลายมากขึ้น แต่ขอรับรองว่า ท่านไม่ต้องเดินผ่านทุ่งแล้งหน้าร้อนไปตลอดกาลหรอกครับ ถ้าเดินทุกวัน เดินไม่หยุด คือฝึกอ่านทุกวัน ฝึกไม่หยุด ท่านก็จะอ่านเก่งขึ้นแน่ ๆ ภายในเวลาที่ไม่นานเกินไป
หนังสือ Buddhadasa – Servant of the Buddha ที่ผมแนะนำวันนี้ ถ้าไม่ถูก taste ของท่าน ก็พยายามหาเล่มอื่นมาฝึกอ่านนะครับ
พิพัฒน์
americanrhetoric.com – ศึกษาภาษาอังกฤษจากสุนทรพจน์ของผู้นำและคนดังชาวอเมริกัน
สวัสดีครับ
ที่เว็บนี้
http://www.americanrhetoric.com/
รวบรวมสุนทรพจน์ของผู้นำและคนดังชาวอเมริกัน ถ้าเป็นคนที่ตายไปนานแล้ว อาจจะมีเพียง Text [T] ให้อ่าน แต่ถ้าเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนใหญ่มีทั้ง Text ให้อ่าน, มี Video [V] ให้ดู, และมี Audio [A] ให้ฟัง
ลองดูจาก 3 ปุ่มนี้
[SITE SEARCH] – พิมพ์ชื่อคน หรือชื่อเรื่อง ลงไป
Speech Bank – เรียงชื่อคน A – Z ให้คลิก
เท่าที่สังเกต ถ้าเป็นสุนทรพจน์ของทุกประธานาธิบดี สำเนียงจะชัดและฟังง่าย สามารถใช้ฝึกฟังภาษาอังกฤษและฝึกอ่านตามได้ ภาษาที่ใช้ก็เข้าใจง่ายเพราะเป็นภาษาที่ผู้นำพูดให้คนทั้งประเทศฟัง
ดูตัวอย่าง
Barack Obama - https://goo.gl/BvQrFP
Hillary Clinton- https://goo.gl/aczSqi
George W. Bush - https://goo.gl/WDRWn9
Jimmy Carter - https://goo.gl/otsmBB
เว็บนี้จึงเป็นอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งในการฝึก listening และ reading ได้เป็นอย่างดีครับ
ขอขอบคุณคุณสำเริง จันทร์แจ่มใส ที่แนะนำเว็บนี้
พิพัฒน์
แปลไม่ยากหากแปล “ง่าย ๆ”
สวัสดีครับ
ในการแปลเพื่อเล่าเรื่อง หากเป็นการแปลอย่างเอาจริงเอาจัง, แปลอย่างเป็นทางการ, แปลแล้วพิมพ์ออกเป็นลายลักษณ์อักษรให้คนอ่าน, แปลแล้วต้องเนี๊ยบห้ามผิดแม้แต่นิดเดียว... ถ้าต้องแปลอย่างนี้ก็แปลยาก
แต่ถ้าเป็นการแปลง่าย ๆ คือ นั่งคุยกัน เดินคุยกัน กับคนต่างชาติ และหยิบเรื่องนั้น เรื่องนี้ เกี่ยวกับเมืองไทยมาเล่า ถ้าแปลแล้วเขารู้เรื่องก็ถือว่าใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องแปลให้เนี๊ยบ... การแปลง่าย ๆ อย่างนี้แปลไม่ยาก
เทคนิคในการแปลง่าย ๆ มี 2 ข้อเท่านั้น คือ
[1] อันดับแรก ให้แปลจากไทยเป็นไทยเสียก่อน คือแปลจากไทยยากให้เป็นไทยง่าย, แปลจากเรื่องที่ซับซ้อนให้เป็นเรื่องที่กระชับ, ถ้าเรื่องที่จะเล่ามันยาวมาก, แต่ละประโยคที่เล่าก็ยาวมีส่วนขยายเยอะแยะ, ก็เฉือนให้เป็นชิ้น ๆ ซะก่อน, ไม่ต้องเก็บทุกรายละเอียด, แต่เก็บเฉพาะประเด็นสำคัญ และก็แปลเล่าให้เขาฟัง แบบสรุป-ย่น-รวบ-ย่อ นี่คือการแปลไทยเป็นไทย ต้องทำตรงนี้ก่อน
[2] อันดับสอง แปลไทยเป็นอังกฤษ ให้เลือกใช้ศัพท์ที่เป็นภาษาพูดง่าย ๆ, ใช้ประโยคสั้น ๆ หรือไม่ยาวเกินไป, ถ้าพูดเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นแล้วก็ใช้ verb ช่อง2 - I ate rice, ถ้ามันจะเกิดในอนาคตก็ใช้ will นำหน้าซะหน่อย – I will eat rice, เล่าได้อย่างนี้ก็หรูแล้ว
สมมุติว่า ท่านมีคนต่างชาติที่จะคุยด้วย อาจจะเป็นแขกของที่ทำงานที่ท่านจะพาเที่ยว หรือพาไปกินข้าว, หรือเป็นคนต่างชาติที่เจอระหว่างทาง บนรถตู้ รถไฟ รสบัส รถสองแถว ขณะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว, หรือกับใครก็แล้วแต่ ในโอกาสไหนก็แล้วแต่ เราย่อมมีโอกาสพูดเล่าอะไร “ง่ายๆ” อย่างไม่เป็นทางการทั้งนั้น และข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างของการพูดง่าย ๆ โดยใช้เทคนิค 2 ข้อ คือแปลไทยเป็นไทยง่าย ๆ ก่อน แล้วจึงค่อยแปลไทยเป็นอังกฤษง่าย ๆ
ตัวอย่างที่ให้ไว้ข้างล่างนี้ ขอให้ท่านจินตนาการว่า เป็นถ้อยคำที่ท่านจะใช้เพื่อพูดกับคนต่างชาติ เพราะฉะนั้นท่านไม่จำเป็นต้องพูดเนี๊ยบเหมือนเป็นภาษาเขียน ท่านจะพูดกลับไปกลับมาหรือพูดซ้ำ ๆ บ้างก็ไม่เป็นไร หรือพูดแล้วจะเปลี่ยนศัพท์หรือเปลี่ยนรูปประโยคที่ใช้ก็ได้ ไม่มีใครว่า ขอให้สื่อความได้ก็ใช้ได้
ตัวอย่างที่ 1
แปลป้ายให้คนต่างชาติฟัง
ตัวอย่างที่ 2
เมื่อเราเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยว เช่นวัด และเรามีความรู้ทางประวัติศาสตร์อยู่บ้าง ก็อยากจะเล่าให้เขาฟัง อย่างเช่นไปเที่ยวพระนอนวัดโพธิ์
ตัวอย่างที่ 3
ผมอยากจะแนะนำให้ท่านลองฝึกแปลเรื่องอะไรก็ได้ที่ง่ายมาก ๆ ที่ท่านรู้ดีอยู่แล้ว โดยให้นึกว่าจะเล่าให้เพื่อนต่างชาติฟังเป็นภาษาอังกฤษ แต่ละประโยคที่จะแปลท่านลองนึกเป็นภาษาไทยก่อน แล้วก็เปลี่ยนให้เป็นภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเรื่องเต่าวิ่งแข่งกับกระต่าย ถ้าเรื่องอย่างนี้ท่านแปลได้ เรื่องอื่น ๆ ที่ยากกว่านี้ –ยาวกว่านี้ - ยุ่งกว่านี้ ท่านก็แปลได้ครับ
ตัวอย่างที่ 4
แปลเพลงไทยให้เพื่อนต่างชาติฟัง – กรณีอย่างนี้ใช้กับคนที่เริ่มจะสนิท และถ้าเล่าได้จะเพิ่มความสนิทสนมมากขึ้นอีกเยอะทีเดียว ผมเคยลองมาแล้ว ในที่นี้ผมขอให้ท่านดูการแปลเพลง “กราบเท้าย่าโม” ของคุณสุนารี ราชสีมา ถ้ายึดหลักว่าขอแปลง่าย ๆ มันก็แปลไม่ยากครับ
ท่านผู้อ่านครับ ท่านลองฝึกดูนะครับ การฝึกแปลอย่างนี้จะช่วยให้เรามีอะไรคุยมากขึ้นอีกเยอะกับคนต่างชาติ เพราะมันเป็นการ “เล่า” ที่ต้องพูดยาวหน่อย ไม่ใช่เป็นเพียง dialogue ที่พูดโต้ตอบกันคนละคำสองคำแล้วก็เลิก ในตอนแรก ๆ ท่านอาจจะเจอปัญหาสามัญ 2 ข้อที่ทุกคนเจอ คือ (1)นึกศัพท์ไม่ออกกับ(2)ผูกประโยคไม่ถูก ก็ฝึกง่าย ๆ อย่างนี้แหละครับ คือ ถ้านึกศัพท์ไม่ออกก็ใช้ศัพท์ง่าย ๆ อะไรก็ได้ของระดับชั้นประถมในการเล่าเรื่อง และถ้านึกแต่งประโยคเต็ม ๆ ไม่ได้ก็เล่าโดยใช้วลีหรือกลุ่มคำ เอามาต่อ ๆ กัน คือพูดเล่ายังไงก็ได้ ให้เขารู้เรื่องที่เราอยากจะเล่า
การแปลภาษาอังกฤษเพื่อพูดเล่าเรื่องนั้น หากแปล “ง่าย ๆ” มันก็ไม่ยากหรอกครับ และการฝึกแปลเพื่อพูดเล่าเรื่องง่าย ๆ เช่นนี้จะค่อย ๆ สร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพูดที่ยาก เนี๊ยบ เป็นทางการ และหรูหรามากขึ้น
ขอให้ทุกท่านอย่าได้เกลียด-กลัวเส้นทางการฝึกที่นำไปสู่ความสำเร็จเลย
พิพัฒน์
รวมเว็บ English test และเฉลย
สวัสดีครับ
ทุกเว็บข้างล่างนี้ มีแบบทสอบภาษาอังกฤษในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟัง, พูด, อ่าน, เขียน, แกรมมาร์, คำศัพท์ ฯลฯ ให้เลือกทำ พร้อมเฉลยให้ตรวจ ท่านสามารถใช้เป็นที่ฝึกหัดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี และเนื่องจากมันเยอะ ผมขอแนะนำให้ท่านเข้าไปสำรวจดูก่อน ถ้าท่านรู้สึกถูกชะตากับเว็บใด/ลิงก์ใด ก็ทำ Favorites/Bookmarks ไว้เลย คราวหน้าจะได้สามารถคลิกเข้าไปใช้งานได้ทันที
- http://a4esl.org/
- http://www.agendaweb.org/
- http://www.autoenglish.org/
- http://www.cambridgeenglish.org/test-your-english/
- http://www.easyenglish.com/index.asp
- http://www.elllo.org/english/site-map.htm
- https://www.englishclub.com/
- http://www.englishdaily626.com/
- http://www.englishexercises.org/
- http://englishgrammarpass.com/
- http://www.englishmaven.org/index.html
- http://www.englishpractice.com/
- http://www.english-test.net/
- http://englishteststore.net/ หรือที่นี่
- http://www.engvid.com/
- http://www.esl-lab.com/
- http://www.esl-lounge.com/student/
- http://www.examenglish.com/
- http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en
- http://learnenglishteens.britishcouncil.org/
- http://learnenglish.britishcouncil.org/en
- http://www.learnenglishfeelgood.com/
- http://www.manythings.org/
- http://online.kgic.ca/index.html
- http://student.ts.edulang.com/
- http://www.toeic-online-test.com/
- http://www.world-english.org/
- https://www.usingenglish.com/
- http://web2.uvcs.uvic.ca/courses/elc/studyzone/
- https://www.englishlearner.com/tests/
random test
- https://www.easyenglish.com/tests.asp (เลือก easy/medium/difficult และคลิก English Test→ )
- https://www.easyenglish.com/
- http://englishgrammarpass.com/exercises/random_test/1.html
- http://englishgrammarpass.com/exercises/random_test/2.html
- https://goo.gl/zVre8Z (ศัพท์)
พิพัฒน์
เลือกประโยคที่ Closest in Meaning - อ่านฝึกตีความ, ฝึกสังเกต, ฝึกเดา
สวัสดีครับ
Test ข้างล่างนี้ ให้เลือกประโยคซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกับประโยคตามโจทย์มากที่สุด
ข้อสอบลักษณะนี้วัดความเข้าใจในการอ่าน, การตีความ, และการอ่านความหมายจากการใช้แกรมมาร์ ซึ่งจะช่วยฝึกให้เรารู้จักสังเกตมากขึ้นเมื่ออ่านภาษาอังกฤษ
เป็น test ที่ท้าทายและสนุกทีเดียวครับ
- Closest in Meaning Exercise 1
- Closest in Meaning Exercise 2
- Closest in Meaning Exercise 3
- Closest in Meaning Exercise 4
- Closest in Meaning Exercise 5
- https://goo.gl/onu2Vr (โหลดหน้าช้าหน่อย)
- http://www.filitsata.com/eng/exams/pro2/gramA.htm
- https://goo.gl/NfjaLT
ส่วนชุดข้างล่างนี้ ส่วนใหญ่ให้เลือกวลีที่มีความหมายเหมือนกัน
ฝึกเพิ่มเติม
พิพัฒน์