สนทนาอังกฤษในการพาฝรั่งเที่ยวชมวัด

A Temple Tour
อะ เท้มเพิล ทั้วร์
การเที่ยวชมวัด
A. CONVERSATION (บทสนทนา)
A: How are you this morning? And did you sleep well last night?
ฮ้าว อาร์ ยู้ ดิ๊ซ ม้อร์นิง? แอ่นด์ ดิด หยุ สลี้พ เว้ล ล้าซท์ ไหนท์?
เข้านี้คุณสบายดีไหม? และเมื่อคืนนอนหลับดีไหม?
B: I’m very fine indeed. And yes, I slept so well, much better than the night before. And how are you?
ไอม์ ฟ์เว้รี ไฟ้น์ด์ อินดี๊ด. แอ่นด์ เย้ซ, ไอ สเล้พท์ โซ้ เว้ล, มัช เบ๊ทเทอร์ แดน เดอะ ไน้ท์ บีฟ้อร์. แอ่นด์ ฮ้าว อาร์ ยู้?
ผมสบายดีมากจริงๆ และผมหลับดีเหลือเกิน ดีกว่าเมื่อคืนก่อนมาก และคุณสบายดีหรือ?
A: I’m very well, too. Thank you very much. Are you ready for the sightseeing yet?
ไอม์ ฟ์เว้รี เว้ล ทู้. แธ้งคิว ฟ์เว้รี มัช. อาร์ หยุ เร้ดดี ฟอร์ เดอะ ไซ้ท์ซีอิง เหยท?
ผมสบายดีมากเหมือนกัน ขอบคุณมาก คุณพร้อมจะไปเที่ยวชมสถานที่หรือยัง?
B: Yes, I am. Where should we go first?
เย้ซ, ไอ แอ๊ม. แว้ร์ ชูล์ด วี โก๊ เฟิร์ซท์?
ครับ ผมพร้อม พวกเราจะไปไหนก่อน?
A: We’d better go to the Marble Temple. It’s very close by. And if we’ve got time later on we can visit the Emerald Buddha Temple. We may also go to the Grand Palace and the Reclining Buddha Temple. All are in the same complex.
วีด์ เบ๊ทเทอร์ โก๊ ถุ เดอะ ม้าร์เบิล เท้มเพิล. อิทส์ ฟ์เว้รี โคล้ซ บ๊าย. แอ่นด์ อิฟ วีฟ์ว์ ก๊อท ไท้ม์ เล้เทอร์-ออน วี แคน ฟ์วิ้ซิท ดิ เอ๊มเมอรัลด์ บุ๊ดดา เท้มเพิล. วี เมย์ อ๊อลโซ โก๊ ถุ เดอะ แกร๊นด์ แพ้เลซ แอ่นด์ เดยะ รีไคล้นิง บุ๊ดดา เท้มเพิล. อ๊อล อาร์ อิน เดอะ เซ้ม ค้อมเพลกซ์
เราควรจะไปวัดเบญจฯ ก่อน มันอยู่ใกล้นี้เอง และถ้าเรามีเวลา ทีหลัง เราไปวัดพระแก้วได้ เราอาจไปพระบรมมหาราชวัง และวัดโพธิ้ด้วย ทั้งหมดอยู่บริเวณเดียวกัน
B: It sounds very excellent. We may spend the whole day if you are free.
อิท ซ้าวน์ด์ ฟ์เว้รี เอ๊กซ์เซลเลนท์. วี เมย์ สเป็นด์ เดอะ โฮ้ล เด๊ย์ อิฟ หยุ อาร์ ฟรี้
ฟังดูเยี่ยมมาก เราอาจใช้เวลาทั้งวันถ้าคุณว่าง
A: I’m free to take you wherever you’d like to go.
ไอม์ ฟรี้ ถุ เท้ค ยู้ แว้ร์เอฟเวอร์ ยู้ด์ ไล้ค์ ถุ โก๊
ผมมีเวลาพาคุณไปที่ไหนก็ตามที่คุณต้องการไป
B: It’s very kind of you. But please don’t waste your time just because of me.
อิทส์ ฟ์เว้รี ไค้น์ด์-ออฟ ยู้. บัท พลี้ซ โด๊นท์ เว้ซท์ ยัวร์ ไท้ม์ จั๊ซท์ บีค้อร์ซ-ออฟ มี้
คุณมีใจกรุณามาก แต่โปรดอย่าเสียเวลาเพื่อผมเท่านั้น
A: It’s my pleasure to be of your service.
อิทส์ ม้าย เพล้ชเชอร์ ทู บี๊ ออฟ ยัวร์ เซ้อรฟ์วิซ
มันเป็นความสุขของผมที่ได้รับใช้คุณ
B: Are there many interesting things in the Marble Temple?
อาร์ แดร์ แม้นนี อิ๊นเทอเรซทิง ธิ้งซ์ อิน เดอะ ม้าร์เบิล เท้มเผิล?
มีสิ่งน่าสนใจในวัดเบญจมากไหม?
A: Of course, there’re a lot of things to see there. We can spend the whole morning in this temple.
ออฟ ค้อร์ซ, แดร์เออร์ อะ ล้อท-ออฟ ธิ้งซ์ ทู ซี้ แด๊ร์. วี แคน สเป๊นด์ เดอะ โฮ้ล ม้อร์นิง อิน ดิ๊ซ เท้มเพิล
แน่นอนทีเดียว มีหลายสิ่งที่จะดูที่นั่น เราสามารถใช้เวลาทั้งเช้าในวัดนี้
B: Then we’d better not waste our time now. Let’s go there right away.
เด๊น วีด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท เว้ซท์ อ๊าวเออร์ ไท้ม์ น้าว. เล้ทส์ โก๊ แด๊ร์ ไร้ท์-อะเว้ย์
งั้นตอนนี้เราไม่น่าเสียเวลา เราไปที่นั่นทันทีเถอะ
B. VOCABULARY (คำศัพท์)
sleep (v)            สลี้พ            นอน นอนหลับ
well (adv)             เว้ล            ดี
ready (adj)         เร้ดดี        พร้อม เรียบร้อย
sightseeing (n)     ไซ้ท์ชซีอิง    สถานที่ท่องเที่ยว
had better (aux V.)    แฮ้ด เบ๊ทเทอร์    น่าจะ น่าจะ…ดีกว่า
The Marble Temple (n)    เดอะ ม้าร์เบิล เท้มเพิล     วัดเบญจฯ วัดเบญจมบพิตร วัดหินอ่อน
marble (n)         ม้าร์เบิล        หินอ่อน
later on (adv)         เล้เทอร์ ออน     ต่อมา ต่อไป
The Emerald Buddha Temple (n)    ดิ เอ๊มเมอรัลด์ บุ๊ดดา เท้มเพิล
วัดพระแก้วมรกต
emerald (n)         เอ๊มเมอรัลด์    มรกต
jade (n)             เจ๊ด            หยก
The Grand Palace (n)    เดอะ แกร๊นด์ แพ้เลซ    พระบรมมหาราชวัง
grand (adj)         แกร๊นด์    ใหญ่โต มหา
The Reclining Buddha Temple (n)
เดอะ รีไคล้นิง บุ๊ดดา เท้มเพิล    วัดโพธิ์ วัดพระนอน
recline (v)     รีไคล้น์        นอน นอนตะแคง
complex (n)     ค้อมเพลกซ์    บริเวณ อาณาบริเวณ
wherever (adv) แว้ร์เอฟเวอร์    ที่ไหนก็ตาม
kind (adj)         ไค้น์ด์        ใจดี มีใจกรุณา
It’s very kind of you.    อิทส์ ฟ์เว้รี ไค้น์ด์-ออฟ ยู้    คุณมีใจกรุณามาก
waste (v)         เว้ซท์            เสีย สูญเสีย
waste time (v)     เว้ซท์ ไท้ม์        เสียเวลา
because of (prep)    บีค้อร์ซ ออฟ    เนื่องจาก
pleasure             เพล้ชเชอร์        ความสุข ความพอใจ
It’s my pleasure     อิทส์ ม้าย เพล้ชเชอร์     มันเป็นความสุขของผม
service (n)         เซ้อร์ฟ์วิซ            การบริการ
to be of your service (v)    ทู บี ออฟ ยั้วร์ เซ้อร์ฟ์วิซ    ที่ได้รับใช้คุณ
right away (adv)    ไร้ท์ อะเว้ย์        ทันที
go right away (v)    โก๊ ไร้ท์ อะเว้ย์     ไปทันที
C. EXPRESSIONS TO REMEMBER
(ประโยคที่ควรจำ)
1. How are you this morning?
ฮ้าว อาร์ ยู้ ดิ๊ซ ม้อร์นิง?
เช้านี้คุณสบายดีไหม?
2. And did you sleep well last night?
แอ่นด์ ดิด หยุ สลี้พ เว้ล ล้าซท์ ไหนท์?
และเมื่อคืนนอนหลับดีไหม?
3. I’m very fine indeed.
ไอม์ ฟ์เว้รี ไฟ้น์ อินดี๊ด
ผมสบายดีมากจริงๆ
4. And yes, I slept so well, much better than the night before.
แอ่นด์ เย้ซ, ไอ สเล้พ โซ เว้ล, มัช เบ๊ทเทอร์ แดน เดอะ ไน้ท์ บีฟ้อร์
และผมหลับดีเหลือเกิน ดีกว่าเมื่อคืนก่อนมาก
5. I’m very well, too.
ไอม์ ฟ์เว้รี เว้ล, ทู้
ผมสบายดีมากเหมือนกัน
6. Are you ready for the sightseeing yet?
อาร์ หยุ เร้ดดี ฟอร์ เดอะ ไซ้ท์ซีอิง เหยท?
คุณพร้อมจะไปเที่ยวชมสถานที่หรือยัง?
7. Where should we go first?
แว้ร์ ชูล์ด วี โก๊ เฟิร้ซท์?
พวกเราควรจะไปไหนก่อน?
8. We’d better go to the Marble Temple.
วีด์ เบ๊ทเทอร์ โก๊ ถุ เดอะ ม้าร์เบิล เท้มเพิล
เราควรจะไปวัดเบญจฯ ก่อน
9. It’s very close by.
อิทส์ ฟ์เว้รี โคล้ซ บ๊าย
มันอยู่ใกล้นี้เอง
10. And if we’ve got time later on we can visit the Emerald Buddha Temple.
แอ่นด์ อิฟ วีฟ์ว์ ก๊อท ไท้ม์ เล้เทอร์-ออน วี แคน ฟ์วิ้ซิท ดิ เอ๊มเมอรัลด์ บุ๊ดดา เท้มเพิล
และถ้าเรามีเวลาทีหลัง เราไปวัดพระแก้วได้
11. We may also go to the Grand Palace and the Re¬clining Buddha Temple.
วี เม้ย์ อ๊อลโซ โก๊ ถุ เดอะ แกร๊นด์ แพ้เลซ แอ่นด์ เดอะ รีไคล้นิง บุ๊ดดา เท้มเพิล
เราอาจไปพระบรมมหาราชวังและวัดโพธิ์ด้วย
12. All are in the same complex.
อ๊อล อาร์ อิน เดอะ เซ้ม ค้อมเพลกซ์
ทั้งหมดอยู่บริเวณเดียวกัน
13. It sounds very excellent.
อิท ซ้าวน์ด์ ฟ์เว้รี เอ๊กซ์เซลเลนท์
ฟังดูเยี่ยมมาก
14. We may spend the whole day if you are free.
วี เมย์ สเป๊นด์ เดอะ โฮ้ล เด๊ย์ อิฟ หยุ อาร ฟรี้
เราอาจใช้เวลาทั้งวันถ้าคุณว่าง
15. I’m free to take you wherever you’d like to go.
ไอม์ ฟรี้ ถุ เท้ค ยู้ แว้ร์เอฟเวอร์ ยู้ด์ ไถ้ค์ ถุ โก๊
ผมมีเวลาพาคุณไปที่ไหนก็ตามที่คุณต้องการไป (ผมมีเวลาพาคุณไปได้ทุกแห่ง)
16. It’s very kind of you.
อิทส์ ฟ์เว้รี ไค้น์ด์-ออฟ ยู้
คุณมีใจกรุณามาก
17. But please don’t waste your time just because of me.
บัท พลี้ซ โด๊นท์ เว้ซท์ ยัวร์ ไท้ม์ จั๊ซท์ บีค้อร์ซ-ออฟ มี้
แต่โปรดอย่าเสียเวลาเพื่อผมเท่านั้น
18. It’s my pleasure to be of your service.
อิทส์ ม้าย เพล้ชเชอร์ ทู บี๊ ออฟ ยั้วร์ เซ้อร์ฟ์วิซ
มันเป็นความสุขของผมที่ได้รับใช้คุณ
19. Are there many interesting things in the Marble Temple?
อาร์ แดร์ แม้นนี อิ๊นเทอเรซทิง ธิ้งซ์ อิน เดอะ ม้าร์เบิล เท้มเผิล?
มีสิ่งน่าสนใจในวัดเบญจฯ มากไหม?
20. Of course, there’re a lot of things to see there.
ออฟ ค้อร์ซ, แดร์เออร์ อะ ล้อท ออฟ ธิงซ์ ทู ซี้ แด๊ร์
แน่นอนทีเดียว มีหลายสิ่งที่จะดูที่นั่น
21. Then we’d better not waste our time now.
เด๊น วีด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท เว้ซท์ อ๊าวเออร์ ไท้ม์ น้าว
งั้นตอนนี้เราไม่น่าเสียเวลา
22. Let’s go there right away.
เล้ทส์ โก๊ะ แด๊ร์ ไร้ท์-อะเว้ย์ เ
ราไปที่นั่นทันทีเถอะ
D. POINTS OF ATTENTION
(ประเด็นที่ควรสนใจ)
1. การออกเสียง b/p เสียง b เป็นเสียงลงในลำคอ ถ้าออกเสียงถูกต้อง ลำคอจะสั่น ใช้มือแตะที่คอดูก็ได้ จะรู้สึกเช่นนั้น ส่วนเสียง p เป็นเสียงไม่ลงในลำคอ แต่จะมีลมดันออกมาข้างนอก ซึ่งพิสูจน์เห็นได้ง่าย ถ้าแบฝ่ามือไว้ที่ใกล้ๆ ปากจะรู้สึกว่ามีลมเป่ามาถูกฝ่ามือ
ฉะนั้น เวลาออกเสียงทั้งสองต้องต่างกัน ไม่ว่าจะอยู่หน้า กลาง หรือท้ายคำ (เสียงทั้งสองนี้เมื่ออยู่ท้ายคำเป็นตัวสะกดจะไม่แตกต่างกันมาก ดังนั้น คนไทยส่วนมากมักออกเสียงสองตัวนี้ไม่แตกต่างกัน จึงออกไม่ถูกต้อง)
ลองฝึกอ่านเสียงต่อไปนี้
b    b    b    b    b    b    b    b    b    b
บี๊    บี๊    บี๊     บี๊    บี๊    บี๊     บี๊    บี๊    บี๊     บี๊
P    P    P    P    P    P    P    P    P    P
พี้    พี้    พี้    พี้    พี้    พี้    พี้    พี้    พี้    พี้
be            บี๊        เป็น
bee            บี๊        ผึ้ง
bird            เบิ๊ร์ด        นก
job            จ๊อบ        งาน
crab            แคร้บ    ปู
club            คลั้บ        สโมสร ชมรม
please        พลี้ซ        กรุณา
pen            เพ้น        ปากกา
plane        เพล้น        เครื่องบิน
cup            คั้พ        ถ้วย
stop            สต๊อพ    หยุด
hope            โฮ้พ        หวัง
2. Had better วลี “had better” หรือ “’d better” ในรูปย่อ แปลว่า น่าจะ ควรจะ น่าจะ…ดีกว่า ควรจะ…ดีกว่า เช่นในประโยคต่อไปนี้
1. We had better go to the Marble Temple.
วี แฮด เบ๊ทเทอร์ โก๊ ถุ เดอะ ม้าร์เบิล เท้มเพิล
We’d better go to the Marble Temple.
วีด์ เบ๊ทเทอร์ โก๊ ถุ เดอะ ม้าร์เบิล เท้มเพิล
เราควรจะไปวัดเบญจมบพิตรดีกว่า
2. You had better go now.
ยู แฮด เบ๊ทเทอร์ โก๊ น้าว
You’d better go now.
ยูด์ เบ๊ทเทอร์ โก๊ น้าว
คุณน่าจะไปเดี๋ยวนี้ดีกว่า
3. I had better stay here for a while.
ไอ แฮด เบ๊ทเทอร์ สเต๊ย์ เฮี้ยร์ ฟอร์-อะ ไว้ล์
I’d better stay here for a while.
ไอด์ เบ๊ทเทอร์ สเต๊ย์ เฮี้ยร์ ฟอร์-อะ ไว้ล์
คุณน่าจะอยู่ที่นี่สักครู่
3. Had better not วลี “had better not” แปลว่า ไม่น่าจะ ไม่ควรจะ ไม่น่าจะ…ดีกว่า ไม่ควรจะ…ดีกว่า เช่นในประโยคต่อไปนี้
1. We had better not waste our time now.
วี แฮด เบ๊ทเทอร์ น้อท เว้ซท์ อ๊าวเออร์ ไท้ม์ น้าว
We’d better not waste our time now.
วีด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท เว้ซท์ อ๊าวเออร์ ไท้ม์ น้าว
ตอนนี้เราไม่น่าเสียเวลาดีกว่า
2. You had better not smoke in the bus.
ยู แฮด เบ๊ทเทอร์ น้อท สโม้ค-อิน เดอะ บั๊ซ
You’d better not smoke in the bus.
ยูด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท สโม้ค-อิน เดอะ บั๊ซ
คุณไม่น่าจะสูบบุหรี่ในรถประจำทาง
3. She had better not tell him.
ชี แฮด เบ๊ทเทอร์ น้อท เท้ล ฮิม
She’d better not tell him.
ชีด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท เท้ล ฮิม
เธอไม่น่าบอกเขาเลย
E. EXERCISES (แบบฝึกหัด)
1. จงฝึกอ่านและพูดคำต่อไปนี้
job        จ๊อบ        งาน
mob        ม้อบ        พลังกลุ่ม
cub        คั้บ        ลูกสิงโต
crib        คริ้บ        เปลเด็ก
rib        ริ้บ        ซี่โครง
crab        แคร้บ    ปู
verb        ฟ์เวิ้ร์บ    คำกริยา
barb        บ๊าร์บ    ลวดหนาม
bird        เบิ๊รด        นก
because    บีค้อร์ซ    เพราะว่า
bad        แบ๊ด        เลว
brown    บร๊าวน์    สีนํ้าตาล
butter    บั๊ทเทอร์    เนย
Buddha    บุ๊ดดา    พุทธ
Bob            บ๊อบ        บ๊อบ
robe            โร้บ        จีวร ผ้าคลุม
better        เบ๊ทเทอร์    ดีกว่า
best            เบ๊สท์        ดีที่สุด
rob            ร้อบ        ปล้น
lab            แล้บ        ห้องทดลอง
knob            น้อบ        ลูกบิดประตู
club            คลั้บ        สโมสร
cob            ค้อบ        ฝักข้าวโพด
marble        ม้าร์เบิล    หินอ่อน
boss            บ๊อส        นาย
Robert        ร้อบเบิร์ท    โรเบิร์ต
neighbour        เน้เบอร์    เพื่อนบ้าน
cable        เค้เบิล    โทรเลข
table            เท้เบิล    โต๊ะ
humble        ฮั้มเบิล    ถ่อมตน
2. จงฝึกอ่านและพูดคำต่อไปนี้
pen            เพ้น        ปากกา
page        เพ้จ        หน้ากระดาษ
paper        เพ้เพอร์    กระดาษ
pencil        เพ้นซิล    ดินสอ
point            พ้อยน์ท์    จุด ประเด็น
park            พ้าร์ค    สวน จอดรถ
past            พ้าซท์    อดีต
pass            พ้าส        ผ่าน
put            พุ้ท        ใส่
pants        แพ้นท์ส์    กางเกง
please        พลี้ซ        กรุณา
public        พั้บลิก    สาธารณะ
private        ไพร้ฟ์เวท    เอกชน
province        พร้อฟวินซ์    จังหวัด

Peter        พี้ทเทอร์    ปีเตอร์
computer        คอมพิ้วเทอร์    คอมพิวเตอร์
company        คั้มพานี        บริษัท
purpose        เพ้อร์โพซ        วัตถุประสงค์
temple        เท้มเพิล        วัด
proposal        โพรโพ้ซซัล        ข้อเสนอ
pleasure        เพล้ซเซอร์        ความสุข
people        พี้เพิล        คน
person        เพ้อร์ซัน        คน บุคคล
drop            ดร๊อพ        หยุด
stop            สต๊อพ        หยุด
police        โพะลิ้ซ        ตำรวจ
palace        แพ้เลซ        วัง พระราชวัง
populated        พ้อพพูเลทเทด     ประชากรแน่น
population    พอพพูเล้ชัน     ประชากร
popular        พ้อพพิวลาร์     เป็นที่รู้จัก
particular        พาร์ทิ้คคิวลาร์     เฉพาะ
party            พ้าร์ที        งานIลี้ยง
partition        พาร์ทิ้ชชัน        แบ่งเป็นส่วน
provide        โพรฟ์ไว้ด์        จัดให้
provision        โพรฟ์วิ้ชัน        การจัดให้
compulsory    คอมพั้ลเซอร์รี     บังคับ
3. จงฝึกอ่านเทียบเสียงต่อไปนี้
bee/pea    บี๊/พี้
bat/pat    แบ๊ท/แพ้ท
bad/pad    แบ๊ด/แพ้ด
bath/path    บ๊าธ/พ้าธ
back/pack    แบ๊ค/แพ้ค
beer/peer        เบี๊ยร์/เพี้ยร์
bill/pill        บิ๊ล/พิ้ล
bunch/punch    บั๊นช์/พั้นซ์
bubble/purple        บั๊บเบิล/เพ้อร์เพิล
robe/rope        โร้บ/โร้พ
cub/cup    คั้บ/คั้พ
cob/cop        ค้อบ/ค้อพ
mob/mop         ม้อบ/ม้อพ
computer/contributor     คอมพิ้วเทอร์/คอนทรี้บิวเทอร์
4. จงฝึกบทสนทนาต่อไปนี้ ดังตัวอย่าง
Example : (ตัวอย่าง)
A: You should go with her.
ยู ชูล์ด โก๊ วิธ เฮ้อร์
คุณควรไปกับIธอ
B: Yes, I had better go with her.
เย้ซ, ไอ แฮด เบ๊ทเทอร์ โก๊ วิธ เฮ้อร์
ครับ ผมน่าจะไปกับเธอ
(Yes, I’d better go with her.)
เย้ซ, ไอด์ เบ๊ทเทอร์ โก๊ วิธ เฮ้อร์)
(ครับ ผมน่าจะไปกับเธอ)
1. A: You should speak English well.
ยู ชูล์ด สปี๊ค อิ๊งลิช เว้ล
คุณควรพูดอังกฤษได้ดี
B: Yes, I…….
2. A: I should practice this lesson again.
ไอ ชูล์ด แพร้คทิซ ดิซ เล้สซัน-อะเก๊น
ผมควรฝึกบทนี้อีก
B: Yes, I………..,too.
3. A: We should speak English in class all the time.
วี ชูล์ด สปี๊ค อิ๊งลิช อิน คล้าส-อ๊อล เคอะ ไท้ม์
เราควรพูดอังกฤษในชั้นตลอดเวลา
B: Yes, we…………….
4. A: He should come early tomorrow.
ฮี ชูล์ด คั้ม เอ๊อร์ล ทูม้อร์โรว์
เขาควรมาแต่เช้าพรุ่งนี้
B: Yes, he    ………
5. A: I should study hard next semester.
ไอ ชูล์ด สตั๊ดดี ฮ้าร์ด เน้กซ์ท์ ซีเม้ซเทอร์
เทอมหน้าฉันควรเรียนหนัก
B: Yes, you…………
6. A: You should ask permission first.
ยู ชูล์ด อ๊าซค์ เพอร์มิ้ชชัน เฟิ้ร์ซท์
คุณควรขออนุญาตก่อน
B: Yes, I…………………
7. A: I should sleep some more.
ไอ ชูล์ด สลี้พ ซัม ม้อร์
ผมควรจะนอนมากกว่านี้อีก
B: Yes, you…………..
8. A: We should have dinner now.
วี ชูล์ด แฮ้ฟว์ ดิ๊นเนอร์ น้าว
เราควรรับประทานอาหารเย็นตอนนี้
B: Yes, we………………..
9. A: You should do it before coming to class.
ยู ชูล์ด ดู๊ อิท บีฟ้อร์ คั้มมิง ทู คล้าส
คุณควรทำมันก่อนมาเรียน
B: Yes, I……………….
10. A: You should practice more.
ยู ชูล์ด แพร้คทิซ ม้อร์
คุณควรฝึกมากกว่านี้
B: Yes, I……………….
(Then practice using the short form as in the brackets.) (เสร็จแล้วฝึกใช้รูปย่อเหมือนตัวอย่างในวงเล็บ)
5. จงฝึกบทสนทนาต่อไปนี้เหมือนตัวอย่าง
Example : (ตัวอย่าง)
A: You should not speak Thai in class.
ยู ชูล์ด น้อท สปี๊ค ไท้ อิน คล้าส
คุณไม่ควรพูดไทยในชั้น
B: No, we had better not speak Thai in class.
โน้, วี แฮด เบ๊ทเทอร์ น้อท สปี๊ค ไท้ อิน คล้าส
(No, we’d better not speak Thai in class.)
(โน้ วีด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท สปี๊ค ไท้ อิน คล้าส)
(เปล่า เราไม่ควรพูดไทยในชั้น)
1. A: You should not waste the time.
ยู ชูล์ด น้อท เว้ซท์ เดอะ ไท้ม์
คุณไม่ควรเสียเวลา
B: No, we………………
2. A: You should not tell her.
ยู ชูล์ด น้อท เท้ล เฮอร์
คุณไม่ควรบอกเธอ
B: No, I………………….
3. A: We should not wear shoes in the room.
วี ชูล์ด น้อท แว้ร์ ชู้ซ์ อิน เดอะ รู้ม
เราไม่ควรใส่รองเท้าในห้อง
B: No, we………………….
4. A: They should not speak so loud.
เดย์ ชูล์ด น้อท สปี๊ค โซ้ ล้าวด์
เขาไม่ควรพูดดังเหลือเกิน
B: No, they……………
5. A: I should not make a mistake.
ไอ ชูล์ด น้อท เม้ค อะ มิซเท้ค
ฉันไม่ควรทำผิด
B: No, you………………..
6. A: You should not drink too much coffee.
ยู ชูล์ด น้อท ดริ๊งค์ ทู้ มัช ค้อฟฟี
คุณไม่ควรดื่มกาแฟมากเกินไป
B: No, I………………
7. A: She should not wear shorts and the T-shirt.
ชี ชูล์ด น้อท แว้ร์ ช้อร์ทส์ แอ่นด์ เดอะ ที้-เชิ้ร์ท
เธอไม่ควรใส่ขาสั้นและเสื้อคอกลม
B: No, she…………………
8. A: We should not take a taxi.
วี ชูล์ด น้อท เท้ค-อะ แท้กซี
พวกเราไม่ควรไปแท้กซี่
B: No, we………….
9. A: You should not eat too much hot food.
ยู ชูล์ด น้อท อี๊ท ทู้ มัช ฮ้อท ฟู้ด
คุณไม่ควรกินอาหารเผ็ดมากเกินไป
B: No, I………………
10. A: We should not be late again.
วี ชูล์ด น้อท บี เล้ท-อะเก๊น
พวกเราไม่ควรสายอีก
B: No, we……………..
(Then practice using the short form as in the brackets)
เสร็จแล้วฝึกใช้รูปย่อเหมือนตัวอย่างในวงเล็บ
6. จงฝึกพูดบทสนทนาต่อไปนี้
1. A: You should hurry up.
ยู ชูล์ด เฮ้อร์รี อั๊พ
คุณควรรีบๆ หน่อย
B: Yes, I know I’d better hurry up.
เย้ซ, ไอ โน้ว ไอด์ เบ๊ทเทอร์ เฮ้อร์รี อั๊พ
ครับ ผมรู้ว่าผมควรรีบ
2. A: You should not stay here too long.
ยู ชูล์ด น้อท สเต๊ย์ เฮี้ยร์ ทู ล้อง
คุณไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป
B: No, I know I’d better not stay here too long.
โน้, ไอ โน้ว์ ไอด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท สเต๊ย์ เฮี้ยร์ ทู ล้อง
ไม่ ผมรู้ว่าผมไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป
3. A: You ought to go quickly.
ยู อ๊อท ทู โก๊ ควิ้คลี
คุณควรไปเร็วๆ
B: Yes, I know I’d better go quickly.
เย้ซ, ไอ โน้ว์ ไอด์ เบ๊ทเทอร์ โก๊ ควิ้คลี
ครับ ผมรู้ว่าผมควรไปเร็วๆ
4. A: But you’d better not stay there very long.
บัท ยูด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท สเต๊ย์ แด๊ร์ ฟ์เว้รี ล้อง
แต่คุณไม่ควรอยู่ที่นั่นนานมาก
B: No, I’d better not stay there very long.
โน้, ไอด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท สเต๊ย์ แด๊ร์ ฟ์เว้รี ล้อง
ไม่ ผมไม่น่าอยู่ที่นั่นนานมาก
5. A: She’d better take your advice.
ชีด์ เบ๊ทเทอร์ เท้ค ยั้วร์ แอดฟ์ไว้ซ์
เธอควรทำตามคำแนะนำของคุณ
B: Yes, she should take your advice.
เย้ซ, ชี ชูล์ด เท้ค ยั้วร์ แอดฟ์ไว้ซ์
ใช่ เธอควรทำตามคำแนะนำของคุณ
6. A: She shouldn’t go alone.
ชี ชู้นท์ โก๊ อะโล้น
เธอไม่ควรไปคนเดียว
B: No, I know she’d better not go alone.
โน้, ไอ โน้ว์ ชีด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท โก๊ อะโล้น
ไม่ ผมรู้ว่าเธอไม่น่าไปคนเดียว
7. A: She ought not to do that again.
ชี อ๊อท น้อท ถุ ดู๊ แด๊ท-อะเก๊น
เธอไม่ควรทำเช่นนั้นอีก
B: No, she’d better not do that again.
โน้, ชuด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท ดู๊ แด๊ท-อะเก๊น
ไม่ เธอไม่น่าทำเช่นนั้นอีก
8. A: They should tell us the truth.
เดย์ ชูล์ด เท้ล อั้ซ เดอะ ทรุ้ธ
เขาควรจะบอกความจริงแก่เรา
B: Yes, they’d better tell you the truth.
เย้ซ, เดย์ด์ เบ๊ทเทอร์ เท้ล ยู เดอะ ทรุ้ธ
ใช่ เขาน่าจะบอกความจริงแก่คุณ
9. A: They ought not to come right away.
เดย์ อ๊อท น้อท ทู คั้ม ไร้ท์-อะเว้ย์
เขาไม่ควรมาทันที
B: No, they’d better call first.
โน้, เดย์ด์ เบ๊ทเทอร์ ค้อล เฟิ้ร์ซท์
ไม่ เขาน่าจะเรียกมาก่อน
10. A: Please don’t worry about it.
พลี้ซ โด๊นท์ ว้อร์รี อะเบ๊าท์-อิท
กรุณาอย่าห่วงมัน
B: No, I know I’d better not worry about it so much.
โน้, ไอ โน้ว์ ไอด์ เบ๊ทเทอร์ น้อท ว้อร์รี อะเบ๊าท์-อิท โซ้ มัช
ไม่ ผมรู้ว่าผมไม่น่าห่วงมันมากเหลือเกิน
should/ought to หรือ should not/ought not to ซึ่ง แปลว่า ‘‘ควร ควรจะ/ไม่ควร ไม่ควรจะ น่าจะ/ไม่น่าจะ” เช่นประโยคต่อไปนี้
1. You should go.
ยู ชูล์ด โก๊
คุณควรไป
2. You ought to go.
ยู อ๊อท ทู โก๊
คุณควรไป
3. You had better go.
ยู แฮด เบ๊ทเทอร์ โก๊
คุณน่าจะไป
4. You should not come.
ยู ชูล์ด น้อท คั้ม
คุณไม่ควรมา
5. You ought not to come.
ยู อ๊อท น้อท ทู คั้ม
คุณไม่ควรมา
6. You had better not come.
ยู แฮด เบ๊ทเทอร์ น้อท คั้ม
คุณไม่น่ามา
7. Should you study hard?
ชูล์ด หยุ สตั๊ดดี หาร์ด?
คุณควรดูหนังสือหนักไหม?
8. Ought you to study hard?
อ่อท หยุ ถุ สตั๊ดดี หาร์ด?
คุณควรดูหนังสือหนักไหม?
9. Had you better study hard?
แหด หยุ เบ๊ทเทอร์ สตั๊ดดี หาร์ด?
คุณน่าจะดูหนังสือหนักไหม?
10. Should you not do again?
ฉูล์ด หยุ น้อท ดู๊ อะเก๋น?
คุณไม่ควรทำอีกใช่ไหม?
11. Ought you not to do again?
อ่อท หยุ น้อท ถุ ดู๊ อะเก๋น?
คุณไม่ควรทำอีกใช่ไหม?
12. Had you better not do again?
แหด หยุ เบ๊ทเทอร์ น้อท ดู๊ อะเก๋น?
คุณไม่น่าทำอีกใช่ไหม?
ที่มา:ดร.สุนทร  โคตรบรรเทา