Home
ภาษาอังกฤษเรื่องที่ท่านอย่าอ่าน และต้องอ่าน
สวัสดีครับ
เมื่อท่านต้องการฝึกอ่านภาษาอังกฤษ และถามผมว่า ควรอ่านเรื่องอะไรก่อน? คำถามนี้ตอบยาก อันดับแรก ผมขอตอบในทำนองตรงกันข้ามแล้วกันครับว่า เรื่องอะไรที่ท่านไม่ควรหยิบมาอ่าน เมื่อท่านต้องการฝึกภาษาอังกฤษ
1.อย่าอ่านเรื่องที่ท่านเกลียด รำคาญ เบื่อ หรือหงุดหงิดที่จะอ่าน
เพราะถ้าอ่านจะมีความทุกข์และมักเลิกอ่านในเวลาอันรวดเร็ว การบ้านในข้อนี้ที่ท่านต้องทำก็คือ หาให้พบภาษาอังกฤษเรื่องที่ท่านรัก สนใจ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่รังเกียจที่จะอ่าน ถ้าท่านใดในชีวิตตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตน ยังไม่เคยประสบพบพานภาษาอังกฤษเรื่องที่ว่านี้เลย ท่านต้องลงมือหาตั้งแต่วันนี้ และต้องหาให้พบให้ได้ เพราะถ้าหาไม่พบก็ยากที่ท่านจะพบความสุขจากการอ่านภาษาอังกฤษ และมันอาจจะหาไม่ได้ง่ายนักถ้าท่านไม่เคยสอดส่ายสายตาหามันมาก่อนเลย ท่านอาจจะต้องลงทุนลองผิดลองถูก แต่ผมขอบอกว่านี่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และผมขอเตือนว่าอย่าไปหวังพึ่งให้คนอื่นหาให้ รักแท้ต้องแสวงหาเองครับ
2.อย่าอ่านเรื่องที่ยากหรือง่ายเกินไป
เพราะเรื่องที่ยากเกินไปจะทำให้ท่านหมดแรงเร็ว ส่วนเรื่องที่ง่ายเกินไปท่านก็ไม่ต้องออกแรงอะไรเลย ท่านต้องหาเรื่องที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับเรี่ยวแรงที่ท่านมีอยู่ เป็นเรื่องที่อ่านได้นานสักนิดไม่ต้องหยุดเร็วเพราะเมื่อยหรือเหนื่อย เรื่องนี้มี 2 ประเด็นที่ผมขอบอก คือ 1)ถ้าเป็นเรื่องที่ท่านรักแม้จะยากสักนิดท่านก็ไม่รู้สึกว่ายาก และ 2)ถ้าฝึกอ่านไปเรื่อย ๆ เรื่องที่ยากเล็กน้อยพอฝึกไหวจะกลายเป็นไม่ยากเพราะแรงเริ่มอยู่ตัว ถึงเวลานั้นท่านจะขยับเรื่องให้ยากขึ้นเอง
3.อย่าอ่านเรื่องที่ท่านไม่รู้เรื่อง
เพราะแม้จะรู้ว่าท่านกำลังอ่านอะไรแต่ก็อาจจะไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าท่านไม่มีความรู้พื้นฐานมาก่อนเลย แต่ให้อ่านเกี่ยวกับการวิเคราะห์โครงสร้างเศรษฐศาสตร์มหภาคโดยใช้สูตรคณิตศาสตร์ชั้นสูง ไม่ต้องพูดถึงตำราภาษาอังกฤษหรอกครับ ต่อให้เป็นภาษาไทยที่เรารู้ศัพท์ทุกคำก็อาจจะรู้เรื่องไม่ถึงครึ่ง การบ้านที่ง่ายที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ ถามตัวเองซิว่าท่านถนัด(และชอบ)เรื่องอะไรก็ให้หาเรื่องนั้นมาอ่าน ถ้าท่านชอบอ่านข่าวการเมืองจากหนังสือพิมพ์ไทยทุกวันก็ลองอ่านข่าวการเมืองภาษาอังกฤษดูบ้าง หรือข่าวอื่น ๆ ก็เช่นกัน เช่น ข่าวกีฬา ข่าวแฟชั่น ข่าวเศรษฐกิจ ข่าววิทยาศาสตร์ ฯลฯ โดยขยับจากภาษาไทยไปลองอ่านภาษาอังกฤษ
ผมมีเว็บภาษาอังกฤษอยู่ 6 เว็บที่จะแนะนำข้างล่างนี้ เว็บพวกนี้มีความง่าย-ยาก หลาย Level และมีเนื้อเรื่องหลากหลายประเภทให้ท่านเลือก หน้าที่ของท่านคือ หาเรื่องที่มี level ง่าย-ยาก เหมาะสมกับท่าน, เรื่องที่ท่านรักจะลุยอ่าน และเรื่องที่ท่านมีพื้นฐานพออ่านรู้เรื่องได้ง่าย ๆ และฝึกอ่านทุกวัน
เว็บที่ 1: Bangkok Post
ง่าย:
กลาง:
ยาก:
เว็บที่ 2: Breaking News English
http://www.breakingnewsenglish.com/
Speed Reading 5-Speed Listening
เว็บที่ 3 VOA Learning English
เว็บที่ 4:British Council
เว็บที่ 5:Wikipedia Free Eccyclopedia
เขียนด้วยภาษาอังกฤษง่าย:
เขียนด้วยภาษาอังกฤษระดับปกติ:
English Wikipedia - Wikipedia, the free encyclopedia
เว็บที่ 6 Google Search Engine: Reading Level
วิธีหาเรื่องตามระดับความยากที่ต้องการ
1.พิมพ์คำค้นลงไปใน Google, Enter
2.คลิก Search tools, คลิก All results, คลิก Reading level,
3.คลิกเลือก basic, intermediate, หรือ advanced ตามต้องการ
ขออวยพรให้ทุกท่านสมหวังและสำเร็จใน 2 เรื่อง คือ
(1)เจอเรื่องที่ท่านมีความสุขในการอ่าน และ
(2)อ่านอย่างมีความสุขในเรื่องที่ท่านเจอ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เพิ่มเติม:
19 กพ 57
http://www.studyenglishnews.com/
คำขอร้องของ “คนบ้าดิก”
สวัสดีครับ
ผมเป็นคนรักดิก รักมานานแล้ว และจะรักตลอดไป ผมเคยเขียนระบายความในใจเกี่ยวกับความรักที่ผมมีต่อดิกไว้ที่นี่: เรื่องของ “คนบ้าดิก” ถ้าท่านผู้อ่านอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็คลิกเข้าไปอ่านได้
ผมสังเกตว่า บทความเกี่ยวกับดิกไม่ค่อยมีคนเข้าไปอ่านมากนัก แต่ถึงอย่างไรถ้าวันไหนมีเรื่องดีที่ดิกให้ประโยชน์ ผมก็จะเขียน แม้เขียนแล้วท่านยังไม่อ่านก็ไม่เป็นไร
ในเว็บนี้ ผมนำโปรแกรมดิกชันนารีมาให้ท่านดาวน์โหลดไปใช้งานหลายโปรแกรม เช่นข้างล่างนี้
- ด/ล โปรแกรม Oxford Basic American Dictionary
- ดาวน์โหลด Oxford Dictionary - 8th Edition แบบไม่ต้องติดตั้ง
- ดาวน์โหลดโปรแกรมดิก Newbury House Dictionary - คุณภาพดี/ขนาดเล็ก/น่าใช้
- ขอเสนอ โปรแกรม “ดิกสามัญประจำคอมฯ”
- รวมดาวน์โหลด eBook, mp3, โปรแกรม ภาษาอังกฤษ ซึ่งใช้ในการฝึกภาษาอังกฤษ{หมวดที่ 7: โปรแกรม ดิกชันนารี}
มีบางท่านบอกว่า ไม่ค่อยชอบโปรแกรมดิก อยากได้เป็นไฟล์ pdf แบบดิก eBook มากกว่า
เรื่องนี้ผมพอเข้าใจครับ เพราะแม้ว่าโปรแกรมดิก CD จะมีลูกเล่นทำอะไรได้เยอะ แต่ก็มีบางแง่ที่ eBook ดีกว่า เช่น ขนาดไฟล์เล็กกว่า, จึงดาวน์โหลดได้ง่ายกว่า, เมื่อใช้งานก็ไม่หนักเครื่อง, เราคลิก(พลิก)ดูดิก eBook ได้ทีละหลาย ๆ หน้า ไม่เหมือนดิกโปรแกรมที่ต้องพิมพ์ค้นและดูได้ทีละคำเท่านั้น เป็นต้น ดิก eBook จึงน่ารักด้วยเหตุเหล่านี้
ผมก็พยายามดั้นด้นค้นคว้าเพื่อหาดิก eBook มาบริการท่านผู้อ่านและตัวเอง แต่ก็พบว่ามันหายากจริง ๆ มันไม่มีเยอะเหมือนดิกโปรแกรม เท่าที่เจอมีอยู่ไม่กี่เล่ม ที่ 2 ลิงค์นี้
[1] ขุดขุมทรัพย์ที่ฝังอยู่ในดิก: ความแตกต่างระหว่างเปิดดิกเล่ม กับคลิกดิกไฟล์ pdf
[2] Longman Basic English – Thai Dictionary คลิก
และที่เพิ่งเจอไม่นานนี้ก็เล่มนี้ มี 1167 หน้า
[3] Longman Dictionary of American English New 4th Edition 2009 - คลิก
♥ผมจึงขอร้องว่า ถ้าท่านใดมีไฟล์ pdf eBook ของ Learner’s dictionary โดยเฉพาะอย่างยิ่งยี่ห้อดัง ๆ ข้างล่างนี้
- Oxford Advanced Learner's Dictionary, Edition 8 เว็บ / ดิกเล่ม
- Longman Dictionary of Contemporary English, Edition 5 - เว็บ / ดิกเล่ม
- Cambridge Advanced Learner's Dictionary, Edition 3 - เว็บ/ ดิกเล่ม
- Merriam-Webster's Advanced Learner's Dictionary, Edition 2010 - เว็บ / ดิกเล่ม
- Macmillan English Dictionary for Advanced Learners, Edition 2007 - เว็บ / ดิกเล่ม
- Collins COBUILD Advanced Learner's English Dictionary, Edition 5 - เว็บ / ดิกเล่ม
- Newbury House Dictionary, Edition 5 - เว็บ / ดิกเล่ม
ช่วยบริจาคให้ผมด้วยนะครับ ผมจะได้นำมาเผยแพร่ต่อในเว็บนี้ เพื่อให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ของเราอีกหลายคนนำไปใช้ประโยชน์
ขอบคุณมากครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เรียนภาษาอังกฤษแบบคนไม่มีเวลาและขี้เกียจเรียน
สวัสดีครับ
ถ้าท่านเห็นว่าภาษาอังกฤษมีประโยชน์และจำเป็น แต่ไม่มีเวลาและขี้เกียจเรียน ผมขอแนะนำให้ท่านต่อรองกับตัวเองให้ยอมเรียนวันละอย่างน้อย 2 – 3 นาที
หากจบ 2 – 3 นาทีที่ว่านี้แล้ว และผลที่ได้รับคือการไม่รู้เรื่องและขี้เกียจเหมือนเดิมก็ไม่เป็นไรครับ ขออย่างเดียว คือ ให้ท่านหาเวลาให้ได้วันละ 2-3 นาทีและเรียนอย่างขี้เกียจแบบเดิมนี่แหละ เรียนติดต่อกันไปทุกวันเป็นเวลา 30 วัน ผมขอรับรองว่า เมื่อเริ่มวันที่ 31 จะเกิดการเปลี่ยนแปลง 3 เรื่อง คือ (1)ท่านจะมีเวลาในแต่ละวัน มากกว่า 2-3 นาทีที่จะเรียนภาษาอังกฤษ (2)ท่านจะขี้เกียจน้อยลง และ (3)ท่านจะเรียนรู้เรื่องมากขึ้น
ในช่วง 30 วันนี้ เชิญไปเรียนที่เว็บข้างล่างนี้ ซึ่งเขาจัดเนื้อหาสำหรับคนที่ไม่มีเวลาเรียนโดยเฉพาะ
เรียน 1 นาที
ฟัง-อ่าน-ทำแบบฝึกหัด-ดาวน์โหลดไฟล์(คลิกขวาที่ลิงค์และคลิกซ้าย Save link as..)
♦VOA English in a Minute หรือ ดูที่ YouTube ก็ได้
เรียน 2 นาที
กิจกรรม: ดูคลิป และทำแบบฝึกหัด
YouTube: http://www.youtube.com/user/twominenglish
เรียน 3 นาที
https://www.youtube.com/watch?v=dmOKZLeFKCM&list=PL4C632FCF5FCB9C21
http://learningenglish.voanews.com/media/all/learning-english-tv/latest.html
เรียน 4 นาที
Learn ALL English Grammar in 4 Minutes! - YouTube
https://www.youtube.com/watch?v=OnZGsqrQNZM&list=PLsAhOe81wxdj2rNNfSZ4NVNPLu8CVL8i7
เรียน 5 นาที
http://www.5minuteenglish.com/listening.htm
http://www.5minuteenglish.com/
เรียน 6 นาที
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/general/sixminute/
https://www.youtube.com/playlist?list=PLy63sctWGJBTmeKrMdNQt0LiF73sd9P_K
http://www.youtube.com/playlist?list=PL21325A265E482979
เรียน 10 นาที
Daily 10-minute News: Page with Audio and Text (VOA News)
และอีกมากมาย ที่นี่:
25 BBC Podcasts for Advanced English Learners
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
CEK – จะเก่งอังกฤษ, พูดคล่อง ต้องฝึกที่กาย วาจา ใจ
สวัสดีครับ
มีคำถามหนึ่งซึ่งถามกันมากและก็ตอบกันมาก ในกลุ่มผู้เรียนภาษาอังกฤษ คือ ทำอย่างไรจึงจะเก่งอังกฤษ พูดได้คล่อง ต้องฝึกอย่างไรให้ถูกต้อง ?
คำถามนี้ popular ขนาดไหน ดูได้ง่าย ๆ ครับ ท่านเพียงพิมพ์คำว่า เก่งอังกฤษทำอย่างไร ลงไปที่ Google ท่านก็จะเจอว่ามี results มากกว่า 10 ล้าน คลิกดู
อันที่จริง คำตอบเกี่ยวกับการเก่งอังกฤษ พูดอังกฤษได้คล่องนี้ ผมเชื่อว่าทุกท่านก็คงพอเดาได้ว่ามันจะออกมาในแนวไหน
และวันนี้ผมไปเจอคำแนะนำหนึ่งในเว็บเรียนภาษาอังกฤษ
ที่นี่: http://www.english-for-students.com/Easy-English-Conversations.html
ซึ่งเขาให้คำแนะนำไว้กระชับมาก คือ ใครที่ต้องการเก่งอังกฤษ-พูดได้คล่อง จะต้อง CEK
CEK คือ อะไร? คือทำ 3 อย่าง ดังนี้
C = Change attitude เปลี่ยนทัศนคติ
E = Expose yourself ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่อยู่แวดล้อมตัวเรา
K = Keep talking ฝึกพูดอยู่เรื่อย ๆ
โดยเขาอธิบายว่า
♥ ในการเปลี่ยนทัศนคติ หรือ Change attitude นั้น เราต้องเข้าใจว่า เป้าหมายของเรา ไม่ใช่ต้องพูดภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง 100 % แต่คือการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ให้ผู้ฟังเข้าใจ มันจะผิดแกรมมาร์ไปบ้างก็ไม่เป็นไร
♥ ส่วนเรื่องการทำให้ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่อยู่แวดล้อมตัวเรา หรือ Expose yourself นั้น ถ้าเราได้ไปเรียนหรือมีโอกาสใช้ชีวิตที่ USA หรือ UK ก็คงดี แต่ก็ไม่จำเป็น เพราะในศตวรรษนี้เราเรียนภาษาอังกฤษที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ หนังสือพิมพ์ ภาพยนตร์ ดนตรี นักท่องเที่ยวต่างชาติ เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ ฯลฯ ของใกล้ตัวพวกนี้มีมากมายให้เราฝึกภาษาอังกฤษ เราเพียงแต่ดึงมันให้มาแวดล้อมตัวเราเท่านั้นเอง
♥ ข้อสุดท้าย คือการฝึกพูดอยู่เรื่อย ๆ Keep talking นั้น ถ้ามีโอกาสพูดภาษาอังกฤษก็ให้พูดเลย ถ้าไม่มีโอกาสก็จำลองสถานการณ์แล้วฝึกพูดภาษาอังกฤษกับตัวเองก็ได้
อันที่จริงคำแนะนำ ให้ CEK นี้ ผมก็ได้คุยกับท่านผู้อ่านอยู่เรื่อย ๆ ในเว็บนี้ เช่น ที่นี่
- ความสำเร็จเริ่มที่ใจซึ่งเชื่อมั่นในตัวเอง
- เรียนภาษาอังกฤษ ไม่ต้องทำอย่างนี้หรอก...
- 10 นิสัยเจ้าปัญหาของคนไทย ในการเรียนภาษาอังกฤษ
- A ถึง Z ในการเรียนภาษาอังกฤษ
- วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ: หนทางมีที่คนไม่ค่อยเดิน
- อยากจะฟิตภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี !!
- วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ: หนทางมีที่คนไม่ค่อยเดิน
แต่ที่ผมฉุกใจได้คิดเมื่ออ่านคำแนะนำเรื่อง CEK ก็คือ การฝึกภาษาอังกฤษมันเหมือนกับที่พระสอนว่า ในการปฏิบัติธรรมนั้น เราต้องปฏิบัติที่กายวาจาใจ เพราะไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ไปที่ไหน เราก็เอากายวาจาใจไปด้วย การปฏิบัติธรรมจึงไปไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ ว่าต้องปฏิบัติธรรมที่วัด ในป่า ในถ้ำ ในที่เงียบ ๆ และก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลา ว่าต้องเป็นวันพระ วันหยุด วันทำงาน วันที่ฝนตกหรือแดดออก เพราะไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเวลาใด สิ่งที่ใช้ปฏิบัติธรรม คือ กายวาจาใจ ซึ่งเรามีอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถปฏิบัติธรรมได้ตลอดเวลา
ในการฝึกภาษาอังกฤษก็เช่นกัน เราฝึกได้ทุกเวลาและสถานที่ ฝึกด้วยด้วยกาย วาจา ใจ ที่ติดอยู่กับตัวเรา
♥ ตัว C หรือ Change attitude นั้นเป็นเรื่องของใจ คือ เราต้องมีจิตใจที่ถูกต้องตลอดเวลา และจิตใจเช่นนี้แหละจะชักนำเราให้ฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างมีความสุขและอดทน
♥ ส่วนตัว E คือ Expose yourself นั้นเป็นเรื่องของกาย คือเราต้องทำให้รอบกายเราแวดล้อมด้วยภาษาอังกฤษซึ่งเราสามารถฝึกกับมัน ถ้ามันไม่มีเราก็ต้องสร้างมันขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอ่าน (หนังสือพิมพ์ ฯลฯ) การฟัง (ข่าว ฯลฯ) หรือเรื่องอื่น ๆ
♥ สุดท้าย ตัว K คือ Keep talking เป็นเรื่องของวาจา เราสามารถฝึกพูดได้เรื่อย ๆ ทั้งพูดกับคนอื่นถ้ามีคนอื่นให้พูดด้วย แต่ถ้าไม่มีคนอื่น เราก็สามารถฝึกพูดคนเดียว พูดอ่านออกเสียง ฝึกพูดประโยคสนทนา ฝึกพูดคนเดียวโดยจำลองสถานการณ์ในใจ การฝึกพูดเช่นนี้ยังเป็นการฝึกสมองด้วย เพราะเราต้องไม่ลืมว่า ในการพูด(ภาษาใดก็ตาม)เราต้องใช้อวัยวะ 2 ส่วน คือ ปากกับสมอง การฝึกพูดคนเดียว(เมื่อยังไม่มีคนจริง ๆ มาให้พูดด้วย)เป็นวิธีการซ้อมสมองที่ดีมาก ๆ และคนที่ไม่ค่อยชอบซ้อม พอขึ้นเวทีก็มักกลายเป็นกระสอบทรายให้คู่ต่อสู้ถลุง และก็มักจะบ่นว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ สาเหตุที่พูดไม่ค่อยได้ก็เพราะอ่อนซ้อมชอบแต่จะชกจริงลูกเดียวนี่แหละครับ
CEK คือการฝึกเพื่อให้เก่งอังกฤษ พูดอังกฤษได้คล่อง ต้องฝึกด้วยกาย วาจา ใจ ที่อยู่ติดตัวเรา โดยไม่ต้องเกี่ยงเรื่องเวลาและสถานที่ ด้วยประการฉะนี้
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ฟิตการพูดด้วยการอ่าน Longman Mini-Dictionary ทั้งเล่ม 35 หน้าให้จบภายใน 1 เดือน
รวม ทั้ง 3 เล่ม:
ดาวน์โหลด Mini-Dictionary ระดับ Beginner ของ Longman (35 หน้า) คลิกที่นี่
ดาวน์โหลด Mini-Dictionary ระดับ Pre-Intermediate ของ Longman (59 หน้า) คลิกที่นี่
ดาวน์โหลด Mini-Dictionary ระดับ Intermediate ของ Longman (78 หน้า) คลิกที่นี่
*******
สวัสดีครับ
Longman Mini-Dictionary ระดับ Beginner เล่มที่ผมนำมาให้ท่านดาวน์โหลดในวันนี้ ตั้งแต่หน้าแรกที่ขึ้นต้นด้วยตัว A ไปจนถึงหน้าสุดท้ายตัว Z มีเพียง 35 หน้า
คลิกดาวน์โหลด Longman Mini-Dictionary
ทุกคำในดิกเล่มนี้เป็นศัพท์พื้นฐานทั้งสิ้น ซึ่งก็มีไม่กี่คำหรอกครับหน้าตาในเล่มเป็นอย่างนี้ คลิกดู
ผมขอชวนท่านอ่านเล่น ๆ ให้จบภายใน 1 เดือน, อ่านเพียงวันละ 1 หน้าเศษ ๆ เท่านั้นแหละครับ
สาเหตุที่ชวนไม่ใช่เพราะว่าท่านจะได้รู้ศัพท์เพิ่ม เพราะผมเชื่อว่าท่านรู้ศัพท์พวกนี้หมดทุกคำหรือเกือบทุกคำแล้ว แต่ที่ชวนก็เพราะว่าท่านสามารถใช้ศัพท์เหล่านี้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของท่านด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ครับ
{1} ให้ท่านดูเฉพาะที่คำศัพท์สีฟ้า เมื่อดูแล้วท่านลองตอบด้วยตัวเองซิว่า ถ้าท่านต้องให้ความหมายเป็นภาษาอังกฤษง่าย ๆ ท่านจะพูดว่ายังไง?
{2}เมื่อนึกแล้ว (อาจจะนึกไม่ค่อยออก) ก็ให้ดูว่าดิก Longman เขาให้ความหมายไว้ว่าอย่างไร ให้อ่านช้า ๆ เสียงดังให้ตัวเองได้ยินชัด ๆ สัก 3 – 4 เที่ยวหรือมากกว่านี้ก็ได้
คำศัพท์หลายคำ Longman ก็ให้ความหมายไว้ง่าย ๆ เช่น
Begin ให้ความหมายว่า to start
Pair ให้ความหมายว่า two things together
บางคำก็ให้ความหมายไว้ยาวหน่อย เช่น
Football ให้ความหมายว่า the game between two teams who try to kick a ball into a net
Love ให้ความหมายว่า to have a very strong pleasant feeling for someone และ to enjoy something very much
{3}คราวนี้ พูดออกมาดัง ๆ ชัด ๆ ให้ตัวเองได้ยินว่า ท่านจะให้ความหมายของศัพท์คำนี้ว่าอย่างไร ท่านอาจจะพูดโดยใช้สำนวนภาษาของตัวเอง หรือจะ copy มาจาก Longman ก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า ตอนที่พูดอย่าเหลือบตาไปดู, จะ copy มาพูดก็ได้, แต่นาทีที่พูด-ห้ามดู, ถ้าจำไม่ได้ ก็อนุญาตให้เหลือบตาไปดูและอ่านอกเสียงหลาย ๆ เที่ยว, แต่ตอนที่พูดเอง-ห้ามดู
ท่านไม่ต้องกังวลหรอกครับว่าจะให้ความหมายผิดเพี้ยนจากที่เขียนไว้ในหนังสือ เอาเป็นว่า ถ้าพอให้ความหมายรู้เรื่องก็ถือว่าใช้ได้ และทางที่ดีถ้าได้ฝึกร่วมกับเพื่อนก็น่าจะได้ผลมากขึ้น
{4}ส่วนศัพท์หลาย ๆ คำที่มีประโยคตัวอย่าง ถ้าจะให้ดีผมก็ขอแนะท่านให้พูดออกเสียงประโยคตัวอย่างด้วย และก็ให้สังเกตสไตล์ของประโยคด้วย หรือถ้าสังเกตอะไรไม่ออก ก็เพียงแต่จดจำรูปแบบประโยคนี้ไว้ เพราะมันจะเป็นประโยชน์เวลาที่เรานึกแต่งประโยค
ผมขอรับรองว่า เมื่อท่านอ่านดิก Longman เล่มนี้จบจบตามวิธีที่ผมพูดมานี้ ภายใน 1 เดือนกว่า ๆ ภาษาอังกฤษของท่านจะดีขึ้นเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูดสนทนา หรือเล่าเรื่อง ผมไม่รู้หรอกว่าการฝึกแบบนี้ถูกต้องตามทฤษฎีหรือเปล่า แต่ผมเชื่อเต็มที่ 100 % ว่ามันได้ผล และมันก็แค่ 35 หน้าเท่านั้นเองครับ
พิพัฒน์
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
More Articles...
- ขอลางาน
- ความคิดเห็นต่อการประท้วงในเมืองไทย
- ทุกวัน ฟิตอังกฤษให้ได้ครบตามเป้า ทั้งปริมาณและคุณภาพ
- บทความที่ popular ที่สุดของเว็บ e4thai.com
- มี html code English – Thai Dictionary ฟรี ๆ บ้างไหม?
- New Year's resolution – ธรรมเนียมฝรั่งที่น่าทำตาม
- สรุปความเป็นไปของเว็บ e4thai.com ในปี 2556
- wordlist ศัพท์ภาษาไทยพื้นฐาน - สิ่งที่ผมอยากให้ราชบัณฑิตยสถานช่วยทำ
- ภาษาอังกฤษสำหรับ ทหาร, หมอ, นักกฎหมาย, แม่ค้า, คนซื้อของ, และทุกคน
- World’s Most Beautiful Trees Photography
- เว็บ e4thai.com มี server ใหม่รับใช้ท่านได้อย่างเต็มที่แล้ว
- การจำศัพท์แบบใส่ปุ๋ยมากเกินไปแต่ไม่พรวนดิน อาจทำให้ต้นศัพท์แกร็นตายได้
- ช่วยบอก Demand และ Supply ในการเรียนภาษาอังกฤษ
- ประกาศของ Webmaster
- วิธีเก่งภาษาอังกฤษ โดยครูหญิง
- ถ้าเข้าเว็บยากหรือเข้าไม่ได้-ทิ้งไว้สักระยะและเข้ามาใหม่
- วิธีฝึกภาษาอังกฤษกับคลิปและภาพ (นาซ่า และ มหาสมุทร)
- รายงานผลการไปเข้าคอร์สล้างพิษตับ
- ขอลางาน 4 วัน
- ฝึกพูดซ้ำ ๆ กับประโยคง่าย ๆ-ศัพท์ง่าย-ใช้บ่อย