Articles
Grammar Test ชุด "Find the Common English Mistakes!"
แบบทดสอบแกรมมาร์ชุดนี้ "Grammar Exercise: Find the Common English Mistakes!" น่าสนใจมาก ๆ
แต่ละข้อ เขาจะให้มา 1 ประโยค และให้เราหาจุดที่ผิด, ข้อสอบลักษณะนี้สนุกและท้าทายความสามารถมาก ๆ เพราะถ้าเป็นข้อสอบ choice A... B.. C.. D... หรือข้อสอบแบบ error identification โดยขีดเส้นใตคำที่ผิด A... B.. C.. D... เราก็สามารถคิดตามตัวเลือกที่เขาให้มา หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เขาช่วยคิดมาแล้วส่วนหนึ่ง เราเพียงคิดต่อจากเขาโดยเลือกข้อที่ผิดจาก 4 ข้อนี้... เท่านั้นเอง แต่ข้อสอบชุดนี้ให้เราคิดด้วยตัวเองล้วน ๆ ว่าผิดตรงไหน, ผิดอย่างไร, ต้องแก้ไขยังไงให้ถูก
ข้อสอบมีทั้งยาก-ง่ายปนกัน, แต่จุดที่น่าสนใจก็คือว่า ประโยคที่เป็นโจทย์ส่วนมากเป็นประโยคสนทนา เพราะฉะนั้นเมื่อทำโจทย์ชุดนี้ เราจึงได้ test & train ตัวเองเพื่อให้พูดสนทนาอย่างถูกหลักแกรมมาร์
ผมขอแนะว่า ขณะที่มองหาจุดที่ผิดในโจทย์ ถ้ามองไม่ออก ก็ให้ออกแรงสมองและสงบใจคิดให้นานสักนิด, อย่าเพิ่งรีบคลิก Answer เพื่อดูเฉลย, ถ้าเรารู้คำตอบโดยไม่ผ่านการทบทวนและใคร่ครวญ, คำตอบที่มาเร็วก็ไปเร็ว แพล็บเดียวก็ลืม
Answer ที่โจทย์แสดงนั้น บางข้อก็มีคำอธิบายแถมให้ด้วย แต่บางข้อก็แค่เฉลยว่าแก้ไขยังไงให้ถูก เช่น
- The news on TV are always sad. (Answer)→ The news on TV is always sad.
- What means this word? (Answer)→ What does this word mean?
ถ้าเราดูเฉลยและก็ยังไม่เข้าใจ นี่หมายความว่าอย่างไร? มันหมายความว่า หลักแกรมมาร์ในหัวข้อนี้เรายังอ่อน ทำให้แม้จะดูเฉลยแล้วก็ยังมองไม่ออก ก็ต้องกลับไปดึงตำราแกรมมาร์ออกมาปัดฝุ่นอ่านอีกครั้ง, หรือคุณครูอาจจะต้องแนะซ้าย-ขวา-บน-ล่าง ให้เด็กมอง ก่อนเฉลย
จากประสบการณ์การทำ grammar test ผมขอให้ข้อสังเกตว่า โดยทั่วไปคนที่จะทำข้อสอบแกรมมาร์ได้ถูกต้องและรวดเร็ว ต้องผ่าน 3 ข้อนี้ไปได้
[1] แน่นทฤษฎีแกรมมาร์ มองปุ๊บก็อ่านเกมออก ทำได้เลย
[2] แต่แกรมมาร์มันไม่ใช่เรื่องของกฎเกณฑ์อย่างเดียว, บางหัวข้อมีข้อยกเว้นมากกว่ากฎ, หลายคนจำกฎได้แต่จำข้อยกเว้นไม่ได้ และจนแต้มตรงนี้แหละ
[3] และก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าปวดหัว คือบางอย่างฝรั่งเจ้าของภาษาเขาใช้กันอย่างนั้น เอากฎเกณฑ์อะไรมาจับไม่ได้ทั้งนั้น หรือถ้าเอาทฤษฎีมาจับมันก็จะยุ่งยากยืดยาววุ่นวายจนน่ารำคาญมาก หลายคนบ่นว่าไม่ชอบแกรมมาร์เพราะขี้เกียจจำกฎเกณฑ์
แต่ถ้าท่านเป็นคนที่รักการอ่านและอ่านมามาก, รักการฟังและฟังมามาก โจทย์แกรมมาร์ที่เขานำมาให้ท่านทำนี้ มันก็หนีไม่พ้นประโยคในข้อความที่ท่านอ่านผ่านตาและฟังผ่านหูมาแล้วนั่นแหละครับ การผ่านมาเยอะ ๆ จะทำให้ท่านจำได้ โดยไม่ต้องเค้นสมองให้จดจำ หรือพูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้ขี้เกียจจำก็จำได้ หรือทำโจทย์แกรมมาร์ได้ถูกต้องโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องแกรมมาร์ให้มากมาย การอ่านและฟังมาก ๆ จึงมีประโยชน์อนันต์ ทั้งต่อการพูด, การเขียน, การทำ test ทุกประเภท รวมทั้งได้ความรู้มากมายที่มากับเนื้อหา
สุดท้ายที่ขอแถมก็คือ 4 เว็บข้างล่างนี้ เมื่อทำโจทย์ข้างบนและติดขัด ท่านคลิกเข้าไปปรึกษาหาคำตอบได้
- https://en.oxforddictionaries.com/grammar/
- https://dictionary.cambridge.org/grammar/british-grammar/
- https://www.ldoceonline.com/Grammar-topic-full/ (คลิกหัวข้อใต้คำว่า Explore Grammar Topic ซึ่งเรียง A - Z จากบนลงล่าง)
- https://stackexchange.com/
เอาละครับ เชิญท่านเข้าไปลองทำ grammar test ชุดนี้ได้เลยครับ
Version 1 - 34 ข้อ
→ http://www.englishcurrent.com/grammar/common-english-mistakes-quiz/
Version 2 - 20 ข้อ
→ http://www.englishcurrent.com/grammar/find-grammar-mistakes-intermediate-esl/
Version 3 - 23 ข้อ
→ http://www.englishcurrent.com/grammar/common-english-mistakes-v3/
พิพัฒน์
https://www.facebook.com/En4Th/
5 วิธีที่จะทำให้คุณเขียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นทันที!
♥ 5 วิธีที่จะทำให้คุณเขียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นทันที!
1. ห้ามใช้ contractions
2. หลีกเลี่ยงการใช้ there is หรือ there are
3. หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า very, so, really, a lot
4. ใช้ Strong verbs
5. หลีกเลี่ยงการใช้ passive voice (ถ้าเป็นไปได้)
→ http://www.e4thai.com/e4e/images/pdf2/5Writingtips.htm
พัฒนา reading skill โดยอ่านเรื่องย่อนิยาย best-seller
การได้อ่านนิยายภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เป็น best-seller จะได้ทั้งฝึกภาษาและสนุก, แต่ถ้าท่านรู้สึกว่าอ่านยากและไปได้ช้า ผมขอแนะนำให้อ่าน plot เรื่องที่ย่อจนจบเรื่องที่หน้าเว็บ Wikipedia
→ https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_best-selling_books
ซึ่งเขาแยกกลุ่มตามยอดขาย, และเมื่อท่านคลิกคอลัมน์ First published ให้เกิดเครื่องหมายสามเหลี่ยมหัวชี้ลงอย่างนี้ →▼ เว็บก็จะเรียงเล่มใหม่สุดไว้ข้างบน
หรือว่าท่านจะใช้ Control +F พิมพ์หาชื่อผู้แต่งหรือชื่อเรื่องที่ต้องการก็ได้, ถ้ามีก็จะเจอ
เหตุที่ผมแนะนำใหอ่านเรื่องย่อจากหน้าเว็บ Wikipedia ก็เพราะว่า เว็บนี้มีหลายเรื่องที่ย่อเต็มเรื่อง ไม่เหมือนเว็บอื่น ๆ ที่มักย่อหรือเล่าเรื่องเพียงนิด ๆ หน่อย ๆ และให้เราไปหาที่อื่นอ่านต่อเอาเอง
ผมขอสรุปประโยชน์ที่ท่านจะได้แน่ ๆ จากการอ่านเรื่องย่อจบเรื่องนิยาย best-seller พวกนี้ ดังนี้
[1] ท่านจะได้ศึกษาศัพท์-สำนวนภาษาอังกฤษแบบที่สื่อความได้ชัดเจนและกระชับ
[2] เนื่องจากเราอ่าน best-seller จึงเท่ากับเป็นการคัดมาชั้นหนึ่งแล้วว่า เนื้อเรื่องต้องสนุก ผมเองลองอ่านบางเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาเลย ก็สนุกจริง ๆ
[3] ทำให้ท่านได้รู้เรื่องยาว ๆ หลายร้อยหน้าในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากนี้ถ้ามีโอกาสก็หาฉบับ original มาอ่านก็จะอ่านได้รู้เรื่องง่ายขึ้น, ได้สนุกกับรายละเอียดมากขึ้น, และได้รู้ศัพท์และสำนวนมากขึ้น
ท่านลองอ่านเรื่องย่อจบเรื่องข้างล่างนี้ดูเป็นตัวอย่างครับ บางเรื่องสั้น บางเรื่องยาวหน่อย แล้วท่านน่าจะเห็นด้วยกับที่ผมพูดชักชวน
ท่านจะเริ่มอ่านตรงคำว่า Plot [edit] ก็ได้
- Love Story (1986) โดย Erich Segal
- Love You Forever (1986) โดย Robert Munsch
- The Girl on the Train (2015) โดย Paula Hawkins
- The Da Vinci Code (2003) โดย Dan Brown
- Harry Potter and the Philosopher's Stone (1997) โดย J. K. Rowling
หมายเหตุ
บ่อยครั้งที่นิยายภาษาอังกฤษ ใช้ศัพท์หรือความหมายที่ไม่มีอยู่ในดิกอังกฤษ-ไทย เพราะฉะนั้นผมขอแนะนำให้ท่าน → ติดตั้ง add-on Longman Dictionary (ใช้กับเบราว์เซอร์ Google Chrome) เพื่อดูความหมายของศัพท์พวกนี้เมื่ออ่านแล้วติดขัด
พิพัฒน์
100 บทสนทนาภาษาอังกฤษ ของคุณครู Chris สมคิด
♥ 100 บทสนทนาภาษาอังกฤษ ของคุณครู Chris สมคิด ตอนนี้ทำครบ 100 คลิปแล้วครับ
→ https://goo.gl/jm98oa
→ https://goo.gl/Vczjgp